Pursuit of the Truth สู่วิถีอสุรา - ตอนที่ 1456
แทบเป็นช่วงที่องค์ชายรองพุ่งเข้ามา ซูหมิงลืมตาพร้อมยืนขึ้นโดยพลัน ยกมือขวาชี้องค์ชายรองอย่างไม่ลังเล
ภายใต้ดรรชนีนี้ แรงปะทะพลันปะทุขึ้นระหว่างซูหมิงกับองค์ชายรอง ภายใต้แรงปะทะ องค์ชายรองมีสีหน้าคลุ้มคลั่ง ระหว่างที่กระเด็นถอยไปนั้น ซูหมิงเดินหน้าหนึ่งก้าว ครั้งนี้ไม่ใช้นิ้วมืออีก แต่เป็นฝ่ามือ
ขณะเดียวกับที่กดฝ่ามือไป ความเจ็บปวดรุนแรงที่เกิดจากเสียงอึกทึกในร่างกายเขาก็ระบายออกอย่างรุนแรงเช่นกัน เมื่อปะทะกับองค์ชายรองในฉับพลันแล้วก็เกิดเป็นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวยิ่งกว่าเดิม
ท่ามกลางเสียงดังสนั่น ร่างยี่สิบจั้งขององค์ชายรองถอยไปอีกครั้ง กระอักเลือดมาหนึ่งคำ มองซูหมิงด้วยความตกใจ ส่วนซูหมิงตัวสั่น มุมปากมีโลหิตไหล ทว่าดวงตาสองข้างเปล่งประกาย เขารู้สึกชัดว่าความเจ็บปวดรุนแรงในร่างกายตอนนี้หายไปเล็กน้อยแล้ว
ซูหมิงไม่กล่าวใดๆ ชั่วขณะที่องค์ชายรองถอยไป เขาพุ่งเข้าไปอีกครั้ง ครั้งนี้ใช้หมัด ทันทีที่ชกไป องค์ชายรองเปล่งเสียงคำราม ยกสองมือขึ้นกดไปข้างหน้า ข้างหลังปรากฏเงามายาขนาดร้อยจั้ง ทั่วร่างมายานั้นเป็นสีดำประหนึ่งภูตผี ร้องคำรามพร้อมทะลวงผ่านร่างองค์ชายรองพุ่งตรงไปหาซูหมิง
“เต๋าภูตผีอสุรา!” ระหว่างที่เสียงองค์ชายรองดังก้องฟ้า ผีร้ายร้อยจั้งปะทะกับซูหมิงแล้ว เกิดเสียงครึกโครมดังกึกก้อง ซูหมิงกระอักเลือดคำใหญ่ ร่างถอยไป ตอนนี้เองวิญญาณเต๋าที่ห้าที่เดิมทีเป็นมายาในดวงตาที่สามตรงระหว่างคิ้ว…พลันสมจริงขึ้นมา พริบตาเดียวกลายเป็นวิญญาณเต๋า ส่งผลให้ซูหมิงทะลวงพลัง บรรลุขอบเขตวิญญาณเต๋าขั้นห้าอย่างแท้จริง!
ขาดอีกก้าวเดียวก็จะข้ามผ่านขอบเขตวิญญาณเต๋าไปสู่…เต๋าสูงศักดิ์!
“เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้!” องค์ชายรองมีสีหน้าเหลือเชื่อ ใบหน้าเหยเกยแฝงไว้ด้วยความบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม
“เป็นไปไม่ได้ เจ้าไม่มีทางรับผลเต๋าได้เร็วขนาดนี้ ตั้งแต่โบราณจนมาถึงตอนนี้ การกินผลเต๋าต้องใช้เวลาอย่างเร็วสุดสามวัน เจ้าไม่มีทางกินสำเร็จด้วยเวลาแค่นี้ได้!” องค์ชายรองตะโกนเสียงดังพร้อมพุ่งเข้ามาอีกครั้ง ครั้งนี้ช่วงที่เข้ามาใกล้ซูหมิงเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นอีก จากยี่สิบจั้งปะทุขึ้นเป็นราวสามสิบจั้ง หนามกระดูกบนตัวมากกว่าเดิม กระทั่งพลังยังทะยานขึ้น เข้าใกล้เต๋าสูงศักดิ์อย่างไร้ที่สิ้นสุด
ซูหมิงพลันเงยหน้าขึ้นเช็ดคราบโลหิตตรงมุมปาก นัยน์ตาฉายแววมุ่งมั่นในการต่อสู้อย่างแรงกล้า ยามนี้ความรู้สึกเจ็บปวดในร่างกายหายไปไม่น้อย แต่ก็ยังอยู่ ทว่าภายใต้ความเจ็บปวด ความมุ่งมั่นในการต่อสู้กลับยิ่งเปี่ยมล้นกว่าเดิม
“โลกกว้างใหญ่แห่งนี้ ไม่เคยมีคำว่า…เป็นไปไม่ได้” ซูหมิงตอบกลับอย่างเย็นชาพร้อมกระโดดพุ่งไปหาองค์ชายรอง ไม่ได้ใช้วิชาอภินิหารอะไร เพียงแค่ใช้วิธีที่ง่ายที่สุด วิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุดในการระบายความเจ็บปวดในร่างกาย
สองคนเข้าใกล้กันในพริบตาบนแมกไม้ ช่วงที่เกิดเสียงครึกโครมดังสนั่น เสียงเด็กของต้นพิสูจน์เต๋าดังก้องด้วยความยึดมั่นอีกครั้งข้างล่างพวกเขา
“เฮ่าเฮ่า…จะกลับบ้าน!” ขณะเดียวกับที่เสียงดังสนั่นแก้วหู มือใหญ่ที่รวมขึ้นจากกิ่งไม้นับไม่ถ้วนของต้นพิสูจน์เต๋าฉีกไปบนฟ้าอีกครั้ง
ครั้งนี้ทั้งผืนฟ้าเกิดเสียงครึกโครม รอยแยกยักษ์สายหนึ่ง…ถูกฉีกออกบนฟ้าที่กำลังพังทลาย ตาข่ายใหญ่มายานับไม่ถ้วนแหลกสลายตามไป ทำให้ในรอยแยกบนฟ้ากลางมวลอากาศถูกทำลายนั้น ปรากฏ…รอยถลอกยักษ์สายหนึ่ง!
นั่นคือรอยถลอก เป็นรอยถลอกเหมือนทางเข้าอีกโลกหลังถูกผนึกเอาไว้!
ความใหญ่ของรอยถลอกเหมือนไร้ที่สิ้นสุด จินตนาการได้ว่าคนที่ผนึกช่องโหว่นี้ในตอนนั้นจะต้องมีพลังน่าสะพรึงอย่างแน่นอน มองจากรอยถลอกจะเห็นได้ชัดว่ามียันต์ยักษ์อยู่แผ่นหนึ่ง!
ยันต์เป็นสีแดงฉาน ด้านบนมีตราประทับตัวใหญ่ยักษ์ ตอนนี้ขยับแสงวูบวาบ หากมองดีๆ จะเห็นว่าระหว่างทางเข้าอีกโลกที่ถูกผนึกกับรอยถลอกที่เกิดขึ้นนั้นเหมือนจะเย็บรวมกันเป็นสายหนึ่ง ซึ่งสายนี้ก็ยืดยาวมาจากยันต์แผ่นนั้น
หากเอายันต์ออกก็จะเปิดทางเข้าที่ถูกผนึกได้…จะได้เห็นโลกที่เคยรุ่งเรืองนั้น!
ขณะเดียวกัน ท่ามกลางเสียงอึกทึก ท้องนภาถูกฉีก ตรงขอบรอยแยกพังทลายลงอย่างต่อเนื่อง แผ่นดินใหญ่พังพินาศลงจนสิ้น ซูหมิงกับองค์ชายรองต่างฝ่ายต่างถอยไปท่ามกลางเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
ซูหมิงกระอักเลือด แต่กลับเงยหน้าหัวเราะเสียงดัง นอกจากวิญญาณเต๋าที่ห้าในดวงตาที่สามตรงระหว่างคิ้วแล้ว ตอนนี้ปรากฏร่างเงามายากลุ่มหนึ่ง นั่นคือ…ตัวอ่อนวิญญาณเต๋าที่หก!
หากตัวอ่อนวิญญาณเต๋านี้รวมขึ้นอีกทั้งสมจริงแล้ว ซูหมิงจะมีวิญญาณเต๋าที่หก หากหล่อหลอม…เขาจะก้าวสู่ขอบเขตเต๋าสูงศักดิ์!
องค์ชายรองหน้าเปลี่ยนสี แต่แววตากลับไม่ยอม ตอนนี้เขาสนใจอะไรได้ไม่มากนัก จึงคำรามพร้อมกับยกมือขวาขึ้นโบกไป ตามตัวปรากฏชุดเกราะขึ้นทันที พริบตาเดียวชุดเกราะสมบูรณ์ก็มาอยู่บนตัวเขา
ขณะเดียวกันร่างกายขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้ขยายไปถึงห้าสิบจั้ง ภายใต้การปะทุพลังในฉับพลันจึงมีพลังของเต๋าสูงศักดิ์
“วันนี้ ไม่ว่าต้องจ่ายไปเท่าไรข้าจะชิงผลเต๋าของข้ากลับมาให้ได้!” องค์ชายรองตะโกนเสียงต่ำ ในดวงตาขวาปรากฏน้ำวนขึ้น น้ำวนถูกลดกำลังลงไปไม่น้อย ราวกับว่ามีจิตสำนึกบางอย่างหลุดพ้นออกมาจากภายใน
“ภัยพิบัติอสุรา เต๋าวัฏจักร ตาย!” องค์ชายรองตะโกนเสียงต่ำ ปรากฏหมอกดำมหาศาลรอบตัว ชั่ววูบเดียวก็ทะลักไปหาซูหมิง หมอกดำรอบตัวเขารวมขึ้นเป็นน้ำวนยักษ์หนึ่ง หมุนโคจรส่งเสียงดังอึกทึกประหนึ่งวัฏจักร
ส่วนร่างกายเขาอยู่ในหมอกดำ ร่างขนาดห้าสิบจั้งดูเหมือนผีร้าย เห็นได้ชัดว่านี่คือวิชาแขนงหนึ่งของฝ่ายอสุรา ใช้ภูตผีเป็นอุสรา!
องค์ชายรองรู้ว่าเวลาของตนมีจำกัด ร่างเงาไร้หัวรับแรงกดดันจากต้นพิสูจน์เต๋าให้เขาแล้ว ทว่าจะอยู่ได้อีกไม่นานนัก หากรับไม่ไหวขึ้นมา ตนจะสู้กับซูหมิงบนแมกไม้ได้ยากมาก
ดังนั้นตอนนี้จึงลงมืออย่างสุดกำลัง
ดวงตาซูหมิงขยับประกายวาววับ ความเจ็บปวดในร่างกายมีไม่มากแล้ว การระบายแบบปกติจะระบายออกมาทั้งหมดไม่ได้ แต่เขากลับยกมือขวาขึ้น ขวานยักษ์โผล่ขึ้นมาในมือ
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนฟันขวานลงในทันทีที่องค์ชายรองพุ่งเข้ามา ความเจ็บปวดสุดท้ายในร่างกายหลอมรวมเข้าไปในแขนข้างที่ถือขวาน หลั่งทะลักเข้าไปเป็นการระบายในระดับสูงสุด!
ฟ้าดินเกิดเสียงโครมครามกึกก้อง ระหว่างนั้นองค์ชายรองร้องโหยหวน แขนซ้ายหลุจากร่าง ขณะโซเซถอยไปอย่างรวดเร็ว น้ำวนในดวงตาขวาพังลงตาม ตี้เทียนที่ถูกกำราบไว้ภายในเข้ามาแทนที่ดวงตาขวาองค์ชายรอง!
เขาเห็นซูหมิงในแวบแรก
ตอนนี้ซูหมิงกระเด็นถอยไปเช่นกัน กระอักเลือดต่อเนื่องหลายครั้ง ถึงขั้นหน้าอกเว้าลงไป ระหว่างที่โลหิตไหลอาบ เสียงหัวเราะเขาดังกึกก้อง ร่างกายกลับฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว วิญญาณเต๋าที่หกในดวงตาที่สามตรงระหว่างคิ้วรวมขึ้นมาแล้ว พลังแก่กล้าปะทุขึ้นในตัวเขา
“วิญญาณเต๋าที่หก…หล่อหลอมเต๋าสูงศักดิ์!” ดวงตาซูหมิงขยับประกายวาวแล้วเอ่ยขึ้นในทันใด
ตอนนี้เองเมื่อปรากฏรอยแยกบนฟ้า ปรากฏรอยถลอกขึ้น ยันต์แผ่นนั้นขยับแสงวิบวับตาม ทั้งต้นพิสูจน์เต๋าสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
“บ้าน…บ้านของเฮ่าเฮ่า…อยู่ที่นั่น…” ต้นพิสูจน์เต๋าสั่นสะท้านไปทั้งต้น พลังมหาศาลที่รวมจากต้นพิสูจน์เต๋าปะทุขึ้น รวมกันที่มือใหญ่สองข้างของมัน ก่อนพุ่งไปยังยันต์บนรอยถลอกนั้นแล้วทำการฉีก
เวลานี้ทั้งฟ้าดินราวกับหยุดนิ่ง กระทั่งการคว้าครั้งนี้ ร่างใหญ่ยักษ์ของต้นพิสูจน์เต๋ายังลอยขึ้นตามเล็กน้อย ทว่าพริบตาที่สองมือต้นพิสูจน์เต๋าสัมผัสกับยันต์แผ่นนั้นหมายจะฉีก ทันใดนั้นเอง ตราประทับบนยันต์ขยับแสงต่อเนื่องกันเก้าครั้ง ทุกครั้งจะมีสายฟ้าทมิฬฝ่าลงมา ภายในสายฟ้าแฝงไว้ด้วยพลังยากจะบรรยาย พลังนี้…
มากพอจะทำลายล้างมหาเต๋าสูงศักดิ์!
สายฟ้าทมิฬเก้าสายผ่าลงที่ต้นพิสูจน์เต๋าทั้งหมด ทำให้ต้นไม้โบราณเกิดรอยปริแตก แต่ยังไม่เท่าไร หลังสายฟ้าเก้าสายผ่านไป ช่วงที่มวลอากาศรอบยันต์บนรอยถลอกนั้นบิดเบี้ยวก็ปรากฏร่างเงาเลือนรางร่างหนึ่ง
ร่างเงานั้นสวมชุดคลุมดำตัวใหญ่ ใบหน้าไร้คลื่นอารมณ์ กำลังมองต้นพิสูจน์เต๋าข้างล่างอย่างเย็นชา
“ลงทัณฑ์!” เขากล่าวเรียบๆ ก่อนยกมือขวาขึ้นกดไปยังต้นพิสูจน์เต๋าข้างล่าง ต้นพิสูจน์เต๋าส่งเสียงดังอึกทึกไม่หยุด มือใหญ่ที่ชูขึ้นสองข้างแหลกเป็นเสี่ยงๆ
“เป็นเจ้า เจ้าทำลายบ้านเกิดข้า เป็นเจ้า!” ตอนนี้เสียงเด็กมีทั้งการสะอื้นไห้ มีทั้งความโกรธ ตอนที่เสียงดังกังวาน บนต้นพิสูจน์เต๋าปรากฏร่างเงาหนึ่ง นั่นคือเด็กอายุราวห้าหกขวบ
ขณะเดียวกันหลินตงตงกำลังหาทางออกในมิติชั้นสาม ทันทีที่เห็นร่างเงาชุดคลุมดำบนฟ้านั้น เขาตัวสั่นด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
“มหาจักรพรรดิ…นะ…นี่ไม่ใช่ร่างจริงของมหาจักรพรรดิ นี่คือจิตไม่มอดดับที่เขาฝากเอาไว้ เป็นกลอุบายสุดท้ายที่ใช้กำราบต้นพิสูจน์เต๋า!
แม้จะเป็นจิตไม่มอดดับ แต่ก็มีพลังส่วนหนึ่งของมหาจักรพรรดิ…” หลินตงตงมีสีหน้าตื่นเต้น เขาเหมือนหาทางกลับแคว้นกู่จั้งพบแล้ว ขอเพียงต้นพิสูจน์เต๋าถูกกำราบอีกครั้ง เช่นนั้นด้วยพลังของเขา ต่อให้ใช้เวลาหมื่นปีก็ยังมีโอกาสเล็กน้อยที่จะฉีกรอยแยกมิติกลับแคว้นกู่จั้งได้