Perfect Superstar - ตอนที่ 714 คำตอบ
ตอนที่ 714 คำตอบ
โต๊ะยาวคลุมด้วยผ้าสักหลาดสีเขียวเข้ม วางไมค์สองตัวอยู่ข้างบน มีธงชาติอเมริกาขนาดใหญ่แขวนอยู่บนกำแพงด้านหลัง เจ้าหน้าที่จากเอฟบีไอ เอฟเอเอ และศาลาว่าการนิวยอร์กสวมชุดสูทนั่งหลังตรง สีหน้าเคร่งขรึม
หลังจากพิธีกรแนะนำอย่างคร่าวๆ แล้ว งานแถลงข่าวจึงเริ่มต้น
อย่างแรกเจ้าหน้าที่ของเอฟเอเอชี้แจงรายละเอียดของเหตุการณ์บนเที่ยวบิน UD725 อันที่จริงทุกคนก็รู้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่เอฟเอเอคนนี้เล่าถึงรายละเอียดเพิ่มเติมในสิ่งที่ยังไม่มีใครทราบ
เมื่อคนของเอฟเอเอกล่าวจบแล้ว ต่อไปก็เป็นเจ้าหน้าที่ของเอฟบีไอเริ่มประกาศผลการตรวจสอบเบื้องต้น
เนื้อหาไม่มีอะไรแปลกใหม่เช่นกัน
ผลการตรวจสอบไม่แตกต่างจากการวิเคราะห์ของสื่อ ผู้ต้องสงสัยของเรื่องนี้ก็คือวูล์ฟ คุก ปีนี้อายุสามสิบสองปีเมื่อก่อนเคยเป็นสมาชิกนาวิกโยธินสหรัฐ ยศจ่าโท
วูลฟ์ คุกเคยร่วมปฏิบัติภารกิจต่างประเทศของกองทัพสหรัฐอยู่หลายครั้งหลายครา เป็นผู้ที่ได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์ทางทหาร ปลดประจำการในปี 2015
ข้อมูลเหมือนข้อมูลของสื่อ วูล์ฟเป็นผู้ป่วยโรคพีทีเอสดี และเป็นสาเหตุสำคัญในการปลดประจำการของเขา
อดีตสมาชิกนาวิกโยธินกลับมาจากท่องเที่ยวในประเทศจีน ผลปรากฏว่าโรคพีทีเอสดีเกิดกำเริบบนเครื่องบินเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองถูกจี้และโจมตีจากศัตรู ดังนั้นถึงสูญเสียสติสัมปชัญญะทำผิดพลาดครั้งใหญ่
อารมณ์ของเขาในตอนนี้ได้สงบลงอย่างสิ้นเชิง รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อการกระทำของตนเอง
ทางเอฟบีไอจะอนุญาตให้นักข่าวสองสามคนสัมภาษณ์วูล์ฟในเวลาที่เหมาะสม
ด้วยเหตุนี้ ความจริงของเหตุการณ์บนเที่ยวบิน UD725 ได้เป็นที่ประจักษ์แล้ว เอฟบีไอได้กำจัดความเป็นไปได้ของการโจมตีจากผู้ก่อการร้าย
ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุเท่านั้น
สุดท้ายคุณเมอร์ฟีจากเอฟบีไอ ได้แสดงความขอบคุณคุณลู่เฉินที่มาจากประเทศจีน ขอบคุณคนหลังที่ใช้ความกล้าหาญช่วยชีวิตผู้โดยสารทั้งหมดสี่ร้อยกว่าคนบนเที่ยวบิน UD725 หลีกเลี่ยงไม่ให้มีโศกนาฏกรรมเกิดขึ้น!
หลังจากเขาพูดจบ เสียงปรบมือดังก้องภายในห้องประชุม
เสียงปรบมือเหล่านี้มอบให้แก่ลู่เฉินที่นั่งตรงกลาง
งานแถลงข่าวนี้ ลู่เฉินเป็นไฮไลต์ที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย เขาดึงดูดสายตาของทุกคนได้นิ่งสนิท
คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในห้องนี้รู้จักลู่ฉินผ่านวิดีโอสามนาที แต่วิดีโอนี้ถูกถ่ายตอนที่อยู่บนเครื่องบิน และเป็นการแอบถ่าย บวกกับการเคลื่อนไหวที่ดุเดือด ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะถ่ายฉากโคลสอัพให้เห็นลู่เฉินได้ชัดเจน
เพราะฉะนั้นเมื่อได้เจอตัวจริง รู้สึกว่าแตกต่างกันเป็นอย่างมาก
ถึงแม้จะมีนักข่าวที่มีความอคติอยู่บ้าง แต่รูปร่างหน้าตาของลู่เฉินดูดีไร้ที่ติ ลู่เฉินมีรูปร่างสูงใหญ่ โครงหน้าหล่อเหลามีสง่า ต่อให้ยึดตามมาตรฐานความสวยหล่อของชาวตะวันตก เขาก็เป็นคนกลุ่มน้อยที่ยอดเยี่ยมที่สุด
และลู่เฉินยังดูหนุ่มมาก รอยยิ้มของเขาให้ความรู้สึกอบอุ่นและอ่อนโยน ยากที่คนจะจินตนาการได้ว่า เด็กหนุ่มที่น่าคบหาคนนี้จะมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้
ความเข้าใจด้านพลังต่อสู้ของคนอเมริกัน โดยทั่วไปต้องมีรูปร่างกำยำแขนใหญ่เอวหนา และชอบพูดคำหยาบ…เหมือนตัวละครแบบอย่างในหนังฮอลลีวูด
ลู่เฉินกลับพลิกผันความรู้ความเข้าใจของพวกเขาจนกลับตาลปัตร
อันที่จริงสำหรับเรื่องราวฮีโร่ของลู่เฉินบนเที่ยวบิน UD725 คนอเมริกันบางส่วนมีทัศนคติที่ซับซ้อนอยู่บ้าง พวกเขานับถือความกล้าหาญของลู่เฉิน แต่รู้สึกไม่สบอารมณ์เช่นกัน
เพราะว่าตัวการของเรื่องนี้เป็นคนอเมริกันแท้ๆ และยังเป็นอดีตสมาชิกนาวิกโยธินที่เคยอุทิศตนเพื่อประเทศอีกด้วย เดิมทีควรจะเป็นต้นแบบฮีโร่ของอเมริกันมากกว่า
ผลปรากฏว่าขณะที่กำลังต่อสู้กันอยู่ ในฐานะตัวร้ายกลับถูกเด็กหนุ่มที่มาจากประเทศจีนโจมตีพ่ายไป
รู้สึกขายหน้าจริงๆ
ดังนั้นคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในนี้ รวมถึงนักข่าวหน้างานอีกสองสามคน
ขณะที่ปรบมือให้ พวกเขาอยากจะถามคำถามของตัวเองกับลู่เฉินอย่างอดใจไม่ไหว
พิธีกรของงานแถลงข่าวเป็นคนเข้าใจผู้อื่น จึงรีบประกาศให้ถามคำถามอย่างอิสระ
เพิ่งจะสิ้นเสียงของเขา ก็มีนักข่าวคนหนึ่งลุกขึ้นยืนทันทีเอ่ยว่า “คุณลู่เฉิน ผมชื่อเจมส์เป็นนักข่าวของเดอะนิวยอร์กไทม์ ผมรู้สึกชื่นชมมากต่อความกล้าหาญของคุณบนเที่ยวบิน UD725 นี้ แต่ผมอยากรู้ว่า คุณมีความคิดเห็นอย่างไรต่อจ่าโทวูล์ฟ คุก บ้างไหมครับ”
เดิมทีตามกฎของงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เมื่อถึงช่วงถามคำถามตามอัธยาศัย พวกนักข่าวจะต้องยกมือก่อน จากนั้นพิธีกรจะเลือกให้คนหนึ่งถามคำถาม
เป็นไปไม่ได้ที่นักข่าวของ ‘เดอะนิวยอร์กไทม์’ คนนี้จะไม่รู้กฎเกณฑ์ และไม่ใช่แค่รีบมากเฉยๆ
แน่นอนว่าเขามีความมั่นใจสูง เพราะ ‘เดอะนิวยอร์กไทมส์’ เป็นหนังสือพิมพ์ติดสามอันดับแรกของสหรัฐอเมริกามีการจำหน่ายไปทั่วโลก และมีอิทธิพลอย่างมาก
พิธีกรไม่ได้ห้ามการผิดกฎของนักข่าวเจมส์คนนี้
คำถามของเขา ถามได้เจ้าเล่ห์มาก และสามารถพูดได้ว่าแฝงเจตนาที่ไม่ดี
ลู่เฉินครุ่นคิด แล้วตอบอย่างไม่ลนลาน “ส่วนตัวผมคิดว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนเที่ยวบิน UD725 ไม่สามารถนำมาใช้เป็นมาตรฐานในการประเมินจ่าโทวูล์ฟ คุกได้”
“นอกจากนี้สำหรับผมแล้ว ผมยินดีที่จะเป็นเพื่อนของคุณวูล์ฟ คุกมากกว่า ไม่ใช่คู่ต่อสู้”
“ขอบคุณครับ”
เจมส์ตกตะลึง ลู่เฉินตอบอย่างไม่มีช่องโหว่ทำให้นักข่าว ‘เดอะนิวยอร์กไทมส์’ หาจุดโจมตีใดๆ ไม่ได้เลย…นี่มันมาตรฐานเกินไปแล้ว!
และตอนแรกลู่เฉินพูดว่า ‘จ่าโทวูลฟ์ คุก’ พอตอนหลังกลับพูดว่า ‘คุณวูลฟ์ คุก’ ซึ่งมีความหมายลึกซึ้งมาก
งานกร่อยไปชั่วขณะ เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง!
พิธีกรฉวยโอกาสพูดว่า “ขอบคุณคุณเจมส์ครับ แต่กรุณาระวังกฎในการถามด้วยนะครับ คนนี้…”
เขาชี้ไปที่นักข่าวสาวอีกคนที่ชูมือสูง
เจมส์กลับไปนั่งที่อย่างเขินอาย รู้สึกแสบร้อนใบหน้าเล็กน้อย
นักข่าวสาวผมทองที่ถูกเรียกชื่อคนนั้นลุกขึ้น ถามคำถามกับลู่เฉินอีกครั้ง “คุณลู่เฉิน ฉันเป็นนักข่าวของ ‘เดลินิวส์’ คุณลองให้คะแนนความกล้าหาญของคุณในตอนนั้นได้ไหมคะ”
‘เดลินิวส์’ ก็เป็นหนังสือพิมพ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาเหมือนกัน แตกต่างจากคำถามตึงเครียดทางการเมืองของ ‘เดอะนิวยอร์กไทมส์’ สไตล์ของหนังสือพิมพ์เจ้านี้เน้นไปทางสังคม อย่างเช่นนักข่าวของมันก็คือสาวสวยผมสีทองตาสีฟ้าคนนี้
แต่นักข่าวจากหนังสือพิมพ์ใหญ่ของเอมริกาก็มีจุดที่เหมือนกัน นั่นก็คือคำถามที่ใช้สัมภาษณ์ต้องถามตรงและใจถึง ยากที่จะรับมือ
คนทั่วไปถ้าหากเจอคำถามติดต่อกันแบบนี้ สามารถทำพลาดได้ง่ายมาก
ดังนั้นก่อนที่จะมา เอฟบีไอได้ให้ร่างคำถามสัมภาษณ์ชุดหนึ่งกับลู่เฉิน เพื่อให้เขาเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม
แต่ไม่ว่าจะเป็นเจมส์ของ ‘เดอะนิวยอร์กไทมส์’ หรือว่าสาวสวยผมสีทองของ ‘เดลินิวส์’ คนนี้ คำถามของทั้งสองคนไม่ได้อยู่ในรายการเลย
ลู่เฉินยิ้มนิ่งๆ เอ่ยว่า “พลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่!”
With Great Power Comes Great Responsibility!
คำตอบประโยคนี้ของลู่เฉินทำให้ดวงตาของทุกคนเป็นประกาย
…………………………………………………………………………