Perfect Superstar - ตอนที่ 886 แฟนคลับที่ดีที่สุดในโลก
ตอนที่ 886 แฟนคลับที่ดีที่สุดในโลก
พูดเรื่องการจัดการตารางงานของเฉินเฟยเอ๋อร์กับพี่สาวเรียบร้อยแล้ว จิตใจของลู่เฉินก็สงบลง แล้วจึงนั่งลงในห้องหนังสือ
หลังจากเปิดคอมพิวเตอร์ เขาล็อกอินเข้าบล็อกล่างฉาวก่อนเป็นอย่างแรก ผลปรากฏว่ามีคนในวงการที่ต่างฝ่ายต่างติดตามกันและกันแท็กเขามาไม่น้อย ต่างเข้ามาเฉลิมฉลองการจำหน่ายอัลบั้มใหม่ และอวยพรให้ขายดี
วันนี้ตอนเช้า ‘ลู่เฉิน’ อัลบั้มชุดที่สามของลู่เฉิน ได้วางจำหน่ายในประเทศอย่างเป็นทางการ เวลาเก้าโมงอัลบั้มเวอร์ชันดิจิทัลที่วางจำหน่ายกับทางเฟยซวิ่นมิวสิค แฟนเพลงจำนวนมากได้ซื้อและดาวน์โหลดมาฟังก่อนใครอย่างรวดเร็ว!
ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงกว่าแล้ว หลังจากลู่เฉินตอบเพื่อนๆ สองสามคนในบล็อกเรียบร้อย เขาได้คลิกเข้าไปที่เว็บไซต์หลักของเฟยซวิ่นมิวสิค เพื่อตรวจดูยอดจำหน่ายอัลบั้ม
225,370!
จากข้อมูลของเฟยซวิ่นมิวสิคที่โชว์ให้เห็น เพียงเวลาสั้นๆ หนึ่งชั่วโมง อัลบั้มใหม่ ‘ลู่เฉิน’ ถูกคนซื้อและดาวน์โหลดเกินสองแสนครั้ง!
อุตสาหกรรมแผ่นเสียงของโลกได้ถดถอยไปนานแล้ว เทปและซีดีในอดีตมาถึงทุกวันนี้ก็ได้ถอยออกจากเวทีไปแล้ว แผ่นเสียงซีดีถึงแม้จะมีตลาดเฉพาะกลุ่มอยู่ แต่ก็ไม่อาจเทียบกับเมื่อก่อนได้อย่างสิ้นเชิง
หลังจากเข้าสู่ศตวรรษใหม่ ดนตรีดิจิทัลคือกระแสหลักอย่างแท้จริง
ครั้งนี้ลู่เฉินปล่อยอัลบั้มใหม่ โดยใช้รูปแบบการจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ แบบออนไลน์ก็คืออัลบั้มดิจิทัล แบบออฟไลน์คือแพ็กเกจซีดีเวอร์ชันต่างๆ ที่แตกต่างกัน
ด้วยกลุ่มแฟนคลับจำนวนมหึมา หากเทียบกับการจำหน่ายล่วงหน้าแบบออฟไลน์ราคาแพงที่ทำยอดได้ดีสุดๆ การจำหน่ายแบบออนไลน์ได้รับความนิยมก็สมเหตุสมผลแล้ว เพราะถึงอย่างไรราคาจำหน่ายอัลบั้มแบบดิจิทัลหนึ่งชุดก็มีราคาเพียงสิบหยวนเท่านั้น ซึ่งเท่ากับหนึ่งหยวนต่อหนึ่งเพลง ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับคนไหนก็ยินดีที่จะควักเงินจ่าย
แต่ขายได้สองแสนกว่าชุดในเวลาหนึ่งชั่วโมง ถือว่าทำลายสถิติอย่างแท้จริง ถึงขั้นที่ว่านักร้องคนอื่นยังต้องแหงนหน้ามอง!
หากตัดค่าใช้จ่ายช่องทางอื่นๆ ต้นทุนการผลิตและจำหน่ายอัลบั้มแบบดิจิทัลสามารถมองข้ามไปได้เลย สองแสนก็คือยอดขายสองล้าน กำไรเป็นที่น่าตกใจจริงๆ
และนี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น จากแนวโน้มที่ขายดีเช่นนี้ ขายได้มากกว่าหนึ่งล้านในวันแรกก็อาจจะไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป!
แต่ลู่เฉินไม่ได้ดีใจจนบ้าคลั่งเพราะเหตุนี้ ต่อหน้าเฉินเฟยเอ๋อร์ที่กำลังอุ้มท้อง และตัวเองที่ตื่นเต้นดีใจด้วยกำลังจะเป็นพ่อคน ไม่ว่ายอดขายวันแรกจะได้สองแสนหรือหนึ่งล้าน ก็ไม่สำคัญอะไร
เมื่อเทียบกันแล้ว เขาให้ความสนใจกับคำชมในตลาดที่มีต่ออัลบั้มใหม่ชุดนี้มากกว่า
อัลบั้มใหม่ที่ใช้ชื่อว่า ‘ลู่เฉิน’ มีเพลงเก่าห้าเพลงและเพลงใหม่ห้าเพลง ห้าเพลงเก่าจริงๆ แล้วก็ไม่ได้เก่ามากนัก เป็นผลงานที่หยิบยกออกมาเมื่อปีที่แล้ว ส่วนผลงานใหม่นั้นเป็นผลงานใหม่จริงๆ
เรื่องสไตล์ของอัลบั้ม ‘ลู่เฉิน’ มีจุดเด่นที่หลากหลาย ผลงานที่อยู่ข้างในครอบคลุมไปถึงเพลงบัลลาด เพลงรัก รวมทั้งเพลงสไตล์จีน และอย่างหลังก็เป็นสิ่งที่ต้องการผลักดันเป็นหลัก
จาก ‘เจียงหนาน’ ถึง ‘ทะเลสรวล’ จนถึง ‘เครื่องลายคราม’ ลู่เฉินกำหนดตำแหน่งของอัลบั้มชุดที่สามให้เป็นการสานต่อความรู้จากอดีตเพื่อถ่ายทอดต่อไปยังคนรุ่นหลัง มีสไตล์รูปแบบใหม่ แต่จะได้รับการยอมรับและได้รับความชื่นชอบจากแฟนเพลงหรือไม่นั้น ยังต้องดูการตอบสนองของตลาดอีกสองสามวัน
“กำลังดูอะไรอยู่”
ขณะที่ลู่เฉินกำลังดูหน้าเว็บอยู่ เฉินเฟยเอ๋อร์ที่เพิ่งอาบน้ำสระผมเสร็จก็เดินเข้ามาในห้องหนังสือ
ลู่เฉินยื่นสองมือ เพื่อให้เฉินเฟยเอ๋อร์มานั่งบนตักของตนเอง
สวมกอดหญิงอันเป็นที่รัก สูดดมกลิ่นกายหอมบนตัวเธอ ลู่เฉินยิ้มเอ่ยว่า “ผมกำลังดูยอดขายอัลบั้มอยู่”
“อ้อใช่!”
เฉินเฟยเอ๋อร์บิดตัวขยับให้ตัวเองนั่งสบายขึ้น แล้วถามว่า “เป็นยังไงบ้าง”
“พอได้…”
ลู่เฉินพูดอย่างเรียบง่ายสบายๆ “ขายได้สองแสนชุดแล้ว”
เฉินเฟยเอ๋อร์เบิกตาโต “นี่คือจะได้หนึ่งล้านในวันแรก ว้าว ฉันต้องออกอัลบั้มใหม่บ้างแล้ว!”
ลู่เฉินพูดสีหน้าจริงจัง “ออกอัลบั้มใหม่อะไร ตอนนี้งานของคุณก็คือบำรุงครรภ์ให้ดี!”
เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะคิกคัก “ถ้าอย่างงั้นฉันก็ไม่ทำงานแล้ว นายต้องเลี้ยงฉันนะ”
ลู่เฉินยินดีมาก “จะเลี้ยงคุณไปตลอดชีวิต!”
ทั้งสองคนนั่งกระหนุงกระหนิงอยู่ในห้องหนังสือพักหนึ่ง จากนั้นก็ออกไปกินข้าวเที่ยงข้างนอกด้วยกัน
ผลปรากฏว่าเพิ่งจะลงมาข้างล่าง พี่สาวก็โทรเข้ามาพอดี ตอนเที่ยงมีเรื่องอยากจะคุยกับเฉินเฟยเอ๋อร์
เธอท้องแล้วคือเรื่องใหญ่มากจริงๆ
หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ ลู่เฉินก็รีบไปที่ร้านหนังสือซินหวาย่านหวังฝูจิ่ง เพื่อร่วมงานแจกลายเซ็นอัลบั้มใหม่
ตามแผนที่วางไว้ ภายในหนึ่งสัปดาห์นี้ เขาจะต้องบินไปร่วมกิจกรรมแจกลายเซ็นอัลบั้มใหม่ตามเมืองใหญ่ๆ หลายแห่งในประเทศ ขณะเดียวกันก็โปรโมตทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศครั้งแรกของตัวเองด้วย
นี่คือตารางงานที่จัดไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เพราะเรื่องที่เฉินเฟยเอ๋อร์ท้อง แต่หลังจากคอนเสิร์ตสิ้นสุดลง ลู่เฉินตัดสินใจว่าจะลดจำนวนงานให้น้อยลง หาเวลาเพื่ออยู่เป็นเพื่อนคนรักให้มากขึ้นเป็นพิเศษ
งานแจกลายเซ็นเริ่มเวลาบ่ายสองโมงตรง ลู่เฉินมาถึงร้านหนังสือซินหวาเวลาบ่ายโมงยี่สิบนาที พบว่าที่นั่นมีกลุ่มคนขนาดใหญ่มารออยู่นานแล้ว จากชั้นหนึ่งไปถึงชั้นสามมีแต่คนเบียดเสียดกันแน่นขนัด!
ถึงแม้ทางร้านหนังสือจะจัดทีมงานไม่น้อยมาคอยรักษาความสงบ แต่สถานการณ์ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเกินกว่าที่พวกเขาคาดคิดเอาไว้ ทีมงานคนหนึ่งยกโทรโข่งพยายามตะโกนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนอยู่ในความเป็นระเบียบเรียบร้อย
“ลู่เฉิน!” “ลู่เฉิน!”
แฟนคลับที่กระตือรือร้นเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น และมีผู้หญิงเยอะกว่า พวกเธอถืออัลบั้มใหม่ที่เพิ่งวางจำหน่าย พลางตะโกนเรียกชื่อของลู่เฉินเสียงดัง
เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ลู่เฉินที่เจองานใหญ่จนคุ้นชินก็ยังรู้สึกตกใจเหมือนกัน
เขาเดินออกมาจากลิฟต์ของร้านหนังสือ จากนั้นจึงปรึกษากับทีมงานทันทีว่าจะเริ่มงานแจกลายเซ็นล่วงหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์วุ่นวายโกลาหล
ตอนที่ลู่เฉินปรากฏตัวต่อหน้าแฟนคลับทั้งหลาย เกิดความฮือฮาเกรียวกราวไปทั้งชั้น!
“ขอบคุณทุกคนครับ!”
ลู่เฉินหยิบโทรโข่ง พูดกับพวกแฟนคลับที่ตื่นเต้นสุดขีดว่า “ตอนนี้ผมจะเริ่มแจกลายเซ็นแล้ว แต่ขอความกรุณาเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น หวังว่าทุกคนจะต่อแถวด้วยความอดทนไม่ต้องเบียดกัน วันนี้ใครที่มา รับรองได้ลายเซ็นทุกคนครับต่อให้ต้องเซ็นจนถึงเย็นผมก็จะเซ็นให้เสร็จครับ!”
สถานที่แจกลายเซ็นอยู่ที่ชั้นสาม และกองทัพแฟนคลับก็เริ่มจากชั้นสามลงไปจนถึงหน้าประตูชั้นหนึ่งเลย ถ้าอยากจะเซ็นให้เสร็จ ปริมาณงานเยอะมากแค่ไหนไม่ต้องคิดก็รู้
แต่ลู่เฉินไม่อยากให้แฟนๆ ที่อุตส่าห์มาสนับสนุนเขาต้องรู้สึกผิดหวัง ดังนั้นจึงเริ่มงานทันที
แฟนคลับต่อแถวเข้ามาทีละคน ยิ้มเล็กน้อย สนทนากัน เซ็นชื่อ ถ่ายรูปร่วมกัน ดูเหมือนจะง่ายมาก แต่จำนวนที่สะสมเป็นร้อยเป็นพันคน นั่นคืองานที่ลำบากมาก
เริ่มประมาณบ่ายโมงยี่สิบนาที จนกระทั่งเวลาประมาณห้าโมงเย็นกว่าๆ ลู่เฉินนอกจากดื่มน้ำสองสามทีก็แทบไม่ได้พักผ่อน ใบหน้าของเขายิ้มจนแข็งทื่อ คอเริ่มแหบแห้ง มือที่เซ็นชื่อก็เริ่มบวมขึ้นมา
ถ้าหากไม่ใช่เพราะเขามีกำลังที่มากพอ และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง คงยืนหยัดไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
สุดท้ายพวกแฟนๆ ต่างสงสาร แม้แต่แฟนคลับที่ต่อแถวอยู่ข้างหลังรอมาสองสามชั่วโมงแล้ว เมื่อเห็นลู่เฉินลำบากขนาดนี้ พวกเธอต่างก็แสดงตัวว่าไม่อยากได้ลายเซ็นแล้ว แค่ได้ถ่ายรูปร่วมกันก็พอใจเป็นอย่างยิ่ง
นี่ทำให้ลู่เฉินรู้สึกอบอุ่นหัวใจ หลังจากตอนเย็นกลับบ้าน เขาจึงอัปเดตบล็อกของตัวเอง
เนื้อหาแสนจะเรียบง่าย รูปถ่ายงานแจกลายเซ็นหนึ่งภาพพร้อมกับหนึ่งประโยค
ผมมีแฟนคลับที่ดีที่สุดในโลก!
…………………………………………………………………………