Princess Medical Doctor องค์หญิงแพทย์ผู้เชียวชาญ - ตอนที่ 275.2
“ โรคของท่านไม่จำเป็นที่ข้าจะต้องตรวจชีพจร” คำพูดของเธออาจไม่น่าเชื่อถือเพราะอายุของเธอ อย่างไรก็ตาม ถ้าเธอบอกว่าเธอจะไม่ตรวจชีพจรของเขาโดยตรง ผู้นำตระกูลเมิ่ง อาจจะคิดว่าเธอไม่ใช่หมออย่างแท้จริง
หลิน ชูจิ่วขอให้เมิ่ง ซิวเหยียน เอามือของเขากลับไป จากนั้นเธอก็วางกล่องยาของเธอลงไปบนโต๊ะ เธอเปิดมันออกและเอาอุปกรณ์การแพทย์ของเธอออกมาทีละอย่างจนสุดท้ายเธอก็ใส่หน้ากากและถุงมือ
หลิน ชูจิ่วดูคล่องแคล่วมาก เพียงแค่มองครั้งเดียว ผู้คนจะรู้ว่าเธอทำมาแล้วหลายครั้ง
“อ้าปาก” หลิน ชูจิ่วยืนอยู่หน้าเมิ่ง ซิวเหยียน ในขณะที่กำลังถือไม้กดลิ้นและไฟฉายขนาดเล็ก เธอต้องการตรวจสอบลำคอของเขา
ในฐานะคนที่ได้รับการตรวจสอบจากหมอที่มีชื่อเสียงหลายคนมาตลอดทั้งปี เมิ่ง ซิวเหยียน ก็รู้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่ หลิน ชูจิ่วต้องการจะทำ ดังนั้นเขาจึงร่วมมือกับนาง
หลิน ชูจิ่วต้องยอมรับว่าปากของชายหนุ่มคนนี้ช่างน่าทึ่งเหมือนเขา แต่น่าเสียดายที่หลิน ชูจิ่วไม่มีเวลาเพลิดเพลินกับมัน
หลังจากตรวจสอบแล้ว หลิน ชูจิ่วก็สัมผัสกับลำคอของเมิ่ง ซิวเหยียนต่อ เธอกดนิ้วมือของเธอลงไปที่คอของเขา บางครั้งนิ้วมือของเธอจะกดลงไปตรงลูกกระเดือกของเขา
สำหรับผู้ชายลูกกระเดือกเป็นจุดที่ค่อนข้างบอบบาง ดังนั้นผู้หญิงคนหนึ่งยื่นมือออกมาสัมผัสที่คอของผู้ชายเป็นสิ่งที่ดูคลุมเครือเป็นอย่างมาก ถ้าใบหน้าของ หลิน ชูจิ่วไม่ได้ดูจริงจัง ผู้นำตระกูลเมิ่งคงจะผลัก หลิน ชูจิ่วออกไปจากตัวบุตรชายของเขาแล้ว
เมื่อ หลิน ชูจิ่วเริ่มทำงาน เธอจะอุทิศความสนใจทั้งหมดของเธอให้กับมัน ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอไม่สนใจโลกภายนอก นับประสาอะไรกับการที่จะมาคิดว่าเธอทำอะไรผิดหรือไม่
เมิ่ง ซิวเหยียนไม่ได้เป็นคนใบ้ เขามีปัญหาตรงลำคอของเขาอย่างแน่นอน ดังนั้นจะผิดตรงไหนที่จะตรวจสอบว่าลำคอของเขามีปัญหาหรือไม่
เพื่อยืนยันความสงสัยของเธอ หลิน ชูจิ่วจึงก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง ตอนนี้พวกเขาก็แทบจะไม่มีระยะห่างระหว่างกันแล้ว
หญิงสาวที่งดงามยืนอยู่ระหว่างขาของเขาและมองเขาอย่างตั้งใจ มีเพียงเขาเท่านั้นที่ปรากฏอยู่ในสายตาที่ชัดเจนของนาง นิ้วเรียวของนางจับอยู่ที่ลำคอของเขา นิ้วที่เยือกเย็นเล็กน้อยของนางซึ่งแยกออกจากเสื้อผ้าเนื้อบาง ๆ กำลังวกไปวนมา เมิ่ง ซิวเหยียน ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ออกมาจากร่างกายของ หลิน ชูจิ่ว หากเขาจะยื่นมือออกไป เขาจะสามารถพาคนผู้นี้เข้ามาในอ้อมแขนของเขาได้ในทันที
เมิ่ง ซิวเหยียนเป็นคนที่มีใจบริสุทธิ์มาโดยตลอด แต่ในกรณีนี้วิญญาณอันบริสุทธิ์ของเขาก็ถูกเขย่าอย่างแรง ไม่ต้องพูดถึงเขาเป็นเพียงผู้ชาธรรมดาเท่านั้น
เมิ่ง ซิวเหยียนที่ไม่เคยสนิทสนมกับผู้หญิงมาก่อนรู้สึกเขินอายเล็กน้อย หูของเขาแดงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ แต่เขากลับไม่รู้ตัว และลมหายใจของเขาก็ค่อยๆหนักหน่วงขึ้น
โชคดีที่อีกสองคนในห้องโถงใหญ่นั้นอยู่ในความวุ่นวาย บิดาของเขากังวลอย่างมากกับผลลัพธ์ที่จะได้ ดังนั้นเขาจึงไม่สังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติของเขา
เมิ่ง ซิวเหยียนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และท่องบท“คาถาจิตบริสุทธิ์” เพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเอง
หลังจากนั้นไม่นาน หลิน ชูจิ่วก็ถอยกลับไปหนึ่งก้าว
เมิ่ง ซิวเหยียนถอนหายใจออกมาด้วยโล่งอก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาค้นพบว่าการตรวจสภาพร่างกายอาจทำให้ผู้คนลำบากได้
“เสี่ยวหวาวเฟย ซิวเหยียนเป็นอย่างไรบ้าง” ผู้นำตระกูลเมิ่งมองไปที่หลินชูจิ่วด้วยความหวัง ในขณะที่เขารอคำตอบของนาง แม้ว่าหลิน ชูจิ่วจะยังเด็ก แต่ผู้นำตระกูลเมิ่งก็ยังมีความหวัง
คำว่า ‘เสี่ยวหวางเฟย’ นั้นเป็นเหมือนแอ่งน้ำเย็นที่สงบจิตใจของเมิ่ง ซิวเหยียนลง ใบหน้าของเขาก็ซีดลงเล็กน้อย
จริง ๆ แล้วเขาลืมไปเลยว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาแต่งงานแล้ว เขาเกือบเป็นหมดสติไปเนื่องจากความกังวล
“มันแย่อยู่ไม่น้อย” แม้ว่าจะไม่มีฟิล์มเอ็กซเรย์ เธอก็มีระบบการแพทย์อยู่ด้วย หลิน ชูจิ่วได้ยืนยันสภาพของเมิ่ง ซิวเหยียนแล้ว ก่อนจะพูดขึ้น “แต่ข้าสามารถรักษาท่านได้ เพียงแค่ว่าท่านต้องกล้าที่จะเห็นด้วยกับการรักษาของข้า”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิน ชูจิ่ว ผู้นำตระกูลเมิ่งก็รู้สึกหมดหวัง เมิ่ง ซิวเหยียน กลับสงบมาก เขาไม่ได้คาดหวังอะไรแม้แต่น้อย แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดของหลิน ชูจิ่ว ดวงตาของเขาช่วยไม่ได้ที่จะส่องแสงสดใสขึ้น …
เขามีหวังที่จะยังพูดได้!