Perfect Superstar - ตอนที่ 883 เครื่องลายคราม
ตอนที่ 883 เครื่องลายคราม
หลายคนคิดว่า ความสำเร็จด้านดนตรีของลู่เฉินนั้นเกินหน้าด้านอื่นไกลโข ถึงแม้ละครและภาพยนตร์ที่เขาถ่ายทำจะดังมาก แต่ก็เทียบไม่ได้กับการอุทิศตนให้แก่วงการเพลงป็อปจีน
ผลงานสร้างสรรค์ของลู่เฉินในช่วงแรกสุดเป็นผลงานแนวบัลลาด และยังเป็นเพลงบัลลาดร่วมสมัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย เป็นผู้นำกระแสเพลงป็อปของประเทศจีน และยังทำให้เกิดนักร้องเพลงบัลลาดขึ้นมากลุ่มหนึ่ง
จากนั้นผลงานสร้างสรรค์ของเขาได้คาบเกี่ยวกับเพลงซอฟต์ร็อกและเพลงรักที่ได้รับการต้อนรับในวงกว้างอย่างล้นหลาม นอกจากนี้ยังมีเพลงธีมและผลงานเพลงสไตล์พื้นบ้านที่ได้รับความนิยมชมชอบไปทั่ว และยังได้ขยายฐานแฟนเพลงของตัวเองอีกด้วย
ด้านดนตรีป็อป ลู่เฉินใช้ผลงานเพลงคลาสสิคยอดเยี่ยมแต่ละเพลง วางรากฐานให้กับตำแหน่งราชาเพลงป็อปจีนของตัวเองได้อย่างมั่นคง นอกจากอิทธิพลขนาดใหญ่ในประเทศแล้ว ผลงานมากมายของเขาถูกคนนำไปร้องคัฟเวอร์และเป็นที่นิยมในหลายประเทศทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ก็มีแฟนคลับอยู่ไม่น้อย
สไตล์การสร้างสรรค์หลากหลายรูปแบบนี้ คือตราประทับที่ชัดเจนสำหรับความสำเร็จด้านดนตรีของลู่เฉินอย่างไม่ต้องสงสัย ผลงานทุกเพลงของเขาถูกผู้เชี่ยวชาญในวงการนำไปศึกษาวิจัย สำหรับบริษัทสื่อบันเทิงและแผ่นเสียงที่มีประสาทสัมผัสไวต่อตลาดมากที่สุดเหล่านั้น ยิ่งให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของลู่เฉินตลอดเวลา รวมทั้งนักร้องที่ทำผลงานสร้างสรรค์หลายๆ คนด้วย
ไม่มีอะไรคู่ควรกับความสนใจของพวกเขามากไปกว่าการติดตามเพลงใหม่ของลู่เฉิน คอนเสิร์ตส่งท้ายปีเก่าของสถานีโทรทัศน์เจ้อตงในคืนนี้ ในกลุ่มคนที่กำหนดไว้เป็นพิเศษจะต้องได้เรตติ้งที่ยากจะเทียบได้แน่นอน
พวกเขาใช้ทีวี คอมพิวเตอร์ หรือไม่ก็โทรศัพท์ ฟังผลงานเพลงข้ามปีของลู่เฉินไปพร้อมกัน เป็นผลงานเพลงใหม่ที่ถูกลู่เฉินนำไปรวมไว้ในอัลบั้มที่สามของเขา
ไม่แน่เพลงใหม่นี้อาจจะเป็นกระแสใหม่ของวงการเพลง!
“ขึ้นโครงร่างเขียนลายคร่าวๆ บนกระเบื้องขาว ปลายพู่กันตวัดเส้นหนักสลับพลิ้วไหว
ภาพลายโบตั๋นอ่อนช้อยที่พรรณนาเรียบร้อยบนผิวแจกัน เรียบง่ายดั่งเจ้าที่แม้ประดับเครื่องแต่งกายแค่เพียงเล็กน้อย
กลิ่นจันทร์หอมเย็นค่อยๆ โชยผ่านบานหน้าต่างเข้ามา สุดท้ายความในใจของข้าก็พลันกระจ่างแจ้ง
บนกระดาษเซวียนปลายพู่กันจรดตวัดรวดเร็วมาถึงครึ่งทางก็หยุดลง
ระบายสีเคลือบงดงาม เทพธิดาแสนสวยในภาพวาดเก็บซ่อนเสน่ห์เย้ายวนลึกซึ้งของนางไว้
รอยยิ้มพริ้มพรายของเจ้า ราวกับกลีบบุปผาที่ยังไม่ผลิดอกแย้มบาน
…”
บทเพลง ‘เครื่องลายคราม’[1] เป็นผลงานชิ้นเอกสไตล์จีนเพลงหนึ่ง มันเล่าถึงความเศร้าโศกของการจากลาของคนรักได้อย่างนุ่มนวลละเอียดอ่อน ซ่อนเร้นอารมณ์ที่แฝงไปด้วยความงดงามมีเสน่ห์ ราวกับการลิ้มรสสมอจีนที่อร่อยติดลิ้นอยู่ในปากอย่างช้าๆ
จากความหมายของเพลง บทเพลงนี้อย่างแรกทำให้ผู้คนมองเห็นภาพแม่น้ำเจียงหนานที่ปกคลุมไปด้วยสายฝนโปรยปราย ท่ามกลางการแรเงาสีอ่อนๆ มองเห็นหญิงอันเป็นที่รักสวมอาภรณ์สีขาวสะบัดพลิ้วตามสายลมอยู่รำไร เนื้อเพลงงดงามท่วงทำนองไพเราะชวนสิเน่หา ดุจดังปลายพู่กันที่เขียนแสดงความในใจที่สวยงาม เหมือนความรักของคู่รักที่มีจุดเปลี่ยนพลิกผันมากมาย ละเมียดละไมสุดๆ
ส่วนในด้านทำนองดนตรี ‘เครื่องลายคราม’ เหมือนดังธารน้ำพุระหว่างซอกเขาที่ไหลอยู่บนก้อนหินอย่างเงียบๆ เย็นสดใสสลับซับซ้อนไพเราะเพราะพริ้ง ‘เครื่องลายคราม’ งดงามทรงคุณค่าในตัวเอง เรียบง่ายและสง่าไร้ซึ่งมลทิน!
และที่น่าประทับใจที่สุดก็คือ การถ่ายทอดบทเพลงนี้ของลู่เฉิน ลึกซึ้งแต่ไม่เลี่ยนน่าเบื่อ สดใสดังกังวานแต่ไม่เปราะบาง ราวกับการบรรยายที่เจื้อยแจ้วอันไพเราะ รื่นหูน่าฟังซาบซึ้งใจ
“…
สีครามที่รอคอยวันครึ้มฝน
ก็เฉกเช่นข้าที่เฝ้าคอยเจ้ากระนั้น
ไอเกลียวควันขาวลอยขึ้นสู่อากาศ
ไกลห่างกันพันหมื่นลี้ประดุจแม่น้ำขวางกั้น
ที่ด้านล่างของแจกันข้าบรรจงวาดตัวอักษรลี่ซูอันงดงามละมุนเอาไว้
แฝงความนัยเกี่ยวกับเรื่องราวเมื่อครั้งที่เราได้พบกัน
…”
หังโจวเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก เธอประดุจเหมือนหญิงงามผู้แสนอ่อนโยน แต่งหน้าหนาบางที่ทะเลสาบซีหูเปลี่ยนเป็นหมอกฝนเจียงหนานราวกับเวทมนต์ ชาหลงจิ่งหอมฟุ้งไปทั่วภายใต้ดอกกุ้ยฮวาที่หม่านหลง หนึ่งความหมายลึกซึ้งหนึ่งความสง่างาม
เมืองแห่งนี้กับเพลง ‘เครื่องลายคราม’ ในด้านความงามมีความคล้ายคลึงกันเกือบสมบูรณ์ ดังนั้นจึงถูกลู่เฉินนำมาเป็นเพลงใหม่สำหรับคอนเสิร์ตในคืนนี้
เพลง ‘เครื่องลายคราม’ เป็นเพลงดีที่ต้องค่อยๆ ลิ้มรสขบคิดอย่างละเอียดเช่นกัน มันจะไม่ให้ความรู้สึกกระทบจิตใจอย่างรุนแรง แต่ยิ่งฟังจะยิ่งรู้สึกมีรสชาติ!
ท่ามกลางเสียงปรบมือและตะโกนดั่งน้ำขึ้น ลู่เฉินร้องเพลง ‘เครื่องลายคราม’ จบแล้วจึงโค้งคำนับขอบคุณจากนั้นลงจากเวที
คืนนี้เขาต้องบินกลับเมืองหลวง
ตอนที่ลู่เฉินนั่งเครื่องบินไปแล้ว บนบล็อกล่างฉาวมีคลิปวิดีโอตัดต่อของงานคอนเสิร์ตโผล่ขึ้นมาเป็นจำนวนมากเพลง ‘เครื่องลายคราม’ ติดอันดับคำค้นหายอดฮิตในหน้าแรกโดยตรง
และผู้ที่ส่งเสียงสะท้อนได้คึกคักที่สุดก็คือพวกนักวิจารณ์เพลง
พวกเขารักและชื่นชมเพลงนี้เป็นอย่างยิ่ง มีนักวิจารณ์เพลงบางคนมองว่าเป็นความก้าวหน้าทางด้านดนตรีของลู่เฉิน ทำนายว่าจะนำมาซึ่งกระแสใหม่ ทำให้ผู้คนรอคอยอัลบั้มใหม่ของลู่เฉินที่จะออกจำหน่ายในวันพรุ่งนี้ยิ่งกว่าเดิม
เว้นระยะห่างไปเกือบสองปี ในที่สุดลู่เฉินก็ออกอัลบั้มที่สามของตัวเอง โดยใช้ชื่อของเขาเป็นชื่ออัลบั้มชุดนี้ แค่เริ่มต้นก็ได้รับความสนใจจากแฟนเพลงและคนในวงการอย่างกว้างขวางแล้ว
จนกระทั่งวันที่ 25 ธันวาคมหรือวันคริสต์มาส ยอดจองอัลบั้ม ‘ลู่เฉิน’ มีจำนวนเกินหนึ่งล้านชุด แน่นอนว่ายอดจองนี้ครอบคลุมถึงเซ็ตอัลบั้มหลากหลายแบบ จากซีดีแท้ที่ถูกที่สุดในราคา 20 หยวนไปจนถึงแพ็กเกจทองชุดที่ระลึกราคา 8,888 หยวนล้วนนับรวมอยู่ในนี้ทั้งหมด
นี่เป็นผลงานที่สามารถเชิดใส่เพื่อนร่วมสายอาชีพเดียวกันได้อย่างภาคภูมิใจ เพราะการจองออนไลน์ต้องจ่ายเงินทั้งหมด ดังนั้นอัลบั้มชุดนี้ยังไม่ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เฉินเฟยมีเดียก็ทำยอดได้เกินหนึ่งร้อยล้านหยวนแล้ว หักต้นทุนการผลิต ช่องทางการจำหน่าย การโฆษณา และภาษี อย่างน้อยได้กำไรสามสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป
สำหรับนักร้องคนอื่น นี่คือปาฏิหาริย์ที่ยากจะจินตนาการได้ เพราะนักร้องเพลงป็อปในปัจจุบันนี้น้อยมากที่อาศัยการทำกำไรจากอัลบั้มของตัวเอง ทุกคนเลือกที่จะหาเงินจากช่องทางอื่น เช่น โฆษณา ธุรกิจ งานบันเทิง เป็นต้น หากมัวแต่รักษาพื้นที่เล็กๆ ของตัวเองไว้ขายอัลบั้ม ถึงไม่สิบก็มีแปดมีเก้าที่ต้องอดตาย
และต่อให้ขายอัลบั้มได้ หลักๆ แล้วก็ต้องเดินบนเส้นทางของอัลบั้มออนไลน์ ขายได้หมื่นกว่าชุดหรือแสนชุดก็ควรค่าที่จะจัดเวทีเฉลิมฉลองแล้ว เพราะถึงแม้ตอนนี้การควบคุมการละเมิดสิขสิทธิ์จะเข้มงวด ทว่าการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงป็อปนั้นยากที่จะหลีกเลี่ยงและยับยั้งได้จริงๆ
ด้านหนึ่งเพียงแค่คลิกเมาส์ก็สามารถดาวน์โหลดเพลงใหม่ล่าสุดได้ อีกด้านหนึ่งจำเป็นต้องใช้เงินซื้อ นี่คือบททดสอบนิสัยมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คนที่ยอมซื้อจริงๆ ส่วนใหญ่ก็คือแฟนเพลง
และในด้านนี้ ความนิยมที่น่ากลัวของลู่เฉินที่สะสมมาตลอดสองสามปี ได้ปะทุออกมาอย่างรุนแรง!
ตอนที่ลู่เฉินกลับถึงบ้านที่เมืองหลวง ก็เป็นเวลาตีสามกว่าของวันที่ 1 มกราคม ปี 2019 แล้ว เขาไม่ได้ต้อนรับการมาถึงของปีใหม่พร้อมกับเฉินเฟยเอ๋อร์ รู้สึกเสียใจอยู่ไม่มากก็น้อย
พอวางสัมภาระ ลู่เฉินก็หยิบเสื้อผ้าสะอาดออกมาจากในตู้เสื้อผ้าแล้วเข้าไปอาบน้ำร้อนในห้องอาบน้ำ
หลังจากเป่าผมจนแห้ง เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเขย่งเท้าเดินเข้าห้องนอน
โคมไฟเล็กสว่างอยู่ภายในห้องนอน แสงไฟสีนวลส่องกระทบลงบนเตียงนอนขนาดใหญ่ เฉินเฟยเอ๋อร์ห่มผ้านวมนอนหลับสนิทอยู่ในความฝัน ใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝันหวานเรื่องอะไร
ลู่เฉินค่อยๆ เปิดผ้าห่มแล้วมุดตัวเข้าไป กลิ่นหอมอันอบอุ่นลอยมาปะทะจมูกในทันใด เขาจึงถอนหายใจโล่งอกอย่างสบายใจ และรู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว
ความรู้สึกที่ได้กลับบ้านมันดีจริงๆ!
เขาโน้มตัวจูบหน้าผากของเฉินเฟยเอ๋อร์หนึ่งที แล้วยื่นมือเตรียมจะปิดไฟ
ในเวลานี้เอง เฉินเฟยเอ๋อร์ส่งเสียงงัวเงีย เพิ่งตื่นขึ้นมาจากความฝัน เธอกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะมองเห็นลู่เฉินนอนอยู่ข้างกาย
…………………………………………………………………………
[1] 《青花瓷》เพลง เครื่องลายคราม เนื้อร้องโดย ฟางเหวินซาน (方文山) ทำนองโดย โจวเจี๋ยหลุน (周杰伦)
————————————-