Perfect Superstar - ตอนที่ 801 สู้ไม่ไหว
ตอนที่ 801 สู้ไม่ไหว
ปัง!
กำปั้นกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรง ส่งผลให้โน้ตบุ๊กที่วางอยู่ด้านบนนั้นกระเด้งขึ้นมา หน้าจอผันผวนไปสองสามครั้งแล้วจึงกลับมาเสถียรเหมือนเดิม สิ่งที่แสดงอยู่บนหน้าจอคือรายการยอดนิยมของบล็อกล่างฉาว
กู้เหล่ยหยิบน้ำแร่ที่วางอยู่บนตู้ทรงสูงอย่างหงุดหงิด ดื่มจนหมดภายในลมหายใจเดียว ดวงตาคู่นั้นของเขาจับจ้องไปที่หน้าจออย่างเคียดแค้น บีบขวดพลาสติกเปล่าในมือจนเกิดเสียงดับกร๊อบ เฉกเช่นเดียวกับอารมณ์ของเขาในตอนนี้
ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ความนิยมของเขาในบล็อกล่างฉาวลดลงสามอันดับติดต่อกัน ทำเขาหลุดออกจากหน้าแรกทันที
โลกอินเทอร์เน็ตนั้นกว้างใหญ่ ในทุกๆ วันมีข้อความมากมายนับไม่ถ้วนถูกส่งผ่านอินเทอร์เน็ต บล็อกล่างฉาวเป็นแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน สามารถสะท้อนถึงเหตุการณ์ที่ร้อนแรงในปัจจุบันได้ในระดับที่สูงมาก
ด้วยเหตุนี้เองรายการยอดนิยมบนหน้าแรกของบล็อกล่างฉาวจึงมีการอัปเดตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากทุกวันล้วนมีเรื่องราวใหม่ๆ หรือเหตุการณ์ที่สำคัญต่างๆ ออกมาอย่างสม่ำเสมอ ดึงดูดชาวเน็ตหลายสิบล้านคนให้เข้าชม แสดงความคิดเห็น และแชร์ต่อ
แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์ใดที่จะสามารถคงความใหม่เอาไว้ได้ตลอดไป เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้โลกตื่นตาตื่นใจในวันนี้ สองวันข้างหน้าอาจไม่มีใครพูดถึงอีกแล้วก็ได้ เพราะทุกคนจะโดนข้อมูลใหม่ๆ ดึงดูดความสนใจไปหมด
ก่อนหน้านี้ไม่นานกู้เหล่ยได้รับความนิยมอย่างมากจากการสร้างกระแสประเด็นร้อน ถือได้ว่าความปรารถนาที่อยากจะติดอันดับยอดนิยมบนหน้าแรกของบล็อกล่างฉาวนั้นสำเร็จแล้ว ตามปกติก็ควรจะพอใจที่ได้อยู่บนนั้นมานานถึงสองสามวัน ศิลปินดารามากมายที่อยากจะแสดงตนล้วนต้องลำบากมากทั้งนั้น
แต่กู้เหล่ยกลับอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก ไม่พอใจสุดๆ!
“พวกนายจะจัดการเรื่องนี้ยังไง เงินที่ต้องจ่ายพวกเราจ่ายให้ไปไม่ครบหรือไง ตกลงกันแล้วว่าจะอยู่ในหน้าแรกอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์นี่ ตอนนี้เพิ่งจะผ่านมาได้แค่สามวันก็ตกลงมาแล้ว พวกนายบอกมาสิว่าจะทำยังไง!”
เขานำความรู้สึกหดหู่และหงุดหงิดที่อยู่ภายในใจของตัวเองทั้งหมดระบายออกมาใส่ผู้ชายสองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ฝืนระงับความอยากจะต่อยคนเอาไว้
กู้เหล่ยนิสัยไม่ดีมาแต่ไหนแต่ไร ในช่วงแรกที่เขาผันตัวเข้าสู่วงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ ก็ต้องทนทุกข์ทรมานเป็นอย่างมากเพราะอารมณ์ที่รุนแรงของตัวเอง จนเกือบจะผ่านมันไปไม่ได้
หลังจากเอาหัวกระแทกกำแพงจนเลือดออกในที่สุดเขาก็ได้สติขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงควบคุมนิสัยและอารมณ์ของตัวเองให้เป็นปกติ เก็บหางอย่างระมัดระวัง เมื่อไรควรจะทำตัวเป็นหลานชายที่ดีก็คุกเข่าอย่างไม่อิดออด สุดท้ายแล้วก็มีแต่คนที่อดทนบากบั่นเท่านั้นถึงจะสามารถมองเห็นท้องฟ้าที่สดใสได้
หลังจากที่โด่งดัง กู้เหล่ยทำตัวกร่างเป็นบางครั้ง แต่ก็ยังไม่กล้ามากเกินไปนัก เพราะถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้อยู่ในแถวหน้าของวงการ และการทำตัวกร่างก็ไม่ได้สนุกอะไร ถ้าหากไปล่วงเกินคนที่ไม่ควรล่วงเกิน ไม่แน่ว่าเพียงชั่วข้ามคืนก็อาจจะตกจากฟากฟ้าก็ได้
แต่ภาพล่าสุดกลับทำให้เขาโกรธมากขึ้นกว่าเดิม จนถึงวันนี้ในที่สุดวันที่เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปก็ได้เกิดขึ้นแล้ว
ไม่ลงมือต่อยตีใครก็ดีเท่าไรแล้ว
อันที่จริงกู้เหล่ยก็มีเหตุผลที่จะโกรธเช่นกัน เขาและบริษัทคู่สัญญาทุ่มเงินลงทุนไปหลายล้านหยวนในการสร้างกระแสนี้ขึ้นมา และยังจ้างบริษัทการตลาดชั้นนำของวงการนี้อีกด้วย
คนที่เขาจะเพิ่งระบายอารมณ์ใส่คือตัวแทนฝ่ายขายและนักสร้างกระแสมืออาชีพของบริษัทการตลาดทางอินเทอร์เน็ตแห่งนี้นั่นเอง
ฟังแล้วก็อาจดูเหลือเชื่อเกินไปหน่อยกับการใช้เงินไปหลายล้านเพื่อที่จะสร้างกระแสให้ตัวเอง แต่ความเป็นจริงภายในวงการนั้น หากอยากจะเป็นกระแสก็ต้องจ่ายเงิน หากจ่ายแค่ไม่กี่หมื่นก็จะได้วิธีสร้างกระแสราคาไม่กี่หมื่น หากจ่ายหลายแสนก็จะได้กลยุทธ์ราคาหลายแสน
โปรยเงินหลายล้านอาจจะดูเยอะ แต่ความจริงเมื่อคำนวณแล้วก็ถือว่าธรรมดามาก อย่างเช่นถ้าจะจ้างนักโปรโมตและนักเขียนผี อยากได้ผลงานที่ดีก็ต้องทุ่มเงินอย่างเต็มที่ ไหนจะต้องติดสินบนสื่อและนักข่าว จะยัดอั่งเปาก็ต้องใส่ให้มากพอ การโด่งดังในอินเทอร์เน็ตโดยไม่ใช้เงินอาจเป็นไปได้เมื่อสองสามปีก่อน แต่ตอนนี้แค่คิดก็ยังไม่อยากจะคิดเลย
ยกตัวอย่างเช่นเว็บท่าขนาดใหญ่สองสามแห่ง ถ้าจะลงข่าวบันเทิงก็ต้องจ่ายเงินซื้อพื้นที่ ยิ่งถ้าเป็นข่าวพาดหัวค่าใช้จ่ายยิ่งแพงขึ้นไปอีก การเขียนบทความให้ดีก็มีค่าใช้จ่ายอีกหลายหมื่น
จุดอ่อนของกู้เหล่ยคือชื่อเสียงไม่ดังพอ และความนิยมก็ไม่มากพอ หากอยากจะพึ่งพาการสร้างกระแสเพื่อขึ้นไปด้านบน นอกจากจะค่อยๆ เพิ่มความนิยมแล้ว ก็ต้องยอมทุ่มเงินเพื่อสร้างกระแสให้โด่งดังขึ้นมา
กู้เหล่ยไม่กลัวที่จะต้องจ่ายเงิน ถึงอย่างไรเขาก็ยังมีบริษัทที่ทำสัญญาด้วยคอยรองรับอยู่ เงินที่ทุ่มลงไปเพื่อสร้างกระแสในตอนนี้ ในไม่ช้าก็จะได้ทั้งเงินทุนและกำไรกลับคืนมา
แต่หลังจากที่ใช้เงินทุ่มลงไปจำนวนมาก กระโดดขึ้นกระโดดลงอย่างเหนื่อยยากด้วยกำลังของตนเอง ได้เห็นว่ากระแสของตนเองกำลังร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่จู่ๆ ก็กลับมีน้ำเย็นอ่างใหญ่สาดลงมา แล้วเขาจะทนได้อย่างไร
เพิ่งจะได้รับความสนใจจากฝูงชนและลิ้มรสชาติของการได้รับความสนใจอย่างเพลิดเพลิน ไม่มีทางที่จะทนรับการเมินเฉยของสาธารณชนได้
แล้วดูสิว่าสิ่งที่ติดอันดับยอดนิยมในหน้าแรกของบล็อกล่างฉาวคืออะไร ‘สายลมวสันตฤดูสิบลี้มิสู้เธอ’ ‘บทกลอนรักของลู่เฉิน’ ‘ภาพถ่ายอันงดงามของเฉินเฟยเอ๋อร์’ …มีแม้กระทั่ง ‘ถูกป้อนอาหารสุนัขอีกแล้ว’
กู้เหล่ยรู้สึกว่าวันนี้ตัวเองได้กลายเป็นหมาไปแล้ว!
เพียงแค่นับดูคร่าวๆ จากรายการยอดนิยมของบล็อกล่างฉาวในวันนี้ เกี่ยวข้องกับลู่เฉินไปแล้วกว่าสี่ห้ารายการ
แล้วลู่เฉินได้ทำอะไรบ้างล่ะ
ลู่เฉินทำเพียงแค่เขียนกลอนสั้นๆ หนึ่งบทที่มีเนื้อหาไม่กี่คำ ก็บดขยี้เขาให้กลายเป็นสิ่งของไร้ค่าได้อย่างง่ายดาย!
ช่างเป็นชีวิตที่บัดซบเสียจริง
กู้เหล่ยไม่อยากจะยอมรับว่าเขาอิจฉาลู่เฉินมากแค่ไหน ยิ่งไม่อยากยอมแพ้ลู่เฉิน เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะต้องมาอาศัยความโด่งดังของลู่เฉินเพื่อผลประโยชน์เช่นนี้ แค่รู้สึกว่าโชคชะตาช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
“พวกนายต้องหาทางมาให้ได้ สร้างกระแสให้ฉันกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง!”
คำสั่งที่แสนยากลำบากของกู้เหล่ยทำให้คนของบริษัทการตลาดทั้งสองหันไปสบตากัน
พวกเขาทั้งสองหมดหนทางแล้วจริงๆ ตอนนี้การสร้างกระแสถือเป็นงานด้านเทคนิค จะทำอย่างหยาบคายรุนแรงไม่ได้ ก่อนหน้านี้ความรุนแรงของกระแสก็มากอยู่แล้ว ถ้าจะเติมเชื้อเพลิงเข้าไปอีกก็คงจะไม่ดีสักเท่าไร
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ บล็อกล่างฉาวควบคุมการสร้างกระแสทางอินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวดเสมอ แม้ว่าจะไม่ได้เขียนกฎเกณฑ์ขึ้นมาอย่างจริงจัง แต่ถ้าหากข้ามเส้นขึ้นมาก็คงจะพูดกันได้ยากแล้ว
ถ้าจะโทษก็คงโทษได้แค่ว่าลู่เฉินนั้นแปลกประหลาดเกินไป แฟนคลับนับร้อยล้านคนของเขาในบล็อกล่างฉาวนั้นพูดได้เลยว่าน่ากลัวจริงๆ มีอิทธิพลมากจนแทบไม่มีใครมาแข่งได้ เขาไม่จำเป็นต้องมาทะเลาะกับกู้เหล่ยเลย เพียงแค่ตอบโต้กับเฉินเฟยเอ๋อร์ด้วยกลอนแค่ครั้งเดียวก็เอาชนะคู่แข่งได้ทั้งหมดแล้ว
เมื่อเปรียบเทียบกับลู่เฉินที่จัดการเรื่องราวอย่างสงบเยือกเย็น กู้เหล่ยก็เป็นเหมือนตัวตลกที่เต้นรำอยู่บนถนน!
ราวฟ้ากับเหว
ทางด้านบริษัทการตลาดนั้นเดิมทีมีแผนที่เตรียมการไว้อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อที่จะรับมือกับปฏิกิริยาตอบกลับที่เป็นไปได้ของลู่เฉิน ไม่ว่าจะตอกกลับหรือนิ่งเงียบ ก็มีมาตรการรับมือที่เหมาะสม ใครจะไปคิดล่ะว่าลู่เฉินจะมีวิธีตอบกลับที่พิเศษขนาดนี้
นั่นก็คือนายเล่นของนายไป ส่วนฉันก็เล่นของฉัน แล้วนายสู้ชนะฉันได้ไหมล่ะ
สู้ไม่ไหวจริงๆ!
คนของบริษัทการตลาดก็ช่วยอะไรไม่ได้เช่นกัน แต่พวกเขาไม่สามารถขัดความต้องการของเจ้าของเงินได้ ไม่เช่นนั้นจะสร้างรายได้ได้อย่างไร
คนที่เป็นตัวแทนฝ่ายขายกระแอมหนึ่งครั้ง ตบหน้าอกของตัวเองแล้วพูดกับกู้เหล่ยว่า “คุณกู้เหล่ยครับ ได้โปรดไว้วางใจว่าบริษัทของเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย และทำให้คุณกลับมาติดอันดับยอดนิยมให้ได้”
กู้เหล่ยจ้องไปที่เขา “นายพูดเองนะ…”
ติ๊ง!
ในขณะนั้นเอง เสียงเตือนอันไพเราะเสนาะหูก็ดังขึ้นมาจากโน้ตบุ๊ก
เปิดหน้าเว็บบล็อกที่แสดงขึ้นมา บัญชีของกู้เหล่ยเพิ่งจะได้รับการแจ้งเตือนอันใหม่
หัวใจของกู้เหล่ยอดไม่ได้ที่จะเต้นดังตึกตัก จู่ๆ ก็เกิดรู้สึกไม่ดีขึ้นมา แต่ก็ยังรีบจับเมาส์แล้วคลิกไปที่ข้อความนั้นอย่างรวดเร็ว
ข้อความระบุว่าบัญชีที่เขาติดตามเพิ่งเผยแพร่บล็อกโพสต์ใหม่
และบัญชีนี้ก็คือลู่เฉินนั่นเอง!
………………………………-
หมายเหตุ: บทกวีในตอนที่แล้ว ‘สายธารวสันตฤดู เริ่มต้นชีวิต พนาไพรวสันตฤดู แตกยอดสายลมวสันตฤดูสิบลี้ มิสู้เธอ’ บทนี้มาจาก ‘วสันตฤดู’ ของเฝิงถัง