Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง - ตอนที่ 1674 โชคชะตาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง
ทุกคนตรงนี้เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเด็กผู้หญิงลึกลับและพูดจาโผงผางคนนี้แล้ว การดูถูกและหัวเราะเยาะในทีแรก ตอนนี้เปลี่ยนเป็นความสงสัยและหวาดกลัว เพราะจากบทสนทนาเมื่อครู่ ทุกคนดูออกว่าเธอไม่ได้เป็นบ้า แถมไม่ได้โง่ด้วย ในทางกลับกัน เธอใจเย็นและเฉลียวฉลาด ในเมื่อคนที่ใจเย็นและเฉลียวฉลาดกล้าท้าทายพวกเขาเพียงลำพัง จะต้องมีคนหนุนหลังอยู่แน่นอน
บางคนเริ่มเสียใจภายหลังอยู่เงียบๆ ที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ แต่ก็สายไปเสียแล้ว ในเมื่อมาถึงนี่ ก็ทำได้แค่ฝืนทนไปจนถึงที่สุด
“โชคชะตาของพวกเราถูกกำหนดไว้แล้ว?” ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ชี้เธอแล้วพูด “เธอหมายความว่า พวกเราต้องตายที่นี่เหรอ? เชื่อหรือเปล่าว่างูของฉันจะกลืนเธอก่อนตายน่ะ?”
คนอื่นๆ ก็ไม่เชื่อคำพูดที่ว่าโชคชะตาถูกกำหนดไว้แล้ว พวกเขาค่อนไปทางความคิดของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เธอหรือภูตสัตว์เลี้ยงของเธอต้องใช้วิธีบางอย่างฆ่าพวกเขาทั้งหมดที่นี่ เป็นไปได้ว่าจะทำโดยผ่านพิษ
พวกภูตสัตว์เลี้ยงพากันออกจากสภาพพรางตัว จ้องเธอด้วยสายตาของเสือร้าย และพร้อมจะเริ่มจู่โจมได้ทุกเมื่อ
เธอมองข้ามบรรยากาศตึงเครียด และยืนขึ้นด้วยท่วงท่าสบายๆ “อย่าเข้าใจผิดนะคะ โชคชะตาที่หนูพูดถึงก็คือความหมายตรงตัวค่ะ”
“โชคชะตา? ฉันไม่เชื่อเรื่องโชคชะตาหรอก” หลี่หย่วนเฟยส่ายหน้า “ถึงมีโชคชะตาอยู่จริงๆ ฉันก็จะใช้มือของฉันเปลี่ยนแปลงโชคชะตา!”
ทุกคนเห็นด้วยกับคำพูดกล้าหาญของเขา
เธอเดินไปที่ริมหน้าต่าง ก่อนจะกดปุ่มเปลี่ยนเป็นกระจกใส ให้แสงแดดส่องเข้ามาในห้องมากขึ้น
“พวกคุณเคยได้ยินทฤษฎีของแฟร์มาต์ไหมคะ?” อยู่ๆ เธอก็เปลี่ยนเรื่องพูด
ไม่มีคนตอบ ทุกคนต่างก็กำลังคาดเดาเจตนาของเธออยู่
เธอยื่นมือออกมาในแนวระนาบข้างหนึ่ง ให้แสงแดดตกลงบนฝ่ามือแดงระเรื่อ พลางจ้องมองลายของแสง แล้วพูดอย่างช้าๆ “แสงกว้างขวางที่สุดในจักรวาล และเป็นสสารที่มั่นคงที่สุด ทฤษฎีมากมายของไอน์สไตน์ก็ใช้ความคงที่ของความเร็วแสงเป็นเงื่อนไขข้อแรก นั่นก็คือความเร็วแสงจะรักษาสภาพคงเดิม ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็ตาม”
“แสงมีปรากฏการณ์น่าสนใจอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือแสงเดินทางไปสุดขั้ว ผ่านสองจุดในที่ว่างที่กำหนด ซึ่งเส้นทางจริงๆ ก็คือความยาวทางเดินเชิงทัศนศาสตร์หรือเรียกว่าทางที่ใช้เวลาน้อยที่สุด”
เธอใช้คำพูดที่เข้าใจง่าย พูดพร้อมทำท่าทาง ถึงเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ร่ำเรียนเท่าไรก็ฟังรู้เรื่องคร่าวๆ
ถึงเข้าใจ แต่ทุกคนก็ยังไม่รู้ว่าเธอพูดเรื่องพวกนี้ทำไม อีกอย่างปรากฏการณ์นี้น่าสนใจตรงไหน?
“พวกคุณไม่รู้สึกแปลกเหรอคะ? แม้ความเร็วแสงจะเร็วมากๆ เร็วจนคนมองข้ามความแร็งแสงตลอด แต่แสงจะเร็วจริงๆ ในตอนที่มีระยะทางมากพอ ไม่ใช่แค่พริบตาเดียวถึง…แต่พวกคุณไม่รู้สึกแปลกเหรอคะ? ก่อนแสงจะออกเดินทาง ทำไมถึงรู้ว่าเส้นทางไหนใกล้ที่สุด?”
บางคนเหมือนจะเข้าใจความหมายของเธอเล็กน้อย แสงก็เหมือนความตั้งใจแน่วแน่ เพราะเลือกเส้นทางที่ใกล้ที่สุดโดยอัตโนมัติ ถ้าคิดเรื่องนี้ให้ลึกซึ้ง ก็แปลกมากจริงๆ หรือว่าแสงมีความตั้งใจแน่วแน่จริงๆ?
คนจะเลือกเส้นทางที่ใกล้ที่สุด เพราะคนมีความตระหนักรู้ คาดเดาเองได้ แต่แสงไม่มีตา ตอนออกเดินทางรู้ได้อย่างไรว่าเส้นทางไหนใกล้ที่สุด? หรือว่าแสงก็ ‘มอง’ เห็นก่อนออกเดินทางว่าจุดสิ้นสุดอยู่ตรงไหนเหมือนกับคน?
คิดให้ดีแล้วน่ากลัวจริงๆ
“ถ้าคุณกับแสงยืนอยู่ที่จุดสตาร์ทเดียวกัน มองไปตามแสงสว่าง มองปราดเดียวก็เห็นจุดสิ้นสุดปลายทางของแสง ไม่ได้มองเห็นสิ่งของอย่างอื่น” เธอพูด “โชคชะตาก็เหมือนกัน โชคชะตากำหนดให้พวกคุณท้อถอย โชคชะตากำหนดให้พวกคุณหลายๆ คนลองโดยที่เสียแรงเปล่า จากนั้นก็ถูกหนูกวาดเข้าไปในกองขยะของประวัติศาสตร์ ทุกอย่างนี้กำหนดไว้ก่อนที่พวกคุณจะเกิดแล้ว แต่ถึงพวกคุณรู้ดีว่าวันนี้จะพ่ายแพ้ พวกคุณจะเลือกไม่เกิดมาบนโลกไหม? แต่ขอโทษที พวกคุณไม่มีแม้แต่ทางเลือกที่จะไม่เกิดด้วยซ้ำ”
เธอมองหน้าซีดเผือดขึ้นเรื่อยๆ ของพวกเขาอย่างเห็นใจ “ในกลศาสตร์ควอนตัม โฟตอนเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ พวกคุณทุกคนเหมือนจะมีเจตจำนงเสรีกันทุกคน แต่จำกัดอยู่ในพื้นที่สามมิติที่พวกเราอยู่ ถ้าบวก ‘เวลา’ เข้าไปด้วยก็จะเป็นพื้นที่สี่มิติ แต่ถ้ายืนอยู่ในพื้นที่ห้ามิติหรือพื้นที่มากมิติ ก็นำกลศาสตร์ควอนตัมมาใช้ไม่ได้แล้ว เหมือนได้ครอบครองดวงตาแห่งการรู้แจ้งของพระเจ้า ตรงหน้าคุณ ทุกสรรพสิ่งในพื้นที่สี่มิติจะขยายออกไปอยู่ตลอด คุณมองเห็นจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของทุกสรรพสิ่งได้ในเวลาเดียวกัน คุณมองเห็นตัวเองกลิ้งจากจุดเริ่มต้นไปถึงจุดสิ้นสุดทีละก้าวได้ ไม่มีความเป็นไปได้ไหนมาเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้”
พวกเขาฟังไม่รู้เรื่องขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็กลัวขึ้นเรื่อยๆ เพราะถ้าเธอไม่ได้ใช้คำพูดขู่ให้กลัว อย่างนั้นพลังของเธอก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจินตนาการได้
พวกเขาได้ยินเรื่องดวงตาแห่งการรู้แจ้งแล้วก็หวาดหวั่นขึ้นมา ดวงตาที่ร้ายกาจขนาดนั้น ความจริงแล้วแค่อาศัยพลังของเทพก็ได้รับดวงตาเห็นพื้นที่ห้ามิติ มองเห็นความลับทุกอย่างของพื้นที่สี่มิติ…แต่น้ำเสียงของเธอ เหมือนเธอเคลื่อนที่อยู่ในพื้นที่ห้ามิติได้อย่างอิสระ!
ถ้าเป็นอย่างนั้น เธอก็ปรากฏตัวในพื้นที่สี่มิติได้ทุกที่และทุกเวลา และกลับไปยังพื้นที่มากมิติได้ตลอดเวลาด้วย
มดที่ไต่อยู่บนกระดาษไม่มีทางจินตนาการได้ว่าในพื้นที่สี่มิติมีมีมนุษย์ที่กำลังจ้องมองมันอยู่ มดทุกตัวคิดว่าตัวเองมีเจตจำนงเสรี แต่พวกมันไม่รู้เลยว่าตัวเองที่กำลังสำรวจบนกระดาษน่าหัวเราะสำหรับมนุษย์มากเท่าไหร่ เพราะมนุษย์มองปราดเดียวก็เห็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของพวกมันแล้ว
มนุษย์ในพื้นที่สี่มิติก็ไม่มีทางจินตนาการได้ ว่าในพื้นที่ห้ามิติก็มีพลังบางอย่างจ้องมองพวกเขาอยู่ เจตจำนงเสรีที่ว่าของมนุษย์ก็มีอยู่แค่ในพื้นที่สี่มิติเท่านั้น วัตถุในพื้นที่ห้ามิติมองปราดเดียวก็เห็นการเกิดและตายของผู้คนแล้ว
แสงในพื้นที่สี่มิติลองทุกหนทางที่เป็นไปได้แล้ว ก่อนออกเดินทางแสงในพื้นที่สี่มิติไม่รู้ว่าปลายทางอยู่ที่ไหน แต่สิ่งมีชีวิตในพื้นที่ห้ามิติมองเห็น มองปราดเดียวก็เห็นจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดแล้ว แสงทำได้แค่เลือกเส้นทางที่ใกล้ที่สุด
พูดจากความหมายนี้ มนุษย์ก็เป็นแค่มดที่ระดับสูงขึ้นมานิดหน่อย
เธอกวาดสายตามองหน้าทุกคน เธอรู้ชื่อของพวกเขาทุกคน รู้ช่วงเวลาเกิดของทุกคนเป็นวินาที รู้ทุกเรื่องที่ทุกคนเคยทำ รู้ทุกเรื่องที่ทุกคนกำลังทำ รู้ทุกเรื่องที่ทุกคนกำลังจะทำ รู้ว่าทุกคนจะตายด้วยวิธีไหนในวันไหน ไปจนถึง…รู้ชื่อจริงของภูตสัตว์เลี้ยงทุกตัวในโทรศัพท์มือถือของพวกเขา
เมื่อรู้ชื่อจริงของภูตสัตว์เลี้ยง ก็ได้ครอบครองพลังของภูตสัตว์เลี้ยงแล้ว
หลายๆ คนที่ได้รับการเรียนรู้วิชาฟิสิกส์เป็นอย่างดีเข้าใจความหมายของเธอทันที ขาทั้งสองข้างจึงอ่อนยวบ ทรุดตัวลงบนพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง มนุษย์บี้มดบนกระดาษให้ตายได้ง่ายๆ และเธอก็สามารถบี้พวกเขาให้ตายได้ง่ายๆ เช่นกัน…ไม่สิ ไม่ใช่บี้ให้ตาย แต่ใช้วิธีที่มดหรือคนไม่มีทางจินตนาการได้บางอย่างมาฆ่าพวกเขาให้ตาย
เธอหันไปมองหลี่หย่วนเฟย “ตอนนี้หนูจะตอบคำถามของคุณ โชคชะตาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อยู่แล้ว ตั้งแต่ทุกคนเกิด โชคชะตาก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ทุกคนต้องตายในที่สุด เป็นโชคชะตาที่จะค่อยๆ กลายเป็นจริง…วันนี้เป็นจุดเชื่อมสำคัญจุดหนึ่งของโชคชะตาพวกคุณ”