Perfect Superstar - ตอนที่ 819 ข้อวิจารณ์ของทั้งสองฝ่าย
ตอนที่ 819 ข้อวิจารณ์ของทั้งสองฝ่าย
ศิลปินหนุ่มหน้าละอ่อนนับว่าเป็นทัศนียภาพที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครในวงการบันเทิงในประเทศ
อันที่จริงในสมัยก่อน ฉายาที่ในปัจจุบันมีความหมายทั้งเชิงลบและเชิงบวกนี้เป็นสิ่งที่เหล่าบรรดาแฟนคลับตั้งให้กับดาราญี่ปุ่นและเกาหลี หมายถึงศิลปินหนุ่มที่อายุน้อย หล่อเหลา และแข็งแรงมีกล้ามเล็กน้อยพอกรุบกริบ เป็นคำแสลงทางอินเทอร์เน็ตทั่วไป
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อศิลปินหนุ่มหน้าละอ่อนเริ่มเป็นที่นิยม วงการบันเทิงในประเทศจึงมีดาราประเภทเดียวกันนี้อีกมากมาย และจุดเด่นของพวกเขาก็มักจะคล้ายกัน อย่างแรกคือยังเป็นเด็กวัยรุ่น ถ้าอายุเกิน 30 ปี นับว่าเป็น ‘เนื้อตากแดดเดียว’ [1]แล้ว ผิวขาวสะอาดและมีสไตล์ การประชาสัมพันธ์และโฆษณาเยี่ยมยอด แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะร้องเพลงโดยไม่มีทักษะการร้องเพลง แสดงโดยที่ไม่มีทักษะการแสดง แต่กลับเป็นที่นิยมดังเป็นพลุแตก
เมื่อตอนที่ลู่เฉินเพิ่งเดบิวต์ เขาเคยถูกมองว่าเป็นศิลปินหนุ่มน้อยหน้าละอ่อนจากสื่อบางแห่ง แต่เพียงไม่นานเขาก็อาศัยพรสวรรค์และภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งของตัวเอง กลายเป็นซูเปอร์สตาร์สุดเพอร์เฟ็กต์ที่พร้อมด้วยความเป็นไอดอลและมากความสามารถ
สำหรับฮั่วเฟยเยวี่ยเขาเดบิวต์ช้ากว่าลู่เฉิน แต่ระดับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ฮั่วเฟยเยวี่ยในตอนแรกเซ็นสัญญากับไท่ฉือเอเจนซี่ที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง ภายใต้การสนับสนุนจากไท่ฉือเพียงไม่นานก็ได้เดบิวต์ ได้แสดงละครโทรทัศน์ที่มีเรตติ้งดีเรื่องหนึ่ง อาศัยภาพลักษณ์ที่ดูดีจนเป็นที่นิยมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เขาโด่งดัง ฮั่วเฟยเยวี่ยก็แตกคอกันกับไท่ฉือ ถูกแช่แข็งและต่อสู้ฟ้องร้องคดีเป็นที่ฮือฮาอยู่นานนับครึ่งปี หลังจากนั้นก็เข้าสู่อ้อมอกของซีเคจีบริษัทเอเจนซี่อีกแห่งหนึ่ง
หลังจากเซ็นสัญญากับซีเคจีอาชีพของฮั่วเฟยเยวี่ยเป็นไปอย่างราบรื่น ได้ถ่ายทำภาพยนตร์และละครโทรทัศน์หลายเรื่องติดต่อกัน และยังได้ออกแผ่นเสียงของตัวเองด้วย กลายเป็นคนที่โดดเด่นในหมู่ศิลปินหนุ่มหน้าละอ่อน และมีแฟนคลับจำนวนมากทีเดียว
ค่าตัวของฮั่วเฟยเยวี่ยนั้นสูงมาก ราคาที่ซีเคจีตั้งไว้คือละครโทรทัศน์หนึ่งตอนปาไปที่หนึ่งล้าน ถ่ายภาพยนตร์อย่างน้อยห้าสิบล้านขึ้นไป ยังมีส่วนแบ่งจากยอดจำหน่ายตั๋วอีก
ยังไม่ต้องพูดถึงค่าตัวที่สูงขนาดนี้ว่าเกินความจริงหรือไม่ การที่ซีเคจีกล้าเสนอราคาแบบนี้แน่นอนว่าต้องมีความมั่นใจ เพราะฮั่วเฟยเยวี่ยมีแฟนคลับมากกว่ายี่สิบล้านคนในบล็อกล่างฉาว และเป็นพรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์ต่างประเทศอีกมากมาย
ลู่เฉินไม่รู้จักฮั่วเฟยเยวี่ย แม้กระทั่งหน้าตาของอีกฝ่ายก็ยังไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ เดิมทีทั้งสองฝ่ายไม่มีอะไรคาบเกี่ยวกันแม้แต่น้อย แต่เมื่อตอนที่เฉินเฟยมีเดียประกาศเรื่องการถ่ายทำ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ไปก่อนหน้านี้ ตัวแทนของซีเคจีเคยมาขอร่วมงานถึงที่ และคนที่พวกเขาแนะนำก็คือฮั่วเฟยเยวี่ย
ในเวลานั้นฝ่ายเฉินเฟยมีเดียมีความสนใจอยู่เล็กน้อย ถึงอย่างไรความนิยมและมูลค่าทางการตลาดของฮั่วเฟยเยวี่ยก็มีอยู่ การที่เขาเข้าร่วมจะช่วยขยายกลุ่มผู้ชมเป้าหมายของภาพยนตร์ได้อย่างไม่ต้องสงสัย มีประโยชน์ต่อการเพิ่มยอดจำหน่ายตั๋ว
แต่ข้อเสนอของซีเคจีทำเอาลู่ซีถึงกับตะลึงงัน ไม่สามารถยอมรับราคาที่เสนอมาได้อย่างสิ้นเชิง ดังนั้นจึงทำได้เพียงปฏิเสธอ้อมๆ เท่านั้น
ดังคำที่กล่าวว่าการซื้อขายย่อมไม่สามารถทำได้ด้วยความเมตตาและความชอบธรรม การเจรจาร่วมงานไม่เป็นผลสำเร็จเป็นเรื่องที่พบบ่อย เฉินเฟยมีเดียและซีเคจีไม่มีทางพูดว่าระหว่างพวกเขามีความแตกคอขัดแย้งกันเพราะเหตุนี้อย่างเด็ดขาด และหลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวอะไร
สิ่งที่ผู้คนไม่คาดคิดก็คือ ฮั่วเฟยเยวี่ยได้เข้าร่วมกับบริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาวเพื่อแสดงใน ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ และ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ก็ปาดหน้าเค้ก ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ พร้อมเปิดตัวแคมเปญประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์กำลังภายใน
ไม่ว่าบัญชีการตลาดในบล็อกจะถูกใครสั่งมาหรือไม่ก็ตาม การเปิดเผยข้อมูลนี้อย่างกะทันหันก็ทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ระหว่างภาพยนตร์ทั้งสองเรื่อง กระทั่งรวมไปถึงนักแสดงนำสองคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บวกกับสื่อจำนวนไม่น้อยสร้างกระแสปลุกปั่น ไม่นานก็กลายเป็นประเด็นร้อนมาแรงในบล็อก
แฟนคลับของฮั่วเฟยเยวี่ยเป็นฝ่ายเริ่มก่อเรื่องก่อน
แฟนคลับของฮั่วเฟยเยวี่ยเรียกตัวเองว่า ‘แฟนเยวี่ย’ ส่วนใหญ่เป็นเด็กสาวแรกรุ่นอายุสิบกว่าปี เป็นเด็กยุค 2000 และหลังยุค 90 ค่อนข้างโตแล้ว แต่ทัศนคติต่อชีวิตยังไม่บรรลุนิติภาวะ และมักไล่ตามดาราไอดอลอย่างแรงกล้า
ทันทีที่บัญชีการตลาดเผยแพร่ข่าวออกมา ‘แฟนเยวี่ย’ ก็รีบพากันกรูไปที่บล็อกของเฉินเฟยมีเดียเพื่อเยาะเย้ยกล่าวว่า ‘เฉินเฟยมีเดียมีตาหามีแววไม่ ถึงกับปฏิเสธเฟยเยวี่ยของพวกเรา ตอนนี้ถูกตบหน้าเข้าแล้วละสิ!’
บล็อกทางการของเฉินเฟยมีเดียนั้น แน่นอนว่าไม่ได้ใส่ใจกับแฟนๆ เหล่านี้ ถึงกับขี้เกียจให้ความสนใจด้วยซ้ำไป
เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าบล็อกทางการของเฉินเฟยมีเดียไม่มีการโต้กลับใดๆ คาดว่าคงจะรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก รีบเรียกกลุ่มพันธมิตรมาช่วยเสริมกำลังสแปมหน้าจอในพื้นที่แสดงความคิดเห็น
บล็อกทางการของเฉินเฟยมีเดียยังคงไม่ออกมาตอบโต้ แต่หลังจากแฟนคลับของลู่เฉินทราบเหตุการณ์ก็โกรธจัด กลุ่มแฟนคลับขุนศึกตระกูลลู่โห่ร้องคำราม มารุมสังเกตการณ์พวก ‘แฟนเยวี่ย’ เหล่านี้อย่างโหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรม
ในช่วงสองปีที่ผ่านมากลุ่มแฟนคลับของลู่เฉินที่มีขุนศึกตระกูลลู่เป็นแกนหลัก มีความรู้สึกว่าพวกตนชนะอยู่เพียงผู้เดียวจนรู้สึกเหงา นอกเหนือจากการสนับสนุนลู่เฉินในทุกๆ วันแล้วไม่ค่อยพูดถึงเรื่องรบกับใครด้วย
ในที่สุดก็เจออะไรสนุกๆ เข้าจนได้ การตอบสนองของพวกเขาบดขยี้ ‘แฟนเยวี่ย’ ได้ภายในไม่กี่นาที
เทียบกันแล้วจำนวนแฟนคลับและกำลังรบของทั้งสองฝ่ายไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน
แต่ปัญหาอยู่ที่ ‘แฟนเยวี่ย’ เหล่านี้ เกินครึ่งเป็นเด็กสาวที่ถูกโอ๋มาตั้งแต่แบเบาะ โดยปกติแล้วจะถูกครอบครัวประคบประหงม ในอินเทอร์เน็ตก็ถูกคนยกยอปอปั้นจนตัวลอย เคยถูกรังแกแบบนี้ที่ไหนกันล่ะ
เมื่อพวกเธอเสียเปรียบก็เรียกหาตัวช่วยเป็นเรื่องธรรมชาติ ร้องไห้ปรับทุกข์ไปทั่วโมเมนต์ในกลุ่มเฟยซวิ่น จากสนามรบออนไลน์ในบล็อกลามไปยังเทียปาทางการของลู่เฉิน
คราวนี้นับว่าเป็นการแหย่รังแตนเสียแล้ว ยอดจำนวนแฟนคลับของลู่เฉินในบล็อกล่างฉาวมีมากกว่าหนึ่งร้อยล้าน แฟนคลับในเทียปาอีกหลายสิบล้าน ตอนนี้ในเมื่อมีคนมาหาเรื่องถึงที่ ก็ต้องตีกลับไปทันที
ไม่เพียงแค่ตีกลับ แต่ต้องระเบิดกลับไป ไม่จำเป็นต้องระดมกำลังอะไร เพียงแค่กลุ่มใหญ่ไม่กี่กลุ่มรวมพลังกัน แค่นั้นก็ทำให้เทียปาของฮั่วเฟยเยวี่ยระเบิดแล้ว ชนะแบบไม่ต้องเปลืองแรง
พลังรบของแฟนคลับของลู่เฉินนั้นแข็งแกร่งมาก มากเสียจนทำให้เทียปาทางการของฮั่วเฟยเยวี่ยจำเป็นต้องเพิ่มการจำกัดระดับของผู้โพสต์ และยังลบโพสต์ออกไปจำนวนมาก แม้ว่าจะทำให้คลื่นลมสงบลงไปได้ แต่ก็เท่ากับว่าเป็นการยอมแพ้แล้ว
แฟนๆ ของฮั่วเฟยเยวี่ยยังไม่ยอม สร้างเรื่องไปทั่วอินเทอร์เน็ต บอกว่าแฟนคลับลู่เฉินอาศัยคนจำนวนมากมารังแกเด็กสาวอย่างพวกเธอเหล่านี้ เผยท่าทีไม่ยอมแพ้ออกมา
แต่จนถึงตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเฉินเฟยมีเดียหรือซีเคจี ต่างก็ไม่ได้สอดมือเข้ามายุ่งโดยตรง การทะเลาะกันของแฟนคลับเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เว้นแต่ว่าจะสร้างเรื่องถึงขั้นไม่สามารถจัดการได้ ไม่อย่างนั้นหากเจ้าหน้าที่ถลกแขนเสื้อขึ้นแล้วลงไปจัดการนั่นเป็นเรื่องที่ดูไร้ระดับเกินไป
สำหรับตัวฮั่วเฟยเยวี่ยเอง ก็ไม่มีท่าทีใดๆ เช่นกัน เพียงแค่เปิดดูบล็อกของทีมงานภาพยนตร์ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ เรื่อยๆ และให้ความร่วมมือกับการประชาสัมพันธ์ของบริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาว
เมื่อเทียบกับกู้เหล่ยในช่วงแรกที่เที่ยวเต้นไปมาต่อกรกับลู่เฉินคนนั้น ท่าทีของเขาสุขุมมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่สื่อที่กลัวฟ้าดินไม่สงบพวกนั้น กลับปั่นกระแสการตอบโต้ของเหล่าแฟนคลับขึ้นมา โดยใช้ฮั่วเฟยเยวี่ยกับลู่เฉิน ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ กับ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ออกมาเป็นประเด็นเปรียบเทียบกัน
หาก ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ประสบความสำเร็จ ทำยอดจำหน่ายตั๋วได้สูง หมายความว่าเขาชิงมงกุฎที่เดิมทีเป็นของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ มาได้ใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นฮั่วเฟยเยวี่ยที่ถูกเฉินเฟยมีเดียปฏิเสธสามารถตอกหน้ากลับอย่างสวยงามได้สำเร็จใช่หรือไม่
กระแสวิพากษ์วิจารณ์ประเภทนี้ปรากฏออกมา ทำให้ลู่ซีที่ติดตามข่าวที่เผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอให้ความสำคัญขึ้นมา นั่นเป็นเหตุผลที่เธอโทรหาลู่เฉิน
สนามรบของกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หากคุณไม่เป็นฝ่ายครอบครอง อย่างนั้นก็รอให้ศัตรูยึดไปครองเสีย!
หลักการนี้ ลู่ซีทราบดี!
…………………………………………………………..
[1]คนที่อายุเยอะหน่อย อาจจะอ้วนลงพุง แก่ หัวล้าน