Perfect Superstar - ตอนที่ 703 ไปอเมริกา
ตอนที่ 703 ไปอเมริกา
เวลาผ่านไปไวมาก เผลอแป๊บเดียวก็กลางเดือนตุลาคมแล้ว
เดือนกันยายนทั้งเดือนของลู่เฉินและช่วงต้นเดือนตุลาคม ส่วนใหญ่มัวแต่ยุ่งอยู่กับถารถ่ายทำละครโทรทัศน์ เวลาที่เขาอยู่ในโรงถ่ายไหวโหรวมากกว่าเวลาอยู่บ้านเสียอีก
เพราะว่ายุ่งมาก เขาถึงขนาดปฏิเสธคำเชิญไปร่วมงานเลี้ยงเฉลิมฉลองวันชาติจีนของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง
ที่สำคัญคือ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ดังมากจริงๆ นับตั้งแต่ที่ออกอากาศเป็นต้นมาเรตติ้งสูงขึ้นตลอด ทะลุขอบเขตละครโทรทัศน์ระดับปรากฏการณ์ไปแล้ว ทำลายสถิติทั้งในประเทศจีนและประเทศเกาหลี
ถ่ายทำไปพร้อมกับออกอากาศ การถ่ายทำสองตอนต่อสัปดาห์มอบความกดดันมหาศาลให้กับกองถ่าย เพื่อรับประกันด้านคุณภาพ การทำงานล่วงเวลาเป็นเรื่องปกติที่มีอยู่บ่อยครั้ง ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ในฐานะพระเอกนางเอกจึงไม่มีเวลาว่างมากนัก
แต่กลางเดือนตุลาคม ลู่เฉินยังคงคิดหาวิธีเจียดเวลาได้สองสามวัน
เขาจะต้องไปประเทศสหรัฐอเมริกา
ลู่เฉินบินไปประเทศสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ มีเหตุผลสองข้อด้วยกัน
อย่างแรกเรื่องการจดทะเบียนของเว็บไซต์ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กสหรัฐอเมริกาเริ่มมีเค้าโครงกระทั่งสามารถพูดได้ว่าใกล้จะสำเร็จแล้ว และเขาหนึ่งในผู้ก่อตั้งและมีหุ้นส่วนสิบเปอร์เซ็นต์จำเป็นต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลสักครั้ง
ก่อนหน้านี้หลี่มู่ซือที่ได้ไปสหรัฐอมริกาเพื่อเตรียมการนำเว็บไซต์ระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ได้โทรหาลู่เฉินมากกว่าสิบสาย สุดท้ายจึงขู่ว่าถ้าหากเขาไม่มา เธอก็จะบินกลับเมืองหลวงไปจัดการเขาแน่นอน
อย่าเพิ่งพูดถึงมิตรภาพส่วนตัวของลู่เฉินกับหลี่มู่ซือและหลี่มู่ไป๋ นับตั้งแต่ที่เขาเข้าวงการเติบโตจนถึงตอนนี้ผ่านมาอย่างราบรื่นตลอดไม่มีอุปสรรคมากนัก ไม่มากก็น้อยก็เพราะอยู่ใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่ของตระกูลหลี่ต้นนี้
ไม่อย่างนั้นคนที่ไม่มีใครสนับสนุนอยู่ข้างหลังเหมือนอย่างลู่เฉิน สร้างกิจการทำเงินมากมายขนาดนี้ ไม่มีใครคอยจ้องคงแปลกมาก!
ดังนั้นไม่ว่าจะด้วยเรื่องอารมณ์หรือเหตุผล ลู่เฉินก็ต้องไปช่วยหลี่มู่ซือแก้ปัญหา เพราะถึงอย่างไรการเข้าตลาดหลักทรัพย์ของเว็บไซต์ระดมทุน จะทำให้หุ้นที่เขาถืออยู่สิบเปอร์เซ็นต์มีมูลค่าอย่างน้อยหลายร้อยล้าน และเป็นเงินดอลลาร์!
ถัดมาคือ ลู่เฉินเองก็มีแผนจะไปสำรวจที่อเมริกา ค้นหาบริษัททำสเปเชียลเอฟเฟกต์ระดับชั้นนำสักแห่ง และร่วมงานกันระยะยาวเพื่อยกระดับความสามารถของเฉินเฟยมีเดีย
การผลิตสเปเชียลเอฟเฟกต์เป็นอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องลงทุนระยะยาว และเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้เงินเหมือนสายน้ำไหล รีบร้อนทำผลงานไม่ได้ ที่สำคัญที่สุดคือคนเก่งมีความสามารถไม่ได้ตกลงมาจากฟ้า จำเป็นต้องอบรมฝึกฝนอย่างตั้งใจและสะสมประสบการณ์
แต่ถ้าหากทำความร่วมมือกับทางอเมริกาได้สำเร็จ เฉินเฟยมีเดียก็จะส่งเจ้าหน้าที่แต่ละกลุ่มมาศึกษาเพิ่มเติมที่อเมริกา เพิ่มมาตรฐานของการผลิตสเปเชียลเอฟเฟกต์อย่างค่อยเป็นค่อยไป
ตอนนี้เฉินเฟยมีเดียมีทีมงานทำสเปชียลเอฟเฟกต์โดยเฉพาะ สามารถรับมือกับ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ได้อยู่บ้าง แต่การสร้างสเปเชียลเอฟเฟกต์ของละครโทรทัศน์แบบนี้ หากอยู่ในโรงภาพยนตร์ใหญ่ก็ถือว่ายังด้อยอยู่มาก
และการถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ก็ได้กำหนดวันแล้ว ดังนั้นแผนการร่วมฝึกอบรมจึงไม่อาจล่าช้าได้อีกต่อไป ไม่อย่างนั้นพอจวนตัวก็รีบทำอย่างร้อนรนคงไม่ดี
…….
สนามบินนานาชาติปักกิ่ง อาคารผู้โดยสาร T1
หน้าด่านตรวจ คู่รักที่ต้องจากกันรู้สึกอาลัยอาวรณ์
เฉินเฟยเอ๋อร์จัดคอเสื้อของลู่เฉินให้เรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเอ่ยว่า “ถึงอเมริกาแล้วโทรหาฉันก่อนนะ”
“รู้แล้วครับ…”
ลู่เฉินยิ้มเจื่อนๆ “ผมรับรองว่าพอถึงที่นั่น พอลงจากเครื่องปุ๊บสิ่งที่จะทำเป็นอย่างแรกคือโทรมารายงานคุณก่อนครับ!”
คำพูดเหมือนๆ กันเฉินเฟยเอ๋อร์พูดซ้ำสองสามรอบแล้ว ทำเหมือนเขางไปอเมริกาแล้วจะไม่กลับมา จริงๆ แล้วครั้งนี้ลู่เฉินไปอเมริกามากสุดก็อยู่แค่ห้าหกวันเท่านั้น
“งั้นนายรีบเข้าด่านตรวจเถอะ!”
เฉินเฟยเอ๋อร์ในที่สุดก็พอใจ เขย่งปลายเท้าจูบเขาหนึ่งที แล้วเอ่ยว่า “ฉันจะรอนายกลับมา”
ลู่เฉินพยักหน้า ยกกระเป๋าเดินทางของตัวเอง เดินตามผู้ช่วยเข้าไปที่ด่านตรวจ
ตอนที่ผ่านด่านตรวจ เขายังหันกลับมาโบกมือให้เฉินเฟยเอ๋อร์
คนหลังส่งจูบลอยไปหาเขา
เมื่อผ่านด่านตรวจแล้ว ลู่เฉินและผู้ช่วยนั่งรออยู่ในห้องพักผู้โดยสารวีไอพีครึ่งชั่วโมงกว่า ก็ขึ้นเครื่องบินจากปักกิ่งไปนิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างราบรื่น
เขานั่งสายการบินเวอร์จินซึ่งเป็นบริษัทสายการบินใหญ่อันดับสองของสหรัฐอเมริกา นั่งเครื่องบินโดยสารโบอิง 798 รุ่นใหม่ล่าสุดที่สายการบินเวอร์จินเพิ่งลงทุนได้ไม่นาน
เครื่องบินโดยสารโบอิง 798 เป็นเครื่องบินข้ามทวีปรุ่นใหม่ที่บริษัทโบอิงเพิ่งเปิดตัว สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่าสี่ร้อยคน ความเร็วในการบินเกือบเท่าความเร็วเสียง จากปักกิ่งบินไปนิวยอร์กใช้เวลาเพียงสิบชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น
บริษัทจองที่นั่งชั้นธุรกิจให้ลู่เฉินกับผู้ช่วย เนื่องจากบริษัทเวอร์จินใช้เครื่องบินโบอิง 798 ซึ่งได้รับความนิยมมากจองที่นั่งชั้นหนึ่งล่วงหน้าช้าไปจึงหมดแล้ว
แต่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในที่นั่งชั้นธุรกิจของ 798 ก็ไม่ด้อยไปกว่าที่นั่งชั้นหนึ่งของเที่ยวบินทั่วไป คนที่มีรูปร่างสูงเหมือนลู่เฉินสามารถนั่งได้อย่างสบาย ภายในตัวเครื่องยังมีบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม เวลาเดินทางจึงไม่เหงา
ไปอเมริกาครั้งนี้ ลู่เฉินพาผู้ช่วยไปด้วยหนึ่งคน
ต่างจากดาราดังตัวท็อปหลายคนที่ชอบให้คนเรียกชื่อล้อมหน้าล้อมหลัง การเดินทางของลู่เฉินเรียบง่ายไม่เป็นจุดสนใจมาโดยตลอด ข้างกายมีเพียงผู้ช่วยหนึ่งคนเท่านั้น มากสุดก็มีแค่สองสามคน
ครั้งนี้ไปประเทศสหรัฐอเมริกา หลักๆ แล้วเป็นเรื่องของธุรกิจ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พาจางเสี่ยวฟางที่ติดตามตัวเองมาตลอดมา แต่ให้บริษัทจัดผู้ช่วยอีกคนหนึ่งให้ตนเอง
ผู้ช่วยคนนี้มีชื่อว่าหวังเยี่ยน ปีนี้อายุสามสิบสองปี เธอเคยเรียนที่อเมริกาหลายปี จบปริญญาโทสองใบสาขาการเงินและกฎหมาย เพิ่งกลับไปหาความก้าวหน้าที่ประเทศจีนเมื่อปีที่แล้ว
หวังเยี่ยนมีหน้าตาสะสวย ถึงแม้จะอายุสามสิบกว่าแล้ว แต่เนื่องจากดูแลตัวเองอย่างดี ดูแล้วอายุไม่เกินยี่สิบเจ็ดปี รูปร่างก็ดีเป็นที่หนึ่ง
แต่เธอไม่ใช่แจกันดอกไม้ที่สวยงามไร้เดียงสาแบบนั้น เธอเฉลียวลาดและแข็งแกร่งมาก ตอนนี้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนบริษัทธุรกิจแห่งหนึ่ง เนื่องจากบริษัทนี้เคยร่วมธุรกิจกับเฉินเฟยมีเดียมาก่อน ดังนั้นเธอจึงเคยไปมาหาสู่กับลู่ซี
ลู่ซีมีความประทับใจในตัวหวังเยี่ยนอย่างลึกซึ้ง ดังนั้นครั้งนี้ถึงตั้งใจเชิญเธอมาช่วยงานเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตามครั้งนี้ลู่เฉินไปเจรจางานที่ต่างประเทศ ตัวลู่ซีเองก็ไม่มีประสบการณ์ทางนี้ เธอกลัวว่าลู่เฉินจะถูกหลอกให้เสียเปรียบ ไม่สามารถรักษาผลประโยชน์ของตัวเองได้ ดังนั้นจึงไปหาหวังเยี่ยน
เพราะฉะนั้นเรื่องสวัสดิการและค่าตอบแทน หวังเยี่ยนไม่เหมือนผู้ช่วยทั่วไป เธอกับลู่เฉินนั่งที่นั่งชั้นธุรกิจด้วยกัน
ภายในที่นั่งชั้นธุรกิจ ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติผมทองตาสีฟ้า
หวังเยี่ยนเจอลู่เฉินครั้งแรกเมื่อสองวันก่อน เธอไม่ได้ชื่นชอบเพลงป็อป ภาพยนตร์ หรือละครอะไรทั้งนั้น ถึงแม้จะรู้ว่าลู่เฉินเป็นใคร แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรกับลู่เฉิน
แต่ลู่เฉินอย่างไรเสียก็เป็นดาราดัง และด้วยความสงสัยกับความจำเป็นเรื่องงาน หลังจากนั่งที่แล้ว หวังเยี่ยนจึงลองหาหัวข้อสนทนากับเขา
อย่างไรก็ตามทั้งสองคนต้องใช้เวลาอยู่ที่อเมริกาหลายวัน การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีสามารถทำให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
เมื่อได้พูดคุยกัน หวังเยี่ยนพบว่าลู่เฉินไม่ได้วางมาดของดาราดังเลยสักนิด ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มข้างบ้านทั่วไป ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงสนิทกันเร็วขึ้น
…………………………………………………………………………