Pursuit of the Truth สู่วิถีอสุรา - ตอนที่ 1427
จากเมื่อคืนวานที่ผู้ฝึกฌานสองคนมาหาซูหมิงก็รู้แล้วว่านับจากนี้จะไม่สงบอีก ไม่ว่าจะเป็นสำนักเอกะเต๋าหรือฝ่ายอสุรา จะมีคนมาหาตนเรื่อยๆ เพราะเก้าเสียงนั้น
บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่กู่ไท่หวัง เพราะที่ที่ซูหมิงอยู่พูดได้ว่าเป็นหนึ่งในที่ที่ปลอดภัยที่สุดในแคว้นกู่จั้ง
โดยเฉพาะตาแก่ในลานบ้าน ไม่ว่าจะนิสัยหรือคำพูดล้วนทำให้บางครั้งซูหมิงไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี ดังนั้นเขากลับหวังไว้มากว่าจะให้คนที่มาสังหารตนมากันเร็วๆ จะได้สัมผัสถึงความแกร่งของตาแก่คนนี้ด้วยกัน
ช่วงที่เสียงตัดฟืนดังก้องในลานบ้าน ในยามโพล้เพล้ อุณหภูมิที่ควรจะเป็นฤดูร้อนกลับเกิดความหนาวขึ้น บนฟ้ามีหิมะตก หิมะมีความพร่างพราว ตอนที่ค่อยๆ ตกลงมานั้น มันตกลงบนตัวสุนัขใหญ่สีขาวสองตัว ตกลงบนอาภรณ์ซูหมิง และก็ตกลงตรงปลายจมูกชายชรา
ชายชราตัวสั่นขึ้นมาทันที ช่วงที่กำลังบ่นพึมพำ ดวงตาซูหมิงเป็นประกายดุดันขึ้นทีละน้อย หิมะเหล่านี้ไม่ได้เกิดการจากการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ แต่มีแขกมาเยือน
โดยเฉพาะสุนัขใหญ่สีขาวสองตัว ตอนนี้ตัวสั่นมองประตูใหญ่ของลานบ้านพร้อมกัน
“สนใจอย่างอื่นอีกแล้ว!” ชายชราเดินเข้ามาตบหัวซูหมิงทีหนึ่ง ทำให้ความดุดันในแววตาหายไป
“ตั้งใจตัดฟืน อย่าสนใจอย่างอื่นเพราะการเปลี่ยนแปลงภายนอก การตัดฟืนคือวิชาแขนงหนึ่ง ข้าตัดมาเกือบทั้งชีวิตแล้ว เจ้ายังฝึกน้อยอยู่” ชายชรามีท่าทีใช้อำนาจบาตรใหญ่ เขาหดตัวกระชับชุดกันหนาวไว้แน่น ก่อนเงยหน้ามองหิมะบนฟ้าพลางแสยะยิ้ม
“ฮ่าๆ หิมะมาได้เวลาจริงๆ ข้าชอบดูหิมะตกที่สุด”
ซูหมิงเงียบ ไม่ตรึกตรองคำพูดชายชรา แต่หลับตาลง ไม่นานก็ลืมตาขึ้น แววตาสงบนิ่ง เพียงแต่ความสงบนั้นมีความมัวหมองเล็กน้อย เหมือนว่าเขาในตอนนี้ไม่มีสติ ไม่ดูเตะตาแม้แต่น้อย ราวกับชายหนุ่มธรรมดาจริงๆ ที่ยกขวานขึ้นตัดฟืนต่อ
ชายชราวิ่งไปวิ่งมาในลานบ้านไม่หยุด ตบหิมะที่ตกลงมาเหมือนกำลังสนุกสนานมาก ส่วนสุนัขใหญ่สีขาวสองตัวตื่นตัวในทุกด้าน จ้องประตูลานบ้านตาเขม็งด้วยสีหน้าจริงจัง ทั้งยังส่งเสียงเห่าเกือบเรียกว่าข่มขู่โดยจิตใต้สำนึก
ซูหมิงยังคงก้มหน้าตัดฟืน เขานึกถึงตอนที่ตนกับกู่ไท่มาที่นี่ครั้งแรก ชายชราก็เป็นเหมือนตนตอนนี้ ก้มหน้าตัดฟืนเงียบๆ
ไม่นานมีเสียงเคาะประตูลานบ้านดังขึ้น เสียงก๊อกๆ มีจังหวะมาก เหมือนพอคนได้ยินแล้วจะกายใจสงบลง แต่เมื่อเข้ามาในลานกลับทำให้สุนัขใหญ่สีขาวสองตัวส่งเสียงเห่าดังกว่าเดิม
“หืม? ยังไม่ไปเปิดประตูอีก ไม่ได้ยินคนเคาะประตูรึ ไปดูหน่อยว่าใคร” ชายชราตบหิมะพลางหันมาพูดกับซูหมิง
ซูหมิงเงยหน้าขึ้น วางขวานลงด้วยสีหน้ายังคงเฉยชา ดวงตามัวหมอง จนเมื่อเดินมาเปิดประตูแล้วก็เห็นสตรีวัยกลางคนสวมชุดคลุมเต๋าตัวใหญ่ยืนอยู่นอกประตู นางมีใบหน้างดงาม มองซูหมิงด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“มาหาใคร” ซูหมิงกวาดสายตามองสตรี คิ้วขมวดพลางถามขึ้น
“มาหาเจ้า” สตรีงามยิ้ม ไม่รอให้ซูหมิงตอบก็เดินผ่านข้างกายเข้าไปในลานบ้าน พริบตาที่เข้ามา ชายชราที่กำลังตบหิมะพลันหยุดชะงัก มองสตรีงามอึ้งๆ มุมปากยังมีน้ำลายไหล
แต่ก็สงบนิ่งลงอย่างรวดเร็ว รีบวิ่งเข้าไปในบ้าน
หญิงงามเห็นการกระทำชายชราแล้วก็ยิ้มกว้างกว่าเดิม ในมุมมองนางชายชราคนนี้เป็นคนธรรมดา ไม่มีความพิเศษอะไร แต่นางมีความมั่นใจในรูปโฉมตัวเอง เลยไม่ได้ถือสาที่จะมีชายชราคนธรรมดาหลงใหลรูปโฉมตน
นางเพียงแค่ประหลาดใจเล็กน้อยว่าเหตุใดชายชราถึงเข้าไปในบ้านอย่างกะทันหัน
แต่เรื่องนี้เล็กมาก หญิงงามมองในลานบ้านแวบหนึ่ง ตอนที่มองสุนัขใหญ่สีขาวสองตัวก็ไม่เห็นพิรุธอะไร จากนั้นถึงมองซูหมิง
“เจ้าคือองค์ชายสามรึ? มาซ่อนตัวอยู่ที่นี่ก็หาง่ายดี แต่ที่นี่ก็ไม่ธรรมดา เทือกเขาล้อมรอบเป็นวงแหวนอาคมธรรมชาติ หลบหลีกการตามหาด้วยจิตทั้งหมด ซ้ำที่นี่ยังซ่อนรูปแบบชะตาเอาไว้ หากไม่มีพลังมากพอก็ยากจะรู้ถึงที่นี่” หญิงงามกวาดสายตามองรอบหนึ่งก็เห็นถึงเงื่อนงำที่นี่ ด้วยความแกร่งของพลังตนจึงมองได้เป็นจุดๆ
“อีกทั้งในลานนี้ยังวงแหวนอาคมเหล่านี้ไว้ด้วย อืม…มีความรู้สึกยุ่งเหยิงเล็กน้อย น่าจะเป็นเพราะเร็วๆ นี้มีคนมาก่อนหน้าข้า ดูจากกลิ่นอายพลังแล้ว…” หญิงงามลืมตาขึ้นเล็กน้อยแล้วยิ้มทีหนึ่ง
“เป็นเต๋าสูงศักดิ์สองคน ดูท่าข้าคงจะดูถูกที่นี่ไม่ได้จริงๆ คนที่ทำแบบนี้ได้ในสำนักเจ็ดจันทราน่าจะเป็นกู่ไท่” ฟังจากน้ำเสียงหญิงงามแล้วเหมือนอยู่ระดับเดียวกับกู่ไท่ และยังเผยพลังของนางว่า…ไม่ใช่เต๋าสูงศักดิ์อย่างแน่นอน!
นางพลันแผ่ขยายจิตสัมผัส แต่ก็ต้องขมวดคิ้วอย่างรวดเร็ว ขณะกำลังจะกล่าวนั้น ซูหมิงนั่งลงบนตอไม้อีกครั้งแล้ว หยิบขวานขึ้นตัดฟืนต่อ
“เจ้าหนูนี่สนใจ” หญิงงามมองซูหมิงด้วยรอยยิ้มเบิกบานกว่าเดิม ตอนที่เดินเข้ามาใกล้ซูหมิง นางก้มตัวลงเล็กน้อย เผยส่วนเว้าโค้งงดงามใต้ชุดคลุมเต๋าตรงสะโพก
“ยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ข้าจีอู๋เมิ่ง ผู้อาวุโสใหญ่ฝ่ายอสุรา เซียนเยือกเย็น องค์ชายสามไม่สนใจมาฝึกที่ฝ่ายอสุรารึ?” หญิงงามมีใบหน้างดงามมาก ผิวหนังขาวผ่อง จึงทำให้ใบหน้านางมีความรู้สึกที่คนอื่นต้องใจสั่นไหว
แต่ซูหมิงยังคงตัดฟืนด้วยสีหน้าอึมครึม
หญิงงามยังคงยิ้ม ทันทีที่ยืนขึ้น ประตูบ้านในลานถูกเปิดออก ร่างเงาสวมชุดคลุมบัณฑิตที่ค่อนข้างใหญ่สีเขียวทั้งตัว สวมหมวกบัณฑิต เส้นผมยุ่งเหยิงในตอนแรกตอนนี้ถูกรวบไว้บนบ่าลวกๆ ในมือถือพัดพังๆ อันหนึ่งเดินออกมา…
คนนี้…ก็คือตาแก่นั่น ก่อนหน้านี้เขากลับเข้าไปในบ้านและเปลี่ยนชุดให้เร็วที่สุด ตอนนี้เดินถือพัดออกมาด้วยใบหน้าตื่นเต้น ดวงตาฮึกเหิม ทั้งยังกระแอมไปหลายที
“สวัสดีแม่นาง”
ซูหมิงหยุดชะงักขวานในมือ เขายอมรับว่าความสงบนิ่งทุกอย่างของตนในตอนนี้พังลงเมื่อชายชราเอ่ยขึ้น หญิงงามข้างๆ ก็อึ้งไปเช่นกัน แต่ไม่นานก็ปิดปากหัวเราะ มองชุดกับท่าทางของชายชรา
ดวงตาสองข้างกลายเป็นจันทร์เสี้ยว
“แม่นางอย่าหัวเราะ ข้าชอบสตรีก้นใหญ่ๆ มากที่สุด เจ้าอย่ายืนตรงหน้าศิษย์ของข้า เจ้าหนูนั่นไม่ชอบสตรีก้นใหญ่ แต่ข้าชอบ” ชายชราคลี่พัดออก เผยหน้าพัดที่มีคราบน้ำมันติดอยู่เล็กน้อย ก่อนเงยหน้าขึ้น มีท่าทีที่เขาคิดว่าสง่างาม
“คืนวันนี้ทิวทัศน์สวยงาม หิมะขาวโปรยปราย เหมาะจะเป็นวันที่นัดกับสตรีก้นใหญ่ แม่นาง พวกเราอยู่ด้วยกันในคืนหิมะเถอะ ในลานแห่งนี้ ให้ฟ้ายามค่ำคืนเป็นผ้าห่ม ให้ลานเป็นเตียงสำหรับการบรรเลงรักอย่างดุเดือดของเรากันดีกว่า
แม่นาง ข้ารักเจ้า…” ชายชรามีสีหน้ารักใคร่ เขาเดินเข้ามาเร็วๆ หลายก้าวจนมาอยู่ตรงหน้าหญิงงามที่ตอนนี้ยิ้มไม่ออก แต่กำลังอึ้ง
“จีอู๋เมิ่งรึ นามดีๆ เซียนเยือกเย็น นามนี้ไม่ดี เยือกเย็นๆ นี่น่าจะเป็นนามที่ไม่คู่ควรกับสตรีก้นใหญ่ เจ้าน่าจะใช้นามว่า…เซียนก้นใหญ่มากกว่า! ไม่ผิด นามนี้แหละดีมาก ซูหมิง เจ้าว่านามนี้เป็นอย่างไร” ชายชรากล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้น
ซูหมิงเงียบ ยังคงยกขวานตัดฟืนต่อไป เขาเข้าใจแล้ว เมื่อคืนวานชายชราบอกว่าต้องการสุนัขสองตัว ดังนั้นจึงปรากฏสุนัขสองตัวตอนกลางคืนจริงๆ ก่อนหน้านี้เขาบอกว่าต้องการสตรีก้นใหญ่ ดังนั้น…เซียนเยือกเย็นคนนี้จึงมาจริงๆ
เซียนเยือกเย็นจีอู๋เมิ่งดวงตาเป็นประกายเย็นชา แต่กลับยิ้มมุมปากทีละน้อยอีกครั้ง มองชายชราตรงหน้า ในมุมมองนางอีกฝ่ายไม่มีพลังอะไรเลย เป็นเพียงชายชราธรรมดาเท่านั้น แต่คนธรรมดาเว้นแต่จะเป็นพวกหมกมุ่นในกามรมณ์ มิเช่นนั้นแล้วจะไม่ทำเรื่องไร้สาระแบบนี้
“องค์ชายสาม นี่คือคนที่สำนักเจ็ดจันทราให้ปกป้องเจ้ารึ?” เซียนเยือกเย็นยิ้มเย็นชากว่าเดิม
“เฮ้! แม่นางก้นใหญ่ เจ้าอย่าคุยกับเขาได้หรือไม่ ข้าอิจฉา!” ชายชราพูดขึ้นอย่างจริงจัง แต่เพิ่งกล่าวจบ เซียนเยือกเย็นพลันยกมือขวาขึ้นโบก ความน่าเกรงของมหาเต๋าสูงศักดิ์พลันปกคลุมทั้งฟ้าดิน ทำให้โลกนี้เหมือนถูกผนึกด้วยน้ำแข็ง ไอหนาวแผ่กระจายไปรอบๆ หิมะโปรยปรายปกคลุมโลก
แต่ว่า…นางกลับหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง เพราะมือขวาที่นางยกขึ้นถูกชายชราจับเอาไว้ บีบไปบีบมาด้วยสีหน้าถ่อยทราม
“เจ้า!” ตอนนี้ในใจหญิงงามเกิดความหวาดกลัว นางรู้ชัดว่าด้วยพลังตน ผู้แข็งแกร่งในโลกนี้ที่คว้ามือตนไว้ตอนใช้วิชาได้มีไม่เกินยี่สิบคน แต่ชายชราตรงหน้า…กลับบีบมือขวาตนแบบสบายมากเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ขณะจะถอย นางก็พบว่าร่างอ่อนยวบไปทั้งตัว นางในตอนนี้ไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าสุนัขใหญ่สีขาวสองตัวกลางลานไม่ไกลนักกำลังมองนางอย่างมีความสุขที่เห็นคนอื่นเป็นทุกข์เหมือนตน
“ผู้อาวุโส…” หญิงงามหน้าซีดขาวขาว มองชายชราที่บีบมือขวาตนด้วยความตื่นกลัว
“ชู่ว์!” ชายชราดึงนิ้วมือนางมาตรงริมฝีปากตน มองหญิงงามอย่างจริงจังมาก ลูบมือนางไปพลางกดนิ้วไล่เป็นจุดๆ ด้วยความตื่นเต้น ทั้งยังถามอย่างจริงจัง
“เจ้าก้นใหญ่หรือไม่?”
ซูหมิงยกขวาขึ้นหยุดชะงักอีกครั้ง ก่อนถอนหายใจไม่สนใจทุกเรื่องภายนอกอีก แต่ตั้งใจตัดฟืน เขารู้สึกว่าด้วยความประหลาดของชายชรา ในแคว้นกู่จั้งคงมีไม่กี่คนจริงๆ ที่ขวางเขาได้
“หืม? เหตุใดเจ้าไม่ตอบ?”
“จะจะเจ้า เจ้าก็ดูถูกข้าเหมือนกันรึ!” ชายชราโกรธขึ้นมาทันที ซ้ำยังตะโกนเสียงดัง หญิงงามหน้าซีดกว่าเดิม ความตื่นกลัวในแววตาเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ นางรู้สึกชัดว่าพลังตนกำลังถูกชายชราสูบไป โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายโกรธ ความเร็วในการสูบจะมากขึ้นเรื่อยๆ
Comments for chapter "ตอนที่ 1427"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
Hunnnni
555555 อย่างชอบเลยว่ะ