Perfect Superstar - ตอนที่ 733 ต้องการอะไร
ตอนที่ 733 ต้องการอะไร
นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นบทละครเรื่องสั้น!
เฉินกั๋วจื้อลูบกระดาษต้นฉบับบางๆ ในมือ มองชื่อผู้แต่งที่เขียนไว้ใต้หัวเรื่องถึงกับก็พูดไม่ออกเลยทีเดียว
ก่อนหน้านี้ลู่เฉินหยิบผลงานเพลงต้นฉบับออกมาสองเพลง แม้ว่าในขณะนั้นเขาจะรู้สึกว่าลู่เฉินเป็นคนใจร้อนไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นไม่มีเหตุผล อีกอย่างพรสวรรค์ด้านดนตรีของลู่เฉินก็เป็นที่รู้กันดี และเป็นเรื่องปกติที่จะแต่งเพลงได้ภายในไม่กี่วัน
แต่ตอนนี้สิ่งที่ลู่เฉินหยิบออกมาดันเป็นบทละครเรื่องสั้น!
จากเพลงป็อปเปลี่ยนมาเป็นบทละครในเวลาอันรวดเร็วออกจะข้ามขั้นเกินไปหน่อยไหม
จู่ๆ เฉินกั๋วจื้อก็รู้สึกระคายเคืองคอ และอยากจะกระแอมสักสองสามทีเพื่อแสดงความรู้สึกของเขาในตอนนี้
อย่างไรก็ตามเนื่องจากความผิดพลาดก่อนหน้า ดังนั้นเขาต้องอดกลั้นเอาไว้ และดูบทละครอย่างตั้งใจ
ผู้กำกับใหญ่คนนี้ถึงกับรู้สึกไม่มั่นใจเลยสักนิด… รู้ว่าลู่เฉินเก่งมากผลงานเพลงทั้งสองชิ้นทำให้เขามั่นใจก็จริง แต่สำหรับการสร้างบทละครนั้นไม่ใช่ว่าใครก็สามารถทำได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทละครที่แสดงในงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ บอกว่าหนึ่งในพันนั้นก็ดูจะเกินจริง บอกหนึ่งในร้อยก็น้อยไปอีก!
รายการแสดงประเภทภาษาส่วนใหญ่ของงานกาล่าในประเทศ หลักๆ แล้วหมายถึงละครเรื่องสั้นและละครพูดตลกของจีน ยังมีรายการศิลปะพื้นบ้านอื่นๆ อีก เช่น การพูดบทกวี การเล่าเรื่องโดยมีกรับจีนประกอบจังหวะ การละเล่นพูดสามประโยคครึ่ง บทบิดลิ้น ละครชวนหัว เป็นต้น ในบรรดารายการเหล่านี้การพูดบทกวีที่มีเสียงดนตรีประกอบจะพบบ่อย การแสดงละครประกอบเพลงก็มีบ้างเล็กน้อย
แต่รายการประเภทภาษาที่แสดงบนเวทีงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่ทุกคนพูดถึง โดยทั่วไปแล้วก็จะเป็นละครเรื่องสั้นและละครพูดตลกของจีน
นับตั้งแต่เปิดตัวงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนในช่วงต้นของยุค 80 ละครเรื่องสั้นและละครพูดตลกของจีนเป็นรายการที่ได้รับความนิยมและเป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่ผู้ชมมาโดยตลอด บนเวทีงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิก็ปรากฏกลุ่มนักแสดงละครเรื่องสั้นและละครพูดตลกของจีนที่ยอดเยี่ยมออกมาให้เห็นเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีรายการแสดงประเภทภาษาที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานมากมาย เช่น ละครพูดตลกของจีน ‘ส่งเสริมการขาย’ ‘วันส่งท้ายปีเก่า’ ‘ศาลหลักเมือง’ และละครเรื่องสั้น ‘ไปตลาด’ ‘พรุ่งนี้ต้องดีกว่า’ เป็นต้น จนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีคนเปิดดูอยู่บ่อยๆ
อย่างไรก็ตามเมื่อมาตรฐานด้านสุนทรียศาสตร์ของผู้ชมหลายร้อยล้านคนสูงขึ้น คุณภาพของละครเรื่องสั้นและละครพูดตลกของจีนกลับลดลงทุกปี ประกอบกับเหตุผลด้านนโยบายและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจบางประเภท ผู้สร้างรายการประเภทภาษามักประสบปัญหาขาดความคิดสร้างสรรค์ และมีแนวคิดที่แข็งทื่อ ละครเรื่องสั้นและละครพูดตลกของจีนหลายๆ เรื่องต้องอาศัยเรื่องตลกทางอินเทอร์เน็ตเข้ามาผสมผสานด้วย
ผลที่ได้คือผู้ชมฟังแล้วเกิดความไม่พอใจ วิจารณ์อย่างเสียหายส่งผลต่อเรตติ้งของงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ และวงจรอุบาทว์นี้ก็เลวร้ายลงเรื่อยๆ
การคัดเลือกรายการแสดงในงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิปี 2018 ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ฤดูร้อนปีนี้แล้ว แต่จนถึงตอนนี้มีรายการประเภทภาษาเพียงรายการเดียวเท่านั้นที่เฉินกั๋วจื้อเลือกไว้ ทั้งยังเอนเอียงไปทางละครพูดตลกของจีนแบบดั้งเดิมอีกต่างหาก
ไม่ใช่ว่าเขาจู้จี้จุกจิกเกินไป แต่ละครเรื่องสั้นและละครพูดตลกของจีนส่วนใหญ่ที่ส่งมายังคงมีรูปแบบเดิมและปัญหาเดิมๆ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แม้ว่าเฉินกั๋วจื้อจะฝืนทนแค่ไหนก็ทำใจให้ผ่านไปไม่ได้
หลังจากดูละครเรื่องสั้นที่น่าเบื่อมามากมายเป็นธรรมดาที่เฉินกั๋วจื้อจะไม่ตั้งความหวังในบทละครที่ลู่เฉินประพันธ์ขึ้น แต่เขาก็ไม่สามารถหักหน้าลู่เฉินได้ เพราะลู่เฉินเพิ่งจะมอบผลงานที่ยอดเยี่ยมสองชิ้นให้กับเขา
แต่ทว่าได้เกิดเหตุการณ์เหมือนก่อนหน้าไม่มีผิด ได้อ่านเพียงแค่สองสามร้อยตัวอักษรเท่านั้น สายตาของเฉินกั๋วจื้อไม่สามารถละออกจากต้นฉบับนี้ได้เลย!
เขายืดตัวนั่งตรง และใช้นิ้วถูถ้วยชาในมือซ้ายอย่างไม่รู้ตัว ขมวดคิ้วจนหน้าผากย่นเป็นรูปตัวอักษร ‘川’ แสดงให้เห็นถึงความตั้งอกตั้งใจ
“ฮ่าๆ…”
แต่ครู่ต่อมา จู่ๆ ใบหน้าที่ตึงเครียดของผู้กำกับใหญ่เฉินกลับเผยรอยยิ้มออกมาจากใจ ทนไม่ไหวจนหัวเราะออกมา จนเกือบทำถ้วยชาในมือของเขาคว่ำ!
“ผู้กำกับเฉิน…”
ผู้ช่วยที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาตกใจนึกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เฉินกั๋วจื้อโบกมือส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายเงียบลง “ไม่มีอะไร แค่เรื่องตลกในบทละครนี้เขียนได้ไม่เลว”
เขาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองลู่เฉินเผยแววตาเปล่งประกายชื่นชมอย่างไม่ปิดบัง
ดูถูกเจ้านี้เกินไปหน่อย!
ผู้กำกับใหญ่เฉินทอดถอนใจ เขาเห็นบทละครเรื่องสั้นมานับไม่ถ้วน บทละครเล่มนี้ของลู่เฉินนับว่าโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ถ้าหากไม่ได้หยิบยืมมาจากเรื่องตลกในอินเทอร์เน็ตแล้วละก็ ถือว่ามีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นที่สุด
อย่างแรกเลยก็คือโครงเรื่องไม่หยาบคายและไม่ซ้ำซาก และไม่ใช่ตัวอย่างการเทศนาระดับสูง ภาษาเรียบง่ายและชัดเจนแต่น่าสนใจมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อทางสังคมหรือการเมืองที่ละเอียดอ่อน
อะไรคือบทละครที่ดี? นี่ไงล่ะคือบทละครที่ดีที่สุด!
ลู่เฉินได้คัดลอกงานมาหรือเปล่า?
เฉินกั๋วจื้อปฏิเสธความคิดนี้ในครั้งแรกเลยทันที ปัจจุบันนี้อินเทอร์เน็ตได้รับการพัฒนาและมีเครื่องมือค้นหาที่ก้าวหน้าอยู่ โดยทั่วไปแล้วผู้ที่คัดลอกงานจะไม่สามารถแฝงตัวได้ เป็นเรื่องง่ายมากที่จะถูกเปิดโปง
ลู่เฉินส่งบทละครมาให้เขาด้วยความมั่นใจแบบนี้ แน่นอนว่าต้องมีความมั่นใจสูงมาก
แทนที่จะสงสัยว่าเขาคัดลอกผลงานในอินเทอร์เน็ต สู้มาสงสัยเรื่องที่เขามีนักเขียนผีอยู่เบื้องหลังยังดีกว่า
ลู่เฉินจำเป็นต้องใช้นักเขียนผีด้วยเหรอ?
นั่นยิ่งไม่มีความจำเป็นใดๆ เลย เนื่องจากลู่เฉินไม่ต้องการชื่อเสียงแบบนี้เพื่อมาสนับสนุนตนเอง เขากลายเป็นศิลปินหนุ่มที่โด่งดังที่สุดในประเทศจีนด้วยการร้องเพลงและการแสดง มีเกียรติมากขึ้นอีกนิดหรือน้อยลงอีกหน่อยไม่สำคัญต่อเขาเลย
โลกช่างเลวร้ายและใจคนก็คาดการณ์ไม่ได้ เฉินกั๋วจื้อไม่กลัวที่จะคาดการณ์คนอื่นในทางที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้ก่อน แต่ชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามก็ดูไม่ธรรมดา ทั้งหล่อเหลา มีความมั่นใจ สดใส มีคุณสมบัติและเสน่ห์ที่ทำให้คนเชื่อถือ
ในเวลานี้เอง เฉินกั๋วจื้อก็นึกขึ้นได้ว่าภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ที่ลู่เฉินได้ถ่ายทำทั้งหมดนั้นประพันธ์ขึ้นด้วยตัวเขาเอง ในใจก็ปราศจากความสงสัย ก้มศีรษะอ่านบทละครในมือต่อไป
เฉินกั๋วจื้อใช้เวลาทั้งหมดสิบห้านาทีถึงจะอ่านเนื้อหาบทละครจบ ขณะที่เขาอ่านได้หัวเราะทั้งหมดห้าครั้ง นอกจากช่วงสองสามนาทีแรกแล้ว หลังจากนั้นใบหน้าของเขาก็มีรอยยิ้มตลอดเรื่อง
ในตอนนี้แม้แต่ผู้ช่วยของเขาก็ยังถูกลู่เฉินเอาชนะใจได้ เป็นเพราะผู้ช่วยได้ติดตามเฉินกั๋วจื้อเพื่อตรวจดูบทละครเรื่องสั้นมาไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งแล้ว เคยเห็นแต่การแสดงออกถึงความรังเกียจ อคติ และไม่มีความอดทนของเขาที่มีต่อผลงานเหล่านั้น แต่ไม่เคยเห็นเล่มไหนที่ทำให้เขามีความสุขได้ขนาดนี้มาก่อน
หลังจากอ่านจบแล้ว เฉินกั๋วจื้อถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาถือกระดาษต้นฉบับในมือขึ้นและถามด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวลู่ คุณคิดจะมอบบทละครเล่มนี้ให้งานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิใช้ฟรีๆ ด้วยใช่ไหม”
เฉินกั๋วจื้อรู้ดี เป็นไปไม่ได้ที่ลู่เฉินจะขอแสดงละครเรื่องนี้ เพราะจากการออกแบบตัวละครก็ไม่ใช่แล้ว
ลู่เฉินพูดอย่างสบายๆ “ผู้กำกับเฉินผมเตรียมบทละครนี้มามอบให้กับคุณ”
“มอบให้ผมเหรอ”
เฉินกั๋วจื้อรู้สึกประหลาดใจ แต่ไม่ว่าเขาจะเป็นคนแบบไหน ก็เดาความคิดของลู่เฉินออกทันที “ถ้าอย่างนั้นลองบอกมามีเรื่องอะไรที่ต้องการให้ผมช่วยล่ะ”
ไร้ผลงานไม่อาจรับค่าตอบแทน สิ่งที่ลู่เฉินนำออกมาก่อนหน้านี้ได้ช่วยเขาแก้ปัญหาใหญ่ไปได้ และตอนนี้ยังมอบบทละครเรื่องสั้นที่มีคุณสมบัติจะเป็นละครระดับคลาสสิคให้อีก เฉินกั๋วจื้อก็ไม่คิดว่าลู่เฉินอยากเป็นเหลยเฟิง[1]ที่ยังมีชีวิตอยู่
“ต้องการดันศิลปินในสังกัดบริษัทของพวกคุณไปงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิใช่ไหม”
เฉินกั๋วจื้อคิดว่าสิ่งนี้น่าเป็นจุดประสงค์ของลู่เฉิน แต่คำตอบของลู่เฉินนั้นกลับเกินความคาดหมายของเขามาก!
“ผู้กำกับเฉิน ผมอยากเชิญคุณมากำกับภาพยนตร์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’!”
……………………………………………..
[1]เหลยเฟิง เป็นทหารในสังกัดกองทัพปลดแอกประชาชนของสาธารณรัฐประชาชนจีน