Perfect Superstar - ตอนที่ 884 ฉันอยากบอกให้โลกรู้
ตอนที่ 884 ฉันอยากบอกให้โลกรู้
“นายกลับมาแล้วเหรอ…”
ดวงตาที่สะลึมสะลือพยายามลืมขึ้น เฉินเฟยเอ๋อร์พึมพำเบาๆ “ตอนนี้กี่โมงแล้ว”
ลู่เฉินยื่นมือสอดเข้าไปที่ต้นคอด้านหลังของเธอ ดึงเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พลางเอ่ยว่า “เพิ่งกลับมาครับ ตอนนี้ยังเช้าอยู่ คุณนอนเถอะ”
เฉินเฟยเอ๋อร์นอนตะแคงแล้วกอดลู่เฉินอย่างแน่น เธอปรับท่าทางอีกครั้ง เพื่อให้ตัวเองนอนสบายยิ่งขึ้น ถูไถศีรษะไปมาอยู่ในอ้อมอกของลู่เฉิน เหมือนกับแมวที่ต้องการความรัก แถมยังกัดเบาๆ หนึ่งทีด้วยความซุกซน
ลู่เฉินหัวเราะ รู้สึกสงบใจและมีความสุข พึงพอใจเป็นที่สุด
ทั้งสองคนนอนอิงแอบซบกันอย่างนี้ ไม่พูดไม่จา ต่างฝ่ายต่างสัมผัสได้ถึงความรักและความอบอุ่นของกันและกัน และอยากให้เวลาหยุดลงตรงนี้ตลอดไป
ลู่เฉินเป็นดาราชายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศ เฉินเฟยเอ๋อร์ก็มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการเป็นดาราหญิงที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ทั้งสองคนมีธุรกิจร่วมกันและก็มีหน้าที่การงานของแต่ละคนด้วย เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันยังไม่นานเท่ากับเวลาที่ทำงานด้วยกัน
ดังนั้นไม่ว่าลู่เฉินหรือเฉินเฟยเอ๋อร์ ต่างทะนุถนอมช่วงเวลาส่วนตัวที่พวกเขาทั้งสองคนได้อยู่ด้วยกันเป็นพิเศษ เพื่อให้ทั้งสองคนเป็นที่พักพิงทางใจของกันและกันท่ามกลางชีวิตที่ยุ่งและวุ่นวาย
ความง่วงบุกโจมตี ตลอดการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อยทำให้ลู่เฉินอดไม่ได้ที่จะหาวหวอด
ทว่าในเวลานี้ เฉินเฟยเอ๋อร์กลับพูดขึ้นมากะทันหัน “ฉัน…ฉันมีเรื่องอยากจะบอกนาย”
สมองของลู่เฉินรู้สึกมึนงงเล็กน้อย แล้วจึงถามเมื่อได้สติ “เรื่องอะไรครับ”
เขาฟังไม่ออกถึงน้ำเสียงที่ลังเลและไม่สบายใจของแฟนสาว
เฉินเฟยเอ๋อร์กัดริมฝีปาก เอ่ยพูดเบาๆ “ฉันมีแล้ว”
“หืม…”
ลู่เฉินใช้ปลายลิ้นแตะเพดาน ถามอย่างงุนงง “มีอะไรเหรอครับ”
วินาทีต่อมา เหมือนกับมีสายฟ้าฟาดลงมาในหัวสมองของเขาในชั่วพริบตา ทำให้สติสัมปชัญญะของเขาชัดเจนกระจ่างแจ้งทันที!
ลู่เฉินเบิกตาโพลง ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ “คุณจะบอกว่า…ท้องแล้ว?”
เฉินเฟยเอ๋อร์กอดเขาแน่น ซุกอยู่ในอ้อมอกของเขาพลางพยักหน้า
“หา!”
ความรู้สึกตื่นเต้นดีใจผุดขึ้นมาในใจ และปกคลุมไปทั่วทั้งตัวของลู่เฉิน เขารู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อตตั้งแต่ศีรษะจรดฝ่าเท้า ตัวสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว
เขาจะเป็นพ่อคนแล้ว
วินาทีนี้ลู่เฉินอยากจะประกาศให้โลกรู้…เขาจะเป็นพ่อคนแล้ว!
ความดีใจและความสุขมาอย่างไม่ทันตั้งตัว เขารู้สึกไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย รีบถามอย่างอดใจรอไม่ไหว “คุณรู้ตั้งแต่เมื่อไร ไปตรวจที่โรงพยาบาลหรือยัง นานแค่ไหนแล้ว”
อันที่จริงหากลองคิดอย่างละเอียด ช่วงก่อนหน้านั้นที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันก็ไม่ค่อยได้ป้องกันเท่าไรนัก โดยเฉพาะตอนที่อารมณ์รักพุ่งขึ้นมาก็ไม่สนใจอะไรมาก เฉินเฟยเอ๋อร์ท้องจึงไม่ใช่เรื่องเกินคาดที่พิเศษใหญ่โตอะไร
เฉินเฟยเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นมาจากอ้อมอกของเขา หน้าแดงก่ำ “รู้สึกสงสัยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนที่นายไปหังโจว ฉันเลยไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาอันหนึ่ง จากนั้นก็ไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลเมื่อสองวันก่อน มีได้สี่อาทิตย์กว่าแล้ว”
ลู่เฉินอดไม่ได้ที่จะบ่น “เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมคุณไม่บอกผมเร็วๆ”
เฉินเฟยเอ๋อร์เบ้ปากเอ่ยว่า “ฉันกลัวจะกระทบงานของนาย แล้วก็แค่วันสองวันเท่านั้น…”
เธอมองลู่เฉินจริงจัง นัยน์ตามีแต่ความกระวนกระวายใจ “นาย นายคงไม่รู้สึกไม่ดีใจใช่ไหม”
ลู่เฉินตกตะลึง ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ผมจะไม่ดีใจได้ยังไง ผมดีใจ…มากๆ เลยครับ!”
เวลานี้ ลู่เฉินสัมผัสถึงความอ่อนแอและความกระสับกระส่ายในใจของเฉินเฟยเอ๋อร์ได้ในที่สุด เขาโอบกอดเธอแน่นทันที “เฟยเอ๋อร์ พวกเราแต่งงานกันเถอะ!”
ประโยคนี้เขาอยากจะพูดนานแล้ว ถึงแม้พูดตอนนี้จะถือว่าสายไปหน่อย แต่พูดออกมาก็ถือว่าดีแล้ว!
เฉินเฟยเอ๋อร์สั่นไปทั้งตัว นัยน์ตาเป็นประกายแวววาว
เธอจะไม่บอกลู่เฉินว่าตัวเองรอเขาพูดประโยคนี้มาตลอด
เนื่องจากความสัมพันธ์ทางครอบครัว เธอจึงรู้สึกหวาดกลัวชีวิตการแต่งงานที่ต้องอยู่ร่วมกันของทั้งสองคนขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเห็นการรักๆ เลิกๆ ของชายหญิงในวงการมามาก ความรู้สึกที่มีต่อลู่เฉินจึงไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม
จนกระทั่งตอนนี้ ได้ยินคำขอร้องที่แน่วแน่ของลู่เฉินอย่างหาที่เปรียบมิได้ ในที่สุดเธอจึงมองเห็นภายในจิตใจของตัวเองอย่างชัดเจน
พวกเราแต่งงานกันเถอะ!
เฉินเฟยเอ๋อร์พยักหน้าอย่างแรง น้ำตาไหลลงมาจากมุมตา
“ไม่ต้องร้องไห้…”
ลู่เฉินรู้สึกเอ็นดูและสงสารมาก รีบจูบซับน้ำตาบนใบหน้าของเธอทันที “แบบนี้จะไม่ดีต่อลูกในท้อง”
เฉินเฟยเอ๋อร์ถูไถกับชุดนอนของเขาอย่างแรง เช็ดน้ำตาแล้วพูดอย่างแง่งอนว่า “ตอนนี้ก็เริ่มเป็นห่วงลูกแล้ว อนาคตคงจะรักลูกมากกว่าฉันใช่ไหม”
ลู่เฉินรู้ว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดด้วยเหตุผล รีบปลอบใจว่า “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง ผมรักลูกแล้วก็รักคุณด้วย พวกคุณสำคัญมากที่สุดครับ!”
เฉินเฟยเอ๋อร์ทำเสียงฮึดฮัดหนึ่งที พูดอย่างไม่พอใจ “รู้จักพูดเอาใจฉัน ใครจะไปรู้ว่าในใจนายคิดยังไง”
ลู่เฉินได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ
ทว่าอารมณ์ของเฉินเฟยเอ๋อร์ถือว่าสงบลงแล้ว เธอซบเข้าไปในอ้อมกอดของลู่เฉินอีกครั้ง ถามเบาๆ ว่า “นายชอบลูกชายหรือว่าลูกสาว นายคิดว่าคุณน้าจะชอบลูกชายมากกว่าไหม”
ลู่เฉินยิ้มเอ่ยว่า “แม่ของผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ผมชอบลูกสาวมากกว่า มีประโยคหนึ่งพูดว่าอะไรนะ ลูกสาวเป็นเหมือนแก้วตาดวงใจของพ่อ!”
เฉินเฟยเอ๋อร์หยิกเขาหนึ่งที “หรือว่าลูกสาวคือคนรักในชาติก่อนของนายล่ะ!”
ลู่เฉินยอมแพ้ “จริงๆ แล้ว พวกเรามีลูกสักสองสามคนก็ได้นะ มีทั้งลูกชายลูกสาวคึกคักสนุกดี”
เฉินเฟยเอ๋อร์หยิกแรงๆ อีกครั้ง “นายมองฉันเป็นหมูเหรอ!”
เธอเอ่ยอีกว่า “ต้องมีสองคน คนเดียวเดี๋ยวจะเหงา…”
ลู่เฉินยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น “ไม่ว่าจะมีกี่คน คนแรกสำคัญที่สุด ตอนนี้ผมจะโทรบอกพี่สาว ให้เธอยกเลิกงานทั้งปีนี้ของคุณ แล้วผมก็จะโทรหาแม่ของผมต่อ…”
เฉินเฟยเอ๋อร์พูดไม่ออก “ตอนนี้ดึกมากแล้ว อย่าเพิ่งพูดเลย…”
เธอลังเลเล็กน้อย
ลู่เฉินคัดค้าน “จะไม่พูดได้ยังไง ตอนนี้ไม่พูดพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ผมอยากจะโพสต์บล็อกแล้ว”
เขาหัวเราะเอ่ยว่า “ผมอยากบอกทุกคน ผมจะเป็นพ่อคนแล้ว!”
ผมอยากบอกให้โลกรู้ ถึงความสุขที่ผมได้ครอบครอง!
“ไม่เอา!”
เฉินเฟยเอ๋อร์พูดอย่างเขินอาย “พวกเรายังไม่ได้แต่งงานกัน ให้ทุกคนรู้คงไม่ค่อยดี อีกอย่างถ้านายโพสต์บล็อกคนอื่นจะพูดว่านายเอาเรื่องที่ฉันท้องมาสร้างกระแสอัลบั้มใหม่ของนาย ไม่ดีๆ!”
“ก็ใช่นะ…”
ลู่เฉินตบกบาลตัวเอง เขาดีใจจนเสียสติไปหน่อย วงการบันเทิงซับซ้อนเกินไป พยายามไม่ทำตัวเด่นจะดีที่สุด “อีกสองสามวันพวกเรากลับบ้านไปจดทะเบียนสมรสกัน ถึงตอนนั้นค่อยบอกแม่ แล้วจะได้หาฤกษ์แต่งงานด้วย”
เฉินเฟยเอ๋อร์พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
ลู่เฉินพยายามอดกลั้นอารมณ์ตื่นเต้นแล้วเอ่ยว่า “ดึกแล้ว พวกเรานอนเถอะ การพักผ่อนเป็นเรื่องสำคัญมาก”
เขายื่นมือไปปิดไฟ ภายในห้องนอนตกอยู่ในความมืดทันที
แต่เวลาที่เหลือ ลู่เฉินแทบจะนอนไม่หลับเลย เขากอดเฉินเฟยเอ๋อร์ นึกถึงเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ที่ทั้งสองผ่านมาด้วยกัน และจินตนาการถึงชีวิตที่มีความสุขในอนาคต
คืนนี้ไม่อาจข่มตาหลับลงได้
…………………………………………………………………………