Pursuit of the Truth สู่วิถีอสุรา - ตอนที่ 1448
“หนึ่งหมื่นแท่นบวงสรวง พวกเราต่างยึดครองไว้ฝ่ายละสามส่วน มีจำนวนต่างกันไม่ถึงร้อย ยากจะแบ่งแยกจำนวนกันได้…สู้พวกเรามาเปลี่ยนวิธีกันดีกว่า องค์ชายสาม ใคร…เข้าฟ้าชั้นเก้าได้เป็นคนแรก จุดไฟแท่นบวงสรวงพันชั้นตรงนั้นได้ก่อนก็จะเป็นคนแรกที่ได้เข้ามิติชั้นสาม” ชายชราร่างมายาสำนักเอกะเต๋าที่ลอยอยู่เหนือองค์ชายใหญ่ ร่างกายเหมือนเชื่อมกันกล่าวเรียบๆ
“ไม่เลว ความคิดนี้ใช้ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเราก็มีแต่รอให้เวลาหมดลง จากนั้นให้ศิษย์แต่ละสำนักเข้าชั้นสามพร้อมกัน” หญิงชราหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วพูดเสริมช้าๆ
กู่ไท่ตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วมองซูหมิงที่เดินมาข้างกาย
ซูหมิงมองต้นไม้ยักษ์นั้น ผ่านไปพักใหญ่ถึงพยักหน้า
กู่ไท่เงียบไปครู่หนึ่งก่อนลอบถอนหายใจ ทว่าด้วยศักยภาพของสำนักเจ็ดจันทรามาถึงขั้นนี้ระหว่างสำนักเอกะเต๋ากับฝ่ายอสุราได้ก็ถือว่าสำเร็จแล้ว อย่างน้อยๆ การแย่งชิงครั้งนี้ก็ดูเหมือนเสมอกัน ส่วนสุดท้ายใครจะเข้าชั้นสาม ใครจะได้ผลเต๋าไป เรื่องนี้มาถึงตรงนี้แล้วก็ไม่เกี่ยวกับพวกเขาอีก จุดสำคัญคือองค์ชายสาม
แน่นอนว่าคนที่ไปชั้นสามไม่ได้มีเพียงสามองค์ชาย สามสำนักยังมีศิษย์คนอื่นๆ ตามไปด้วย
“ก็ได้!” กู่ไท่ตอบกลับอย่างเด็ดขาด พูดจบ หญิงชรายืนขึ้น ใช้มือขวาที่ถือหมวกเหล็กกดไปบนพื้น ภายในหมวกเกิดหมอกดำจำนวนมาก หมอกเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพียงไม่กี่ลมหายใจก็รวมเป็นร่างเงาหนึ่ง เมื่อร่างเงาสมจริงก็ปรากฏเป็นร่างองค์ชายรอง
เขายืนอยู่ตรงนั้น สวมหมวกเหล็ก ยิ้มเล็กน้อยให้ซูหมิงก่อนเงยหน้าขึ้นมองต้นไม้สูงเสียดฟ้าด้วยสีหน้าเลื่อมใส
ตอนนี้องค์ชายใหญ่ก็ลืมตาขึ้นเช่นกัน ยืนขึ้นช้าๆ เงามายาชายชราตรงกลางกระหม่อสะบัดแขนเสื้อ ตัดการเชื่อมต่อกับองค์ชายใหญ่แล้วถอยไป
“เช่นนั้นพวกเราสามสำนักก็เป็นผู้ดูแล เพื่อรับประกันว่าการแย่งชิงผลพิสูจน์เต๋าในครั้งนี้จะมีความยุติธรรม ห้ามคนนอกช่วยเหลือ อย่างเช่นสุนัขใหญ่สี่ตัวนี้ก็เข้าไปไม่ได้” ชายชรากล่าวเรียบๆ กู่ไท่มีสีหน้าปกติ ไม่ตอบ
“ข้าเห็นด้วยกับเรื่องนี้” หญิงชราฝ่ายอสุราได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้า
“เช่นนั้นก็เริ่มเถอะ!” ทันทีที่ชายชราสำนักเอกะเต๋ากล่าวอย่างเด็ดขาด ดวงตาองค์ชายใหญ่ขยับประกายวาว เขากระโดดลอยขึ้นเหยียบไปบนต้นไม้โบราณ กลายเป็นสายรุ้งยาวขึ้นไปข้างบน พริบตาเดียวก็ไกลออกไป ตอนนี้เองในร่างเขามีหมอกสามกลุ่มแผ่กระจายออก หมอกสามกลุ่มนี้พลันกลายเป็นร่างเงาแก่ชราสามคน แผ่พลังของเต๋าสูงศักดิ์ ผลักดันร่างองค์ชายใหญ่ให้ขยับวูบไหวเคลื่อนย้ายไปในระยะเกือบสามส่วน
องค์ชายรองข้างๆ ยิ้มเยาะมุมปาก เขาขยับไหวกระโดดขึ้นบนไปต้นไม้โบราณเช่นกัน ร่างกายเป็นดั่งหมอกหมุนม้วนขึ้นไปข้างบน ขณะเดียวกันบนตัวเขายังมีพลังแห่งปราณโลหิตเข้มข้นวนเวียนอยู่ ร่างกายยังขยายใหญ่ขึ้น ด้านบนมีอักขระขยับประกายวูบวาบ ทุกครั้งที่อักขระขยับแสงจะทำให้เขาเร็วขึ้น วูบเดียวก็บินไกลออกไป ในด้านความเร็วพอๆ องค์ชายใหญ่
“วิญญาณเต๋าอารักขาร่าง อสุราเสริมร่าง นี่นับว่ายุติธรรมรึ?” กู่ไท่มีสีหน้าปั้นยากยิ่ง ยิ้มเยาะ
“อย่างน้อยก็ไม่มีคนอื่นช่วย วิญญาณเต๋าอารักขาร่างก็เป็นวิชาลับของสำนักเอกะเต๋า เจ้าคงไม่ได้ห้ามเขาใช้วิชาหรอกกระมัง?” ชายชราสำนักเอกะเต๋ายิ้มเล็กน้อย
“อสุราเสริมร่างก็เป็นการใช้งานอักขระชนิดหนึ่ง จะมองว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่าก็ได้ ดังนั้นแล้วถือว่าไม่มีคนอื่นช่วย” หญิงชรากล่าวราบเรียบ กู่ไท่หน้ามืดทะมึน ยกมือขวาตบถุงเก็บวัตถุ ในมือปรากฏหมอกดำหลุ่มหนึ่ง ขณะกำลังจะกล่าวขึ้น ซูหมิงส่ายศีรษะ สะบัดมือขวา ปรากฏเข็มทิศใต้เท้าก่อนพุ่งทะยานไกลออกไป
แม้เข็มทิศจะเร็ว แต่ก็ไม่อาจเร็วกว่าอภินิหารขององค์ชายใหญ่กับองค์ชายรองได้ในเวลาสั้นๆ ทำให้ชายชราสำนักเอกะเต๋ากับหญิงชราฝ่ายอสุราเพียงแค่หรี่ตาลง แต่ก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
พวกเขามองออกว่าด้วยความเร็วของซูหมิงบางทีอาจมีข้อได้เปรียบระยะยาว แต่ตอนนี้ระยะทางไม่ถือว่าไกลมากนัก การจะแซงคนอื่นเป็นเรื่องยากมาก
กู่ไท่มีสีหน้าทะมึนอย่างยิ่ง ขณะกำลังจะเอ่ยนั้น ซูหมิงที่กำลังห้อเหยียดไปตามต้นไม้โบราณดวงตาขยับประกายแวววาว ยกมือขวาขึ้นตบถุงเก็บวัตถุ ทันใดนั้นปรากฏท่อนไม้ขนาดเท่าฝ่ามือขึ้นในมือ ท่อนไม้นี้คือไม้เทพยักษ์ที่ได้มาจากในโลกซางเซียง
ตอนนี้ซูหมิงกดท่อนไม้ในมือลงข้างล่างแล้วพูดขึ้นเรียบๆ
“ใหญ่!” คำเดียว ท่อนไม้พลันยืดยาวไปอย่างรวดเร็วจนมีความหนาสิบจั้ง ส่วนปลายพุ่งลงพื้นดิน ปักลงข้างกายพวกกู่ไท่สามคนดังโครม พลังของไม้เทพสั่นสะเทือนแท่นราบชั้นแปด ทำให้ชายชรากับหญิงชราหน้าเปลี่ยนสี
เพราะพวกเขาเห็นทันทีว่าอีกด้านหนึ่งของไม้เทพกำลังขยายออกไปอย่างรวดเร็ว ผลักร่างซูหมิงที่ยืนอยู่บนไม้เทพขึ้นไปข้างบนด้วยความเร็วสุดจะบรรยาย ภาพนี้ทำให้ผู้คนโดยรอบอึ้งงัน กู่ไท่ดวงตาเป็นประกายตกใจระคนดีใจ ส่วนคนอื่นโดยเฉพาะหญิงชราหน้าเปลี่ยนสีและหมายจะขวางไว้ แต่กู่ไท่กลับปรามเอาไว้ก่อน
“สหายสองท่านพูดถูก เรื่องนี้จะพึ่งพาคนอื่นไม่ได้ วิญญาณเต๋าอารักขาร่าง อสุราเสริมกาย หรือจำพวกของวิเศษต่างได้รับอนุญาต” กู่ไท่หัวเราะเสียงดัง ขณะเดียวกันศิษย์คนอื่นจากสามสำนักที่ถูกเลือกให้เข้าชั้นสามพร้อมกันตอนนี้เป็นสายรุ้งยาวเข้ามาใกล้แล้วพุ่งขึ้นต้นไม้ใหญ่ไป
ซูหมิงยืนอยู่บนไม้เทพที่กำลังพุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ขนาดจริงๆ ของมันมากกว่าแสนจั้ง ตอนนี้ภายใต้การยืดยาวไปเหมือนไร้ที่สิ้นสุด มันผลักร่างซูหมิงขึ้นข้างบน เพียงสิบกว่าลมหายใจก็ตามองค์ชายรองทัน
องค์ชายรองร่างกายใหญ่โต อักขระบนตัวขยับแสงเรืองรอง ตอนนี้กำลังขึ้นไปข้างบนอย่างรวดเร็วก็เห็นซูหมิงที่ยืนบนไม้เทพกำลังขึ้นไปอย่างเร็วไวเช่นกัน ภาพนี้ทำให้เขาหรี่ตาแคบลง ขณะเดียวกันการขยายตัวของไม้เทพผลักร่างซูหมิงให้แซงหน้าองค์ชายรอง ทั้งยังเข้าไปใกล้องค์ชายใหญ่ข้างบนมากขึ้น ทันทีที่สองคนนี้หน้าเปลี่ยนสี ไม้เทพใต้เท้าซูหมิงหายวับถูกเก็บไป ตอนนี้เองเขาอาศัยแรงผลักของไม้เทพก่อนหน้านี้เป็นสายรุ้งพุ่งไปอย่างเร็วไว หลังปรากฏเข็มทิศใต้เท้า ความเร็วเขาพลันเพิ่มขึ้นอีกครั้งจนกระทั่งแซงหน้าองค์ชายใหญ่ มาปรากฏอยู่บนสุดของทุกคนกลางต้นไม้โบราณสูงเสียดฟ้า