Perfect Superstar - ตอนที่ 895 เหตุการณ์ไม่คาดคิด (2)
ตอนที่ 895 เหตุการณ์ไม่คาดคิด (2)
ระหว่างทางไปโรงพยาบาล รถที่ลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ และลู่ซีนั่งอยู่รถติดนานกว่าหนึ่งชั่วโมง
แต่ลู่ซีได้ใช้ประโยชน์ในช่วงนี้ สืบเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหลังผ่านบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน
เรื่องนี้จะว่าใหญ่ก็ใหญ่ จะว่าเล็กก็เล็ก แต่เมื่อตกมาอยู่ที่ตัวของลู่เฉิน กลับเหมือนซวยทั้งๆ ที่อยู่เฉยๆ ถึงแม้จะหดหู่ใจมาก แต่ก็ไม่อาจนิ่งดูดาย
สาเหตุของเรื่องเป็นเพราะงานคอนเสิร์ตครั้งแรกของลู่เฉินที่จะจัดขึ้นที่สนามกีฬาโอลิมปิกในเมืองหลวง และจุดสำคัญก็คือบัตรคอนเสิร์ต แฟนคลับคนหนึ่งของลู่เฉิน เด็กหญิงอายุสิบกว่าปียังเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลาย ซื้อบัตรทางอินเทอร์เน็ตไม่ได้ จึงเสียใจหนักมาก
บัตรคอนเสิร์ตนี้ขายดีมาก คนที่แย่งไม่ทันมีเยอะแยะ เธอก็คือหนึ่งในนั้น เดิมทีก็ไม่มีอะไรหรอก แต่หลังจากนั้นลู่เฉินกับบัญชีทางการของเฉินเฟยมีเดียจัดกิจกรรมจับฉลากชิงบัตรคอนเสิร์ต เธอได้เข้าร่วมแต่ก็ไม่โชคดีเหมือนเดิม จึงผิดหวังอีกครั้ง
ผลปรากฏว่าเพื่อนักเรียนที่มีปัญหากับเธอโชคดีได้รางวัล จึงเอามาอวดเธออย่างภาคภูมิใจ แถมยังเยาะเย้ยไม่น้อย หญิงสาวที่รักหน้าและจิตใจเปราะบาง จึงคิดสั้นกรีดข้อมือตัวเอง
โชคดีที่คนในครอบครัวพามาส่งที่โรงพยาบาลทันเวลา ไม่เกิดโศกนาฏกรรมใดๆ
สำหรับเคสผู้ป่วยแบบนี้ ทางโรงพยาบาลได้จัดจิตแพทย์เข้ามาช่วยทำการรักษา บังเอิญว่าน้องชายของหมอคนนี้ทำงานที่เฉินเฟยมีเดียพอดี ดังนั้นจึงรู้ข่าวนี้ก่อนเป็นคนแรก
นี่มันคือเรื่องอะไรกัน!
พูดตามความจริง หลังจากทำความเข้าใจต้นสายปลายเหตุแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ หรือว่าลู่ซีต่างก็พูดไม่ออก และไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี จึงได้แต่รีบไปที่โรงพยาบาลเพื่อดูแฟนคลับที่สติไม่ดีคนนี้
ลู่ซีเดิมทีไม่อยากให้ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ไปด้วย กลัวว่าจะมีผลกระทบที่ไม่ดี ถ้าหากถูกสื่อรู้เข้าจะยิ่งมีปัญหา และที่ยุ่งยากที่สุดก็คือถ้าหากมีแฟนคลับคนอื่นเลียนแบบ นั่นเป็นเรื่องที่อันตรายมาก
ฟังดูเหมือนไม่น่าเชื่อ แต่เรื่องแปลกประหลาดแบบนี้มักเกิดขึ้นเสมอ ใครจะสามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีการเลียนแบบ
มีแฟนคลับบางคนที่ยากจะพูดด้วยเหตุผล แวดวงแฟนคลับของลู่เฉินกว้างเกินไป มีแฟนคลับแปลกๆ อยู่ด้วยจึงเป็นเรื่องธรรมดามาก
“ไปแล้วพวกเราก็อย่าต่อว่าเธอ…”
เฉินเฟยเอ๋อร์พูดอย่างมีประสบการณ์มาก “เด็กผู้หญิงอายุสิบกว่าปีกำลังอยู่ในวัยคึกคะนอง สิ่งที่ไม่ชอบที่สุดก็คือการถูกอบรมสั่งสอน แค่ชี้แนะพอสมควรก็พอแล้ว”
ลู่เฉินกับลู่ซีพยักหน้า อย่างไรก็ตามหน้าที่ของการอบรมสั่งสอนเด็กก็ยังต้องอาศัยพ่อแม่กับครอบครัวและโรงเรียน ในฐานะไอดอลของแฟนคลับ การสร้างภาพลักษณ์ที่สดใสแข็งแรงคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ระหว่างที่พูดคุยกัน ก็มาถึงโรงพยาบาลประชาชนที่สามของปักกิ่งพอดี
คนกลุ่มหนึ่งลงจากรถตรงลานจอดรถ จิตแพทย์ที่รับผิดชอบได้มารออยู่ที่นั่นแล้ว
หมอคนนี้แซ่ซู อายุประมาณสามสิบปีหน้าตาสะสวย เมื่อเห็นลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ซูเปอร์สตาร์ดังทั้งสองคนมาเยือนจึงรู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก คิดไม่ถึงว่าแค่ตัวเองโทรไปก็สามารถเรียกคู่รักชื่อดังแห่งวงการบันเทิงมาถึงที่นี่ได้
“เดิมทีในฐานะหมอ โดยเฉพาะจิตแพทย์ ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของคนไข้ได้ง่ายๆ…”
หมอซูพาลู่เฉินและคนอื่นๆ เดินไปที่ลิฟต์พิเศษของโรงพยาบาล ขณะเดินพลางพูดกับลู่เฉินว่า “แต่สถานการณ์ของเด็กผู้หญิงคนนี้มีความพิเศษมาก ทะเลาะกับพ่อแม่อย่างรุนแรง ตอนนี้อารมณ์ไม่เสถียรมาก ดังนั้นคุณสามารถมาได้ถือว่าดีมากจริงๆ ขอบคุณนะคะ”
ความตั้งใจเดิมของเธอคืออยากขอซื้อบัตรคอนเสิร์ตจากน้องชายตัวเองสักหนึ่งใบ เพื่อแก้อารมณ์ซึมเศร้าของเด็กผู้หญิงคนนี้ก่อน ถึงตอนนั้นค่อยใช้การชี้แนะทางด้านจิตวิทยาเข้าไปช่วยก็จะเป็นผลดีมากขึ้น
ผลที่ได้คือลู่เฉินมาหาโดยตรงเลย แถมยังพาเฉินเฟยเอ๋อร์มาด้วย เธอจึงรู้สึกเกรงใจเป็นอย่างมาก
ลู่เฉินเอ่ยว่า “ควรจะเป็นพวกเรามากกว่าที่ต้องขอบคุณคุณครับ เรื่องนี้…”
เขายิ้มเจื่อนๆ “ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี!”
หมอซูกลั้นหัวเราะไม่อยู่ “ฉันเข้าใจดีค่ะ หวังว่าตอนจบจะสวยนะคะ”
ภายใต้การนำทางของเธอ ทั้งสามคนขึ้นลิฟต์มาที่ห้องผู้ป่วยเดี่ยวบนชั้นสิบสองของตึกผู้ป่วยในของโรงพยาบาล
ตอนที่ทุกคนเดินเข้าไปในห้องคนไข้ หญิงสาวน่ารักคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงกำลังให้น้ำเกลืออยู่ ใบหน้าขาวซีดหมดอาลัยตายอยาก ข้างเตียงคนไข้มีผู้หญิงวัยกลางคนหน้าตาร้อนใจคนหนึ่ง กำลังเช็ดน้ำตา
เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ทั้งสองคนจึงหันไป
หมอซูยิ้มเล็กน้อยเอ่ยพูดกับเด็กสาวว่า “เสี่ยวหย่า รู้สึกดีขึ้นหรือยัง มีคนมาเยี่ยมหนูด้วยนะ”
ลู่เฉินเดินไปข้างหน้าสองก้าว ถอดแว่นตากันแดดออกแล้วยิ้มพูดกับเธอ “เสี่ยวหย่า สวัสดีครับ”
“อ๋า~”
หญิงสาวที่ชื่อเสี่ยวหย่าเบิกตาโตทันที เธอหน้าแดงก่ำ ร้องกรี๊ดหนึ่งทีแล้วมุดอยู่ใต้ผ้าห่ม แถมยังเอาผ้าห่มคลุมศีรษะของตัวเองเอาไว้
ทุกคนตกใจกับการตอบสนองของเธออดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
ไม่เสียแรงที่หมอซูเป็นจิตแพทย์ พอจะเข้าใจอารมณ์ของอีกฝ่าย เธอโน้มตัวจับมือของหญิงสาวเบาๆ แล้วเอ่ยว่า“ลู่เฉินตั้งใจมาเยี่ยมหนูโดยเฉพาะ ฉันรู้ว่าหนูกำลังโทษตัวเองอยู่ แต่หนูไม่อยากทำให้ทุกคนผิดหวังใช่ไหมคะ”
เวลานี้ผู้หญิงวัยกลางคนก็จำลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ได้แล้ว เธอทำตัวไม่ถูก ลุกขึ้นเอ่ยว่า “ขอโทษจริงๆ ค่ะ ฉันคิดไม่ถึงว่า…ลูกของฉัน…”
ลู่ซีรีบเอ่ยว่า “ไม่เป็นไรค่ะ พวกเราทุกคนเป็นห่วงเสียวหย่ามาก ดังนั้นจึงมารบกวนแล้วนะคะ”
ผู้หญิงวัยกลางคนรีบกล่าวว่า “ไม่รบกวนๆๆ ขอบคุณค่ะ…”
ขณะที่พูดน้ำตาของเธอก็ไหลลงมา
ลู่ซีกุมมือของเธอเอ่ยว่า “คุณไม่ต้องเกรงใจนะคะ นี่คือสิ่งที่พวกเราควรทำค่ะ”
เสี่ยวหย่าในที่สุดก็โผล่ศีรษะออกมา กัดริมฝีปากเอ่ยว่า “พี่ลู่เฉิน ขอโทษค่ะ”
“หนูไม่ต้องขอโทษพี่…”
ลู่เฉินนั่งลงข้างเตียง เอ่ยพูดอย่างอ่อนโยน “คนที่หนูต้องขอโทษก็คือคุณแม่ที่รักและเอ็นดูหนูมากที่สุด รับปากกับพี่ต่อไปจะไม่ทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้อีกได้ไหมครับ”
เสี่ยวหย่าพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “หนูผิดไปแล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว”
“งั้นก็ดี…”
ลู่เฉินยิ้มอย่างชื่นชมและเอ่ยว่า “มีของขวัญมาให้หนูด้วย”
ขณะที่พูดเขาหยิบบัตรคอนเสิร์ตออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้ววางที่หัวเตียง “ขอต้อนรับหนูมางานคอนเสิร์ตของพี่ที่สนากีฬาโอลิมปิกเดือนหน้านะครับ”
เสี่ยวหย่าน้ำตาร่วงเผาะ เธอรู้ว่าตัวเองทำเรื่องงี่เง่ามากแค่ไหน
ลู่เฉินเอ่ยว่า “งั้นเรื่องนี้ถือว่าเป็นความลับของพวกเราสองสามคน ใครก็อย่าพูดออกไปได้ไหมครับ”
เสี่ยวหย่าพยักหน้าอย่างแรง
ลู่เฉินไม่วางใจ “พวกเรามาเกี่ยวก้อยกัน”
เสี่ยวหย่าเปลี่ยนจากร้องไห้เป็นหัวเราะ “หนูไม่ใช่เด็กเสียหน่อย”
ถึงแม้จะพูดแบบนี้ แต่เธอก็ยื่นมือซ้ายของตัวเองไปเกี่ยวก้อยกับลู่เฉินอย่างรวดเร็ว
บรรยากาศภายในห้องคนไข้ดูผ่อนคลายขึ้น แม้แต่แม่ของเสี่ยวหย่าก็เผยรอยยิ้มออกมา
ลู่เฉินไม่ได้อยู่ที่ห้องคนไข้นานนัก หลังจากเซ็นชื่อตามคำขอร้องของแฟนคลับตัวน้อยคนนี้แล้ว เขาจึงออกไปพร้อมกับเฉินเฟยเอ๋อร์และลู่ซี
แม่ของเสี่ยวหย่าเดินมาส่งที่ลานจอดรถ เอ่ยขอบคุณไม่หยุด
ระหว่างทางกลับ เฉินเฟยเอ๋อร์พูดกับลู่เฉินว่า “อนาคตถ้าลูกเกิดมาแล้ว ฉันจะสอนลูกเอง”
ลู่เฉินหัวเราะ
…………………………………………………………………………