Perfect Superstar - ตอนที่ 84 วงการนี้ดำมืดเกินไป
ตอนที่ 84 วงการนี้ดำมืดเกินไป
สถานีโทรทัศน์เซียงหนานเป็นเจ้าแห่งวาไรตี้บนจอทีวีครอบครัวในประเทศ เน้นรายการบันเทิงเป็นหลัก มีรายการบันเทิงในชีวิตประจำวันชื่อดังหลายรายการที่ได้เรตติ้งสูงมาก ได้แก่ ‘ครอบครัวหรรษา’ ‘จับคู่ดารา’ ‘เดลี่ไลฟ์’ เป็นต้น ทำให้ช่องผงาดโดดเด่นจนเหนือกว่าช่องโทรทัศน์อื่นมาหลายปี
ตั้งแต่ปี 2008 สถานีโทรทัศน์เซียงหนานยังผลิตรายการประกวดอย่างเช่น ‘ซูเปอร์เกิร์ลวอยซ์’ ‘ซูเปอร์บอยวอยซ์’ ‘นิวไอดอล’ และประสบความสำเร็จอย่างสูง ผลักดันกลุ่มไอดอลรุ่นใหม่ขึ้นมาหลายคน ทั้งยังทำให้เกิดรายการใหม่ประเภทเดียวกันที่ทำเลียนแบบขึ้นมา สร้างคลื่นลูกใหม่ให้วงการบันเทิง
แม้ว่าลู่เฉินจะไม่ค่อยได้ดูรายการโทรทัศน์ แต่รู้จักชื่อเสียงอันโด่งดังของสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน
ดังนั้นเมื่อกลับมาถึงบ้าน เขาจึงเปิดอินเทอร์เน็ตค้นหารายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดเสียงสตรอง’ ของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานทันที
ผลการค้นหาน่าประหลาดใจจริงๆ
รายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ ของสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน เมื่อปีที่แล้วจัดการแข่งขันนักร้องเสียงดี การแข่งขันเป็นไปอย่างร้อนแรงและเป็นมืออาชีพ ด้วยเหตุนี้จึงได้ครองเรตติ้งสูงที่สุดในสายรายการบันเทิงประจำซีซั่น
สุดท้ายฟ่านเหม่ยหลินผู้ได้เป็นแชมป์รายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ วันนี้กลายเป็นดาราแถวหน้าในวงการของประเทศ เป็นหนึ่งในนางเอกของค่ายเพลงเฉิงเถียน ไม่นานมานี้เพิ่งออกอัลบั้มใหม่ของตัวเองเป็นครั้งแรก
ลู่เฉินทำความเข้าใจระเบียบและขั้นตอนการสมัครในรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ อย่างถี่ถ้วน ทั้งยังดูวิดีโอย้อนหลังของรายการในซีซั่นแรก รู้สึกว่าการแข่งขันรายการนี้เหมาะกับตัวเองเป็นที่สุด เป็นเส้นทางสู่การมีชื่อเสียงเส้นทางหนึ่ง
ในมือของเขากุมผลงานเพลงชั้นเยี่ยมไว้มากมาย จะต้องทำผลงานในรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ ได้อย่างแน่นอน!
ต่อให้ไม่ได้รางวัลเป็นแชมป์ ยังสามารถอาศัยเรตติ้งอันสูงลิ่วของรายการเป็นสื่อกลางให้เผยแพร่ชื่อเสียงของตัวเอง เป็นแรงเสริมอีกทางเพื่อความก้าวหน้าในอนาคต
การคัดเลือกรอบแรกของรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ เริ่มในวันที่ 20 มิถุนายน หรือก็คืออีก 3 วันหลังจากนี้ เขาไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงเซียงหนานเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน เพราะในปักกิ่งก็มีสนามแข่งขันเหมือนกัน!
ถ้าไม่ได้รับการบอกกล่าวจากจินหงเหว่ยในวันนี้ ลู่เฉินอาจจะพลาดโอกาสอย่างงามในครั้งนี้ไป
หลังจากตื่นเต้นอยู่พักหนึ่ง เขานึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ตอนที่พบเจอกับผู้บริหารใหญ่ ลู่เฉินยิ่งรู้สึกไม่ชอบมาพากล
มันง่ายดายเกินไป
จินหงเหว่ยเสนอเงื่อนไขชั้นดีให้ แถมยังเตรียมสัญญามาให้เขาเซ็นด้วย พอถูกเขาปฏิเสธแล้ว ฝ่ายนั้นนอกจากความแปลกใจแล้วก็ไม่ได้แสดงปฏิกิริยารุนแรงแต่อย่างใด แล้วยังไม่เหนี่ยวรั้งเขาไว้ ปล่อยให้เขาจากมาแต่โดยดี
จินหงเหว่ยคนนี้แตกต่างจากตัวพ่อของวงการเอเจนซี่ศิลปินที่ลู่เฉินรู้จักมาก ไม่เหมือนโดยสิ้นเชิง
แน่นอนว่าลู่เฉินรู้จักเขาผ่านทางข่าวในอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีแต่เรื่องราวปัญหา คนที่เขาได้พบไม่เหมือนคนที่เขาเคยรู้จัก
ลู่เฉินไตร่ตรองอยู่ครู่ใหญ่ รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ จึงโทรศัพท์หาเฉินเจี้ยนหาว
ก่อนเฉินเจี้ยนหาวจะเปิดบาร์เดย์ลิลลี่เคยเป็นคนในวงการมาก่อน ไม่แน่ว่าเขาอาจเคยทำงานกับจินหงเหว่ย รู้จักทางนั้นเป็นอย่างดี
“เสี่ยวลู่?”
เสียงของเฉินเจี้ยนหาวฟังดูอ่อนล้า ราวกับเพิ่งตื่นนอน “มีธุระอะไรเหรอ”
ลู่เฉินเล่าเรื่องการเซ็นสัญญากับจินหงเหว่ยในวันนี้ให้เขาฟัง
เฉินเจี้ยนหาวฟังเงียบๆ จนจบแล้วก็หัวเราะเสียงเย็น “เสี่ยวลู่ นายรู้ไหมว่าฉายาของจินหงเหว่ยในวงการคืออะไร”
ลู่เฉินถาม “ฉายาอะไรครับ”
“ฉายาของเขาคือ เจ้าสารเลวจิน…”
เฉินเจี้ยนหาวบอกต่อว่า “เปลือกนอกที่ดูสวยงามล่อตาล่อใจ หากนายได้เข้าไปเฉียดใกล้เขาเพียงเล็กน้อย จะถูกเขาคว้าตัวเอาไว้ไม่ปล่อย ถ้าไม่กัดจนเนื้อขาดก็ไม่ยอมปล่อย”
“อัลบั้มของต้าฉินกับพี่น่าได้ค่ายเพลงเทียนไล่จัดทำให้ แต่เพลงแต่งโดยนาย สายตาของจินหงเหว่ยเฉียบคม รู้ว่านายตัวคนเดียว แน่นอนว่าต้องจับนายไว้ให้แน่น”
ลู่เฉินเสียวสันหลังวาบ
แต่เขาฟังออกว่าเฉินเจี้ยนหาวรู้สึกต่อต้านผู้บริหารใหญ่คนนี้อย่างมาก
เฉินเจี้ยนหาวเอ่ยต่อว่า “ดังนั้นที่นายไม่ยอมเซ็นสัญญาเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว จินหงเหว่ยมีหรือจะยอมเสียประโยชน์ง่ายขนาดนั้น เขารู้ว่ายิ่งให้เงื่อนไขดีเท่าไร ต่อไปยิ่งกดขี่ได้มากเท่านั้น ทั้งยังมีวิธีที่จะทำให้นายดิ้นไม่หลุดด้วย”
“เมื่อก่อนฉันรู้จักคนหนุ่มคนหนึ่ง มีความสามารถเก่งกาจพอๆ กับนาย และถูกจินหงเหว่ยจับเซ็นสัญญา”
“ตอนนี้นายรู้ไหมว่าเจ้าหนุ่มคนนั้นอยู่ที่ไหน”
ไม่ต้องรอให้ลู่เฉินตอบ เฉินเจี้ยนหาวเฉลยก่อน
“เขาอยู่ในสถานบำบัดเลิกยาเสพติด เสียผู้เสียคน นายรู้ไหมว่าเขาติดยาได้ยังไง วงการนี้ทั้งดำมืดและลึกลับ นายทำงานคนเดียวน่ะดีแล้ว”
“แม้อาจจะต้องเหน็ดเหนื่อย ลำบากยากเย็น แต่อย่างน้อยก็ยังมีอิสระ!”
ลู่เฉินพยักหน้า “ผมเข้าใจแล้ว เถ้าแก่ ขอบคุณที่ตักเตือนผมครับ”
โชคดีที่เขาโทรศัพท์หาเฉินเจี้ยนหาวก่อน ไม่เช่นนั้นคงไม่รู้เบื้องหลังอันดำมืดของจินหงเหว่ย และยังคิดว่าฝ่ายนั้นเป็นคนไม่เลว
คนแบบนี้ให้ความเคารพนับถือได้แต่อย่าเข้าใกล้เป็นดีที่สุด
เฉินเจี้ยนหาวรู้สึกตื่นเต็มตา ถามต่อว่า “ไม่ใช่ว่านายคิดจะไปร่วมรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรองหรอกนะ”
ลู่เฉินถามอย่างสงสัย “เถ้าแก่ รู้ได้อย่างไรครับ”
“เลิกเรียกฉันว่าเถ้าแก่ได้แล้ว ฟังแล้วน่ารำคาญ…”
เฉินเจี้ยนหาวพูดอย่างหงุดหงิด “ตอนนี้นายไม่ใช่พนักงานในบาร์เดย์ลิลลี่แล้ว เรียกฉันว่าพี่ก็พอ”
ลู่เฉินหัวเราะ “ครับ พี่เจี้ยนหาว…”
เฉินเจี้ยนหาวค่อยพอใจหน่อย จากนั้นอธิบายต่อ “นายเหมาะจะไปเข้าร่วมประกวดนักร้องนักแต่งสุดสตรอง แต่นายควรรู้ว่าไม่ใช่ว่านายเก่งกาจมีความสามารถ แล้วจะเกิดในรายการดังแบบนี้ได้”
“ฟ่านเหม่ยหลินของรุ่นที่แล้ว ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงเฉิงเถียนก่อน คนอื่นถึงได้สนับสนุน เข้าใจหรือยัง”
ลู่เฉินยิ้มแหย “ผมรู้แล้วครับ”
ปัญหาใหญ่ที่สุดของเขาคือเขาทำงานคนเดียว เทียบไม่ได้กับคนอื่นที่มีบริษัทใหญ่อยู่เบื้องหลังคอยหนุน วงการบันเทิงมีกฎมีเกณฑ์ ไม่ว่าจะกฎในที่ลับหรือกฎในที่แจ้ง หากอยากได้มาก็ต้องยอมเสียสิ่งแลกเปลี่ยน หรืออาจจะมากยิ่งกว่านั้น
ค่ายเพลงเฉิงเถียนเป็นผู้ร่วมมือกับช่องเซียงหนายเว่ยซื่อ และมีส่วนร่วมจัดทำรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ ด้วย
ด้วยเหตุนี้เหล่าค่ายเพลงต่างๆ จึงมีปากมีเสียงในรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ มาก
“จินหงเหว่ยมีเส้นสายใหญ่โตในสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน บริษัทจวี่ซิงและค่ายเพลงเฉิงเถียนติดต่อปฏิสัมพันธ์กันมานาน ทั้งสองฝ่ายต่างสนับสนุนช่วยเหลือกัน เขาปฏิเสธจินหงเหว่ย แล้วยังจะเข้าประกวดในรายการนักร้องเสียงสตรองได้อีกเหรอ”
ลู่เฉินเข้าใจแล้วจริงๆ “ถ้าอย่างนั้นผมไม่ไปแล้ว”
สังคมนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ ช่วงนี้เขาตั้งหน้าตั้งตาออกอากาศสดออนไลน์หาเงินไปอย่างเดียวดีกว่า หาเงินได้เยอะๆแล้วค่อยออกอัลบั้ม!
“ไม่ ไม่ ไม่!”
สิ่งที่ลู่เฉินคิดไม่ถึงคือเฉินเจี้ยนหาวกลับบอกว่า “ฉันสนับสนุนให้นายไปเข้าร่วมการประกวดรอบแรก เอาเพลงที่ดีที่สุดของนายไปด้วย ไม่ผ่านเข้ารอบก็ไม่เป็นไร ในวันที่ 25 รายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ของช่องโทรทัศน์ปักกิ่งก็จะประกาศรับสมัครด้วย”
“ฉันจะช่วยทำจดหมายแนะนำ ให้นายได้เข้าร่วมการแข่งขันออกอากาศสดรอบแรกได้!”
ไม่ว่าจะทั้งรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ หรือรายการอื่นๆ วงจรการคัดเลือกในรอบแรกก็แบ่งเป็นสองส่วน อันดับแรกคัดเลือกจากประชาชน คือคัดเลือกจากผู้สมัครทั้งหมดในรอบแรก คัดเอาคนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ออกไป
ในชั้นแรกต้องคัดกรองผู้สมัครออกไปมากกว่า 90% จากนั้นจะค่อยคัดเลือกเพื่อมาออกอากาศ
แต่บางครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของรายการ ผู้จัดจะตั้งใจปล่อยให้ผู้สมัครแปลกๆ บางคนเข้ามาคัดเลือกแบบออกอากาศ ให้ผู้ชมรายการบันเทิงอีกเป็นล้านคนร่วมการคัดเลือกไปพร้อมกัน
อยากเป็นที่จับจ้องของผู้คน ก็ไม่ต้องคำนึงถึงความถูกระเบียบมากนัก
“ช่องปักกิ่งเทียบไม่ได้กับเซียงหนาน แต่ภายในไม่ได้ซับซ้อนนัก เหมาะที่นายจะเข้าร่วม”
เฉินเจี้ยนหาวเอ่ยทิ้งท้ายไว้ว่า “ฉันอยากเห็นนายเข้ารอบสุดท้ายของรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรอง จะต้องน่าสนใจเป็นอย่างมากแน่นอน”
แล้วเขาก็หัวเราะ “ฮ่าๆๆ” เสียงดัง
ลู่เฉินถามว่า “พี่เจี้ยนหาว พี่เคยมีความแค้นกับจินหงเหว่ยหรือเปล่า”
เสียงหัวเราะของเฉินเจี้ยนหาวหยุดชะงักลงกลางคัน
ผ่านไปครู่ใหญ่ เขาถึงตอบ “เจ้าหนุ่มที่ฉันเล่าให้นายฟังคนนั้น เขาเคยเรียกฉันว่าเถ้าแก่เหมือนกัน ฉันยังเสียใจมาถึงทุกวันนี้ที่ตอนนั้นไม่ได้ห้ามเขาไม่ให้เซ็นสัญญากับจวี่ซิง โชคดีที่ฉันยังห้ามนายได้”
ลู่เฉินนิ่งอึ้ง
จบสายสนทนากับเฉินเจี้ยนหาวแล้ว ลู่เฉินคิดใคร่ครวญอีกเล็กน้อย เขาเปิดเข้าหน้าเว็บไซต์รับสมัครของรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ แล้วกรอกข้อมูลใบสมัครลงไป
รายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ รองรับการสมัครออนไลน์ด้วย เมื่อเสร็จแล้วจะเข้าร่วมการคัดเลือกรอบแรกได้ในวันที่ 20 มิถุนายนนี้!
…
เมื่อลู่เฉินกรอกใบสมัครเสร็จแล้วก็กดส่งใบสมัครไปเรียบร้อย ใช้เวลาไม่ถึงสองนาที
บาร์เรสเพลนเดนท์แห่งย่านซานหลี่ถุน ในห้องส่วนตัวอันหรูหราที่อยู่ชั้นบน จินหงเหว่ยที่เอนกายกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาและกำลังละเลียดชิมไวน์แดงสะดุ้งตัวขึ้น ราวกับว่าหลุดจากห้วงแห่งความคิดกลับสู่ความจริง
เขาวางแก้วไวน์ในมือลง หยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเสื้อออกมา
เมื่อเปิดดูข้อความที่เพิ่งได้รับ ผู้บริหารใหญ่คนนี้เผยรอยยิ้มพอใจ
ประดุจนายพรานที่รู้ว่าเหยื่อมาติดกับของตัวเองแล้ว
…………………………………………………………………..