Perfect Superstar - ตอนที่ 891 เนื้อหอม
ตอนที่ 891 เนื้อหอม
ศูนย์ศิลปะยุคใหม่ในเมืองหลวง สำนักงานใหญ่เฉินเฟยมีเดีย
“อรุณสวัสดิ์ผู้อำนวยการลู่!” “อรุณสวัสดิ์ประธานเฉิน!” “สวัสดีเถ้าแก่!” “สวัสดีเถ้าแก่เนี้ย…”
ตอนที่ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ทั้งสองคนปรากฏตัวในบริษัทพร้อมกัน การตอบสนองของพวกพนักงานคึกคักเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะพนักงานใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานในบริษัทได้ไม่นาน ดวงตาทั้งคู่ต่างฉายแววเป็นประกาย
ผ่านการเติบโตพัฒนามาเกือบสองปี เฉินเฟยมีเดียทุกวันนี้กลายเป็นบริษัทใหญ่ที่มีชื่อเสียงในวงการธุรกิจแล้วถึงแม้จะยังไม่ถึงขั้นเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่ความรวดเร็วของการเติบโตได้ทิ้งท้ายคู่แข่งทั้งหมดไปไกลโข ทำสถิติรายได้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่เนื่องจากกิจการต่างๆ เติบโตอย่างรวดเร็ว จำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นไม่หยุด ตอนนี้อาคารสำนักงานแห่งนี้จึงรองรับไม่ไหวแล้ว ทางบริษัทกำลังเจรจากับคณะกรรมการดูแลศูนย์ศิลปะ เตรียมจะเช่าตึกสูงเจ็ดชั้นที่อยู่แถวนั้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในการขยายบริษัท
เฉินเฟยมีเดียในอนาคต จะมีบริษัทลูกหลายแห่งที่แบ่งออกมาดูแลงานทางด้านดนตรี ภาพยนตร์โทรทัศน์ ดิจิทัลเอฟเฟกต์ การอบรมด้านการแสดง เป็นต้น
ภายในห้องรับรองแขกวีไอพีของบริษัท ลู่เฉินได้พบกับแขกสองสามคนที่มาเยี่ยมเยียนสำนักงานใหญ่เฉินเฟยมีเดียในวันนี้ พวกเขามาจากสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง หนึ่งในนั้นคือเฉินฉีคนที่ลู่เฉินมีความสัมพันธ์ที่ดีด้วย
เฉินฉีรู้จักกับลู่เฉินตั้งแต่ตอนที่เพิ่งจะเดบิวต์ คนแรกได้ช่วยเหลือลู่เฉินอยู่ไม่น้อย หลังจากลู่เฉินโด่งดังมีชื่อเสียงก็ได้ร่วมงานกับทางสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งในระยะยาวเป็นอย่างดี ก็เพราะรองผู้อำนวยการสถานีคนนี้
แต่เฉินฉีในตอนนี้ได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว รับตำแหน่งแทนผู้อำนวยการสถานีคนก่อนเมื่อปลายปีที่แล้ว กลายเป็นผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งคนใหม่ วันนี้เขามาที่เฉินเฟยมีเดียในฐานะผู้อำนวยการคนใหม่เป็นครั้งแรก
จากรองผู้อำนวยการสถานีเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสถานีถึงแม้จะต่างกันแค่ขั้นเดียวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงทั้งสองตำแหน่งนี้แตกต่างกันมาก ด้วยฐานะของเฉินฉีในตอนนี้ วิ่งมาหาลู่เฉินที่สำนักงานใหญ่เฉินเฟยมีเดียด้วยตัวเอง ถือว่าเป็นการลดฐานะของตัวเองอย่างมาก
แต่เฉินฉีไม่ได้วางมาดผู้อำนวยการอะไร ต่อหน้าลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ และลู่ซี เขายังคงยิ้มแย้มเป็นมิตรเหมือนเดิม
เมื่อเจอลู่เฉินเขาจึงพูดล้อเล่นว่า “พ่อซูเปอร์สตาร์ ในที่สุดนายก็มาสักที ฉันรอนายอยู่ที่เมืองหลวงจนผมหงอกหมดแล้ว”
เฉินฉีนัดเจอลู่เฉินเมื่อครึ่งเดือนก่อน แต่ลู่เฉินเริ่มทำกิจกรรมแจกลายเซ็นทั่วประเทศเพื่อโปรโมตอัลบั้มใหม่พอดี ดังนั้นเวลาของการพบกันจึงกำหนดเป็นวันนี้
ลู่เฉินละอายใจ “ผู้อำนวยการเฉิน คุณพูดแบบนี้ผมกดดันมากเลยครับ”
เฉินฉีหัวเราะฮ่าๆๆ “คุณกดดันมาก ผมกดดันยิ่งกว่า คุณพูดความจริงกับผมมา รายการใหม่ของสตาร์แฟคตอรีคิดจะร่วมงานกับสถานีเซียงหนานใช่ไหม”
ลู่เฉินจนใจ “ผู้อำนวยการเฉิน ถึงแม้ผมจะมีหุ้นส่วนในสตาร์แฟคตอรี แต่ผมไม่เคยยุ่งงานบริหารเลย”
เขาคิดไม่ถึงว่าเฉินฉีจะมาคุยกับตัวเองเพราะเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าการเจรจาการร่วมงานกันระหว่างสตาร์แฟคตอรีมีเดียกับสถานีโทรทัศน์เซียงหนานมีข่าวหลุดออกมา และทางนี้ก็ดันรู้เข้า
ตอนที่ลู่เฉินเดินทางไปหังโจวเมื่อครึ่งเดือนก่อนเพื่อร่วมงานคอนเสิร์ตส่งท้ายปีเก่าของสถานีโทรทัศน์เจ้อตง เถียนเถียนได้ปรึกษาเรื่องรายการวาไรตี้ตัวใหม่กับเขาแล้ว ตอนนั้นก็พูดถึงสถานีโทรทัศน์เซียงหนานด้วย
ลู่เฉินโยนโปรเจกต์รายการใหม่ให้เธอ จากนั้นก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเลย เพราะเถียนเถียนที่บริหารควบคุมสตาร์แฟคตอรีมีเดียสามารถทำงานด้วยตนเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้เขากังวล
ที่สำคัญที่สุดคือ ถึงแม้จะพูดว่ามีหุ้นส่วนใหญ่ในสตาร์แฟคตอรีมีเดีย แต่ไม่ว่าลู่เฉินหรือเฉินเฟยเอ๋อร์ ก็ไม่เคยเข้าไปแทรกแซงงานบริหารของบริษัทนี้เลย ปล่อยให้เถียนเถียนใช้ความสามารถของตนเองอย่างเต็มที่
ดังนั้นไม่ว่าเถียนเถียนจะร่วมงานกับสถานีโทรทัศน์เจ้อตงหรือว่าสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน ลู่เฉินสนับสนุนทุกอย่าง
แต่ตอนนี้เฉินฉีวิ่งมาถามเขาถึงที่ เขาจึงรู้สึกเกรงใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงได้แต่อธิบายอย่างอ้อมค้อม
เฉินฉีไม่พอใจ “นายนับวันยิ่งไม่มีความยุติธรรมเลย คราวที่แล้วเชิญมาคอนเสิร์ตส่งท้ายปีก็เชิญไม่ได้ ตอนนี้ยังไปร่วมงานกับสถานีเซียงหนานอีก อย่าพูดว่านายไม่เข้าไปยุ่งเลย โปรเจกต์รายการใหม่นายเป็นคนคิดขึ้นมาแน่ๆ ใช่ไหม”
ลู่เฉินเงียบไม่พูด
อันที่จริงโปรเจกต์รายการนั้นที่ลู่เฉินโยนให้เถียนเถียน ปัจจุบันยังอยู่ในช่วงเก็บเป็นความลับอย่างเคร่งครัด รอหลังจากจดทะเบียนลิขสิทธิ์งานสร้างสรรค์สำเร็จก่อนถึงจะเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการ และจำกัดเพียงแค่เนื้อหาส่วนน้อยเท่านั้น
แต่ระหว่างที่เจรจากับสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน เธอไม่จำเป็นต้องหยิบรายละเอียดของโปรเจกต์ออกมา เพราะอีกฝ่ายเชื่อมั่นในชื่อเสียงของลู่เฉิน และมีความจริงใจในการร่วมงานเต็มเปี่ยม
และทางสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งก็แค่รู้เบาะแสเท่านั้น แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้รายละเอียดมากกว่านั้น แต่เฉินฉีรู้จักลู่เฉินดี และรู้เรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังความเจิดจรัสของสตาร์แฟคตอรีมีเดียอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงตัดสินใจได้อย่างแม่นยำโดยใช้สัญชาตญาณ
ในวงการลู่เฉินได้ฉายา ‘เสกหินเป็นทอง’ ไม่มีใครที่ไม่รู้ ในฐานะผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง เฉินฉีจะยอมให้รายการวาไรตี้ที่จะมีเรตติ้งกระฉูดถูกสถานีโทรทัศน์เซียงหนานแย่งไปได้อย่างไร
ควรทราบว่าสำหรับสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งแล้ว สถานีโทรทัศน์เซียงหนานคือคู่แข่งเบอร์ใหญ่ที่สุด!
เฉินฉีพูดต่อ “ผมพูดถูกใช่ไหม ผมรู้ว่าเด็กคนนั้นไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอก เธอก็ต้องฟังคุณอยู่ดี แล้วทำไมถึงไม่เจรจากับสถานีปักกิ่งของพวกเราล่ะ”
เวลาที่ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งอยากจะหน้าด้านขึ้นมา ลู่เฉินก็ได้แต่กระอักกระอ่วน ยิ้มเจื่อนๆ เอ่ยว่า “ผู้อำนวยการเฉิน ทางสตาร์แฟคตอรีผมไม่ยุ่งเกี่ยวจริงๆ ครับ ถ้าคุณอยากจะร่วมงาน ก็ไปคุยกับเถียนเถียนโดยตรงได้เลย ผมคิดว่าเธอต้องไว้หน้าคุณแน่นอนครับ”
“คุณคิดว่าผมไม่ได้ไปหาเธอเหรอ”
เฉินฉีพูดด้วยความโกรธว่า “ผู้หญิงคนนั้นฉลาดเหลือเกิน เอาราคาที่ต่อรองกับสถานีเซียงหนานมาคุยกับผม เว้นเสียแต่ว่าจะเจรจาล้มเหลว ไม่อย่างนั้นคงมาไม่ถึงผมแน่”
เฉินเฟยเอ๋อร์ฟังแล้วกลั้นหัวเราะไม่อยู่หัวเราะพรืดออกมา
“คุณยังจะหัวเราะอีกเหรอ..”
เฉินฉีรู้สึกเจ็บแค้น “อย่าลืมนะ ตอนแรกสถานีเซียงหนานปฏิบัติกับสามีของคุณยังไง!”
เฉินเฟยเอ๋อร์เม้มปากยิ้มเอ่ยว่า “ผู้อำนวยการเฉิน ฉันไม่พูดค่ะ ฉันแค่ดูเฉยๆ”
เฉินฉีชี้ไปที่ซูเปอร์สตาร์เจ้าบ้านคนนี้อย่างพูดไม่ออก พร้อมกับสีหน้าที่รู้สึกขัดใจยิ่งนัก
ลู่ซีทนดูต่อไปไม่ไหว เอ่ยว่า “ผู้อำนวยการเฉิน คุณดุลู่เฉินไปก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ เขาไม่ยุ่งเกี่ยวกับงานที่สตาร์แฟคตอรีจริงๆ แต่พวกเรายังมีอีกหลายงานที่สามารถร่วมงานกับสถานีปักกิ่งได้นะคะ”
อันที่จริงเฉินฉีรอประโยคนี้นั่นเอง รีบยิ้มเอ่ยว่า “โอเค การออกอากาศเทปบันทึกภาพคอนเสิร์ตแรกที่สนามกีฬาโอลิมปิกกรุงปักกิ่งของลู่เฉินต้องให้พวกเรา แล้วก็ถ้าหากทางสตาร์แฟคตอรีเจรจากับทางสถานีเซียงหนานล้มเหลว ก็ให้พิจารณาพวกเราก่อนเป็นคนแรก ต่อไปโปรเจกต์ใหม่ก็ต้องมาคุยกับเราก่อน…”
เขาพูดสองสามเรื่องรวดเดียวจบ เห็นได้ชัดว่าเตรียมตัวมาดี ก่อนนั้นที่ไม่พูดเป็นเพราะถอยมาตั้งหลักเพื่อโจมตีเท่านั้น
การแสดงคอนเสิร์ตเดี่ยวของลู่เฉิน จะจัดขึ้นที่สนามกีฬาโอลิมปิกกรุงปักกิ่งในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถือเป็นสถานีแรกสำหรับการทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศของเขา คอนเสิร์ตนี้ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมายนับไม่ถ้วน เรียกได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่มากในวงการเพลงป็อปของประเทศในปีนี้
เพื่อรักษารายได้ของบัตรคอนเสิร์ต การแสดงคอนเสิร์ตเดี่ยวจึงไม่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ กระทั่งไม่มีการออกอากาศเทปบันทึกภาพ มากสุดคือการขายเวอร์ชันออนไลน์ และโดยทั่วไปแล้วสถานีโทรทัศน์จะไม่บันทึกภาพการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปิน อย่างมากก็แค่ทำข่าวสัมภาษณ์
แต่อิทธิพลของลู่เฉินนั้นยิ่งใหญ่มากจริงๆ ดังนั้นทางสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งหวังว่าจะมีการบันทึกภาพงานคอนเสิร์ตเอาไว้ นอกจากใช้เป็นรายการออกอากาศแล้ว ยังจะเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับสารคดีชีวิตบุคคลของลู่เฉินอีกด้วย
เนื้อที่หอมกรุ่นขนาดนี้ เฉินฉีจะต้องกลืนกินให้ได้!
…………………………………………………………………………