Perfect Superstar - ตอนที่ 829 ให้คนอื่นเขาพูดไปเถอะ!
ตอนที่ 829 ให้คนอื่นเขาพูดไปเถอะ!
ภาพยนตร์แอนิเมชันของดิสนีย์ครองโปรแกรมภาพยนตร์ฤดูร้อนในประเทศมานานแล้ว ทว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาถูกภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศนำหน้าไป แต่ในฐานะหนึ่งในยักษ์ใหญ่ของวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูด ไม่มีใครสงสัยในคุณภาพและยอดจำหน่ายตั๋วของ ‘นักบินในฝัน’
‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ‘เจ็ดผู้กล้าห้าผู้ทรงธรรม’ และ ‘จอมเสเพลแห่งยุทธภพ’ ต่างก็รีบเข้าฉายก่อน ‘นักบินในฝัน’ สาเหตุไม่มีอะไรมากไปกว่าความแตกต่างของเวลา หวังจะแย่งชิงยอดจำหน่ายตั๋วในตลาดก่อน
แต่ใครจะไปคิดว่าภาพยนตร์กำลังภายในที่โด่งดังทั้งสามเรื่องจะปิดฉากลงอย่างน่าเวทนาเช่นนี้ แม้แต่ช่วงที่ฟาดฟันกันก็ยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ กลับถูกภาพยนตร์ดิสนีย์ที่มาทีหลังบดขยี้จนแหลกเป็นผุยผงเสียก่อน!
มาจนถึงวันที่ 20 ยอดจำหน่ายตั๋วของ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ เกิน 400 ล้านขึ้นมาอย่างยากลำบาก แต่มีข่าวลือเกี่ยวกับการซื้อยอดจำหน่ายตั๋วของ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ เกิดขึ้นมามากมายในอินเทอร์เน็ต
จนถึงตอนนี้บริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาวละทิ้งการประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว เพราะไม่ว่าใครก็ทราบดีว่า ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ หมดหนทางที่จะพลิกผันกลับมาโดยสิ้นเชิง จะทุ่มเงินไปกับการประชาสัมพันธ์อีก ก็เหมือนกับเอาเงินโยนลงไปในน้ำ
เป็นเช่นนี้ก็นับว่ายังดีอยู่ ‘เจ็ดผู้กล้าห้าผู้ทรงธรรม’ เข้าฉาย 8 วัน ยอดจำหน่ายตั๋วไม่ถึง 50 ล้าน ขาดทุนย่อยยับ นักแสดงนำกู้เหล่ยที่ก่อกวนในอินเทอร์เน็ตเมื่อไม่นานมานี้ แม้แต่บล็อกก็ไม่ได้อัปเดตอะไร กระทั่งลบบล็อกโพสต์เก่าๆ ทิ้งไปจำนวนมาก
ยิ่งยกย่องสูงเท่าไร กระโดดสูงแค่ไหน ตอนนี้ตกลงมาก็ยิ่งสาหัส!
ส่วน ‘จอมเสเพลแห่งยุทธภพ’ นั้น ทางด้านผู้ผลิตแทบจะกระโดดตึกอยู่แล้ว ส่วนทางด้านผู้ลงทุนแทบจะไปเป็นขอทานก็มี
ภาพยนตร์กำลังภายในสามเรื่องนี้ถูกเล่ากันปากต่อปากว่าแย่ คำวิจารณ์อย่างเช่น ‘เปลี่ยนภายนอกไม่เปลี่ยนภายใน’ และ ‘โครงเรื่องน้ำเน่าเกินไป’ สามารถพบเจอได้ในทั้งสามเรื่อง
บริษัทผลิตภาพยนตร์หลายแห่งชักดาบออกไปแล้วยากที่จะเก็บเข้าฝัก กล่าวโทษกันอย่างดุเดือด ทำให้ผู้คนถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว
ในสายตาของผู้คนในวงการนี้ โปรเจกต์กำลังภายในที่ถูกสร้างกระแสอย่างสะเทือนเลื่อนลั่นช่วงก่อนหน้านี้ ตอนนี้ถูกกระหน่ำเละอย่างสมบูรณ์ ฟองสบู่ที่ถูกเป่าจนลูกใหญ่ถูกจิ้มแตกไปแล้วเรียบร้อย โดยพื้นฐานแล้วประกาศว่าตายไปแล้วยังได้เลยด้วยซ้ำ
ปรากฏฉากดราม่าขนาดนี้ หลายคนอดไม่ได้ที่จะมุ่งความสนใจไปที่ผู้ริเริ่มโปรเจกต์กำลังภายในและ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ที่ลู่เฉินเป็นนักแสดงนำ
หัวข้อกำลังภายในล้มคว่ำไปแล้ว ตลาดที่โปรเจกต์นี้สะสมมาแทบจะไม่เหลือแล้ว ดังนั้น ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ที่ถ่ายทำเสร็จแล้วและอยู่ในขั้นตอนหลังการถ่ายทำ จะพลิกกระแสในวันชาติจีนและสร้างธงภาพยนตร์กำลังภายในขึ้นมาใหม่ได้หรือไม่
คนที่มองในแง่ดีมีไม่กี่คน แม้ว่า ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ จะดัดแปลงมาจากนิยายกำลังภายในที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทั้งยังมีผู้กำกับใหญ่และดาราใหญ่เข้าร่วม แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ผู้ชมส่วนใหญ่ยากที่จะอุดหนุนตั๋วอีกนั้น การที่จะมองยอดจำหน่ายตั๋วไปในแง่ดีนั้นไม่ง่ายเลย!
บางทีชื่อเสียงของลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ หลิวกั่งเซิง รวมไปถึงดาราระดับบิ๊กคนอื่นๆ อาจจะดึงดูดแฟนๆ จำนวนมากมาซื้อตั๋วเข้าโรงภาพยนตร์ได้ แต่ก็ขายให้ได้แต่แฟนคลับเท่านั้นแหละ เรื่องคุ้มทุนหรือกำไรไม่มีหวังสักเท่าไร
ไม่รู้ว่าลมจากภายนอกพัดมาจากทางไหน ขณะที่สื่อและความคิดเห็นของสาธารณชนจำนวนมาก วิพากษ์วิจารณ์ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ และผลงานที่ล้มเหลวอีกสองเรื่อง แต่ก็ไม่ลืมที่จะดึง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เข้ามาเหยียบสองสามที ต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเองนั้นมองการณ์ไกล
สำหรับสื่อปากร้ายที่คอยปลุกปั่นเรื่องราว เฉินเฟยมีเดียยังคงรักษาความนิ่งเงียบอยู่ตลอด ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าไม่ว่าคนอื่นจะพูดอย่างไรก็ตาม เฉินเฟยมีเดียล้วนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้น
แต่สิ่งนี้ทำให้บางคนคิดว่าเลี่ยงไม่ได้ต้องเริ่มเคลื่อนไหวบ้าง
“แกกะว่าจะไม่ตอบโต้อะไรเลยหรือไง”
ณ สำนักงานใหญ่เฉินเฟยมีเดีย ลู่ซีที่ทนมาแล้วครึ่งเดือนในที่สุดก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป วิ่งไปหาลู่เฉินที่สตูดิโอสเปเชียลเอฟเฟกต์ ลากเขาที่นั่งควบคุมดูแลขั้นตอนหลังการถ่ายทำตลอดเวลาออกมาบ่น “มีคนปล่อยข่าวลือในอินเทอร์เน็ตว่าถ่ายทำ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ภาคนี้เสร็จแล้ว ก็จะไม่ถ่ายภาคต่อไปอีก กลายเป็นงานที่โดนเท”
เฉินเฟยมีเดียได้ประกาศให้รู้โดยทั่วกันเมื่อนานมาแล้วว่า ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ จะแบ่งออกเป็นสามภาค โดยที่ภาพยนตร์ทั้งสามภาคจะถ่ายทำต่อเนื่องกัน และจะออกฉายในปีนี้ไปจนถึงปีหน้า
ข่าวลือที่ปล่อยออกมาดังกล่าวไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผลอย่างสิ้นเชิง ภาพยนตร์กำลังภายในถูกทำลายย่อยยับ ตลาดยอดจำหน่ายตั๋วยังจะเหลืออยู่สักเท่าไรนั้นเป็นปัญหาใหญ่ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากเฉินเฟยมีเดียยังลงทุนผลิตภาพยนตร์อีกสองภาคที่เหลือ ก็ต้องเผชิญกับความเสี่ยงสูงอย่างไม่ต้องสงสัย
โยนเงินลงไปหลายร้อยล้าน แต่สุดท้ายไม่ได้ต้นทุนคืน มันไม่ได้มีเพียงแค่เฉินเฟยมีเดียที่โดนโจมตี แต่ยังส่งผลกระทบทางลบต่อลู่เฉินอย่างมาก เพราะโดยเนื้อแท้แล้วกระแสกำลังภายในริเริ่มขึ้นมาจากมือของเขานั่นเอง
หากฉลาดหน่อยละก็ สองภาคหลังควรถูกระงับอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าตลาดจะพลิกกลับแล้วค่อยสานต่อ นี่ถึงจะเป็นตัวเลือกที่รอบคอบและฉลาดที่สุด และยังเป็นตัวเลือกตามหลักตรรกะและเหตุผลอีกด้วย
“คนพวกนี้นี่ก็นะ…”
ลู่เฉินส่ายหัวพลางเอ่ยว่า “พวกเขาอยากจะดูเรื่องตลกของพวกเรา หวังจะให้พวกเราใช้งบประมาณทั้งหมดลงทุนไปกับ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ถ้าผมพลาดท่าครั้งใหญ่จะเป็นการดีที่สุด”
สำหรับเจตนาร้ายที่อยู่เบื้องหลังข่าวลือที่บอกว่าสร้างไม่เสร็จนั้น ลู่เฉินมองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง เขาเคยประสบพบเจอกับวิธีการสกปรกของคนบางคนมาแล้วเมื่ออยู่ในวงการนี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยอะไร
แต่พวกเขาอยากดูเรื่องตลกของลู่เฉิน ลู่เฉินก็กำลังดูเรื่องตลกของพวกเขาเช่นกัน!
ลู่ซีกลอกตาใส่เขาพร้อมเอ่ยขึ้น “ถ้าพวกเราไม่ยอมเคลื่อนไหวอะไรอีก จะถูกคนเยาะเย้ยเข้าจริงๆ แล้ว ตอนนี้ก็ใกล้เดือนสิงหาคมแล้ว ควรจะเริ่มประชาสัมพันธ์ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ได้แล้วใช่ไหม”
เนื่องจากเลื่อนกำหนดฉายไป แม้ว่าจะมีการจัดทำงบและแผนการประชาสัมพันธ์สำหรับ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ออกมาสักพักแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ฤกษ์ดำเนินการสักที ต้องรอจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วค่อยเปิดตัว
โปรแกรมภาพยนตร์วันชาติเริ่มวันที่ 1 ตุลาคม ยังเหลือเวลาอีกตั้งสองเดือน ระยะประชาสัมพันธ์ค่อนข้างนาน แต่ปล่อยตัวอย่างล่วงหน้าก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
ภาพยนตร์ฮอลลีวูดมากมายล้วนแล้วแต่ปล่อยตัวอย่างก่อนอย่างน้อยหนึ่งปีหรือนานกว่านั้น และทำการประชาสัมพันธ์ไปพร้อมๆ กัน
ลู่เฉินคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น “รออีกหน่อย รอให้ผลกระทบของภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องพวกนี้ผ่านพ้นไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
ลู่เฉินเป็นมนุษย์ธรรมดาไม่ใช่พระเจ้า แม้ว่าเขาจะไม่ได้มองคู่แข่งอย่าง ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ในแง่ดีในตอนแรกแต่สถานการณ์ในตอนนี้ก็เกินความคาดหมายของเขาไปมาก
ชื่อเสียงของภาพยนตร์กำลังภายในเสียหายไปแล้ว ย่อมมีผลกระทบต่อ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ อย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าจะเริ่มประชาสัมพันธ์ในตอนนี้ไม่เพียงแต่กลัวว่าผู้ชมจะไม่ศรัทธาเท่านั้น แม้กระทั่งอาจจะทำให้เกิดจิตวิทยาที่ย้อนกลับขึ้น
ลู่ซีใจเย็นลงและรู้สึกว่าความกังวลของลู่เฉินนั้นสมเหตุสมผล เธอพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ตัวสร้างปัญหาพวกนั้นทำร้ายคนอื่นไม่พอยังไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองอีกต่างหาก หัวข้อดีๆ ถูกพวกเขาทำพังไปหมดแล้ว!”
ลู่เฉินหัวเราะ ดวงตาของเขาจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานที่อยู่ไม่ไกล และคอมพิวเตอร์ที่กำลังประมวลภาพซีจีทั้งหมด
“ทองแท้ไม่กลัวไฟ ผมมั่นใจใน ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ไม่มีอะไรที่น่ากังวล”
ลู่เฉินพูดอย่างมั่นใจ “กระแสลมไม่ใช่เรื่องที่ตามกันง่ายขนาดนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเขาที่แม้แต่ลมจริงๆ ก็ยังไม่ทันได้ตามด้วยซ้ำ ยกหินขึ้นมาแต่กลับหล่นทับขาตัวเองก็สมกับกรรมเวรแล้ว เราทำตามขั้นตอนของเราเอง อย่าถูกคนอื่นชักนำเลย”
“เดินตามทางของตัวเอง ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชนหรืออะไรก็ตาม ก็ให้คนอื่นเขาพูดไปเถอะ!”
………………………………………………………………………