Perfect Superstar - ตอนที่ 857 โต้เถียง
ตอนที่ 857 โต้เถียง
หลังจากที่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ได้ถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการเป็นต้นมา ในสายตาของเหล่าแฟนคลับนั้นมองทั้งสองคนเป็นคู่รักที่ดีที่สุดในวงการบันเทิงอย่างไม่ต้องสงสัย และยังค่อยๆ เคยชินกับการที่เฉินเฟยเอ๋อร์มักจะอวดความรักหวานแหววลงในบล็อกของเธอเป็นระยะๆ
สำหรับแฟนๆ เหล่านั้น พวกเขาหวังว่าความรักที่สวยงามครั้งนี้จะยืนยาวและออกดอกออกผล ดังนั้นนอกจากการเป็นหมาโสดที่ได้แต่ร้องไห้คร่ำครวญอยู่ทุกวันแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะส่งคำอวยพร ความชื่นชอบ และความอิจฉาออกมา
ในที่นี้ก็รวมถึงเพื่อนในวงการของเฉินเฟยเอ๋อร์ด้วยเช่นกัน ดาราสาวหลายคนสงสัยว่ารูปถูกถ่ายที่ไหน และได้ทิ้งข้อความไว้เพื่อสอบถาม
หลังจากนั้นเฉินเฟยเอ๋อร์ก็ปล่อยรูปอีกรูปหนึ่ง เป็นรูปมุมสูงของเกาะนางฟ้าที่เธอถ่ายตอนที่นั่งอยู่บนเครื่องบินเหนือน้ำทะเล
ฝีมือในการถ่ายรูปของเฉินเฟยเอ๋อร์ธรรมดามาก แถมยังใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายอีก สีและองค์ประกอบของรูปก็ไม่มีความสดใสเอาเสียเลย แต่แค่มีทิวทัศน์ของเกาะรูปหัวใจสีเขียวโดยมีขอบสีขาวกั้นเอาไว้ แบ่งแยกเกาะกับท้องทะเลสีฟ้าใสที่ล้อมรอบอยู่ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนหลงใหลไปกับมัน
แน่นอนว่าแค่รูปถ่ายหนึ่งใบนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนเซอร์ไพรส์กันขนาดนั้น ถึงอย่างไรในโลกนี้ก็ยังมีสถานที่ที่สวยงามอยู่อีกมากมาย ดาราดังที่ไปเที่ยวพักผ่อนก็ล้วนเลือกไปที่ที่มีจุดชมวิวสวยงามกันทั้งนั้น ถึงเกาะรูปหัวใจเล็กๆ แห่งนี้จะมีความพิเศษเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้มีเพียงเกาะเดียวบนโลกใบนี้
สิ่งที่น่าตกใจจริงๆ ก็คือคำบรรยายที่เฉินเฟยเอ๋อร์ใส่ไว้ใต้รูปต่างหาก
เกาะเล็กๆ ในมัลดีฟส์แห่งนี้ ที่จริงแล้วเป็นของขวัญจากลู่เฉินที่มอบให้ในวันครบรอบสามปีที่พวกเขาคบกัน!
ในตอนนี้ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนรู้สึกอิจฉาตาร้อนไปหมดแล้ว!
เข้าใจว่าพวกคุณสองคนรักกันมาก แต่การซื้อเกาะในแดนสวรรค์แห่งการพักผ่อนเพื่อเป็นของขวัญวันครบรอบนี่มันก็เกินไปหน่อยไหม
ในวงการบันเทิงมีคู่รักอยู่ไม่น้อย มอบแหวนเพชรหรือรถสปอร์ตให้แก่แฟนสาวในวันเกิดก็มีอยู่มาก มอบวิลล่าหลังใหญ่ให้ตอนแต่งงานก็มีอยู่บ่อยๆ แต่การให้เกาะเล็กๆ มูลค่ากว่าหลายร้อยล้านนี่…
มันเกินจินตนาการของคนส่วนใหญ่ไปมากเลยจริงๆ
ดังนั้นจึงไม่เกินความคาดหมายเลยที่จะสามารถดึงดูดผู้คนในบล็อกล่างฉาวให้ตื่นตาตื่นใจไปกับเรื่องนี้ได้ ไม่เพียงแต่จะยึดครองรายการยอดนิยมในหน้าแรกของบล็อกล่างฉาวได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังถูกแชร์โดยสื่อต่างๆ อีกมากมายเพื่อนำไปพาดบนหัวข้อข่าวบันเทิงด้วยเช่นกัน
หลังจากนั้นไม่นานก็มีสิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถเหนือธรรมชาติได้ขุดจนค้นพบที่มาที่ไปของเกาะนางฟ้า และเมื่ออ้างอิงจากข้อมูลที่เกี่ยวข้องนั้น คาดว่ามูลค่าของเกาะเล็กๆ แห่งนี้อยู่ที่ประมาณ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นั่นก็คือสองร้อยล้านหยวนเลยนะ!
บรรดาแฟนคลับจะต้องกรีดร้องโหยหวนกันอย่างแน่นอนอยู่แล้ว เหล่าดาราสาวในวงการแต่ละคนก็รู้สึกอิจฉาริษยากันทั้งนั้น จึงช่วยไม่ได้ที่จะมีคนออกมาพูดด้วยความอิจฉาอยู่บ้าง
บางคนถึงกับไม่พอใจเป็นอย่างมากกับเรื่องนี้ เขียนบทความกล่าวว่าบนโลกนี้มีคนจนอยู่มากมาย มีเด็กยากจนจำนวนมากที่ต้องการความช่วยเหลือ ลู่เฉินใช้เงินไปถึงสองร้อยล้านเพื่อมอบของขวัญชิ้นนี้ ทำไมถึงไม่นำเงินก้อนนี้ไปทำความดีแทนล่ะ
เมื่อคนดังขึ้นเรื่องก็เยอะขึ้น โดยเฉพาะดาราดังชั้นนำอย่างลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ ทุกการเคลื่อนไหวนั้นล้วนดึงดูดความสนใจ มีคนไม่น้อยที่คอยถือแว่นขยายจ้องจับผิดอยู่ ถึงแม้จะไม่มีเรื่องอะไรก็ยังหาข้อผิดพลาดออกมาจนได้
คนที่พูดจาประหลาดคนนี้เป็นคอลัมนิสต์ที่เคยตีพิมพ์หนังสือออกมาหลายเล่มและมีแฟนคลับหลายแสนคนในบล็อกล่างฉาว นับว่าเป็นคนที่มีชื่อเสียงอยู่บ้างเล็กน้อย โพสต์บล็อกส่วนใหญ่ล้วนเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ตัดสินเหตุการณ์ที่กำลังมาแรง ซึ่งออกแนวไปทางดูถูกเหยียดหยามและเหน็บแนม
เขาวิพากษ์วิจารณ์ลู่เฉินจากมุมมองทางศีลธรรมอันสูงส่งของตน นำมาซึ่งเสียงตอบรับมากมายจากผู้คน ควบคู่ไปกับการหยอกล้อก่อกวนของคนบางกลุ่มที่คิดว่าเป็นเรื่องสนุกและไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร จนสุดท้ายก็มีการแชร์ออกไปมากกว่าหมื่นครั้ง
สุดท้ายกลายเป็นเหมือนการแหย่รังแตน แฟนคลับจำนวนนับไม่ถ้วนไม่พอใจกับคำพูดของเขาและหลั่งไหลกันเข้ามาในพื้นที่แสดงความคิดเห็นทันที ด่าคอลัมนิสต์คนนี้กันอย่างดุเดือดจนเสียหมาไปหมด
เหล่าแฟนคลับไม่ได้ด่าทอใส่ร้ายเขาอย่างไม่มีเหตุผล เฉพาะแค่ปีที่แล้วเพียงปีเดียว ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ทั้งสองคนก็ได้บริจาคเงินให้กับมูลนิธิกองทุนการกุศลเฉินเฟยมากถึง 350 ล้านหยวน และเงินเหล่านี้ก็นำไปใช้เพื่อช่วยเหลือเด็กยากจนและเจ็บป่วยทั้งหมด โดยเฉพาะเด็กที่เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
ตามที่มูลนิธิกองทุนการกุศลเฉินเฟยได้ประกาศออกมา ในปี 2017 มีเด็กยากจนและเจ็บป่วยจำนวนมากถึง 3,000 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือผ่านกองทุน โครงการการกุศลเหล่านี้ล้วนมีข้อมูลบัญชีสาธารณะเปิดเผยได้ทั้งหมด สามารถสืบหาตัวตนของผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือแต่ละคนได้ ซึ่งมีความเปิดเผยและโปร่งใสอย่างแท้จริง
สิ่งสำคัญที่สุดคือ เงินของลู่เฉินไม่ได้มาจากการฉ้อโกง เป็นเงินที่เขาได้รับมันมาจากพรสวรรค์และความสามารถของตนเอง ได้รับมาอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา แล้วการใช้เงินสองร้อยล้านเพื่อให้ของขวัญนี่มันผิดตรงไหน
คอลัมนิสต์คนนี้เคยชินกับการตำหนิผู้อื่นจากมุมมองทางศีลธรรมอันสูงส่งของตน และยังมีความคิดที่จะใช้ประเด็นยอดนิยมนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้คน แต่คาดไม่ถึงว่าเหล่าแฟนคลับของลู่เฉินจะตอบโต้กลับมาได้อย่างดุเดือดขนาดนี้ ทำให้เขาไม่สามารถต้านทานได้ชั่วขณะ
เขาทั้งลบความคิดเห็นและบล็อกคนออกไปจำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็ต่อว่าแฟนคลับของลู่เฉินว่าเป็นพวกไซเบอร์บูลลี่
หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนรีบออกมาแฉเรื่องอื้อฉาวที่เขาเคยทำออกมา บอกว่าปีที่แล้วเขาเคยบริจาคให้กับเด็กยากจนในโครงการหนึ่ง แต่แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ควักเงินออกมาเลยสักหยวน แม้แต่หนังสือที่บริจาคก็ยังเป็นหนังสือขายไม่ออกที่ค้างไว้อยู่ในคลังของตัวเอง และหนังสือเหล่านี้ก็ไม่เหมาะสมที่จะนำไปให้เด็กน้อยอ่าน
คนที่นำเรื่องนี้มาเปิดโปงยังได้แนบหลักฐานเอาไว้ด้วย ลอกคราบเขาเสียจนสะอาดหมดจด ดึงดูดชาวเน็ตจำนวนนับไม่ถ้วนให้มามุงดูเขา
ในตอนนี้คนที่ถูกเรียกว่าเป็นนักเขียนก็ฉาวโฉ่ทันที ต้องปิดบล็อกของตัวเองแล้วทำเหมือนไม่มีตัวตนอยู่อีกต่อไป
“ทุ่มเงิน 27 ล้านดอลลาร์เพื่อเอาใจแฟนสาว…”
ลู่เฉินถูกปลุกขึ้นมาในตอนเช้าด้วยเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ เมื่อรับสายก็ได้ยินเสียงของหลี่มู่ซือที่โทรมาจากปักกิ่ง พูดด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้ว่า “รวยจริงๆ เลยนะ คุณลู่มหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง เมื่อไหร่จะมาช่วยเหลือสาวน้อยคนนี้บ้างล่ะ”
ในรายชื่อคนที่ร่ำรวยของวงการบันเทิงปีที่แล้ว ลู่เฉินอยู่ในอันดับหนึ่ง ดังนั้นบางครั้งเพื่อนๆ ก็จะล้อเลียนเขาว่าเป็นคุณลู่มหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับคนที่เป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งที่แท้จริงแล้ว ความร่ำรวยของเขายังห่างไกลอยู่มาก
คำแซวของหลี่มู่ซือทำให้ลู่เฉินหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “พี่มู่ซือ พี่ยังต้องการความช่วยเหลือจากผมอยู่อีกเหรอ”
“ฉันจนมากเลยนะตอนนี้!”
หลี่มู่ซือพูดอย่างโกรธเคือง “ทั้งหมดก็เป็นเพราะจักรยานแชร์ริ่งอะไรนั่นที่นายโยนมานั่นแหละ เงินส่วนใหญ่ในมือของฉันต้องเอาไปลงทุนกับมันเกือบหมด ตอนนี้แค่จะซื้อกระเป๋าสักใบยังเลือกใบที่ราคาแพงๆ ไม่ได้เลย จะไปเทียบกับนายที่โปรยเงินทีละหลายร้อยล้านได้ยังไง!”
แล้วเธอก็พูดอย่างดีใจในความทุกข์ของคนอื่น “แถมยังโดนคนด่าอีก…”
ลู่เฉินพูดไม่ออก “พี่มู่ซือ เช้าขนาดนี้ พี่ก็ยังจะโทรมาด่าผมอีกเหรอ”
เขาได้เห็นการโต้เถียงที่เกิดขึ้นบนบล็อกทั้งหมดแล้ว เฉินเฟยเอ๋อร์ยังเสียใจและรู้สึกว่าไม่น่าเป็นคนเริ่มจุดชนวนเรื่องนี้ออกไปเลย หัวสมองของเธอถูกความรักทำให้ขาดความรอบคอบไป คิดเพียงแค่อยากให้ทั้งโลกได้เห็นความสุขของตัวเองก็เท่านั้น
“ฉันกำลังช่วยนายอยู่นะ!”
หลี่มู่ซือพูดว่า “ผู้ชายที่พูดมากไม่รู้เรื่องในบล็อกคนนั้นถูกฉันจัดการไปเรียบร้อยแล้ว นายควรจะขอบคุณฉันสักหน่อยไหม”
ลู่เฉินตกตะลึง ไม่น่าแปลกใจเลยที่มีคนออกมาแฉเรื่องราวของคอลัมนิสต์คนนั้นอย่างรวดเร็วขนาดนี้ เป็นฝีมือของหลี่มู่ซือนั่นเอง
“โอเคครับ นับว่าครั้งนี้ผมติดหนี้บุญคุณพี่แล้ว”
หลี่มู่ซือหัวเราะแล้วพูดว่า “ต้องแบบนี้สิถึงจะถูก นายเก็บห้องพักในวิลล่าของเกาะนั้นไว้ให้ฉันสักสองสามห้องสิ มีเวลาว่างฉันจะได้พาเพื่อนๆ ไปเที่ยวเล่น และห้องของฉันจะต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น ห้ามให้คนอื่นเข้ามาพักได้เด็ดขาดเลยนะ”
“อีกอย่าง ไปบอกกับไอ้เจ้าคนที่ชื่อมู่ไป๋ด้วยว่า อย่าคิดว่าไม่รับสายฉันแล้วจะรอดตัวไปได้ สั่งให้เขารีบกลับมาหาฉันที่ปักกิ่งเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นเขาได้เจอดีแน่!”
แล้วลู่เฉินยังจะพูดอะไรได้อีก แน่นอนว่าเขาทำได้แค่ตกปากรับคำไป การเก็บห้องไว้ให้นั้นเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย ส่วนเรื่องของเจ้าเด็กน้อยหลี่มู่ไป๋ ก็ต้องปล่อยให้จัดการกันเองภายในครอบครัวแล้ว
…………………………………………………………………………