Perfect Superstar - ตอนที่ 835 เสียงที่ต่างกัน
ตอนที่ 835 เสียงที่ต่างกัน
ในสังคมสมัยใหม่ อำนาจของเงินไม่มีที่สิ้นสุด การประชาสัมพันธ์และการตลาดของสินค้าใดๆ ล้วนหนีไม่พ้นการสนับสนุนของเงินจำนวนมหาศาล โดยทั่วไปยิ่งทุ่มเงินมากเท่าไร ผู้คนก็จะได้รับผลกระทบในวงกว้างมากขึ้นเท่านั้น และระดับของผลกระทบก็จะยิ่งฝังรากลึกมากขึ้น
แน่นอนว่าภาพยนตร์ก็ไม่มีข้อยกเว้น อันที่จริงภาพยนตร์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์และการตลาดมากที่สุด โดยเฉพาะฮอลลีวูดผู้ทรงอิทธิพลในวงการภาพยนตร์ระดับโลก การลงทุนด้านนี้ในแต่ละปีน่าตกตะลึงมาก
ภาพยนตร์ที่มีเงินลงทุน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเรื่องปกติที่จะเพิ่มต้นทุนในการประชาสัมพันธ์อีก 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
การลงทุนมหาศาลในด้านการประชาสัมพันธ์และการตลาดนี้เป็นหนึ่งในความลี้ลับยากที่จะเข้าใจของภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่กวาดตลาดไปทั่วโลก
ในปีนี้ด้วยการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดภาพยนตร์ในประเทศ และภาพยนตร์ในประเทศยังให้ความสำคัญกับการตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่มีการลงทุนสูง ยิ่งพยายามประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะด้านการตลาดออนไลน์ทำได้ยอดเยี่ยมมาก
แต่อย่าง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ที่ทุ่มเงินมหาศาลในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้ เพื่อสร้างชื่อเสียงและอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ ยังถือว่าเป็นเรื่องหายาก จึงมีผลกระทบอย่างมากต่อวงการนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
บางคนถึงกับอึ้งเลยทีเดียว ‘สไตล์แบบนี้ไม่ถูกต้อง!’
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เฉินเฟยมีเดียที่มีลู่เฉินเป็นตัวแทนนั้น ไม่ได้ลงทุนด้านการประชาสัมพันธ์และการตลาดมากนัก ไม่ว่าจะเป็นการออกอัลบั้ม การถ่ายละครโทรทัศน์ ก็มักจะใช้อิทธิพลของตัวเองเข้ามาส่งเสริม
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ต โดยทั่วไปแล้วแค่เขากับเฉินเฟยเอ๋อร์โชว์สวีทหวานกันเป็นพิเศษ จำนวนการแชร์ก็ปาเข้าไปหลายแสนครั้งหรือแม้กระทั่งไปจนถึงหลักล้านครั้ง ละครโทรทัศน์ที่ถ่ายทำไม่จำเป็นต้องประชาสัมพันธ์อะไรเลย แฟนคลับนับไม่ถ้วนต่างตั้งตารอกันอย่างใจจดใจจ่อ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใช้เงินก็ยังเป็นที่ติดตามของสื่อ และเรตติ้งก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นี่เป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้จริงๆ ใครบอกให้ความนิยมของลู่เฉินสูงขนาดนี้กันล่ะ เขาโพสต์บล็อกโพสต์บนบล็อกล่างฉาว ผลการประชาสัมพันธ์ก็มีมูลค่าเทียบกับการลงทุนด้านการตลาดนับล้าน นั่นคือสิ่งที่ใครก็ไม่สามารถอิจฉาได้
‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ก็นำกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์แบบเดียวกันนี้มาใช้อย่างไม่ต้องสงสัย กลอนรักที่ลู่เฉินเขียนถึงเฉินเฟยเอ๋อร์ไม่รู้ว่าได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายเพียงใด หากพูดถึงค่าใช้จ่ายและการลงทุนก็แทบไม่มีอะไรเลย
แต่ทว่าสิ่งที่ผู้คนคาดไม่ถึงก็คือ เมื่อเห็นว่าอีกเพียงครึ่งเดือน ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ จะเข้าฉาย ท่าทีของเฉินเฟยมีเดียเปลี่ยนไปอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทุ่มเงินลงทุนประชาสัมพันธ์อย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ผู้คนรู้สึกประหลาดใจอย่างอธิบายไม่ถูก
วงการบันเทิงจะว่าใหญ่ก็ใหญ่ แต่จริงๆ แล้วจะว่าเล็กก็เล็กมาก ข่าวสารในวงการมักแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเฉินเฟยมีเดียจะไม่ได้เปิดเผยเงินลงทุนที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ต่อคนภายนอก แต่ไม่นานนักคนในวงการก็ทำการอนุมานโดยอาศัยจากสถิติอ้างอิงต่างๆ คิดว่าเฉินเฟยมีเดียใช้เงินไปอย่างน้อย 30 ล้าน และงบประมาณทั้งหมดคาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นสองเท่า
การอนุมานแบบนี้ค่อนข้างแม่นยำและทำให้หลายคนช็อกไปไม่น้อย มีบางคนคาดเดาจากสิ่งนี้ว่า เฉินเฟยมีเดีย หรือถ้าจะพูดให้ถูกละก็คือลู่เฉินคำนึงถึงแรงกดดันมหาศาลที่มีต่อยอดจำหน่ายตั๋ว ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ดังนั้นถึงได้ทำทุกวิถีทางเพื่อดำเนินการประชาสัมพันธ์ ตั้งใจที่จะพลิกสถานการณ์อันน่าอับอายที่ภาพยนตร์กำลังภายในต้องเผชิญในปัจจุบัน
ต้องบอกก่อนว่าตอนทำพิธีเปิดกล้อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ลู่เฉินได้คาดการณ์ยอดจำหน่ายตั๋วไว้ที่ 1 พันล้านถึง 1.5 พันล้าน หากบรรลุไม่ถึงครึ่งตามเป้าละก็ จะต้องสูญเสียความน่าเชื่อถือไปอย่างไม่ต้องสงสัย
สำหรับเรื่องนี้บางคนประหลาดใจ บางคนสงสัยใคร่รู้ ยังมีบางคนที่รู้สึกยินดีในความโชคร้ายของผู้อื่น คิดว่าในที่สุดความพยายามที่ลู่เฉินทุ่มเทไปจะสูญเปล่า
ยิ่ง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ลงทุนในด้านโฆษณามากเท่าไร การประชาสัมพันธ์ก็ยิ่งร้อนแรงมากขึ้นเท่านั้น แต่หลายคนในวงการภาพยนตร์กำลังดูถูกยอดจำหน่ายตั๋วของภาพยนตร์เรื่องนี้ กระทั่งเชื่อว่าหลังจากเพิ่มค่าใช้จ่ายทางการตลาดจำนวนมากแล้ว เป็นไปได้มากที่เฉินเฟยมีเดียจะไม่สามารถกู้ต้นทุนคืนได้
“ดูนายสิ เมื่อก่อนพูดไว้เสียดิบดี…”
เฉินเฟยเอ๋อร์ที่นั่งอยู่ตรงเบาะหลังของเมอร์เซเดสเบนซ์ ยื่นโทรศัพท์มือถือของเธอให้ลู่เฉินดู และพูดอย่างเย้ยหยัน “ตอนนี้มีคนจับจุดอ่อนได้แล้วสิท่า…”
ลู่เฉินเหลือบมองครู่หนึ่ง พบว่าหน้าจอโทรศัพท์มือถือแสดงบล็อกโพสต์ของสื่อส่วนบุคคลคนหนึ่งที่ได้รับการรับรองในบล็อกล่างฉาว เขาฟันธงว่ายอดจำหน่ายตั๋วของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ อยู่ระหว่าง 500-700 ล้านหรือแม้กระทั่งต่ำกว่านั้นก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
เพื่อที่จะพิสูจน์ข้อโต้แย้งของตัวเอง สื่อส่วนบุคคลคนนั้นได้เปิดเผยข้อมูลจำนวนมาก รวมทั้งยอดจำหน่ายตั๋วของภาพยนตร์กำลังภายในอย่างเช่น ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ และอื่นๆ มีแม้กระทั่งข้อมูลที่มาจากการสำรวจบริษัทอีกด้วย
ต้นทุนการผลิต ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ บวกค่าประชาสัมพันธ์ คำนวณจากการลงทุน 200 ล้าน ยอดจำหน่ายตั๋วต้องมากกว่า 400 ล้านถึงจะรักษาทุนไว้ได้ อีกทั้งยังไม่รวมค่าตัวของลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ หากรวมเข้าไปแล้วจะสูงถึง 500 ล้านเลยทีเดียว!
พลาดนาทีทองของโปรแกรมภาพยนตร์ฤดูร้อนไป แล้วยังต้องเผชิญกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอีก เป็นเรื่องยากมากสำหรับ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ที่อยากจะสร้างปาฏิหาริย์ยอดจำหน่ายตั๋วขึ้นมาใหม่
การอนุมานของสื่อส่วนบุคคลนี้ได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากผู้คนมากมาย โดยมีการแชร์และยอดกดไลก์หลายหมื่นครั้ง พวกเขายังเชื่อว่าภาพยนตร์กำลังภายในถูกกำหนดให้เป็นความพยายามที่ล้มเหลวของภาพยนตร์ในประเทศ และ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ จะต้องตามรอย ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ไปติดๆ ในท้ายที่สุดสามารถรักษาต้นทุนไว้ได้นับว่าเป็นเรื่องที่โชคดีที่สุดแล้ว
สำหรับเสียงที่ฟังดูแย่ๆ ในบล็อกเหล่านี้ ลู่เฉินไม่ได้นำมาใส่ใจ เพราะคนที่ตัดสินยอดจำหน่ายตั๋วในท้ายที่สุดไม่ใช่บัญชีทางการน้อยใหญ่ของคนในวงการเหล่านี้ แต่เป็นผู้ชมหลายร้อยล้านคน
เขามีความมั่นใจในผลงานของตัวเอง ทำไมต้องกลัวความคิดเห็นเยาะเย้ยถากถางของคนอื่นด้วย
อย่างที่ว่ากันมีคนดังข่าวซุบซิบมากมาย ตั้งแต่เขาเดบิวต์มา เบื้องหลังของดอกไม้และคำชมนั้นย่อมไม่ขาดการถูกใส่ร้ายป้ายสี และไม่รู้ว่ามีกี่คนที่รอให้เขาพบกับคราวซวย!
ลู่เฉินใช้นิ้วมือปัดบนหน้าจอ เปิดดูบล็อกโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’
อันที่จริงนอกจากคำพูดเชิงลบเหล่านี้ ยังมีผู้สนับสนุนลู่เฉินบนบล็อกล่างฉาวอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะโปสเตอร์ ภาพนิ่ง และตัวอย่างภาพยนตร์ที่บัญชีทางการของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ปล่อยออกมา นักวิจารณ์ภาพยนตร์บางคนเชื่อว่าผลงานภาพยนตร์ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ กับ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ นั้นไม่เหมือนกัน นอกจากการสร้างตัวละครที่มีเอกลักษณ์แล้ว ฉากต่อสู้ที่มีการตัดต่อมาแล้วหลายฉากก็น่าตื่นเต้นมากด้วย มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร
โดยเฉพาะฉากต่อสู้กลางสายฝนในตัวอย่างที่สอง ไม่มีการซ้อนสเปเชียลเอฟเฟกต์แบบแฟนซี ไม่มีการแสดงที่เกินจริงและไร้สาระ ทุกการเคลื่อนไหวทุกกระบวนท่าเต็มไปด้วยความรุนแรงและความงามที่แตกต่างจากภาพยนตร์แอกชันฟอร์มยักษ์ของฮอลลีวูด และยังแตกต่างจากภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนิยายยอดนิยมในประเทศด้วย เชื่อว่าตราบใดที่ภาพยนตร์มีมาตรฐานใช้ได้ มันจะทำให้ผู้ชมประหลาดใจอย่างแน่นอน
ในฐานะคนที่สร้างปาฏิหาริย์ได้ดี นักวิจารณ์ภาพยนตร์เชื่อว่าลู่เฉินจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง
มุมมองของเขาได้รับการสนับสนุนจากผู้คนมากมาย โดยเฉพาะแฟนคลับของลู่เฉิน แต่ก็ยังมีผู้ที่โต้แย้งและคิดว่าที่เขาพูดออกมาเพราะได้รับเงินจากเฉินเฟยมีเดีย
แต่ลู่เฉินสามารถรับประกันได้ว่า เฉินเฟยมีเดียไม่เคยทุ่มเงินให้กับนักวิจารณ์ภาพยนตร์ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ อย่างใหญ่โตนี้ ก็ไม่มีการจัดงบประมาณสำหรับเรื่องนี้อีกเช่นกัน
แน่นอนว่า ถึงเฉินเฟยมีเดียจะออกมาโต้แย้ง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเกลี้ยกล่อมทุกคน
ดังนั้นสุดท้ายก็ต้องอาศัยข้อเท็จจริง และข้อเท็จจริงนี้คือผลของยอดจำหน่ายตั๋ว… เหลือเวลาอีก 3 วัน ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ก็จะยกพลขึ้นบกเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ใหญ่ๆ ทั่วประเทศแล้ว!
ลู่เฉินคืนโทรศัพท์ให้เฉินเฟยเอ๋อร์ สภาวะจิตใจอดไม่ได้ที่ล่องลอยไปสู่อนาคต
…………………………………………………………….