Princess Medical Doctor องค์หญิงแพทย์ผู้เชียวชาญ - ตอนที่ 255.2
หลิน ชูจิ่ว ก้มลงมารับเด็กหนึ่งคนขึ้นมา ก่อนจะพูดขึ้น“จะมีประโยชน์อะไรที่จะมาพูดเอาตอนนี้ ทำไมพวกเจ้าไม่ออกไปข้างนอกและซื้ออาหารมา เด็กเหล่านี้กำลังหิวโหยเป็นอย่างมาก”
“ แต่……” ทหารคุ้มกันดูลังเล
หากพวกเขาจากไปจะมีเพียงหลิน ชูจิ่วที่เหลืออยู่ในสถานที่แห่งนี้ เขาจะทำอย่างไรถ้า นางตกอยู่ในอันตราย?
“ช่างมันเถอะ แม้ว่าพวกเจ้าจะไป พวกเจ้าก็อาจจะไม่สามารถซื้ออาหารที่เหมาะสมมาได้ มาตัดผมของเด็กๆ พวกนี้ก่อน ไปหาสิ่งที่เราจะสามารถใช้ต้มน้ำได้ เราต้องการน้ำเป็นอย่างแรก” หลิน ชูจิ่ว รู้ว่าทหารคุ้มกันกังวลอะไร เธอไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีใครติดตามเธอมา หากทหารคุ้มกันจากไปและมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับเธอ เด็ก ๆ เหล่านี้จะยิ่งน่าสังเวชมากไปกว่านี้
“ขอรับ” ทหารคุ้มกันไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟังคำสั่งของหลิน ชูจิ่วในครั้งนี้ แต่เขาไม่กล้าไปไกลเกินไป เมื่อเขาไม่พบฟืนในสวนหลังบ้านเขาก็รีบกลับมาทันที
ในเวลาเดียวกันหลิน ชูจิ่วก็หยิบกรรไกรผ่าตัดขึ้นมาและตัดผมที่ยุ่งเหยิงของเด็กหลายคนรอบๆ ตัวเธอออก ก่อนจะเผยเครื่องหมายสีแดงบนใบหน้าของพวกเขา
ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย เด็ก ๆ อาจได้รับพิษ ได้จากแผลเปื่อยหรือตุ่มหนองในหัวของพวกเขาซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม หลิน ชูจิ่ว จึงตัดสินใจตัดผมของพวกเขา
หลังจากตัดผมของเด็กๆ แล้ว หลิน ชูจิ่วก็พบว่าหลายคนมีข้อบกพร่องที่เห็นได้ชัด จากเด็ก 30 คนมีเด็ก 3 คนที่มีปากกระต่าย 2 คนมีปัญหาสายตาและบางคนมีข้อบกพร่องของมือและเท้า… …
เด็กทารถบางคนที่มีสุขภาพดีจะเป็นผู้หญิงเสียส่วนใหญ่ เธอเห็นเด็กทารกชายเพียงคนเดียวเท่านั้น ดูเหมือนว่าเด็กทาราคนนี้จะเพิ่งถูกทอดทิ้งได้เพียงไม่กี่วัน ร่างกายของทารกอ่อนแอซึ่งทำให้เขากลายเป็นโรคปอดบวม เขาเป็นผู้ป่วยที่ร้ายแรงที่สุดในหมู่เด็กคนอื่น ๆ
หลิน ชูจิ่ว หยิบชุดผ่าตัดและยาบางตัวที่ใช้กันทั่วไปในระบบการแพทย์ออกมา อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้มีโอกาสที่จะเอายารักษาโรคปอดบวมออกมา เพราะเธอเห็นทหารคุ้มกันมาทางด้านหลังเธอเสียก่อน หลิน ชูจิ่ว ไม่กล้าที่จะหยิบสิ่งอื่นๆ ออกมามากนักในระบบการแพทย์ สิ่งที่เธอทำได้ในตอนนี้คือการรอให้คนในตำหนักเสี่ยวหวางฟู่มาถึงเสียก่อน
ตำหนักเสี่ยวหวางฟู่นั้นอยู่ไม่ไกลจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง แต่ถึงแม้องครักษ์เงาจะมีความเร็วสูงแต่ก็ยังคงต้องใช้เวลาไปถึงหนึ่งชั่วยาม
หลิน ชูจิ่ว อุ้มทารกที่เป็นโรคปอดบวมไว้ในอ้อมแขนของเธอ เธอเป็นห่วงเขามาก กลัวว่าเขาจะไม่สามารถอยู่รอดได้ เธอเห็นว่าทารกกำลังหิวโหย เด็กดึงเสื้อผ้าของเธอแล้วใส่เข้าไปในปากของเขา เด็กร้องไห้ออกมาเมื่อเธอดึงเสื้อผ้ากลับออกมา หลิน ชูจิ่ว ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากทำความสะอาดมือของเธอและปล่อยให้ทารกดูดมัน
เด็กทารกจับนิ้วของหลิน ชูจิ่วและดูดมันด้วยแรงทั้งหมดที่เขามี ใบหน้าเล็ก ๆ ของทารกดูจะพอใจมาก เมื่อเห็นอย่างนี้หลิน ชูจิ่วก็อดไม่ได้ที่จะมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนปรากฏขึ้น
เมื่อเสี่ยวเทียนเหยา เข้ามา เขาก็เห็นภาพนี้……
หลิน ชูจิ่ว ที่กำลังนั่งยอง ๆ อยู่บนพื้น กำลังอุ้มเด็กสกปรกเอาไว้ในอ้อมแขนของนาง แต่ร่างกายทั้งหมดของนางกลับสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นขึ้น ซึ่งทำให้บุคคลผู้หนึ่งรู้สึกช่วยไม่ได้นอกจากจะอยากเข้าไปใกล้
“ หลิน ชูจิ่ว” เสี่ยวเทียนเหยาเปิดปากของเขาและพูดด้วยน้ำเสียงที่ต่ำมาก
“หวางเย่ ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” เสี่ยวเทียนเหยาถูกหลิน ชูจิ่วพบเข้าให้ ไม่ใช่เพราะเขาส่งเสียง แต่เป็นเพราะแสงถูกปิดกั้นโดยร่างกายของเขา
เหตุการณ์ดังกล่าวปลุกเสี่ยวเทียนเหยาขึ้นทันที เขากลายเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร
“อืมมม” เสี่ยวเทียนเหยาพูดขึ้นง่ายๆ แต่ไม่ได้ตอบคำถามของหลิน ชูจิ่ว ก่อนจะก้าวไปตรงหน้าทหารคุ้มกันที่กำลังดูแลเด็กคนอื่น ๆ อยู่บนพื้นและถามขึ้น“ สถานการณ์ที่นี่เป็นอย่างไร?”
“หวางเย่” ทหารคุ้มกันรีบวางเด็กลงและคุกเข่าลงไปบนพื้น จากนั้นเขาก็รายงานทุกสิ่งที่พวกเขาพบในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง ขึ้น“ ไม่มีผู้ใหญ่แม้แต่คนเดียวอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง แห่งนี้ มีเพียงเด็กๆ ที่กำลังร้องไห้เท่านั้นที่อยู่ที่นี่ หวางเฟยทนไม่ได้ที่จะเห็นพวกเขาทนทุกข์ จึงได้อุ้มพวกเขาออกมาที่นี่ทีละคนๆ ขอรับ”
“ ไปหาอาหารที่ปรุงสุกแล้วสำหรับเด็กพวกนี้มา” เสี่ยวเทียนเหยามองดูเด็ก ๆ บนพื้นและหัวคิ้วของเขาก็ขมวดขึ้นโดยไม่รู้ตัว
กลุ่มของเด็กๆ ที่ร้องไห้ทำให้เขารำคาญมากจริง ๆ แต่เขาก็สามารถพูดได้ว่าเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสมจริงๆ …