Perfect Superstar - ตอนที่ 896 เยี่ยมเยียน
ตอนที่ 896 เยี่ยมเยียน
เมืองหลวง ซอยต้นหลิว
ชื่อที่แสนจะธรรมดา กระทั่งเฉิ่มเชยแลบ้านนอก แต่ที่นี่กลับเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของมหานครเมืองหลวงแห่งนี้ ออกจากบ้านเดินเล่นแค่สิบนาทีก็สามารถเดินมาถึงใจกลางเมืองแล้ว
ซอยที่ยาวเหยียดสะอาดมาก แผ่นอิฐหนาที่ปูอยู่บนพื้นเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งกาลเวลา เรือนสี่ประสานกำแพงสีขาวกระเบื้องสีดำเรียงรายตามสองข้างทาง แต่ละหลังมีเรื่องราวเป็นของมันเอง
ลู่เฉินมาที่นี่เป็นครั้งแรก เขากับเฉินเฟยเอ๋อร์มาเยี่ยมบ้านหลังเก่าแก่ของตระกูลหลี่ในฐานะแขก
คนที่เชิญเขาคือคุณปู่แห่งตระกูลหลี่ คุณปู่ของหลี่มู่ไป๋กับหลี่มู่ซือ!
ลู่เฉินกับหลี่มู่ไป๋เป็นเพื่อนรักกัน กับหลี่มู่ไป๋ไม่เพียงแต่มีมิตรภาพส่วนตัวกับเขาเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นพันธมิตรทางด้านผลประโยชน์อย่างลึกซึ้ง และแม่ทัพหนุ่มของตระกูลหลี่ หรือก็คือหลี่มู่หรงพี่ใหญ่ของคนทั้งสองลู่เฉินก็ชื่นชมเขามากเช่นกัน
เนื่องจากการสร้างสัมพันธ์และมิตรภาพกับลูกหลานของตระกูลหลี่ ลู่เฉินและเฉินเฟยมีเดียจึงดำเนินกิจการอย่างราบรื่นมาตลอดสองสามปีนี้ ถึงแม้จะเจอปัญหาบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีผลกระทบอะไร
สามารถพูดได้ว่าตระกูลหลี่คือต้นไม้ใหญ่สูงตระหง่านที่อยู่เบื้องหลังของลู่เฉิน คอยช่วยกำบังทุกสิ่งทุกอย่างให้เขามากมาย
แต่ลู่เฉินถูกคุณปู่ตระกูลหลี่เรียกหา ถือว่าเป็นครั้งแรก
“คนอื่นพูดว่าเรือนสี่ประสานอยู่แล้วสบาย…”
หลี่มู่ไป๋ที่เดินทางมาพร้อมกับลู่เฉินพูดบ่นไม่หยุด “ผมกลับรู้สึกว่าอยู่ที่นี่แล้วไม่อิสระเลย โดนคุณปู่อบรบทุกวัน กลับมาครั้งนี้คงจะโดนด่าอีกตามเคย!”
ลู่เฉินยิ้มพราย
เขาพอเข้าใจสถานการณ์ของหลี่มู่ไป๋พอสมควร รู้ว่าคุณปู่ของตระกูลหลี่ได้บอกลาวงการเมื่อหลายปีก่อน แต่อิทธิพลยังคงยิ่งใหญ่เหมือนเดิม ผู้ที่คอยดูแลตระกูลหลี่ในตอนนี้จริงๆ คือคุณพ่อของหลี่มู่ไป๋ และคนที่เป็นผู้สืบทอดต่อก็คือหลี่มู่หรง
หลี่มู่หรงพัฒนาเติบโตทางการเมือง หลี่มู่ซือเอาดีด้านธุรกิจ ทั้งสองคนประสบความสำเร็จเจริญรุ่งเรืองในอาณาเขตของตน ส่วนหลี่มู่ไป๋ นั่นก็คือหนุ่มเพลย์บอยมาตรฐานที่เล่นสนุกไปวันๆ
ทว่าได้เป็นเพื่อนกับเขา กลับเป็นเรื่องที่สบายใจมาก
ระหว่างที่พูด ก็มาถึงบ้านตระกูลหลี่แล้ว
เคาะประตูใหญ่ที่หนาและหนักอึ้ง เดินเข้าไปในบ้านที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานร้อยกว่าปี ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์รอพบคุณปู่หลี่อยู่ที่เรือนหลัก และยังมีคุณย่าหลี่อีกคน
เมื่อถึงตรงนี้ หลี่มู่ไป๋ที่นิสัยดื้อซนเปลี่ยนเป็นหลานชายว่านอนสอนง่ายทันที “คุณปู่ คุณย่า…”
คุณปู่อายุเจ็ดแปดสิบปีแล้ว เส้นผมส่วนใหญ่ขาวหมดแล้ว แต่สีหน้ายังคงอิ่มเอิบดูสง่า เห็นได้ชัดว่าดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี ดูแล้วมีกำลังวังชาเป็นอย่างมาก
ท่านนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือ ขานรับ ‘อืม’ หนึ่งทีอย่างไม่สนใจ สายตาเปี่ยมไปด้วยความน่าเกรงขาม
แต่คุณย่าหลี่กลับมีความเป็นมิตรและอ่อนโยนมาก ยิ้มเอ่ยว่า “เสี่ยวไป๋ ช่วงนี้หลานไปเที่ยวที่ไหนอีก ไม่กลับมาดูปู่กับย่าของหลานเลย ดูสิคุณปู่โกรธหลานแล้ว”
หลี่มู่ไป๋หดศีรษะแล้วเอ่ยว่า “ผม…คุณปู่ คุณย่า คนนี้ชื่อลู่เฉินเป็นเพื่อนของผมครับ”
เขาไม่รู้จะตอบอย่างไร จึงรีบดึงลู่เฉินออกมาทันที
ลู่เฉินรีบเดินไปข้างหน้าแล้วโค้งคำนับทักทายอย่างมีมารยาท “คุณปู่หลี่สวัสดีครับ คุณย่าหลี่สวัสดีครับ”
คุณปู่เผยรอยยิ้มออกมาในที่สุด พลางพยักหน้า
ลู่เฉินแนะนำเฉินเฟยเอ๋อร์ให้ผู้ใหญ่ทั้งสองท่านรู้จัก “คนนี้คือเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นภรรยาของผมครับ”
เฉินเฟยเอ๋อร์เปิดเผยมากกว่าลู่เฉิน “คุณปู่สวัสดีค่ะ คุณย่าสวัสดีค่ะ ขอให้ท่านทั้งสองอายุยืนร้อยปีนะคะ”
คุณย่าหลี่ตาเป็นประกาย “เป็นเด็กที่สวยจริงๆ มาๆ มาให้ย่าดูใกล้ๆ หน่อย”
เฉินเฟยเอ๋อร์เดินไปข้างหน้าอย่างเชื่อฟัง ปล่อยให้คุณย่าหลี่ดึงมือของตัวเอง แล้วนั่งลงข้างๆ ท่าน
คุณย่าหลี่ยิ้มพูดกับลู่เฉิน “นายเป็นเด็กที่โชคดีจริงๆ ได้ภรรยาสวยขนาดนี้ นายจะต้องรักและทะนุถนอมมากๆ อยู่เป็นเพื่อนภรรยาเยอะๆ อย่ามัวแต่ทำงานหาเงินจนละเลยครอบครัว”
ผู้อาวุโสพูดมีเหตุผลมาก ลู่เฉินน้อมรับด้วยความละอายใจ
คุณย่าหลี่ยิ่งมองเฉินเฟยเอ๋อร์ก็ยิ่งชอบใจ ท่านถอดกำไลหยกของตัวเองแล้วยัดใส่มือของเฉินเฟยเอ๋อร์ พลางเอ่ยว่า “เจอหน้ากันครั้งแรก ย่าไม่มีของขวัญรับไหว้อะไร มีแต่กำไลหยกเก่าๆ อันนี้ที่พอจะมีค่าอยู่บ้าง เธอรับไว้นะ”
เฉินเฟยเอ๋อร์ตกใจทันที เธอดูของเก่าเป็น รู้ว่านี่คือกำไลหยกมรกตที่มีค่ามาก
“คุณย่า มันแพงเกินไปค่ะ”
คุณย่าหลี่ไม่ชอบใจ “แค่ของเล่นชิ้นเดียวจะพงแพงอะไรกัน ถ้าจะพูดว่าแพงจริงๆ พวกเธอให้เสี่ยวซือเอาของมาให้ไม่ถือว่าแพงเหรอ”
คุณปู่หลี่นัดพบกับลู่เฉินโดยการติดต่อผ่านหลี่มู่ซือ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อคุณปู่ ลู่เฉินจึงทำตามคำแนะนำของหลี่มู่ซือ ซื้อเครื่องเคลือบจวินเหยาสมัยราชวงศ์ซ่งชิ้นหนึ่งเพื่อเป็นของขวัญ ใช้เงินไปมากกว่าสิบล้าน
เครื่องเคลือบจวินเหยาชิ้นนี้ถูกหลี่มู่ซือนำมาส่งที่บ้านหลังเก่าล่วงหน้า ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ค่อยเดินทางมาเยี่ยม
ของขวัญก็รับไปแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าผู้ใหญ่ไม่อยากเอาเปรียบคนทั้งสอง ดังนั้นคุณย่าหลี่จึงมอบกำไลหยกให้เฉินเฟยเอ๋อร์ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือท่านชอบเฉินเฟยเอ๋อร์มากจริงๆ
“ขอบคุณคุณย่าค่ะ”
เมื่อพูดขนาดนี้แล้ว เฉินเฟยเอ๋อร์จึงได้แต่รับมา และใส่ที่ข้อมือทันที
คุณย่าหลี่ดีใจมาก “ไม่เลว กำไลชิ้นนี้เหมาะสมกับเธอมาก สวยจริงๆ!”
ส่วนทางคุณปู่หลี่ก็ส่งสัญญาณให้ลู่เฉินนั่งลง แล้วพูดกับเขาว่า “ที่เรียกนายมาครั้งนี้ ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ได้ยินมู่ซือพูดกรอกหูทุกวัน จึงอยากจะเจอหน้าคนหนุ่มอย่างนายสักหน่อย”
ลู่เฉินฟังอย่างตั้งใจและเคารพ
คุณปู่พูดต่อว่า “สองสามปีนี้เรื่องของนายกับมู่ซือฉันพอรู้บ้าง เรื่องเพลงหรือภาพยนตร์อะไรฉันไม่เข้าใจ พวกนายทำเว็บไซต์ระดมทุนนั่นถือว่าไม่เลว สามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์อเมริกาทำเงินจากคนอเมริกันได้ถือว่าเก่ง”
“ช่วงนี้มู่ซือกำลังทำเรื่องจักรยานแชร์ริ่งก็ดีมาก ได้ยินว่านายเป็นคนเสนอโครงการออกมาเอง โครงการนี้ถ้าทำขึ้นมาได้จะแก้ปัญหาที่ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของประชาชนได้เป็นอย่างดี สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้สังคมในแง่บวก…”
ท่านพูดร่ายยาวไปเรื่อย คุณย่าจึงไม่ค่อยพอใจ “ตาแก่ คุณเชิญเขามาเป็นแขก ไม่ได้มานั่งสอนวิชาหรือประชุมนะ คุณคิดว่าคุณยังต้องกังวลเรื่องของประเทศชาติอีกเหรอ”
คุณปู่หันไปขึงตาใส่คู่ชีวิตอย่างเขินอาย
ลู่เฉินแอบหัวเราะอยู่ในใจ เขาพบว่าอันที่จริงผู้ใหญ่ทั้งสองท่านของตระกูลหลี่ก็ไม่ได้แตกต่างจากคนแก่ทั่วไป
เขารีบช่วยกู้สถานการณ์ “คุณปู่หลี่พูดดีมากครับ ผมมีหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้จากคุณปู่ครับ…”
“คุณปู่ คุณย่า พวกคุณกำลังคุยอะไรกันเหรอคะ”
และในเวลานี้ หลี่มู่ซือก็เดินออกมาจากข้างใน แล้วถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ลู่เฉินยิ้มเอ่ยว่า “ผมกำลังคุยเรื่องจักรยานแชร์ริ่งกับคุณปู่อยู่ครับ”
…
ตอนที่ออกมาจากเรือนตระกูลหลี่ ท้องฟ้ามืดลงแล้ว
ลู่เฉินไม่ได้ให้หลี่มู่ไป๋มาส่ง เขาพาเฉินเฟยเอ๋อร์เดินกลับ เพราะมีรถคอยรอรับอยู่ด้านนอกแล้ว
เขาเดินจูงมือของเฉินเฟยเอ๋อร์ “พวกเรากลับบ้านกันเถอะ”
“ค่ะ”
เฉินเฟยเอ๋อร์พยักหน้า
อีกหนึ่งสัปดาห์ ก็จะปีใหม่จีนแล้ว
…………………………………………………………………………