Princess Medical Doctor องค์หญิงแพทย์ผู้เชียวชาญ - ตอนที่ 274.2
“ข้าพูดอะไรผิดไป” หลิวไป๋ดูงงงวย “ เมื่อหวางเฟยเดินทางไปพร้อมกับผู้นำตระกูลเมิ่ง มีสายลับสองสามคนตามไปด้วย พวกมันคงจะเป็นสายลับในวัง หลังจากสายลับเหล่านั้นกลับรายงาน ฮ่องเต้ก็คงจะโกรธขึ้นอีกครั้ง”
ซู่ฉาจ้องมองหลิวไป๋ อย่างไม่พอใจ : เขาไม่เห็นหรือว่าหวางเย่ ไม่พอใจเนื่องจากคำพูดของเขา?
ความมีไหวพริบของเขาช้าเกินกว่าความอยู่รอด
ซู่ฉาเป็นเหมือนพี่ชายที่แสนดี เพื่อให้เสี่ยวเทียนเหยา ไม่เข้าใจผิด เขาจึงเปลี่ยนหัวข้อขึ้นทันที“ หวางเย่ ท่านคิดว่าหวางเฟยจะสามารถรักษาโรคของเมิ่ง ซิวเหยียน ได้หรือไม่”
“มันสำคัญด้วยหรือ” เสี่ยวเทียนเหยายกคิ้วแล้วถามขึ้น
“ มันไม่สำคัญหรือ ไม่ใช่ว่าท่านต้องการให้หมอเทวดาโม่พลิกเปลี่ยนสถานการณ์ไม่ได้หรอกหรือ”ซู่ฉา รู้สึกเหมือนเขาไม่สามารถตามความคิดของเสี่ยวเทียนเหยาได้
เสี่ยวเทียนเหยา มองไปที่ซู่ฉาราวกับว่าเขาเป็นคนโง่เขลา จากนั้นเขาก็พูดขึ้นเบา“ ข่าวในแคว้นใต้จะมาถึงในอีกสองวัน”
ซู่ฉาตบหน้าผากของเขาและพูดด้วยความรำคาญขึ้น“ข้าลืมไปได้อย่างไร? คาดว่าฮ่องเต้และผู้นำตระกูลเมิ่ง จะได้รับข่าวในอีกสองวัน ในกรณีนั้นฮ่องเต้จะจัดการกับหมอเทวดาโม่โดยเร็วที่สุด ส่วนตระกูลเมิ่ง แม้ว่าหวางเฟยจะไม่สามารถรักษาโรคของเมิ่ง ซิวเหยียนได้ แต่พวกเขาจะไม่ต้องการหมอเทวดาโม่อีก”
“ หลังจากที่ข่าวมาถึง เจ้าต้องทำให้มันเสียงดังขึ้นเล็กน้อย เปิ่นหวางต้องการจัดการกับปัญหาของหมดเทวดาโม่ก่อนที่จะเข้าสู่สนามรบ” หลังจากที่เขาเข้าร่วมในสนามรบแล้วหลิน ชูจิ่วก็จะพึ่งตัวเองได้ ดังนั้นเขาจึงต้องการลดอันตรายลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“เรื่องของหมอเทวดาโม่ นั้นง่ายต่อการจัดการมาก ตอนนี้เขาเป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่ติดกับดัก เขาหนีไม่พ้นมือของเราแน่นอน สิ่งที่ข้าปวดหัวคือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง พวกเราออกไปค้นหาทั่วสถานที่เพื่อตามจับคนที่เกี่ยวข้อง แต่พวกเขาทั้งหมดกลับตาย ในท้ายที่สุดพวกเราก็ไม่ได้เบาะแสอะไรเลย” เมื่อเทียบกับหมอเทวดาโม่ ผู้คนที่อยู่เบื้องหลังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง เป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดสำหรับหลิน ชูจิ่ว
เสี่ยวเทียนเหยาอยู่ในเมืองหลวง ดังนั้นผู้คนเหล่านั้นจึงกลัวที่จะลงมือกับหลิน ชูจิ่ว แต่เมื่อเขาจากไป คนเหล่านั้นจะไม่ยอมปล่อยนางไป
“ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะตื่นตัวมาก” เสี่ยวเทียนเหยาเคาะนิ้วของเขาบนโต๊ะ เสียงของเขามีร่องรอยของความไม่พอใจ แสดงว่าเขาอารมณ์ไม่ดี
เสี่ยวเทียนเหยา ไม่กลัวศัตรูที่จะกระโดดออกมา สิ่งที่เขากลัวคือศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่และทำสิ่งที่ยุ่งยากต่างหาก
“ ระวังให้มาก พวกเขาเองก็คงจะจัดการกับคนที่เราไม่รู้จักเช่นกัน” เบาะแสเดียวที่พวกเขามีคือสิ่งที่เหลือจากที่อีกฝ่ายที่ทิ้งเอาไว้เท่านั้น
“ ถ้าเบาะถูกค้นพบ อีกฝ่ายดูเหมือนจะเป็นคนที่กล้าหาญจริงๆ” แม้ว่ามันจะเป็นฝ่ายตรงข้าม แต่เสี่ยวเทียนเหยาก็ช่วยไม่ได้ที่จะชื่นชมความเด็ดขาดของอีกฝ่าย เขาสามารถสละสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง ได้โดยไม่ลังเลซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
อย่างไรก็ตามยิ่งพบอีกฝ่ายได้ยากเท่าไหร่ หลิน ชูจิ่วก็จะยิ่งตกอยู่ในอันตรายมากขึ้นเท่านั้น
เสี่ยวเทียนเหยาไม่รู้อีกต่อไปว่ามันเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีที่เขาปล่อยให้หลิน ชูจิ่วเข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อ อันทัง
เสี่ยวเทียนเหยาถอนหายใจ……
* * * *
ผู้นำตระกูลเมิ่งไปที่ตำหนักเสี่ยวหวางฟู่เพื่อขอให้หลิน ชูจิ่วช่วยรักษาเมิ่ง ซิวเหยียน ไม่ใช่สิ่งที่สามารถปกปิดได้ ฮ่องเต้จึงรู้เรื่องนี้ในทันที
ฮ่องเต้รู้สึกหงุดหงิดและโกรธเคืองมากกับการทำของเสี่ยวเสียนเหยา แต่เขาก็ไม่มีทางที่จัดการกับเสี่ยวเทียนเหยาได้อย่างขาวสะอาด
ทุกอย่างที่เสี่ยวเทียนเหยา ทำล้วนแต่อยู่ในที่สว่าง แต่ถ้าเขากล่าวหาเสี่ยวเทียนเหยา เพราะสิ่งเหล่านี้ มันคงไม่เพียงพอที่จะจัดการกับเขาได้
ฮ่องเต้ได้แต่จับหัวคิ้วของเขา ก่อนจะพูดขึ้น“ ไปบอกเรื่องนี้กับหมอเทวดาโม่”
ตอนนี้ คนที่เป็นกังวลมากที่สุดเกี่ยวกับเมิ่ง ซิวเหยียน ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหมอเทวดาโม่ หมอเทวดาโม่ล้มเหลวที่จะผลิกสถานการณ์ต่างๆได้ แต่ฮ่องเต้ก็ไม่สนใจถ้าเขาเล่นกับไฟ ก่อนที่เขาจะตาย… …