Perfect Superstar - ตอนที่ 877 ภูมิใจ
ตอนที่ 877 ภูมิใจ
ในฐานะดาราดังที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในวงการบันเทิงของประเทศจีนอยู่ในขณะนี้ และยังครอบครองบริษัทในนามตัวเองอีกหลายแห่ง มูลค่าทรัพย์สินของลู่เฉินที่สูงเช่นนี้ ไม่มีใครในวงการสามารถเปรียบเทียบได้
และการจัดอันดับความมั่งคั่งของวงการบันเทิงรอบล่าสุด ลู่เฉินได้อันดับที่หนึ่ง มีมูลค่าทรัพย์สินสามพันเจ็ดร้อยล้านหยวน
แต่คนในวงการโดยทั่วไปคิดว่านี่คือการประเมินที่ต่ำเกินไป ทรัพย์สินของลู่เฉินมีอย่างน้อยห้าพันล้านหยวนขึ้นไป และในอนาคตจะพุ่งสู่หมื่นล้านก็ไม่ใช่ปัญหา มีคุณสมบัติครบสามารถเข้าร่วมการแข่งขันจัดอันดับเศรษฐีได้อย่างสิ้นเชิง
เกาเฮ่อถึงแม้จะไม่สามารถเทียบกับลู่เฉินได้ แต่เขาก็มีหุ้นส่วนสิบเปอร์เซ็นต์ในแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์ และตอนนี้มูลค่าทรัพย์สินของแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์ก็อยู่ที่ประมาณสามพันล้าน สิบเปอร์เซ็นต์ก็คือสามร้อยล้าน
มหาเศรษฐีสองคนกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารเล็กๆ ในโฮ่วเจียที่เต็มไปด้วยกลิ่นน้ำมัน ดื่มเบียร์ซีหูราคาขวดละสามหยวน กินปลาไนต้มผักดองเสฉวนราคายี่สิบแปดหยวน กับเต้าหู้ทรงเครื่องสไตล์เสฉวนราคาสิบหยวน…
แต่กลับมีความสุขเป็นอย่างมาก
“นายรู้ไหม ตอนที่ฉันอยู่เมืองหลวง ฉันมักจะนึกถึงปลาไนต้มผักดองเสฉวนของที่นี่บ่อยๆ…”
ลู่เฉินคีบเนื้อปลานุ่มๆ ชิ้นใหญ่ยัดเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย พูดอู้อี้ไม่ชัดเจน “จากนั้นก็ลองไปหากินที่ร้านอื่น แต่รู้สึกว่าไม่ได้รสชาตินี้!”
ปลาต้มผักดองเสฉวนของร้านอาหารเสฉวนร้านนี้ทำได้ยอดเยี่ยมที่สุด วัตถุดิบสำคัญคือปลาเฉาสดๆ ผักดองที่หมักเอง แล้วก็ยังมีเครื่องปรุงรสต่างๆ กับพริกที่เอามาจากมณฑลเสฉวน ความสด หอม เผ็ด และเปรี้ยวยากที่จะห้ามคนให้อดใจไหว
เมื่อก่อนตอนที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเจียงไห่ ลู่เฉินและเพื่อนๆ ร่วมหอมักจะมากินที่นี่เพื่อเซ่นไหว้ฟันเป็นประจำ ปลาต้มผักดองเสฉวนเป็นหนึ่งในเมนูที่ต้องสั่ง
“เป็นสัตว์เหรอ กินเร็วขนาดนี้!”
เกาเฮ่อรีบแย่งหางปลาอย่างรวดเร็ว พลางหัวเราะฮิๆ เอ่ยว่า “อย่างนั้นฉันมีความสุขมากกว่านาย”
ขณะที่พูด เขาก็คีบเนื้อปลาอย่างเร็ว พ่อหนุ่มสองคนที่ทำเงินหลายแสนหยวนต่อนาที กลับทะเลาะกันใช้ตะเกียบแย่งปลาต้มผักดองเสฉวนราคายี่สิบแปดหยวน
ตอนนี้ถือว่าดีมาก หากเป็นเมื่อก่อนสี่คนแย่งอาหารจานเดียวกันเรียกได้ว่าโอเวอร์เหลือเกิน แต่แย่งกันถึงอร่อยที่สุด!
“ไม่…ไม่ทราบว่าคุณคือรุ่นพี่ลู่เฉินหรือเปล่าคะ”
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังแย่งกันอย่างสนุกสนาน ทันใดนั้นข้างๆ ก็มีเสียงคนถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ
คนที่ถามเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ เธอจ้องมองลู่เฉินตาไม่กะพริบ ในดวงตาโตเต็มไปด้วยแววตาตื่นเต้นและดีใจ ใบหน้าอมชมพูแดงระเรื่อเล็กน้อย
โต๊ะเดียวกันกับเธอยังมีผู้หญิงอีกสามคน ล้วนทำสีหน้าเหมือนค้นพบดินแดนแห่งใหม่
“แค่กๆ!”
เกาเฮ่อที่กลืนผักดองเข้าไป เกือบจะสำลัก
ถูกคนจำได้แล้วเหรอ
ลู่เฉินอยากจะพูดว่า ‘ผมไม่ใช่ลู่เฉินแค่หน้าตาเหมือนเท่านั้น’ จากนั้นก็หยิบแว่นกันแดดที่วางอยู่บนโต๊ะตัวเล็กขึ้นมาใส่อีกครั้ง
แต่พอคิดว่ายิ่งปกปิดยิ่งชัดเจน ดังนั้นเขาจึงยิ้มเล็กน้อยพูดกับผู้หญิงคนนั้นว่า “สวัสดีครับน้อง”
ในเมื่อเรียกเขาว่า ‘รุ่นพี่’ เช่นนั้นก็ต้องเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเจียงไห่เช่นกัน
“อ๋า!”
ถ้าหากบอกว่าเมื่อครู่ผู้หญิงคนนี้แทบไม่อยากจะเชื่อ อย่างนั้นตอนนี้เธอก็มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว จึงส่งเสียงกรี๊ดดีใจออกมาทันที
พอกรี๊ดขึ้นมาเท่านั้นแหละ ความสนใจของทุกคนที่อยู่ในร้านอาหารล้วนถูกดึงดูดเข้ามา
เป็นช่วงเวลากินข้าวพอดี ภายในร้านอาหารเสฉวนที่นั่งเต็มทุกที่นั่ง นั่งเบียดกันหลายสิบคน และส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเจียงไห่ พวกเขาจำลู่เฉินได้ทันที
คราวนี้เกิดความฮือฮาในร้านอาหาร!
ลู่เฉินเป็นหนึ่งในศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยเจียงไห่ที่มีชื่อเสียง และเป็นรุ่นพี่คนหนึ่งที่คุ้นเคยและน่าภาคภูมิใจที่สุดในมหาวิทยาลัยขณะนี้
ความสำเร็จในหน้าที่การงานของเขา เรื่องราวต่างๆ ของเขา เกือบจะเป็นตำนานในหมู่อาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเจียงไห่
ทุกคนเคยฟังเพลงของเขา เคยดูละครและภาพยนตร์ของเขา…
ตอนนี้บุคคลในตำนานมาอยู่ต่อหน้าพวกเขาและพวกเธอ กำลังนั่งกินอาหารเสฉวนเหมือนกัน ความรู้สึกที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจไม่ต้องคิดก็จินตนาการได้
โชคที่พวกนักศึกษามีมารยาทดี ไม่ทำตัวเป็นแฟนคลับสมองกลวง ไม่กระโจนเข้ามากอดขอลายเซ็นถ่ายรูปทันทีแต่ทยอยหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปลู่เฉินกันยกใหญ่ แล้วโพสต์ลงในกลุ่มเฟยซวิ่นกับโมเมนต์เป็นอันดับแรก
ลู่เฉินหันไปยิ้มเจื่อนๆ ให้เกาเฮ่อ สงสัยอาหารมื้อนี้คงกินต่อไม่ได้แล้ว
เขารู้ดีว่าแฟนคลับของตัวเองน่ากลัวมากแค่ไหน ถ้าหากมีคนรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ เกรงว่าใช้เวลาไม่นานคงล้อมถนนโฮ่วเจียจนแน่นขนัด ถึงตอนนั้นอยากจะเดินออกคงไม่ง่าย
ผู้หญิงคนนั้นหยิบสมุดและปากกาออกมาจากกระเป๋า ยื่นให้ลู่เฉินเหมือนกับสิ่งล้ำค่า “รุ่นพี่ลู่เฉิน ฉันเป็นแฟนคลับของพี่ค่ะ ขอลายเซ็นหน่อยได้ไหมคะ”
ลู่เฉินใจดีกับแฟนคลับเสมอ นับประสาอะไรกับอีกฝ่ายที่เป็นรุ่นน้องของเขา เขาพยักหน้าหยิบปากกา แล้วเซ็นชื่อลงบนสมุดอย่างรวดเร็ว
มีรุ่นน้องคนนี้สาธิตเป็นตัวอย่างแล้ว รุ่นน้องคนอื่นทั้งผู้ชายและผู้หญิงจึงเริ่มเคลื่อนไหวไม่อาจรักษาอาการสงบเสงี่ยมได้อีก ต่างกรูกันเข้ามาขอลายเซ็นหรือไม่ก็ขอถ่ายรูปเขียนข้อความ
เกาเฮ่อจึงต้องช่วยรักษาความสงบเรียบร้อย เขามีรูปร่างสูงใหญ่จึงถูกคนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าเป็นผู้ช่วยของลู่เฉินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ลู่เฉินไม่ได้วางมาดดาราดัง เขาไม่ปฏิเสธคำขอของพวกเธอ ไม่ว่าจะลายเซ็นหรือถ่ายรูป ล้วนตอบสนองทั้งหมดทว่านี่ทำให้เถ้าแก่ของร้านอาหารอยากร้องไห้แต่ร้องไห้ไม่ออก…ทุกคนไม่กินข้าวเปลี่ยนไปตามดารากันหมดแล้ว!
“คุณคือรุ่นพี่เกาเฮ่อใช่ไหมครับ”
และแล้วก็มีนักศึกษาจำเกาเฮ่อได้
เกาเฮ่อทำหน้างุนงง “เอ่อ ใช่ครับ คุณรู้จักผมเหรอ”
เมื่อครู่คนอื่นคิดว่าเขาเป็นผู้ช่วยหรือบอดี้การ์ดของลู่เฉิน แต่คาดไม่ถึงว่าจะมีคนรู้จักเขาเหมือนกัน
“คุณกับรุ่นพี่ลู่เฉินเหมือนกัน เป็นความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัยเจียงไห่ของพวกเราครับ!”
ผู้ชายคนนั้นที่จำเขาได้ยิ้มพูดว่า “ซีอีโอของแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์ ผมเคยเล่น ‘แฮปปี้ฟาร์ม’ ‘พืชปะทะซอมบี้’ ‘แอ็งกรีเบิดส์’ สนุกมากครับ กำลังรอเปิดตัวเกมใหม่อยู่นะครับ!”
เกาเฮ่อถูกชมรู้สึกเขินเล็กน้อย เพราะเขาคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะกลายเป็นความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัยเจียงไห่
อันที่จริงพี่ใหญ่เกาเป็นหนุ่มไอทีติดบ้าน ตอนนี้ยังไม่ชินกับตำแหน่งของตัวเองในวงการธุรกิจอย่างสิ้นเชิง แฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์เปิดตัวเกมอย่างต่อเนื่องและขายดีถล่มทลาย ดูเหมือนกลายเป็นเสาหลักของเกมมือถือที่ผลิตในประเทศไปโดยปริยาย
แฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาสามารถพูดได้ว่าถูกลอกเลียนแบบมาตลอด แต่ไม่เคยถูกแซงหน้าเลย กระแสเกมมือถือที่บริษัทสร้างขึ้นถูกมองเป็นตัวอย่างสุดคลาสสิคสำหรับการพัฒนาเกม ถูกคนในวงการธุรกิจนำไปศึกษาวิจัยมากมายนับไม่ถ้วน
ในฐานะบุคคลแถวหน้าที่สำคัญที่สุดของแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์ เกาเฮ่อไม่ใช่สุนัขไอทีที่ตรากตรำทำงานระดับล่างในตอนแรกอีกต่อไป เขาได้ทิ้งเรื่องเล่าของตัวเองไว้ให้นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเจียงไห่เฉกเช่นเดียวกัน
ทว่าเกาเฮ่อปกติจะมุดตัวอยู่ในทีมผลิตเกมใหม่มากกว่า งานประจำวันของบริษัทบริหารจัดการโดยภรรยาและผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆ น้อยมากที่เขาจะโผล่มาอยู่เบื้องหน้าจริงๆ ดังนั้นจึงไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากนัก
นอกจากนี้ในใจของเขาคิดมาตลอดว่า สิ่งที่ตัวเองได้รับทุกอย่างมีต้นกำเนิดมาจากการช่วยเหลือและการสนับสนุนของลู่เฉิน ไม่มีอะไรคู่ควรให้ภูมิใจหรือโอ้อวด
แต่ลู่เฉินกลับคิดว่า ไม่มีความพยายามและความขยันของเกาเฮ่อ แฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์คงไม่เจริญรุ่งเรืองขนาดนี้
ความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัยเจียงไห่ เขาคู่ควรได้รับเช่นกัน!
…………………………………………………………………………