Perfect Superstar - ตอนที่ 93 บุคลิกแต่ละคนแตกต่าง
ตอนที่ 93 บุคลิกแต่ละคนแตกต่าง
วันที่ 10 เดือนกรกฎาคม เวลา 6.10 น. ด้านหลังเวทีสตูดิโอออกอากาศสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง
อีก 1 ชั่วโมง 20 นาที รายการบันเทิงถ่ายทอดสดรายการแรก สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ การแข่งขันรอบคัดเลือกความสามารถของเขตปักกิ่งกำลังจะเริ่มถ่ายทอดสดในห้องแกรนด์สตูดิโอ
สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งเป็นช่องโทรทัศน์กลุ่มแรกที่ได้รับการติดดาว ด้วยเหตุนี้จึงมีอิทธิพลทั้งในประเทศจีนรวมถึงทั่วเอเชีย อาศัยการเป็นช่องโทรทัศน์แห่งเมืองหลวงเป็นข้อดีหลัก จึงเป็นช่องโทรทัศน์แถวหน้าที่มีความแข็งแกร่ง
แต่ใน 5 ปีที่ผ่านมา รายการบันเทิงโด่งดังขึ้นทุกวัน ทั้งช่องเซียงหนานเว่ยซื่อ ช่องตงไห่เว่ยซื่อ ช่องเจียงหนิง เว่ยซื่อเป็นต้น ต่างพัฒนาขึ้นมาอย่างมาก แย่งยอดขายทางการตลาดไปเสียส่วนใหญ่ และข่มสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งอย่างหนักจนแทบไม่มีที่ยืน
โดยเฉพาะช่องโทรทัศน์เซียงหนานเว่ยซื่อที่ถนัดการทำรายการบันเทิง ตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา ช่องโทรทัศน์เซียงหนานเว่ยซื่อใด้เกิดรายการ ‘ซูเปอร์เกิร์ลเสียงสตรอง’ ‘ซูเปอร์บอยเสียงสตรอง’ ‘รายการนิวไอดอล’ เป็นต้น ล้วนแล้วแต่เป็นรายการการแข่งขันที่คัดเลือกจากประชาชน นอกจากจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากแล้ว ยังสร้างศิลปินไอดอลชื่อดังขึ้นอีกกลุ่มหนึ่ง ได้เรตติ้งอันดับหนึ่งจากวงการช่องโทรทัศน์ทั้งหมด!
สิ่งที่ทำให้สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งเสียหน้าคือ รายการคัดเลือกความสามารถทั้งหมด ช่องโทรทัศน์เซียงหนานจัดขึ้นในเมืองหลวง การคัดเลือกทุกครั้งมีผู้เข้าร่วมเป็นหมื่นคน บรรยากาศในงานคึกคักมาก ความโด่งดังถึงขีดสุด
ถิ่นของตัวเองกลายเป็นสถานที่ให้คู่แข่งมาวาดลวดลาย สำหรับสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งแล้วเหมือนตบหน้ากันชัดๆ!
สิ่งที่ทำให้สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งยิ่งโมโหคือช่องตงไห่ ช่องเจียงหนิงต่างพากันเลียนแบบ ใช้เมืองหลวงที่เป็นทำเลทอง เหมือนเป็นเนื้อชิ้นใหญ่ที่ใครๆ ต่างพากันเข้ามาแย่งกันกินอย่างเอร็ดอร่อย
ในสถานการณ์แบบนี้ สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งผู้เย่อหยิ่ง สุดท้ายแล้วก็ไม่อาจทนรับกับเรตติ้งที่ตกต่ำลงเป็นรายปีได้ หลังผ่านการคิดหากลยุทธ์และเตรียมการอยู่ครึ่งปี ถึงได้ออกรายการการแข่งขันคัดเลือก…‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ซึ่งผลิตขึ้นเอง!
สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งผู้ทะเยอทะยานอยากจะประลองกับรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ ของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานดู
เพื่อรายการนี้แล้ว สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งลงทุนไปมาก ไม่เพียงแต่ตกแต่งสตูดิโอถ่ายทำใหม่ทั้งหมด เวทีเบื้องหลังยังขยายให้กว้างขึ้น เทียบกับเมื่อก่อนแล้วกว้างขวางสะดวกสบายกว่ามาก ให้เพียงพอรองรับผู้เข้าประกวดหลายร้อยคนและพนักงานเจ้าหน้าที่
คืนนี้ผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านเข้ารอบมาจากรอบที่แล้วมีทั้งหมด 35 คน รวมถึงกองเชียร์และญาติพี่น้องที่มาร่วมเป็นร้อยกว่าคน
ลู่เฉินเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขัน 35 คนนี้ และยังเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่ไม่มีกองเชียร์
ในเมืองหลวงไม่ใช่ว่าเขาไม่มีเพื่อนฝูง แต่หลี่เฟยอวี่ต้องช่วยเขาออกอากาศการแข่งขันในออนไลน์ ส่วนพี่น่าและฉินฮั่นหยางพักนี้มัวแต่ยุ่ง เพราะวงเฮสิเทชั่นกำลังโด่งดัง ไม่ได้ทำงานในบาร์เดย์ลิลลี่อีกแล้ว ดังนั้นลู่เฉินจึงไม่ไปรบกวนพวกเขา
ส่วนคนอื่นๆ เขาคิดว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร เช่นเยี่ยจื่อถง แม้ทั้งสองจะรู้สึกดีต่อกัน แต่ความสัมพันธ์ยังไม่ชัดเจน ก็ไม่ควรไปลากเธอเข้ามาออกสื่อต่อหน้าคนทั้งประเทศอยู่แล้ว?
ลู่เฉินนำมาแค่กีตาร์ตัวเดียว ขี่ม้าขาวถือทวนบุกฝ่าทัพโดยลำพัง
หากเปรียบเทียบในบรรดาผู้แข่งขันทั้ง 35 คน อารมณ์ของลู่เฉินในตอนนี้สงบผ่อนคลายที่สุด เขานั่งพิงเก้าอี้พักผ่อนรอเวลา พลางแอบมองสำรวจคนอื่นๆ ในสตูดิโอ
ชายที่นั่งอยู่ทางขวาของลู่เฉินเป็นชายวัยกลางคนหนวดเครารุงรัง ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใส่เสื้อยืดทำเองกับกางเกงยีนส์ขาดๆ บ่งบอกว่าเป็นการแต่งตัวของนักร้องข้างถนน กำลังกอดกีตาร์ไว้ก้มหน้านิ่งไม่พูดจา
เบื้องหน้าของเขาคือวงดนตรีวงหนึ่ง มีสมาชิกห้าคน ทั้งหมดยังอายุน้อย กระตือรือร้นมีชีวิตชีวา พวกเขาหยอกล้อพูดคุยให้กำลังใจกัน ดูตื่นเต้นระหว่างที่รอคอยการแข่งขันครั้งนี้
ถัดขึ้นไปอีกแถวหนึ่งด้านหน้า เจ้าหน้าที่ของช่องโทรทัศน์กำลังสัมภาษณ์ผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่ง
เพราะผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดในรอบคัดเลือกครั้งนี้จะต้องถูกอัดคลิปเป็นช่วงสั้นๆ เรียกว่า VCR เนื้อหาในวิดีโอหลักๆ คือการแนะนำตัวเอง เมื่อถึงเวลาออกอากาศจริง ผู้ตัดต่อจะเลือกบางช่วงบางตอนใส่เข้าไปในการออกอากาศ
แม้บอกว่านี่เป็นการออกอากาศสด ความจริงแล้วไม่ใช่การถ่ายทอดสดโดยตรง เวลาอัดรายการกับเวลาออกอากาศจริงห่างกันประมาน 1 ชั่วโมง
ข้อดีคือทางรายการสะดวกในการควบคุมและตัดต่อเนื้อหา เพื่อไม่ให้มีเรื่องนอกเหนือจากความคาดหมายเกิดขึ้น ตอนนี้ถือว่าเร็วมากแล้ว เมื่อก่อนรายการแข่งขันรอบคัดเลือกจะต้องถ่ายทำให้เสร็จสิ้นก่อนหลายวันหรืออย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ จากนั้นค่อยเปลี่ยนชื่อรายการตอนออกอากาศว่าถ่ายทอดสด
นี่เป็นการหลอกลวงชัดๆ!
ถึงแม้การอัดรายการก่อนหลายวันจะได้ผลดีที่สุด แต่ผู้ชมจากทางบ้านของช่องโทรทัศน์มีหลากหลายและไม่ใช่คนโง่ พวกเขาหวังจะได้เห็นความเป็นไปตามจริงที่เกิดขึ้นในการแข่งขัน ยิ่งทำยิ่งขัดต่อขั้นตอนและกระบวนการ การจัดทำรายการ ทำให้สภาพของการถ่ายทอดสดในการแข่งขันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
การแข่งขันรอบความสามารถและการแข่งขันซ้ำอีกรอบต้องเริ่มก่อนเป็นชั่วโมง เมื่อถึงช่วงที่คัดออกหรือตอนประกาศผลการตัดสินอย่างมากเป็นเวลาแค่ 30 นาที
หรืออาจจะถ่ายทอดสดโดยตรง!
แน่นอนว่าทุกช่องสถานีโทรทัศน์ วิธีการแบบนี้ถือเป็นความท้าทายอย่างสูง ถ้าไม่มีทีมงานที่เก่งกาจมีความสามารถอย่างแท้จริงแล้ว คงไม่สามารถทำรายการแข่งขันถ่ายทอดสดออกมาได้
ช่วง VCR ของลู่เฉิน เพิ่งถูกอัดจบไป ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
จากเดิมที่เป็นเรื่องง่ายดาย แต่กับชายหนุ่มหน้าตาดีสวมแว่นตาคนนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้ากล้องและเครื่องบันทึกเสียงแล้วดูเคร่งเครียดมาก เขาพูดติดอ่างอย่างไม่ได้ดังใจ ทำให้กองเชียร์ข้างๆ เขาร้อนใจตามไปด้วย
หากเทียบกับผู้เข้าแข่งขันสาวที่นั่งอยู่ทางซ้ายของลู่เฉินห่างออกไปสี่ห้าเมตรแล้ว ชายคนนั้นยังดีกว่ามาก เด็กสาวอายุราวสิบแปดปีเคร่งเครียดจนร้องไห้ออกมา และไม่กล้าร้องไห้เสียงดัง ทำได้เพียงก้มหน้าน้ำตาไหล
ข้างกายของเธอมีเพื่อนสนิทสาวอีกสองคนยืนอยู่ด้วย แต่ทั้งสองไม่รู้เทคนิคการพูดปลอบประโลม หลังจากให้กำลังใจเธออยู่นานแล้วไม่ได้ผล จึงจนปัญญา
ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นรอบข้างเห็นเข้า ส่วนใหญ่รู้สึกขบขัน หรือไม่ก็หัวเราะเยาะ
สภาพจิตใจแย่ขนาดนี้ แล้วจะกล้าขึ้นแสดงบนเวทีได้ยังไง
ลู่เฉินได้ยินพวกเธอพูดอยู่นาน ในที่สุดก็เข้าใจว่าเดิมทีเด็กสาวผู้เข้าแข่งขันคนนี้โชคร้ายมาก วันสำคัญเช่นนี้กลับไม่ราบรื่นเลย ผลจึงกระทบต่อจิตใจของเธออย่างรุนแรง อีกทั้งตอนที่อัดคลิป VCR เธอยังทำได้ไม่ดีอีก
หลายสิ่งสะสมถาโถม ทำให้เธอย่ำแย่ตั้งแต่ยังไม่ได้ขึ้นเวที
ประโยชน์ของกองเชียร์ที่นอกจากจะเพิ่มสีสันให้รายการแล้ว หลักๆ คือการสนับสนุนให้กำลังใจผู้เข้าแข่งขัน
แต่กองเชียร์ทั้งสองคนนี้ไม่ผ่าน!
คิดไปคิดมา ลู่เฉินลุกขึ้นและเดินเข้าไป ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
เขาหยิบขวดหมากฝรั่งรสมิ้นท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ยื่นให้เด็กสาวที่ร้องไห้คนนั้น บอกว่า “เธอไม่ต้องเครียด กินหมากฝรั่งสักหน่อย เคี้ยวแล้วอารมณ์จะดีขึ้น”
เด็กสาวและเพื่อนๆ ของเธอเงยหน้าขึ้นอย่างตกตะลึง
ลู่เฉินยิ้มเบาๆ ยื่นมือเปิดฝาขวด บอกว่า “ลองดูสิ!”
มีการวิจัยชี้ชัดว่า รอยยิ้มของหนุ่มหล่อหรือสาวสวยที่แสดงความเป็นมิตรมักจะช่วยเยียวยาความเคร่งเครียด ความกลัวและความกระวนกระวายให้หายไป เหมือนกับ BUFF ในเกมที่ให้เม็ดนมเป็นกำลังใจ มีผลกระตุ้นให้เกิดการหลั่งสารโดปามีนและฮอร์โมน!
แม้ว่าเนื้อหาด้านบนจะดูไร้สาระ แต่ด้วยความหล่อเหลา รอยยิ้มอันอบอุ่นของลู่เฉิน ทำให้สาวน้อยปล่อยวางลง เธอเช็ดน้ำตาอย่างเก้อเขิน ใบหน้าเรียวแดงระเรื่อขึ้นด้วยความเขินอาย
สาวน้อยลังเล แล้วแบมือขาวอมชมพูออกไปรับ เอ่ยว่า “ขอบคุณค่ะ…”
เสียงของเธอเบาและหวานมาก ฟังเหมือนเม็ดนมที่เพิ่งละลาย เมื่อถูกอมเข้าในไปในปาก ความหวานแทรกซึมลงไปถึงใจ
ลู่เฉินเทหมากฝรั่งลงบนมือของเธอ
นี่เป็นสิทธิพิเศษของพี่ชายรูปหล่อ ถ้าลู่เฉินเป็นคนอ้วนน่าเกลียดหรือผอมแห้งแรงน้อย คงจะไม่มีสาวคนไหนยอมรับหมากฝรั่งที่เขายื่นให้
ลู่เฉินหันไปถามเพื่อนของเธอว่า “พวกเธอมาจากมหาวิทยาลัยไหนเหรอ”
ดูอ่อนวัยแบบนี้ ไม่มีญาติมาด้วย อายุแค่สิบแปดสิบเก้าปี แน่นอนว่าต้องมาจากต่างเมืองเพื่อเรียนหนังสือในเมืองหลวง
ฝ่ายนั้นตอบอย่างยินดีว่า “พวกเรามาจากวิทยาลัยภาษาต่างประเทศ มาเป็นเพื่อนเสี่ยวชูเข้าประกวด พี่ชายเป็นผู้แข่งขันใช่ไหม เรียนอยู่ที่ไหนคะ”
ลู่เฉินยิ้ม “ผมเป็นผู้เข้าแข่งขัน เพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเจียงไห่ปีนี้เอง”
“เป็นรุ่นพี่ที่เรียนจบแล้วนี่เอง!”
ฝ่ายนั้นตาลุกวาว ผลักๆ สาวน้อยคนนั้นทันที “เสี่ยวชู รีบขอเบอร์ติดต่อรุ่นพี่สิ ไม่แน่เผื่อเธอสองคนอาจจะได้เข้ารอบทั้งคู่ก็ได้นะ!”
ความจริงแล้วเป็นเธอเองที่อยากได้ แต่ไม่กล้าขอตรงๆ
ลู่เฉินหัวเราะเหอะๆ แล้วเพิ่มเบอร์เฟยซวิ่นของคนทั้งสามเป็นเพื่อนสนิท
ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้รู้จักชื่อของสาวน้อยขี้อายด้วย
มู่เสี่ยวชู
……………………………………………………………..