Perfect Superstar - ตอนที่ 901 รักตราบนิรันดร์ (1)
ตอนที่ 901 รักตราบนิรันดร์ (1)
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ ณ สนามกีฬาโอลิมปิกกรุงปักกิ่ง
เริ่มตั้งแต่เวลาบ่ายสองโมงตรง ถนนแถวสนามกีฬาโอลิมปิกมีการควบคุมการจราจรอย่างเคร่งครัด ตำรวจจราจรหลายคนปรากฏตัวตรงจุดที่การจราจรมักติดขัด โบกรถให้ผ่านไปมาอย่างเป็นระเบียบ และคอยตรวจสอบความปลอดภัยสำหรับรถส่วนหนึ่ง
โดยทั่วไปการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ หมายความว่าสนามกีฬาโอลิมปิกจะจัดการแข่งขันระดับนานาชาติครั้งยิ่งใหญ่ จึงต้องเพิ่มระดับความปลอดภัยทั้งภายในภายนอกและบริเวณโดยรอบของสนามกีฬา
แต่คืนนี้ไม่มีการแข่งขันใดๆ ณ สนามกีฬาโอลิมปิกแห่งนี้ ทว่าเป็นการจัดงานคอนเสิร์ตเดี่ยวรอบแรกของลู่เฉินเนื่องจากจำนวนคนที่มาดูเยอะมาก ดังนั้นทางเฉินเฟยมีเดียถึงได้ยื่นเรื่องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องล่วงหน้า จึงได้รับการอนุญาตและการสนับสนุน
ยามที่ม่านราตรีเคลื่อนคล้อย ลานใหญ่ด้านหน้าสนามกีฬาโอลิมปิกมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาแล้ว น้ำพุพ่นออกมาจากท่อน้ำของลาน สร้างสีสันสวยงามระยิบระยับภายใต้แสงไฟยามค่ำคืน
ม่านโฆษณาใหญ่ขนาดหนึ่งพันตารางเมตรห้อยลงมาจากโดมทรงโค้งของสนามกีฬา ในภาพคือลู่เฉินกอดกีตาร์ยืนอยู่หน้าไมค์ ใบหน้ามีรอยยิ้มจางๆ พร้อมกับดอกกุหลาบนับพันที่บานสะพรั่งอยู่ด้านหลังของเขา
รถยนต์จงหวา ‘รักตราบนิรันดร์’ ชื่อคอนเสิร์ตเดี่ยวของลู่เฉินแบบสามมิติ ถูกแสงไฟส่องสะท้อนสะดุดตายิ่งนัก
ในฐานะพี่ใหญ่ในวงการผลิตยานยนต์ในประเทศ รถยนต์จงหวามีการร่วมงานที่ดีกับลู่เฉินมาตลอด คนหลังยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ของรถยนต์จงหวาอีกด้วย สัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์เซ็นถึงปี 2020
ลู่เฉินทำเงินจากการเซ็นสัญญาพรีเซ็นเตอร์นี้เป็นจำนวนเงินมหาศาลสำหรับคนทั่วไป รถยนต์จงหวาก็อาศัยภาพลักษณ์ที่ดีและความนิยมของลู่เฉิน ได้รับค่าตอบแทนกลับมาเป็นสองเท่า
ดังนั้นพวกเขาจึงยอมแลกทุกอย่างเอาชนะคู่แข่งมากมาย เพื่อคว้าการสวมชื่อเป็นผู้สนับสนุนของงานทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศของลู่เฉิน ถึงแม้ค่าสปอนเซอร์จะไม่ได้ประกาศออกมา แต่ในวงการแอบมีข่าวรั่วบอกว่าเกินหนึ่งพันล้าน!
นี่ทำให้คนรู้สึกทึ่งจริงๆ ควรทราบว่าลู่เฉินทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศครั้งนี้ มีทั้งหมดแปดสถานีรวมทั้งเมืองหลวงเมื่อเฉลี่ยออกมารถยนต์จงหวาต้องจ่ายค่าสปอนเซอร์มากกว่าสิบล้านสำหรับคอนเสิร์ตแต่ละรอบ
มีดาราระดับหนึ่งระดับสองจำนวนไม่น้อย หนึ่งปียังได้ค่าโฆษณาไม่เยอะขนาดนี้เลย!
แต่สำหรับพวกแฟนคลับของลู่เฉิน คอนเสิร์ตรอบนี้ใครเป็นสปอนเซอร์ก็ไม่สำคัญ พวกเขาไม่สนว่าค่าสปอนเซอร์จะมากน้อยแค่ไหน ตลอดเวลาที่รอคอยมานานสี่ปี แฟนๆ เหล่านี้ของลู่เฉินในที่สุดก็รอมาจนถึงวันนี้
คอนเสิร์ตรอบแรกที่เมืองหลวงของลู่เฉินจึงได้รับความสนใจจากรอบด้าน โดยพื้นฐานแล้วสื่อขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับข่าวบันเทิง ทั้งหมดได้ส่งนักข่าวมาที่หน้างานเพื่อสัมภาษณ์และถ่ายทำ มีบางสื่อที่ออกตัวได้ยิ่งใหญ่มาก
จากช่องตรวจบัตรหน้างานลากยาวไปจนถึงลานกว้าง มีนักข่าวจำนวนไม่น้อยกำลังถ่ายทำอยู่ และจุดที่กล้องรวมตัวกันเยอะที่สุดก็คือ ช่องทางเดินวีไอพีที่ได้รับการปกป้องดูแลเป็นสำคัญอย่างไม่ต้องสงสัย
เพราะว่าคืนนี้ ผู้คนเกือบครึ่งวงการบันเทิงต่างมาที่นี่!
ตามธรรมเนียมทั่วไป ขณะที่บัตรคอนเสิร์ตของค่ำคืนนี้วางจำหน่ายออนไลน์ เฉินเฟยมีเดียได้เหลือบัตรวีไอพีบางส่วนไว้เพื่อมอบให้กับหุ้นส่วนและหน่วยงานที่คอยช่วยเหลือ บัตรส่วนนี้มีประมาณหนึ่งพันใบ
สถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง สถานีโทรทัศน์เจ้อตง สถานีโทรทัศน์ไห่จิน สถานีโทรทัศน์เซียงหนาน เดอะคราวน์พิคเจอร์ส บริษัทภาพยนตร์ต้าตี้ เฟยสือเรคคอร์ด เฟยซวิ่นมิวสิค ล่างฉาว… และอีกมากมาย ทั้งหมดได้รับบัตรฟรีเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังมีเพื่อนสนิทในวงการของลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ ที่ได้รับบัตรฟรีเช่นกัน
บัตรที่แย่งกันซื้ออย่างร้อนแรงขนาดนี้ โดยเฉพาะในวงการบันเทิงของเมืองหลวงที่ร้อนแรงถึงขั้นลวกผิว มีดาราศิลปินจำนวนมากที่ได้รับบัตรเอามาอวดโชว์กันในบล็อก และยังมีข่าวรายงานเล็กๆ บอกว่าบางบริษัทมีศิลปินหน้าใหม่สองสามคนทะเลาะกันเพราะบัตรฟรีเหล่านี้
อันที่จริงลู่เฉินไม่ได้รู้จักดาราเหล่านี้ มากสุดก็แค่จับมือกันตามงาน หรือไม่ก็คุยกันเป็นมารยาทสองสามประโยค แต่พวกเขารู้สึกภูมิใจที่ได้เกียรติไปชมคอนเสิร์ตของลู่เฉินในฐานะแขกวีไอพี
มีบางคนได้รวบรวมจำนวนในบล็อกอย่างตั้งใจเป็นพิเศษ จากนั้นนับรวมคนที่ไม่ได้อวดบัตรแต่จะมาร่วมงานแน่นอน สุดท้ายได้ข้อสรุปว่า สนามกีฬาโอลิมปิกในคืนนี้จะมีคนในวงการมารวมตัวกันอย่างน้อยครึ่งวงการบันเทิง!
ทว่าไม่มีใครรู้สึกตกใจหรือทึ่งกับเหตุการณ์นี้ เพราะลู่เฉินในตอนนี้ ไม่เพียงแต่เป็นดาราตัวท็อปที่มีตำแหน่งและความนิยมสูงที่สุดในวงการบันเทิงเท่านั้น มากกว่านั้นเขายังมีพลังเวทมนต์เสกหินให้เป็นทองได้ เป็นตัวแปรสำคัญสามารถพลิกฟ้าคว่ำฝนของวงการ
มีคนอีกมากมายเท่าไรไม่รู้ที่อยากเกาะกระแสนี้!
ดังนั้นสื่อจำนวนมากจึงเข้ามาแย่งกันทำข่าวทันทีที่รู้เรื่อง
เริ่มตั้งแต่หกโมงกว่า รถหรูแต่ละคันที่ติดบัตรผ่านพิเศษเข้ามาจอดหน้าลานกว้าง ศิลปินดาราคนแล้วคนเล่าลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปในช่องทางเดินวีไอพี
ถึงแม้จะพูดว่าคอนเสิร์ตคืนนี้ไม่ใช่พิธีมอบรางวัลภาพยนตร์และดนตรี ไม่มีพรมแดงหรือไม่มีกำแพงเซ็นชื่ออะไรทว่าดวงดาวจรัสแสงระยิบระยับไม่ด้อยไปกว่างานพิธีมอบรางวัลเช่นกัน
ดึงดูดพวกปาปารัสซี่และนักข่าวที่คอยเฝ้าอยู่สองฝั่งทางเดินให้บ้าคลั่งขึ้นมา แสงแฟลชกะพริบสว่างวาบขึ้นๆ ลงๆ
เฉินกั๋วจื้อก็มา ถานหงก็มา หลิวกั่งเซิงก็มา ซือฟางก็มา เลี่ยวเจี่ย ซูจิ้ง วงเอ็มเอสเอ็น วงเสียวหู่ถวน วงเฮสิเทชั่น วงจื่อเป่ยเจิน…
ดาราตัวท็อปแต่ละคน ซูเปอร์สตาร์แต่ละท่าน ล้วนแสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ของลู่เฉินอย่างชัดเจน
ทว่าเพื่อนสนิทในวงการของลู่เฉินเหล่านี้ ได้ปฏิเสธการสัมภาษณ์ของนักข่าวหน้างาน เดินเข้าสู่งานโดยตรงอย่างไม่หยุดยั้ง
พวกนักข่าวจึงได้แต่เปลี่ยนความสนใจไปที่ดาราท่านอื่น
“ฟ่านฉี ขอถามคุณสักคำถามได้ไหม”
“คุณหวังจื้อเฉียง ไม่ทราบว่าคุณมาจากไต้หวันใช่ไหม”
“หลี่เวย หลี่เวย!”
“ขอถ่ายรูปหน่อย…”
ศิลปินดาราและนักร้องระดับสองระดับสามเหล่านี้ ต่างไว้หน้าพวกนักข่าว พวกเขาและพวกเธอต่างหยุดเดินตรงทางเดินโพสต์ท่าเพื่อให้คนถ่ายรูป หรือไม่ก็เดินไปข้างๆ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวพูดคุยอย่างสนุกสนาน
“ฉันเป็นแฟนคลับของอาจารย์ลู่เฉิน เริ่มชอบเขาตั้งแต่เพลงแรกแล้วค่ะ!”
ศิลปินที่กำลังให้สัมภาษณ์นักข่าวอยู่ชื่อกานอิงอิง เป็นดาราภาพยนตร์ที่เพิ่งเข้าวงการไม่นาน เธอแสดงความชื่นชอบและนับถือลู่เฉินของตัวเองโดยไม่ปิดบัง “รู้สึกโชคดีมากที่คืนนี้ได้มาดูคอนเสิร์ตของอาจารย์ลู่เฉิน ดีใจมากจริงๆ ค่ะ!”
นักข่าวถามว่า “อย่างนั้นถ้าหากคุณได้เจอลู่เฉิน คุณอยากจะพูดอะไรกับเขา”
กานอิงอิงยิ้มเอ่ยว่า “ฉันจะขอลายเซ็นจากอาจารย์ลู่เฉินก่อน จากนั้นก็จะอวยพรให้คอนเสิร์ตของเขาสำเร็จราบรื่นไปด้วยดีค่ะ!”
นักข่าวถามอีก “มีอะไรอยากพูดอีกไหม”
“ที่อยากจะพูดอีกเหรอ…”
เธอคิดครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “หวังว่าสักวันหนึ่ง ฉันกับอาจารย์ลู่เฉินจะได้ร่วมงานกันสักครั้ง แบบนั้นก็ไม่เสียใจแล้วค่ะ!”
ฉากเดียวกัน บนทางเดินวีไอพีถูกแสดงออกมาในตำแหน่งต่างๆ ที่ไม่เหมือนกัน
และตรงที่ไม่ไกลนัก ช่องตรวจบัตรสิบช่องได้เริ่มเปิดในขณะเดียวกันก็มีคนต่อแถวยาวเหยียด พวกแฟนคลับจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนถือบัตรและบัตรประชาชนเอาไว้แน่น รอคอยอย่างรีบร้อนเพื่อจะเข้างาน
ด้านนอกงาน ยังมีแฟนคลับอีกเยอะแยะ บ้างก็ไม่มีบัตร แต่ก็มาสัมผัสบรรยากาศที่นี่สักหน่อย
ราวกับเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์!
…………………………………………………………………………