Princess Medical Doctor องค์หญิงแพทย์ผู้เชียวชาญ - ตอนที่ 265.1
เพราะเสี่ยวเทียนเหยาและหลิน ชูจิ่วปรากฏตัวขึ้นในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง และหลิน ชูจิ่วที่เป็นถึงหวางเฟยถึงกับเป็นคนดูแลเด็กๆ ที่ถูกทอดทิ้งด้วยตัวเอง มันทำให้หลายคนจ้องมองไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง คนเหล่านั้นคิดว่าอาจมีบางสิ่งที่ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับมันอยู่เบื้องหลังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง มิฉะนั้นแล้วทำไมเสี่ยวหวางเย่และเสี่ยวหวางเฟยถึงได้สนใจเด็กๆ ที่ถูกทอดทิ้งเหล่านั้น?
ในบรรดาคนเหล่านั้นก็รวมหมอหลวงฉินอยู่ด้วย แม้ว่าหมอหลวงฉินจะไม่สามารถยอมรับอาจารย์ของเขาได้ แต่เขาก็ไม่สามารถเมินเฉยต่อเรื่องนี้ได้ เขาแน่ใจว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของการโต้กลับของเสี่ยวหวางเย่ต่อหมอเทวดาโม่ เมื่อเห็นว่าเสี่ยวเทียนเหยาและหลิน ชูจิ่วไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง หมอหลวงฉินก็ตวรจสอบเรื่องนี้ในทันที หลังจากตรวจสอบแล้ว เขาก็พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์มาก
หมอหลวงฉินพบว่าไม่เพียงแต่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง ที่อยู่ในเมืองหลวงเท่านั้นที่มีเพียงแต่เด็กพิการและทารกที่ผอมแห้ง แต่ทั่วแคว้นตะวันออก ต่างก็ไม่มีเด็กที่โตแล้วแม้แต่คนเดียวหรือเด็กที่มีสุขภาพดีอยู่ด้วยด้วย
หมอหลวงฉินได้กลิ่นคาวบางอย่างจากเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงตรวจสอบต่อไปและพบว่าเด็กที่โตแล้วและมีสุขภาพดีถูกขายออกไป นอกจากนี้เขายังพบว่าทุก ๆ สองสามปีหมอเทวดาโม่จะซื้อเด็กกลุ่มหนึ่งมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง หมอเทวดาโม่ มีลูกศิษย์อยู่มากมาย แล้วทำไมเขาถึงต้องซื้อเด็กๆ จำนวนมากมายมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทังด้วย?
แม้ว่าจะมีหลักฐานไม่เพียงพอ หมอหลวงฉินก็สรุปได้ว่ามันจะต้องเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ลับตาคนของเขา ไม่มีใครในโลกนี้ที่เป็นคนโง่อย่างสมบูรณ์แบบ ตราบใดที่ยังคงมีความสงสัยอยู่ในหัวใจของผู้คน หมอเทวดาโม่ ก็จะไม่สามารถแสร้งทำเป็นวีรบุรุษที่ชอบธรรมได้อีกต่อไป แม้ว่าเขาจะบอกว่าเขาไม่ได้ทำ มันก็เป็นการยากที่จะไม่ทำให้ผู้คนเชื่อมต่อเรื่องราวต่างๆ เข้าด้วยกันได้
หมอหลวงฉินไม่ได้โจมตีหมอเทวดาโม่โดยตรง เขากลับยืมปากของผู้คนเพื่อเปิดเผยเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง ความลับที่พวกเขาขายเด็กที่ถูกทอดทิ้งออกไป
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่ได้ถูกเปิดเผยที่เมืองหลวง แต่อยู่ในเมืองอื่นซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงออกไป หลังจากข่าวถูกเปิดเผย มันก็ทำให้ผู้คนที่อยู่นอกเมืองหลวงตกใจมาก หลายคนตั้งคำถามต่อราชสำนักและเหล่าขุนนาง
มันเป็นสิ่งที่ดีที่จะดูแลเด็ก ๆ ที่ถูกทอดทิ้ง แต่เหตุใดราชสำนักถึงได้เรียกเก็บเงินเพื่อแลกกับการดูแลเด็ก ๆ เหล่านั้น พวกเขาไม่รู้สึกหนาวสั่นในกระดูกสันหลังของพวกเขาบ้างหรืออย่างไร?
เป็นเวลาหลายปีที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง ขายเด็กที่ถูกทอดทิ้งออกไป แต่ราชสำนักกลับไม่รู้เลย หากไม่ใช่เพราะเสี่ยวหวางเย่ไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง เรื่องนี้จะถูกเปิดเผยหรือไม่?
การขาดความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของเหล่าขุนนาง ทำให้ผู้คนจำนวนมากผิดหวัง … …
ในขณะนี้ ที่ศาลเต็มไปด้วยคดีข้อกล่าวหา แม้ว่าจะไม่มีใครกล้าพูดถึงฮ่องเต้โดยตรง แต่คำพูดที่ออกมาจากปากของผู้คนต่างก็พูดเป็นนัยถึงความไร้ความสามารถของฮ่องเต้ เหล่าขุนนางกินเพียงเนื้อสัตว์และดื่มเลือดของประชาชนเท่านั้น
ฮ่องเต้โกรธมากและรำคาญจากข่าวนี้ เขาไม่เคยคิดว่าสถานที่เล็ก ๆ อย่างเช่นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง จะกระทบมาที่ใบหน้าของเขาถึงสองครั้ง ดังนั้นเขาจึงสั่งให้สอบสวนกรณีทั้งหมดในทันที …
เขาไม่เคยคิดว่ามันเป็นปัญหาใหญ่!
เด็กนับไม่ถ้วนถูกขายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากหมอเทวดาโม่แล้ว หอนางโลมบางแห่งก็ยังมาซื้อเด็กบางคนจากในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง เด็กที่เหลือจะถูกเลี้ยงดูอย่างลับๆและจะถูกขายให้กับตระกูลขุนนางในฐานะทาส
เมื่อเจ้าหน้าที่บางคนได้ยินข่าวนี้ พวกเขาก็ช่วยไม่ได้ที่จะได้กลิ่นบางอย่าง แล้วถ้าหากเด็กเหล่านั้นที่ถูกขายให้กับเหล่าขุนนาง ถูกเลี้ยงดูให้กลายมาเป็นสายลับเล่า?
ไม่นานมานี้ เสี่ยวหวางเย่ได้ซื้อข้อมูลเกี่ยวกับความผิดของพวกเขาจากหอเถียนชาง แล้วถ้ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ล่ะ?
เหล่าขุนนางเพิ่มความกล้าหาญให้กับตัวเองและทำการสอบสวนด้วยตัวเอง หลังจากตรวจสอบแล้ว พวกเขาก็พบบางสิ่งที่ผิดปกติกับคนรับใช้บางคนในบ้านของพวกเขา คนรับใช้เหล่านี้น่าจะเป็นเด็กที่ถูกทอดทิ้งจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง
ยิ่งตรวจสอบมากเท่าไหร่ก็ยิ่งพบว่ามีปัญหาใหญ่มากขึ้นเท่านั้น เช่นเดียวกับหลิน เซี่ยง หลังจากตรวจสอบแล้วเขาก็พบว่ามีคนรับใช้สองคนในบ้านของเขาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงไปที่พระราชวังในทันทีและรายงานเรื่องนี้ต่อฮ่องเต้