Perfect Superstar - ตอนที่ 900 มารวมตัวกัน
ตอนที่ 900 มารวมตัวกัน
“ติ๊งต่อง!”
“ผู้โดยสารทุกท่านสวัสดีค่ะ ขบวนรถไฟเที่ยวนี้ใกล้จะถึงสถานีปักกิ่งแล้ว ขอให้ผู้โดยสารทุกท่านเตรียมตัวค่ะ…”
เสียงที่ดังออกมาจากลำโพงบนขบวนรถไฟ ทำให้สวีข่ายตื่นขึ้นมาจากความฝัน
เขารีบพลิกตัวนั่ง หยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ใต้หมอนออกมาดู เป็นเวลาเช้าเจ็ดโมงยี่สิบเจ็ดนาที
ถึงเมืองหลวงแล้ว
“ที่รัก ตื่นได้แล้ว!”
สวมเสื้อคลุม แล้วสวีข่ายก็ผลักแฟนสาวที่นอนอยู่ตรงข้ามเบาะนอนเบาๆ พลางเอ่ยว่า “พวกเราใกล้จะลงรถแล้ว”
เคอเหยาขยี้ดวงตาที่ยังงัวเงีย เงยหน้าถามอย่างงุนงง “ถึงเมืองหลวงแล้วเหรอ”
สวีข่ายยิ้มเอ่ยว่า “ใช่แล้ว!”
เขารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เขายื่นมือเช็ดหน้าต่างที่ปกคลุมไปด้วยละอองน้ำ มองเห็นตึกสูงใหญ่แต่ละตึกแวบผ่านหน้าต่างไปอย่างรวดเร็ว
เมืองหลวง ฉันมาแล้ว!
สวีข่ายกับแฟนสาวขึ้นรถไฟความเร็วสูงจากเซินไห่มุ่งหน้ามายังเมืองหลวงตั้งแต่ตอนสามทุ่มของเมื่อคืนนี้ ระยะการเดินทางสิบชั่วโมงครึ่ง ในที่สุดก็ถึงเมืองที่เขาอยากจะมาตั้งนานแล้ว
ครั้งนี้สวีข่ายลาหยุดงานที่บริษัทโดยเฉพาะ พาแฟนสาวมาเมืองหลวงโดยมีจุดประสงค์หลักสามประการ
อย่างแรกแน่นอนว่าเพื่อทำให้ความปรารถนาหนึ่งเป็นจริง นั่นก็คือมาเที่ยวที่เมืองหลวงสักครั้ง เที่ยวชมพระราชวังต้องห้ามและกำแพงเมืองจีน ชมทัศนียภาพที่งดงามของเมืองหลวงแห่งประเทศมาตุภูมิ
ถัดมาก็คือพาแฟนสาวมาฉลองวันวาเลนไทน์สุดพิเศษ
วันพรุ่งนี้เป็นวันวาเลนไทน์ปี 2019 ถึงแม้หลังจากเป็นแฟนกับเคอเหยา ทั้งสองคนได้ฉลองวันวาเลนไทน์ด้วยกันหลายครั้งแล้ว แต่วันวาเลนไทน์ในอดีตก็แค่กินข้าวดูหนังเท่านั้น ไม่มีอะไรแปลกใหม่และไม่โรแมนติกเลย
ครั้งนี้สวีข่ายอยากชดเชยให้เคอเหยา
สุดท้าย คือจุดประสงค์ที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือไปร่วมงานคอนเสิร์ตของลู่เฉิน ‘รักตราบนิรันดร์’ ที่จะจัดขึ้นที่สนามกีฬาโอลิมปิกในเมืองหลวง และเป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวคอนเสิร์ตแรกของลู่เฉิน!
เคอเหยาก็คือแฟนเพลงของลู่เฉิน!
คอนเสิร์ตครั้งนี้มีความหมายไม่ธรรมดา บัตรที่ขายออนไลน์ขายหมดเกลี้ยงภายในไม่กี่วินาที สามารถแย่งซื้อทันถือว่าโชคดีมาก
และสวีข่ายก็สามารถซื้อบัตรได้แถมยังได้ถึงสองใบ ไม่ได้อาศัยความโชคดีทั้งหมด เขาคาดการณ์ล่วงหน้าแล้วถึงความเป็นไปได้ที่บัตรจะขายดี เพราะฉะนั้นเขาจึงเขียนโปรแกรมเล็กๆ สำหรับแย่งบัตร และนำไปติดตั้งในคอมพิวเตอร์ของบริษัทเพื่อแย่งซื้อบัตรอีกด้วย ใช้ความเร็วเน็ตหนึ่งพันเมกะไบต์ของบริษัท ในที่สุดก็สมความปรารถนา
อันที่จริงเซินไห่ก็เป็นหนึ่งในสถานีทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศของลู่เฉิน แต่ความหมายของคอนเสิร์ตแรกกับคอนเสิร์ตย่อยไม่เหมือนกัน บวกกับชนกับวันวาเลนไทน์ซึ่งเป็นวันพิเศษแบบนี้ ดังนั้นสนามกีฬาโอลิมปิกจึงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของสวีข่าย
ถ้าหากแย่งบัตรไม่ได้ เขาถึงจะพิจารณาเรื่องการแย่งบัตรที่เซินไห่ต่อไป
หลังจากแย่งบัตรได้แล้ว เคอเหยาดีใจเป็นอย่างยิ่ง มอบรางวัลที่แสนหวานให้กับเขาไม่น้อย
ถึงแม้มาดูคอนเสิร์ตที่เมืองหลวงครั้งนี้ ค่ารถ ค่าบัตร และค่าจองโรงแรมจะสูงมาก แต่สวีข่ายคิดว่ามันคุ้มค่าอย่างสิ้นเชิง และเขาก็ได้เตรียมของขวัญวันวาเลนไทน์สุดพิเศษไว้ให้เคอเหยาอีกด้วย
คลำหากล่องเล็กทรงสี่เหลี่ยมในกระเป๋า สวีข่ายเผยใบหน้ามีรอยยิ้มออกมา
“คุณยิ้มอะไร”
เคอเหยาที่เพิ่งจะลุกขึ้นผลักแฟนหนุ่ม ทำสีหน้าชิงชัง “ยิ้มน่าสะอิดสะเอียน!”
สวีข่ายหัวเราะฮิๆ เอ่ยว่า “ไม่มีอะไร”
“แปลกๆ…”
เคอเหยาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แล้วผลักเขาอีกที “รีบเก็บกระเป๋าเถอะ”
ทั้งสองคนเตรียมเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว รถไฟความเร็วสูงขบวนนี้จอดที่ชานชาลาของสถานีปักกิ่งอย่างมั่นคง
ลงจากรถไฟแล้ว ทั้งสองคนจึงขึ้นรถแท็กซี่มุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่จองไว้เรียบร้อย
ตรงจุดรับลูกค้าของแท็กซี่ สวีข่ายกับเคอเหยาต่อแถวรอถึงหนึ่งชั่วโมงกว่ากว่าจะถึงคิว
เพราะว่ามีลูกค้าที่ต่อแถวรอรถเยอะมากเกินไป
แต่ไม่ได้ลบล้างความกระตือรือร้นและความดีใจของคนทั้งสอง เคอเหยามาเมืองหลวงเป็นครั้งที่สอง ตอนที่มาเมืองหลวงครั้งแรกเธอยังเด็กมาก มากับครอบครัวไม่ค่อยมีความทรงจำอะไรมากมายนัก
ตอนนี้มาฉลองวันวาเลนไทน์กับแฟนหนุ่ม รู้สึกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มีความแปลกใหม่มากพอ
รถแท็กซี่ขับออกไปได้สองสามร้อยเมตร คนขับรถวัยกลางคนถามว่า “ทั้งสองคนจะไปไหนครับ”
สวีข่ายตอบว่า “ลุงครับ รบกวนไปส่งพวกเราที่โรงแรมอู่หวน ที่อยู่ข้างๆ สนามกีฬาโอลิมปิกครับ”
“ผมรู้ครับ…”
คนขับรถยิ้มเอ่ยว่า “พวกคุณมาดูคอนเสิร์ตของลู่เฉินใช่ไหมครับ”
สวีข่ายกับเคอเหยาตกใจมาก ถามเป็นเสียงเดียวกันว่า “คุณรู้ได้ยังไงคะ”
ลุงคนขับรถผู้นี้เหมือนกับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า คนขับรถในเมืองหลวงมาทำงานต้องเรียนการดูดวงด้วยหรือ
คนขับรถวัยกลางคนหัวเราะฮ่าๆ เอ่ยว่า “เดาครับ เมื่อวานผมก็รับลูกค้ามาส่งที่สนามกีฬาโอลิมปิกสามรอบแล้ว โรงแรมอู่หวนที่พวกคุณพักหนึ่งรอบ แล้วก็มีโรงแรมชิบะสองรอบ ทุกคนมาจากต่างเมืองเพื่อมาดูคอนเสิร์ต”
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้! สวีข่ายกับเคอเหยาเข้าใจทันที นับว่าบังเอิญจริงๆ
คนขับรถวัยกลางคนถามอีกว่า “โรงแรมของพวกคุณจองเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ ถ้ายังไม่ได้จอง เข้าไปตอนนี้ไม่มีห้องแน่นอน เพราะถูกคนจองหมดแล้ว”
สวีข่ายยิ้มตอบว่า “จองไว้นานแล้วครับ”
“งั้นก็ดี…”
อันที่จริงคนขับรถผิดหวังเล็กน้อย แต่เขารีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “คนที่มาดูคอนเสิร์ตของลู่เฉินครั้งนี้เยอะมากจริงๆ คนต่างเมืองก็แยะ จริงๆ ผมก็ชอบเพลงของลู่เฉินมาก อย่างเช่นเพลงนั้น ‘ฉันรักเธอประเทศจีน’”
ขณะที่พูด เขาก็ร้องเพลงออกมาโดยตรง “ฉันรักเธอประเทศจีน ฉันรักเธอประเทศจีน รักกล้าข้าวฤดูเพาะปลูกยอดพลิ้วไสว รักผลิตผลกองใหญ่เปล่งแสงทองประกายระยิบรื่น รักความอดทนดั่งดอกเหมยดั่งต้นสนที่หยัดยืน…”
ลุงคนขับรถผู้นี้รูปร่างกำยำอวบอ้วน แต่พูดเก่งมาก เวลาร้องเพลงก็เสียงชัดแจ๋วไม่มั่วเลยสักนิด บทเพลง ‘ฉันรักเธอประเทศจีน’ เขาไม่เพียงแต่ร้องชัดทุกถ้อยคำ เสียงก็ค่อนข้างมีพลังฮึกเหิม โน้ตก็แม่นยำมาก
นี่ถือว่าเป็นลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของรถแท็กซี่ในเมืองหลวง คนขับแท็กซี่ส่วนใหญ่จะพูดเก่ง มีหลายคนสามารถจับไปเล่นละครพูดชวนหัวได้ พูดรับแต่ละท่อนได้สนุกสนาน ร้องเพลงเป็นก็มีเยอะแยะ
พอร้องท่อนนี้จบ เคอเหยาปรบมือทันที สวีข่ายชูนิ้วโป้งชื่นชม “สุดยอดครับ คุณลุง”
คนขับรถวัยกลางคนยิ้มหน้าบาน เขาลูบศีรษะ หัวเราะฮิๆ เอ่ยว่า “จริงๆ แล้วผมร้องได้ธรรมดามากครับ ประเด็นคือเพลงดี เพลงนี้แต่งได้ดีมาก ผมฟังเป็นร้อยรอบแล้ว ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกได้อรรถรส”
“ลูกสาวของผมก็เป็นแฟนคลับของลู่เฉิน ตอนนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยม อัลบั้มที่ลู่เฉินออกเธอมีหมดเลย เดิมทีเธออยากจะมาดูคอนเสิร์ตเหมือนกัน แต่แย่งซื้อบัตรไม่ทัน ฮ่าๆ ประหยัดเงินของผมไปได้เยอะเลย…”
ตอนนี้เป็นชั่วโมงเร่งด่วนจริงๆ เส้นทางที่รถแท็กซี่มุ่งหน้าไปยังโรงแรมรถติดโดยไม่รู้สึกแปลกใจ แต่สวีข่ายกับเคอเหยาไม่ได้รู้สึกทรมาน เพราะได้คุยเกี่ยวกับลู่เฉินและเพลงของเขากับลุงคนขับรถที่คุยสนุกแบบนี้
สุดท้ายก็ถึงโรงแรม ตอนที่อำลากับลุงคนขับรถผู้นี้ ทั้งสองคนยังรู้สึกว่าอารมณ์ยังค้างอยู่เลย
และตอนเช้าของวันนี้ คนที่มาเมืองหลวงเหมือนกับสวีข่ายและเคอเหยาเพื่อมาดูคอนเสิร์ตของลู่เฉินมีเยอะมากพวกเขามาจากสถานที่ที่แตกต่างกันเพื่อมารวมตัวกันที่เมืองหลวง เพื่อร่วมงานดนตรีที่ไม่อยากพลาดรอบนี้
…………………………………………………………………………