Perfect Superstar - ตอนที่ 701 ในที่สุดก็รอถึง
ตอนที่ 701 ในที่สุดก็รอถึง
ตกดึก เมืองเจียงเฉิง เขตซีเฉิง
รถเมล์สาย 589 จอดเทียบป้ายรถเมล์อย่างมั่นคง เสียงประตูลมอัตโนมัติดัง ‘แช่’ ผู้โดยสารสองสามคนกระโดดลงจากประตูรถด้านหลังอย่างว่องไว และคนที่เยอะกว่านั้นได้เบียดกันเข้ามาในตัวรถที่แน่นมากอยู่ก่อนแล้วจากประตูหน้า
ภาพที่เหมือนกันเช่นนี้ เกิดขึ้นที่นี่ทุกวัน
หวังผู่สะพายเป้ เดินผ่านกลุ่มผู้คนที่รอเมล์คันต่อไปตรงป้ายรถเมล์ ภายใต้การนำทางของแสงไฟตอนกลางคืนรีบเดินจ้ำอ้าวไปบนถนนเส้นเล็กที่อยู่ไม่ไกลนัก
ทำงานยุ่งทั้งวัน บวกกับการเดินทางไปกลับที่ต้องเปลี่ยนจากรถไฟใต้ดินไปขึ้นรถเมล์ เขารู้สึกเหนื่อยมาก แต่ความสุขและความผ่อนคลายที่ได้กลับบ้านทำให้เขารีบเดินเร็วเป็นพิเศษ
เดินผ่านถนนเส้นเล็กแล้วเข้าไปในซอยแห่งหนึ่ง หวังผู่กลับมาถึงห้องเช่าของตัวเอง
เขาเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่เมื่อครึ่งเดือนก่อน
ที่นี่คือเขตชานเมืองอย่างสมบูรณ์ แต่เนื่องจากสังคมเมืองขยายอย่างต่อเนื่อง หมู่บ้านที่มีแต่เดิมค่อยๆ ถูกกลืนกิน แต่มีบางหมู่บ้านที่มีหลายสาเหตุให้รักษาเอาไว้ จึงกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าหมู่บ้านในเมือง
ใครก็รู้ว่า หมู่บ้านในเมืองช้าเร็วก็ต้องหมดไป ไม่ว่าจะเป็นความต้องการในเรื่องภาพลักษณ์ของเมืองหรือว่าความจำเป็นในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ พวกมันไม่มีเหตุผลที่จะดำรงอยู่ต่อไป
พวกชาวบ้านจริงๆ แล้วยินดีที่จะย้ายบ้าน สันนิษฐานว่ามีค่าชดเชยที่มากพอ การย้ายบ้านเพราะถูกรื้อจนรวยหรือเป็นเศรษฐีข้ามคืนไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่อะไร และเพื่อให้ได้รับค่าชดเชยที่มากกว่า พวกเขาได้แอบสร้างต่อเติมมั่วซั่วในหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต
สิ่งปลูกสร้างที่ฝ่าฝืนกฎหมายมากมายก็ไม่ได้ปล่อยให้ว่าง พวกชาวบ้านหลังจากตกแต่งห้องอย่างง่ายแล้วก็ปล่อยเช่า ใช้ค่าเช่าถูกๆ เพื่อรับผู้คนที่มาต่อสู้ดิ้นรนในเมืองเป็นจำนวนมาก
หวังผู่ก็เป็นหนึ่งคนในนั้น
สาเหตุที่เขาย้ายมาที่นี่ เพราะห้องเช่าเดิมขึ้นราคา
และถึงแม้ที่นี่จะอยู่ไกลไปนิด ต้องเสียเวลาเดินทางไปกลับจากที่ทำเงินเพิ่มขึ้นครึ่งชั่วโมง แต่มันดีตรงที่ราคาถูก และถึงแม้จะเป็นห้องที่ต่อเติมฝ่าฝืนกฎหมาย ทว่าน้ำไฟสายเน็ตล้วนมีครบ และยังมีห้องน้ำที่แยกอิสระอีกด้วย
หวังผู่คิดดีแล้ว ก่อนที่หมู่บ้านในเมืองจะถูกย้ายเพราะถูกรื้อ เขาจะอยู่ที่นี่ตลอด
หยิบกุญแจไขประตู หวังผู่เอื้อมมือไปเปิดไฟข้างกำแพง แสงไฟสีนวลขับไล่ความมืดออกไปทันที ส่องให้เห็นความรกของห้องนี้
เตียงหนึ่งเตียง ตู้เสื้อผ้าหนึ่งตู้ โต๊ะคอมพิวเตอร์หนึ่งตัวพร้อมเก้าอี้ เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านตกแต่งอย่างเรียบง่ายเนื่องจากหวังผู่เป็นหนุ่มโสด ดังนั้นจึงยากที่จะหลีกเลี่ยงความรกรุงรังแบบนี้
เขาทิ้งกระเป๋า ถอดเสื้อเข้าไปในห้องน้ำ อาบน้ำล้างเหงื่อเหม็นทั้งตัวที่ไหลตอนเบียดอยู่ในรถก่อน
เมื่ออาบน้ำเสร็จออกมา หวังผู่รู้สึกหิวท้องร้องจ๊อกๆ
ห้องเช่านี้ไม่มีห้องครัว อยากจะทำกับข้าวต้องไปใช้ห้องครัวส่วนรวมข้างล่างตึก หวังผู่ก็ขี้เกียจ จึงใช้กาต้มน้ำร้อนต้มน้ำ หยิบถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับไส้กรอกแฮมสองไม้ออกมาจากในตู้เสื้อผ้า
อาหารเย็นของกลุ่มมดงานในเมืองก็ง่ายแบบนี้แหละ
ระหว่างที่รอต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หวังผู่นั่งบนเก้าอี้แล้วเปิดคอมพิวเตอร์
เมื่อก่อนตอนที่อยู่ห้องเช่าเก่า ตอนเย็นเขาจะไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตเป็นประจำ ตอนนี้ย้ายห้องใหม่แล้ว ถึงแม้บริเวณใกล้ๆ จะมีร้านอินเทอร์เน็ต แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สะดวกเหมือนก่อน ดังนั้นจึงขอสายอินเทอร์เน็ตมาจากเจ้าของห้องโดยตรง แล้วเล่นอินเทอร์เน็ตที่บ้านไปเลย ประหยัดเงินได้ไม่น้อย
หวังผู่เปิดเว็บหนังสือสองสามเว็บอย่างคล่องแคล่ว อย่างแรกเข้าไปดูในชั้นวางหนังสือของบัญชีที่ใช้ว่ามีอัปเดตหรือไม่
ไม่เหมือนกับคนอายุรุ่นเดียวกันมากมาย แต่ก็คล้ายกับคนอายุรุ่นเดียวกันอีกเยอะแยะ งานอดิเรกส่วนใหญ่ของหวังผู่ไม่ไช่การเล่นเกมหรือคุยเฟยซวิ่นอะไร แต่คือการอ่านนิยายออนไลน์
ท่ามกลางค่ำคืนที่เงียบเหงานับครั้งไม่ถ้วน มีนิยายออนไลน์ที่สนุกน่าอ่านคอยอยู่เป็นเพื่อนเขา ทำให้เขาที่เบื่อและกดดันจากงานที่หนักอึ้งไม่สับสนในชีวิตจนหาทางออกให้ตัวเองไม่เจออีกต่อไป และทำให้เขาได้รับความสุขที่เป็นของตัวเอง
ที่สำคัญที่สุดคือ ความสุขแบบนี้ไม่จำเป็นต้องแลกด้วยเงินทองมากมาย หวังผู่อ่านนิยายโดยการสมัครสมาชิกมาตลอด นอกจากเติมเงินโดยตรงแล้ว เขาจะได้รับเหรียญฟรีจากการเล่นกิจกรรมต่างๆ ผ่านเว็บไซต์ สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายตลอดหนึ่งเดือนสำหรับอ่านหนังสือได้อย่างสิ้นเชิง
ด้วยความเคยชิน หวังผู่จะเข้าไปเช็คอินในเว็บไซต์หนังสือสองสามแห่งก่อน ทำภารกิจประจำวันให้เสร็จ แบบนี้จะได้เหรียญอ่านหนังสือจำนวนไม่น้อย จากนั้นก็ค่อยสมัครเพื่อติดตามการอัปเดตหนังสือใหม่สองสามเล่ม เงินที่ตัวเองใช้มีความจำกัดมาก
เสียดายหนังสือสองสามเล่มที่ชอบวันนี้มีการอัปเดตน้อยมาก หวังผู่อ่านตอนใหม่แป๊บเดียวก็จบแล้ว รู้สึกหงุดหงิดนิดๆ และโพสต์ข้อความเร่งให้อัปเดตในส่วนแสดงความคิดเห็นของหนังสือเล่มหนึ่ง
รีบอัปเดตเร็วๆ หน่อย!
เมื่อคลิกยืนยันการโพสต์แล้ว หวังผู่ก็ปิดหน้านั้นไปอย่างอารมณ์เสีย
เวลานี้บะหมี่อืดหมดแล้ว เขาดึงกระดาษฝาปิดออกแล้วกลืนไส้กรอกแฮม ดวงตายังคงจ้องหน้าจอ มือข้างหนึ่งจับเมาส์ คลิกที่ลิงก์เว็บไซต์ตรงรายการโปรดในเบราว์เซอร์มั่วๆ
หน้าแรกของบล็อกล่างฉาวเด้งออกมาตรงหน้าหวังผู่
หวังผู่ลงทะเบียนสมัครบัญชีบล็อกของตัวเองนานแล้ว แต่เขาไม่ค่อยเล่นบล็อกเท่าไร อย่างมากก็อ่านข่าวซุบซิบต่างๆ ติดตามนักเขียนออนไลน์ระดับเทพสองสามคนรวมทั้งดาราดังยอดนิยมในวงการบันเทิง
อย่างไรเสียก็ว่างแล้ว ในเมื่อเปิดบล็อกขึ้นมา หวังผู่จึงคลิกดูข้อความแจ้งเตือนของบัญชีตัวเองต่อไป ดูว่าคนที่เขาติดตามมีอะไรอัปเดตใหม่บ้าง
ทันในนั้นเอง สายตาของเขานิ่งไป
“แม่ง!”
หวังผู่สบถด่าออกมาทั้งๆ ที่บะหมี่เต็มปาก เส้นบะหมี่ที่เคี้ยวอยู่พุ่งออกมาจากปาก
“เฮ้ย!”
เขารีบกลืนบะหมี่ลงไป รีบดึงกระดาษทิชชูออกมาเช็ดเศษบะหมี่ที่ติดอยู่หน้าจออย่างลนลาน
เวลานี้หน้าจอคอมพิวเตอร์ของหวังผู่ แสดงให้เห็นโพสต์ข้อความอันหนึ่งที่เพิ่งโพสต์เมื่อครู่ และเจ้าของบล็อกก็คือนักเขียนของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’…อี้จินกู่!
ไม่แปลกใจเลยที่หวังผู่จะตกตะลึงเช่นนี้ อย่างแรกเขาเป็นแฟนคลับตัวยงของ ‘อี้จินกู่’ และยังเป็นนักอ่านที่อ่านก่อนคนแรกๆ ไม่เพียงแต่ซื้อหนังสือเล่มจริงของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักรเท่านั้น’ แต่ยังอ่านหนังสือชุดนี้อย่างน้อยสามรอบ!
ในมือของหวังผู่ ยังมีกลุ่มนักอ่านแฟนคลับนับพันของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ อีกห้ากลุ่ม ปกติแล้วเขาไม่ค่อยเล่นเฟยซวิ่น หากเล่นเฟยซวิ่นโดยพื้นฐานแล้วจะเข้าไปพูดคุยเรื่องราวในหนังสือกับพวกนักอ่านในกลุ่มมากกว่า
แน่นอนว่ามีนักเขียนอยู่ด้วย
เพียงแต่ ‘อี้จินกู่’ ลึกลับมากจริงๆ จนถึงตอนนี้เขาไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะเลย กระทั่งเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ยังไม่รู้ ข้อความในบล็อกมีอยู่น้อยนิด หนึ่งเดือนมากสุดโพสต์บล็อกแค่สองสามโพสต์เท่านั้น และไม่ค่อยได้มีเนื้อหาอะไรมากนัก
แต่เมื่อครู่ข้อความที่เพิ่งโพสต์ใหม่ของ ‘อี้จินกู่’ กลับไม่เหมือนกัน
“อี้จินกู่” กำลังจะออกหนังสือใหม่แล้ว!
วินาทีนี้ หวังผู่รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลอาบหน้า
เขาอยากร้องเพลงดังๆ “รอมานานแล้วในที่สุดก็มีวันนี้ ความฝันอันยาวนานในที่สุดก็เป็นจริง!”
เพลงนี้เป็นเพลงใหม่ของหลิวกั่งเซิงราชาเพลงแห่งฮ่องกง ลู่เฉินเป็นคนแต่งเนื้อร้องและทำนอง ช่วงนี้ดังมากในประเทศจีน
หวังผู่รู้สึกว่าเนื้อเพลงสองสามประโยคนี้เหมาะสมกับอารมณ์ของเขาในตอนนี้ที่สุด!
………………………………………………………………………