Perfect Superstar - ตอนที่ 730 วางแผนกลยุทธ์
ตอนที่ 730 วางแผนกลยุทธ์
“ช่วงนี้นายเป็นที่สนใจมาก…”
เมื่อกลับถึงบ้านที่จื่อเฉิงย่วน เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มกว้างเอ่ยกับลู่เฉินว่า “จะไม่ให้คนอื่นสนใจนั้นยากจริงๆ เฉินกั๋วจื้อเชิญนายเข้าร่วมงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แต่การมาเชิญไปร่วมรายการนั้นพบได้น้อยมาก”
งานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนจัดขึ้นมามากกว่า 30 ปี และการชมงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิในคืนวันส่งท้ายปีเก่าก็ได้กลายเป็นประเพณีอย่างหนึ่งของชาวจีนในการเฉลิมฉลองปีใหม่ โดยเฉพาะสำหรับคนวัยกลางคนและผู้สูงอายุ หากไม่ได้ดูงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิในวันส่งท้ายปีเก่าถือเป็นความเสียใจอย่างยิ่ง
แม้แต่ตอนนี้เรตติ้งของงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิก็ยังไม่เคยต่ำกว่า 80% ด้วยอิทธิพลอันยิ่งใหญ่นี้ ไม่มีรายการไหนเทียบได้ งานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่มีมานานกว่า 30 ปีได้ทำให้ดาราศิลปินโด่งดังมาแล้วหลายรุ่น
ด้วยเหตุนี้ มีดาราเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถปฏิเสธสิ่งล่อใจอย่างงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิได้ เมื่อโปรแกรมรายการของงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิประจำปีเผยแพร่ออกมา นั่นก็หมายความว่ามีเกมต่อรองเกิดขึ้นมากมายก่อนหน้านั้น
ดาราศิลปินจำนวนไม่น้อยที่มีความทะเยอทะยานและมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเข้าร่วมงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ มักจะพยายามคิดหาวิธีที่จะมาโชว์ใบหน้าของพวกเขาในงาน และหากว่ามีโปรแกรมรายการเป็นของตนเอง นั่นแสดงให้เห็นถึงความประสบความสำเร็จมากที่สุด!
สำหรับเฉินเฟยเอ๋อร์ที่เคยเข้าร่วมงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิมาถึงสองครั้งแล้วนั้น สิ่งล่อใจของงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมากมาย และเป็นเรื่องยากมากที่จะไปร่วมงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิถึงสามครั้ง ควรจะให้โอกาสคนอื่นเขาบ้างจริงไหม?
นับตั้งแต่ลู่เฉินเดบิวต์มา ยังไม่เคยไปร่วมงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิมาก่อน ถึงแม้ว่าเขาจะแสดงศักยภาพที่โดดเด่นตั้งแต่เริ่มต้น และประสบความสำเร็จในวงการดนตรีและวงการการแสดงอย่างมาก แต่เพียงเพราะยังขาดภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังไม่พยายามประชาสัมพันธ์มากนัก จะให้สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนเป็นฝ่ายกระตือรือร้นมาหาเองได้อย่างไร!
แต่สถานการณ์ในปีนี้แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ความนิยมของลู่เฉินในประเทศจีนสูงจนไม่อาจมองข้ามได้ ในฐานะนักร้องนักแต่งเพลงรุ่นเยาว์ที่โดดเด่นที่สุดในวงการเพลงจีน อีกทั้งยังได้สร้างปาฏิหาริย์ในด้านภาพยนตร์และละครโทรทัศน์อยู่บ่อยครั้ง ทำให้สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนไม่สามารถเพิกเฉยได้อีกต่อไป
เพราะนั่นหมายความว่าจะทำให้กลุ่มแฟนคลับและผู้ชมวัยหนุ่มสาวมากมายหลายสิบล้านของลู่เฉินไม่พอใจเอาได้
บวกกับเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นกับลู่เฉินในอเมริกา ทั้งหมดนี้เป็นแรงกระตุ้นให้สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนทำการตัดสินใจ
แน่นอนว่าสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนที่ยิ่งใหญ่ ต้องมีเงื่อนไขในการพิจารณาอย่างรอบคอบของตนเองอยู่แล้ว ดังนั้นผู้ช่วยทั้งสองของเฉินกั๋วจื้อถึงได้มาหาลู่เฉิน
พวกเขาเป็นตัวแทนของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนในระดับหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถพูดได้ว่าเป็นเจตนารมณ์ของเฉินกั๋วจื้อ และเป็นเพียงการติดต่อเบื้องต้นเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจะเดินหน้าหรือถอยกลับก็ได้ทั้งนั้น
“เฉินกั๋วจื้อจะต้องมีความคิดอะไรอยู่อย่างแน่นอน…”
เฉินเฟยเอ๋อร์พูดจาฉะฉาน “เรตติ้งของงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิเมื่อปีก่อนและปีที่แล้วเกือบคาบเส้นแดงที่ 80% ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางหวังให้ผู้กำกับเฉินช่วยกู้สถานการณ์ให้ เขาต้องปฏิรูปโปรแกรมรายการแบบดั้งเดิมของงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิอย่างเหมาะสม ไม่อย่างนั้นมันก็ยังคงเหมือนเดิมและเหล่าผู้ชมก็จะไม่อุดหนุน!”
ลู่เฉินพยักหน้า เฉินเฟยเอ๋อร์วิเคราะห์สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน งานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ และผู้กำกับเฉินกั๋วจื้ออย่างละเอียด
ในปีก่อนๆ งานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนเป็นไฮไลต์หลักของวันส่งท้ายปีเก่าของประชาชน ได้รับเรตติ้งพุ่งสูงมากจนถึงขั้นน่าอิจฉาเลยก็ว่าได้ และสูงมากกว่า 95% มาโดยตลอด
แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นและความหลากหลายของความบันเทิง โดยเฉพาะความรุ่งเรืองของสื่อใหม่ทางออนไลน์ ส่งผลให้เรตติ้งการรับชมงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิลดลงทุกปี
นอกจากผู้ชมวัยหนุ่มสาวจะมีตัวเลือกความบันเทิงที่มากขึ้นแล้ว สาเหตุที่สำคัญที่สุดก็ยังคงเป็นโปรแกรมรายการของงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิเองที่ยังขาดแนวคิดและความคิดสร้างสรรค์ ใบหน้าเดิมๆ คุ้นตาจำเจ และคุณภาพของรายการประเภทภาษาก็ลดฮวบลง รายการประเภทเพลงและการเต้นรำยังคงยึดติดกับทัศนคติเดิมๆ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเบื่อหน่ายหมดอารมณ์สุนทรีย์
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนจึงเชิญผู้กำกับใหญ่เฉินกั๋วจื้อมา ส่วนงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมายังคงมีการออกอากาศอยู่ แต่มีการร้องเรียนและเสียงวิพากวิจารณ์มากมายบนอินเทอร์เน็ต จนยากที่จะแสร้งทำเป็นหูหนวกตาบอด
แม้แต่สื่อหลากหลายเจ้าต่างก็ร่วมขบวนวิพากวิจารณ์ด้วย ด้วยศักดิ์ศรีของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนทำให้ไม่อาจทนต่อไปได้อีก
ที่ผู้ช่วยสองคนของเฉินกั๋วจื้อเข้าหาลู่เฉินในครั้งนี้ หลักๆ แล้วแปลได้สองความหมาย อันดับแรกคือการเชิญลู่เฉินเข้าร่วมงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิปีจอ ตราบใดที่เขาพยักหน้าตกลง ชื่อของเขาก็จะอยู่ในรายชื่อโปรแกรมรายการอย่างแน่นอน!
จริงๆ แล้วนี่ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ได้รู้ว่ามีศิลปินดาราหลายคนลำบากแทบตายแต่ก็คว้าโอกาสนี้ไม่ได้ แต่ลู่เฉินกลับได้มันมาอย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้นผู้กำกับยังส่งคนมาเชิญไปงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิถึงที่ ได้รับการปฏิบัติที่เป็นสิทธิพิเศษ
อีกความคิดหนึ่งของเฉินกั๋วจื้อ นั่นก็คือหวังว่าลู่เฉินจะวางแผนกลยุทธ์ ให้คำแนะนำและความคิดดีๆ กับงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ!
ความคิดเช่นนี้ของเขาไม่ได้เคาะออกมาจากมันสมอง พรสวรรค์และการสร้างสรรค์ทางด้านดนตรีของลู่เฉินไม่จำเป็นต้องพูดถึง ความสามารถด้านการประพันธ์บทภาพยนตร์และละครโทรทัศน์นั้นยิ่งน่าชื่นชม จนถึงตอนนี้ภาพยนตร์หนึ่งเรื่องและละครโทรทัศน์สามเรื่องที่ลู่เฉินได้ถ่ายทำไปทั้งหมดนั้นเขาสร้างมันขึ้นด้วยตนเอง แม้แต่นิยายที่ดัดแปลงจากละครก็ยังขายดีมาก
ถ้าเฉินกั๋วจื้อต้องการฟื้นเรตติ้งที่ลดลงของงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ อาศัยเพียงความคิดของเขาอย่างเดียวคงไม่พออย่างแน่นอน สิ่งที่เขาต้องการคือการระดมความคิดและสมอง ด้วยเหตุนี้เขาถึงได้เปิดเผยความตั้งใจของเขาในด้านนี้กับลู่เฉิน
สำหรับเรื่องนี้ ลู่เฉินให้คำตอบกับผู้ช่วยทั้งสองคนไปว่าเขาขอลองคิดดูก่อน และตอนนี้เขาต้องการฟังความคิดเห็นของเฉินเฟยเอ๋อร์
เฉินเฟยเอ๋อร์เอนกายอย่างสบายในอ้อมแขนของลู่เฉิน พร้อมกับให้คำแนะนำและวางแผนอย่างจริงจังแทนเขา
“อย่างแรกเลย สำหรับงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ เราไม่สามารถปฏิเสธได้ และไม่จำเป็นต้องปฏิเสธ สิ่งที่สำคัญคือการแสดง!”
“ต้องมีโปรแกรมรายการร้องเพลงพิเศษอย่างแน่นอน และเป็นสิ่งที่นายต้องต่อสู้แย่งชิงมันมา การร้องเพลงหมู่หรือการร้องเพลงร่วมกันนั้นไร้ความหมาย และไม่ตรงกับความนิยมและสถานะปัจจุบันของนาย”
“นอกจากนี้ การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเฉินกั๋วจื้อเป็นสิ่งสำคัญมาก…”
เธอหันไปมองลู่เฉิน “บริษัทของเรามีแผนจะถ่ายทำภาพยนตร์ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ปลายปีนี้ไม่ใช่เหรอ ถ้านายสามารถเชิญเฉินกั๋วจื้อมาเป็นผู้กำกับได้ นั่นเป็นสิ่งที่เยี่ยมที่สุดเลยนะ!”
เชิญเฉินกั๋วจื้อมารับหน้าที่ผู้กำกับภาพยนตร์ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ งั้นเหรอ?
ดวงตาของลู่เฉินเป็นประกาย ความคิดนี้ช่างหาญกล้ามากและยังยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย
ทักษะการกำกับของเฉินกั๋วจื้อนั้นไร้ข้อกังขา และเขายังมีอิทธิพลในระดับสากล ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาได้เปลี่ยนไปทำภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ หากเฉินเฟยมีเดียสามารถร่วมมือกับผู้กำกับรายใหญ่คนนี้ได้ นั่นเป็นตัวกระตุ้นยอดขายตั๋วภาพยนตร์ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ที่แข็งแกร่งมากอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ก็ยังติดปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง…
“ตอนนี้เขาเป็นผู้กำกับงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ กลัวว่าเขาจะไม่มีเวลามากำกับ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ตอนปลายปีใช่ไหมล่ะ”
เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มและพูดว่า “ถ้าสามารถตกลงกันได้ งั้นเลื่อนไปถ่ายทำหลังปีใหม่จะมีปัญหาอะไรรึเปล่า เราเอา ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เข้าโรงตอนฤดูร้อนปี 2018 ก็ได้นี่!”
ไม่เลว!
ลู่เฉินถูกโน้มน้าวได้สำเร็จ เขาอดไม่ได้ที่จะหอมแก้มเฉินเฟยเอ๋อร์หนึ่งฟอด “ผมเชื่อฟังคุณภรรยาครับ!”
“นายอย่าดีใจจนเกินไปล่ะ…”
เฉินเฟยเอ๋อร์มองลู่เฉินอย่างบูดบึ้งและพูดว่า “เฉินกั๋วจื้อไม่ได้เชิญมาง่ายขนาดนั้น ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่ถือกระเป๋าเงินไปเสนอให้ถึงประตูบ้านเขา นายต้องแสดงความจริงใจของนายออกมา!”
“ตัวอย่างเช่นงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิปีนี้…”
แบบนี้นี่เอง…
ลู่เฉินอดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดลึกลงไป เขาก็มีความคิดเป็นของตัวเองจริงๆ นั่นแหละ
………………………………………………………………