Perfect Superstar - ตอนที่ 796 คนตามเทรนด์เพียบ
ตอนที่ 796 คนตามเทรนด์เพียบ
พลันเหมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิพลิ้วผ่าน มวลไม้นับพันบุปผางามผลิช่อ
จู่ๆ ในชั่วข้ามคืน ‘กำลังภายใน’ ก็กลายเป็นแนวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนนับไม่ถ้วน!
‘ชุมนุมยอดมือปราบ’ ซึ่งเป็นการคัดเลือกนักแสดงภาพยนตร์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ได้จัดขึ้นอย่างคึกคักที่สระว่ายน้ำโส่วถี่ และรายการที่ผลิตขึ้นเพื่อถ่ายทอดการ ‘ฝ่าด่านท้าทายอันยิ่งใหญ่’ นี้ก็ได้ออกอากาศทางช่องวาไรตี้ช่องสองของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี ตอนแรกได้เรตติ้งถึง 5.78%
แม้ว่ายี่ห้อของช่องวาไรตี้สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีจะได้รับความนิยมมากอยู่แล้ว แต่ได้รับเรตติ้งสูงขนาดนี้ในการฉายตอนแรก แสดงว่าอิทธิพลของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ต่างหากที่ถือเป็นกุญแจสำคัญ
ตอนที่ฉายไปนี้น่าจะเป็นการบอกแล้วว่า นี่เป็นรายการที่ทำขึ้นเพื่อสนับสนุนภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ในสายตาของหลายๆ คนในวงการนี้ รายการนี้เหมือนลิขิตมาให้โด่งดัง มีสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีเป็นพื้นฐาน บวกกับชื่อเสียงของลู่เฉินและ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ อีกทั้งความแปลกใหม่และความคิดสร้างสรรค์ของรายการ มันแทบไม่มีทางที่จะล้มเหลวได้
สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นหลายแห่งกำลังเตรียมพร้อมที่จะลอกเลียนโมเดลนี้ แม้ว่าจะไม่ใช่การแข่งขันคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถ เป็นเพียงรายการบันเทิงก็เพียงพอที่จะดึงดูดใจผู้คนแล้ว แถมยังเพิ่มเนื้อหาจากพื้นฐานนี้เพื่อต่อยอดได้ ขยายขอบเขตของผู้เข้าแข่งขัน และตั้งรางวัลสำหรับการผ่านด่านให้หลากหลายมากขึ้น
บริษัทที่ทำอุปกรณ์เล่นเกมผ่านด่านให้เฉินเฟยมีเดีย เหมือนกับถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเข้า ยอดจองของปีนี้เต็มเปี่ยม โทรศัพท์สอบถามดังเข้ามาไม่หยุดเลย
แต่การตามเทรนด์ของสถานีโทรทัศน์และธุรกิจบันเทิงนั้น เทียบไม่ได้กับการตามเทรนด์ของวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์เลย
ตราบจนทุกวันนี้ กลุ่มคนนอกสายงานก็ยังมองออกเลยว่า ลู่เฉินกำลังมุ่งเน้นไปที่แนว ‘กำลังภายใน’ อย่างเต็มที่ และภาพยนตร์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ก็เป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามของเขา ซึ่งในปีนี้จะต้องทำให้กระแสกำลังภายในโด่งดังขึ้นมาแน่นอน
หากเป็นคนอื่น ทุกคนอาจจะไม่มั่นใจอย่างนั้น แต่ลู่เฉินเป็นใครล่ะ ใครเคยเห็นเขาพ่ายแพ้บ้าง!
เมื่อลู่เฉินร้องเพลง ก็สร้างแนวเพลงบัลลาดในรั้วโรงเรียน และนำเพลงบัลลาดแนวใหม่มาสู่วงการเพลงป็อบ
เมื่อลู่เฉินถ่ายละคร ละครแนวความรักของคนเมืองสามเรื่องก็กลายเป็นตำนาน ละครที่ได้สร้างเลียนแบบในเวลาต่อๆ มาก็ล้วนหน้าชื่นตาบาน
เมื่อลู่เฉินมาจับรายการวาไรตี้ ลิขสิทธิ์รายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ก็ขายไปได้ถึงต่างประเทศ
ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ลู่เฉินก็มีฉายาในวงการว่า ‘นักปั้นมือทอง’ แล้ว ตอนนี้เขาเดิมพันกับแนว ‘กำลังภายใน’ จะมีสักกี่คนที่อดได้ไม่เดิมพันตาม
เพียงไม่นาน ก็มีคนตามเทรนด์เพียบ
ประการแรก นิยายต้นฉบับแนวกำลังภายในได้กลายเป็นที่นิยมอย่างมาก หลังจาก ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ นิยายกำลังภายในแนวใหม่ได้เกิดขึ้นตามมาเป็นจำนวนมาก ค่าลิขสิทธิ์สำหรับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ก็เพิ่มขึ้นถึงระดับที่น่าตกใจ
เมื่อปลายปีที่แล้ว มีนักเขียนมือสมัครเล่นรุ่นเยาว์คนหนึ่งเขียนเรื่อง ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ขึ้นมา เป็นหนังสือสองเล่มจบมีตัวอักษรทั้งหมดห้าแสนตัว ยอดขายดีมาก ตอนนี้ยังติดอันดับหนังสือขายดีประจำสัปดาห์ของร้านหนังสือซินหวาอยู่เลย
ส่งผลให้ลิขสิทธิ์สำหรับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ของหนังสือเล่มนี้มีราคาเริ่มต้นที่ห้าล้าน และหลังจากการแข่งขันแย่งชิงอย่างดุเดือดของหลายฝ่าย ในที่สุดก็บริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาวก็ได้ไปในราคาสูงถึงสิบสองล้าน ขณะเดียวกันก็มีการประกาศออกมาว่า การถ่ายทำจะเริ่มในปีนี้ด้วยเงินลงทุนรวมหนึ่งร้อยห้าสิบล้าน!
บริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาวคือบริษัทลูกในเครือบริษัทอสังหาริมทรัพย์วั่นหาว บริษัทอสังหาริมทรัพย์วั่นหาวยังเป็นหนึ่งในนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำสิบอันดับแรกของจีน พูดได้เลยว่ามีเงินเป็นจำนวนมาก การที่แย่งลิขสิทธิ์เรื่อง ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ไปได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคงเล็งตลาดนี้ไว้แล้วแน่
ในฐานะคนที่เข้ามาใหม่ บริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาวกล้าที่จะเดิมพัน บริษัทเก่าแก่ในวงการแน่นอนว่าต้องไม่ยอมถอยแน่ ตรุษจีนเพิ่งผ่านไปก็มีบริษัทผลิตภาพยนตร์กว่าห้าแห่งที่ประกาศแผนการถ่ายทำที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้งยังพุ่งไปทางหนังกำลังภายในอีกด้วย
นอกจากภาพยนตร์แล้ว ยังมีละครโทรทัศน์แนวกำลังภายในอีกมากมายที่เตรียมจะถ่ายทำในปีนี้ ส่งผลให้นิยายแนวนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ นักเขียนนิยายและนักเขียนบทหลายคนในแวดวงก็กระตือรือร้นที่จะเขียนแนวเดียวกันออกมา
ในขณะเดียวกัน ดารานักแสดงไม่น้อยในวงการภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ต่างทยอยเปิดเผยในบล็อกของตนว่ารับแสดงภาพยนตร์กำลังภายในหรือละครกำลังภายใน ทำให้เกิดกระแสอย่างต่อเนื่อง
“ไม้ใหญ่ย่อมต้องลม…”
ภายในห้องชาสุดหรูของสโมสรส่วนตัวจิ่งย่วนในเมืองปักกิ่ง เฉินกั๋วจื้อยกยิ้มและพูดกับลู่เฉินว่า “ตอนนี้นายเป็นต้นไม้ใหญ่แล้วจริงๆ นายรู้สึกกดดันมากไหม”
เจ้าของสโมสรส่วนตัวระดับไฮเอนด์แห่งนี้คือเพื่อนของเฉินกั๋วจื้อ ดังนั้นผู้กำกับคนดังจึงมักมารวมตัวกันกับเพื่อนๆ ที่นี่ เพื่อดื่มชาและพูดคุยกันหรือเจรจาเกี่ยวกับธุรกิจ
แต่ไม่ใช่ว่าใครก็มีคุณสมบัติที่จะได้รับคำเชิญจากเขา และลู่เฉินก็มาที่นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว
เรื่องที่คุยกันแน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องการถ่ายทำ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’
หลังจากกำกับงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีเสร็จสิ้นแล้ว เฉินกั๋วจื่อก็มากำกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ทันที แต่เขารับปากจะกำกับแค่ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร ภาคกระบี่จากเทือกเขาฮว่าซาน’ เท่านั้น ซึ่งก็เป็นภาคแรกที่จะถ่ายทำ
อีกสองภาคต่อมา ‘บูรพาไม่แพ้’ และ ‘สงครามสุดท้าย’ ลู่เฉินตัดสินใจจะกำกับด้วยตนเอง แต่ภาค ‘กระบี่จากเทือกเขาฮว่าซาน’ เขาจะกำกับแค่คิวบู๊เท่านั้น
แต่ที่ทำให้ลู่เฉินคิดไม่ถึงก็คือ เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ยังไม่ได้ถ่ายทำ ก็มียักษ์ใหญ่ในวงการหลายเจ้าจ้องมองมาราวกับพยัคฆ์จ้องเหยื่อ คาดว่าเมื่อ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร ภาคกระบี่จากเทือกเขาฮว่าซาน’ เข้าโรงอย่างเป็นทางการ คงต้องเจอกับการแข่งขันและการขัดขวางจากหลายฝ่าย
ยังคงเป็นเฉินกั๋วจื้อที่อ่านเกมขาด ทั้งยังให้คำแนะนำที่มาจากใจ “จำไว้ว่าต้องระวังเรื่องการรักษาความลับของบทละคร ส่วนบริษัทก็ต้องควบคุมให้เข้มแข็งเข้าไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในกองถ่ายต้องเฝ้ามองให้ดี ส่วนนักแสดงก็ต้องทำเรื่องสัญญาให้เรียบร้อย อย่าประเมินระดับคุณธรรมในตัวคนบางคนสูงเกินไป”
ในฐานะที่เป็นผู้กำกับชื่อดัง เฉินกั๋วจื้ออยู่ในวงการภาพยนตร์และละครโทรทัศน์มาหลายสิบปีแล้ว รู้เรื่องราวเหล่านี้ดีมากทีเดียว
ต้องรู้ว่าภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ในตอนนี้มักจะมีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่หนึ่งถึงสองร้อยล้านหยวน ขนาดของตลาดกำลังขยายตัวทุกปี และการแข่งขันก็ดุเดือดมาก เพื่อโจมตีคู่แข่ง มีคนไม่น้อยที่ชอบเล่นนอกเกม
ต่อให้ชื่อเสียงของลู่เฉินโด่งดังแค่ไหน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผลประโยชน์ที่แท้จริง ก็หลีกเลี่ยงใจคนที่คดเคี้ยวไม่ได้
แม้ว่าก่อนหน้านี้ลู่เฉินจะเคยถ่ายเรื่อง ‘โปเลโปโลเย’ มาแล้ว แต่ฮ่องกงกับในประเทศจีนสถานการณ์แตกต่างกันมาก ดังนั้นเฉินกั๋วจื่อจึงอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
ลู่เฉินน้อมรับคำแนะนำของเฉินกั๋วจื้อด้วยความอ่อนน้อม “ผมจะระวัง ขอบคุณที่เตือนครับ”
เฉินกั๋วจื้อยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ระวังให้ดี ฉันจะบอกนายให้ว่ามีคนยื่นข้อเสนอถึงร้อยล้านให้ฉันฉีกสัญญากับนายทิ้งเพื่อไปถ่ายหนังของพวกเขา!”
หนึ่งร้อยล้าน!
ลู่เฉินเองก็ตกใจ คิดไม่ถึงว่าการแข่งขันของภาพยนตร์ในประเทศจะรุนแรงถึงระดับนี้
เฉินกั๋วจื้อเป็นผู้กำกับระดับแนวหน้าของประเทศจีน ค่าตอบแทนที่บอกต่อคนภายนอกอยู่ที่ประมาณห้าสิบล้านหยวน แล้วยังจะมีค่าส่วนแบ่งอีก ที่เขารับถ่ายเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ค่าตอบแทนคิดตามอัตรามิตรภาพ คิดแค่สามสิบล้านกับส่วนแบ่งกำไรจากตั๋วหนังอีกห้าเปอร์เซ็นต์
ส่วนค่าเสียหายจากการบอกเลิกสัญญานั้น กำหนดไว้เป็นพิธีเพียงสิบล้านหยวนเท่านั้น
แต่ค่าตอบแทนหนึ่งร้อยล้านหยวนเป็นบททดสอบจริงๆ หลังจากหักค่าบอกเลิกสัญญาไปแล้วสิบล้านหยวน ยังมีเหลืออีกตั้งเก้าสิบล้านหยวน!
ลู่เฉินไม่คิดว่าเฉินกั๋วจื้อแต่งเรื่องเพื่อเพิ่มค่าตัวให้กับตัวเอง และเขาเข้าใจความหมายของเฉินกั๋วจื้อด้วย จึงยิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นผมยกเลิกสัญญากับคุณดีไหมครับ ให้คุณรับรายได้ร้อยล้านนี้ไปก่อน”
เฉินกั๋วจื้อหัวเราะเสียงดัง “ฉันก็อยากนะ เสียดายที่หน้าแก่ๆ หน้านี้บางเกินไป ดังนั้นหวังว่า ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ จะทำรายได้ตั๋วหนังสักหนึ่งพันหรือสองพันล้านนะ อย่างนั้นก็ถือว่ากำไรแล้ว!”
ลู่เฉินยกแก้วขึ้น ใช้ชาแทนเหล้า “ขอให้ร่วมงานกันอย่างราบรื่นครับ!”
…………………………………………………………………………