Pursuit of the Truth สู่วิถีอสุรา - ตอนที่ 1457
ช่วงที่ชายชุดคลุมดำในรอยแยกฟ้านอกยันต์ดั่งรอยถลอกมองต้นพิสูจน์เต๋าอย่างเย็นชานั้น ร่างเงาอายุราวห้าหกขวบที่ปรากฏบนยอดไม้ต้นพิสูจน์เต๋าก่อนหน้านี้พลันยกมือขวาขึ้นกดต้นพิสูจน์เต๋าใต้ร่าง
เมื่อกดไป เสียงเยาว์วัยดั่งเด็กน้อยยากจะลืมเลือนไปชั่วนิรันดร์ดังก้องฟ้าดินพังทลาย
“พิสูจน์เต๋า!”
สิ้นเสียง มีแรงดูดมหาศาลสุดบรรยายแผ่มาจากในร่างเงาเด็กอายุห้าหกขวบ แรงดูดนี้ปกคลุมทั้งต้นพิสูจน์เต๋าโดยพลัน เหมือนเป็นแรงดูดสะเทือนฟ้าดินปะทุมาจากร่างต้นไม้โบราณ ตอนนี้เอง…ท้องนภาที่กำลังพังทลายรอบต้นพิสูจน์เต๋าหมุนม้วนกลับมา ก่อนบิดเบี้ยวกลายเป็นระลอกคลื่นตรงไปหาเด็กคนนั้น
ทั้งผืนฟ้าเหมือนถูกเปิดออก พังทลายลงเป็นชั้นๆ บิดเบี้ยวเป็นชั้นๆ หลอมละลายเป็นระลอกคลื่น ชั่วขณะที่ฟ้าลับหายและต้นพิสูจน์เต๋าถูกดูดนั้น มองไป ท้องฟ้า…ไม่ใช่ฟ้าอีก แต่เป็นมวลอากาศกว้างใหญ่
ขณะเดียวกันแผ่นดินก็ถูกสูบเช่นกัน จากเดิมทีที่พังพินาศเกิดเสียงโครมดังขึ้นอีกครั้ง แหลกเป็นชิ้นๆ แม่น้ำภูเขาบนพื้นดินแหลกลาญ แผ่นดินหายไปทั้งหมดเป็นฝุ่นธุลีหมุนม้วนกลับมายังต้นพิสูจน์เต๋า
แม้แต่ซากปรักหักพังบนมิติชั้นสองกับชั้นหนึ่งที่พังทลายลงนั้นยังเกิดการหมุนม้วนเช่นกัน ช่วงที่พังพินาศลงพร้อมกันยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของฝุ่นธุลี ถูกต้นพิสูจน์เต๋าใหญ่ยักษ์กลางมวลอากาศสูบมาทั้งหมด
แรงดูดนี้ไม่เพียงสั่นคลอนฟ้าดิน แต่ยังสร้างความตกใจแก่ผู้ฝึกฌาน ตอนนี้เองร่างเงาองค์ชายรองรับไม่ไหวเป็นครั้งแรก ตัวเขาหมุนม้วนตรงมายังต้นพิสูจน์เต๋า ถูกดูดติดอยู่บนต้นพิสูจน์เต๋าดังโครม ไม่อาจขยับตัวได้แม้แต่น้อย ชั่วขณะที่เขามีสีหน้าตื่นกลัว ร่างเงาไร้หัวนั้นตัวสั่น ยากจะต่อต้านความบ้าคลั่งของต้นพิสูจน์เต๋าได้อีก ร่างจึงถูกกิ่งไม้เหลือคณานับพันรอบ ราวกับกลายเป็นส่วนหนึ่งของต้นไม้โบราณ
และยังมีมหาเต๋าสูงศักดิ์หลินตงตง แม้จะออกห่างไปค่อนข้างไกลแล้ว แต่ภายใต้แรงดูด ไม่ว่าเขาจะต่อต้านอย่างไรก็ไม่อาจหยุดตัวเองไม่ให้ถูกกระชากเข้าไปได้ จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของต้นไม้โบราณเหมือนกับองค์ชายรอง
มีเพียงซูหมิงที่รู้สึกว่าในฟ้าดินอัดแน่นไปด้วยแรงดูดน่าตกใจของต้นพิสูจน์เต๋าโบราณ ทว่ากลับไม่ส่งผลต่อเขาแม้แต่น้อย ตอนนี้วิญญาณเต๋าที่หกในดวงตาที่สามกำลังหล่อหลอมอย่างรวดเร็ว เขาจึงไม่มีเวลาสนใจอะไรมากนัก ได้แต่นั่งขัดสมาธิลงกลางมวลอากาศ สัมผัสขั้นตอนการเปลี่ยนวิญญาณเต๋าให้เป็นเต๋าสูงศักดิ์
ในเวลาเดียวกัน ทางด้านเด็กน้อยบนยอดไม้ต้นพิสูจน์เต๋าคนนั้น เขายกมือขวาที่กดบนแมกไม้ขึ้นช้าๆ ต้นพิสูจน์เต๋าพลันสั่นไหวอย่างรุนแรงทั้งยังเกิดเสียงดังสนั่นสะเทือนฟ้าดิน เห็นได้ด้วยตาเนื้อว่าต้นพิสูจน์เต๋าแห้งลง ราวกับว่าพลังทั้งหมดภายในถูกสูบไปในมือขวาเด็กคนนั้น ก่อนเขาจะเงยหน้าขึ้นจ้องเงามายามหาจักรพรรดิบนฟ้าตาเขม็ง
“พิสูจน์เต๋า เบิกฟ้า!” ยามนี้เสียงเยาว์วัยของเด็กน้อยดังขึ้นด้วยความยึดมั่นสุดบรรยาย นั่นคือความปรารถนาถึงที่สุดที่จะได้กลับบ้าน เป็นการปะทุสูงสุดหลังถูกผนึกมาไม่รู้กี่ปีจนอัดอั้นถึงขีดสุด พริบตาที่เขาเอ่ยขึ้น ตัวเขาบินขึ้นกลายเป็นสายรุ้งยาวพุ่งไปยังเงามายามหาจักรพรรดิ
ร่างกายเขาดูเหมือนอ่อนแอ แต่กลับแข็งแกร่งเหนือกว่าทุกคนในมิตินี้ ฟังเสียงแล้วก็ยังเยาว์วัย ทว่าความรู้สึกต่อบ้านที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงกลับมีความยึดมั่นจนน่าเศร้า
เขาเคลื่อนตัวไปไม่เร็ว แต่ว่า…พลังทั้งหมดที่รวมจากต้นพิสูจน์เต๋าและยังมีพลังของพวกองค์ชายรองกับองค์ชายใหญ่ ไม่ว่าพวกเขายินยอมหรือไม่ ตอนนี้ได้เป็นส่วนหนึ่งของต้นพิสูจน์เต๋าแล้ว
เด็กน้อยนามเฮ่าเฮ่ามาพร้อมกับความยึดมั่นและความคิดถึงต่อบ้านเกิด ชั่ววูบเดียวก็มาปรากฏตรงหน้าจิตไม่มอดดับของมหาจักรพรรดิกู่จั้งชุดคลุมดำ ก่อนยกมือขวาขึ้นจะฉีกร่างมหาจักรพรรดิ
แทบเป็นทันทีที่เฮ่าเฮ่าจะฉีกร่างมหาจักรพรรดิ ชายชุดคลุมดำมีสีหน้าปกติ ประหนึ่งว่าเขาที่เป็นดวงจิตเดิมทีไม่มีคลื่นอารมณ์ใดๆ อยู่แล้ว ยามนี้เพียงยกมือขวากดไปยังเฮ่าเฮ่าที่กำลังพุ่งเข้ามาอีกครั้ง
“ลงทัณฑ์!” ยังคงเป็นคำเดียว แต่เมื่อสิ้นเสียง ภายในฝ่ามือขวาชายชุดคลุมดำกลับเปล่งแสงหม่น ภายในแสงนั้นมีสายฟ้าทมิฬเก้าสายพุ่งตรงไปหาเฮ่าเฮ่า
หลังปะทะกันในทันใด สายฟ้าเก้าสายเกิดเสียงระเบิดดังก้อง มันผ่าร่างเฮ่าเฮ่าทั้งหมด ทว่าพริบตาที่ผ่าลงกลับแหลกลาญไปพร้อมกัน กลายเป็นสายฟ้าโค้งใหญ่ขยายเป็นวงกว้างออกจากตัวเฮ่าเฮ่า
มองไกลๆ เฮ่าเฮ่าในภาพนี้เหมือนพุ่งออกมาจากสายฟ้าเก้าสาย เข้าไปใกล้ชายชุดคลุมดำโดยไม่มีอะไรอาจหยุดยั้ง แต่ว่าทันทีที่เขาปะทะกับชายชุดคลุมดำนั้น…เส้นลายมือขวาชายชุดคลุมดำที่กดลงเปล่งแสงหม่นไร้ที่สิ้นสุด ทุกเส้นลายมือเหมือนกลายเป็นเทือกเขาไร้รูปกำราบเฮ่าเฮ่า กำราบต้นพิสูจน์เต๋า!
เสียงครึกโครมดังก้องไม่หยุด มือขวาเฮ่าเฮ่าปะทะกับมือขวาชายชุดคลุมดำ เสียงอึกทึกกึกก้องกลายเป็นแรงปะทะคล้ายว่าจะฉีกทุกอย่างได้แผ่กระจายไปรอบๆ ตอนนี้เองเฮ่าเฮ่าเปล่งเสียงด้วยความยึดมั่น ร่างชายชุดคลุมดำพลันเป็นมายา
ร่างมายาเลือนรางขึ้นเรื่อยๆ ยามที่มองไป ร่างชายชุดคลุมดำใกล้จะหายไปแล้ว ชั่วขณะนี้เองเขาหลับตาลง เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งแล้วก็กดมือขวาลงไปอย่างแรง
หลังกดไป เสียงมวลอากาศระเบิดดังขึ้นอีกหลายเท่า ส่งผลให้ร่างเงาเฮ่าเฮ่าถูกพายุคลั่งถาโถม ร่างเงาเด็กน้อย…หายวับไปด้วยความไม่ยอมและเศร้าโศก
ขณะเดียวกันต้นพิสูจน์เต๋าสั่นสะท้านไปทั้งต้น กิ่งไม้จำนวนมากแตกหักพร้อมกัน แม้แต่แมกไม้ยักษ์ที่มาแทนที่ฟ้ายังแหลกเป็นเสี่ยงๆ บนแมกไม้ปรากฏร่างเงาเฮ่าเฮ่าอีกครั้ง ครั้งนี้เลือนรางมาก เขาเหมือนกำลังร้องไห้ มองมวลอากาศ มองรอยถลอกในรอยแยกประหนึ่งกำลังมองบ้านของเขา
เมื่อส่วนของต้นพิสูจน์เต๋าพังลง องค์ชายรองกระอักเลือด รีบห้อเหยียดถอยมาทันที ทั้งยังเรียกร่างเงาไร้หัวนั้นเป็นสายรุ้งยาวห่างจากต้นพิสูจน์เต๋าไปไกลด้วยความตื่นกลัว
หลินตงตงก็เช่นกัน ใบหน้าเขาซีดขาว ตอนนี้อาศัยจังหวะที่แรงดูดหายไปออกห่างต้นพิสูจน์เต๋าอย่างไม่ลังเล ตอนที่หันกลับไปมอง นัยน์ตาเขาฉายแววตื่นกลัวอย่างพบเห็นได้ยาก
เป็นตอนนี้เองซูหมิงลืมตาขึ้น แทบเป็นทันทีที่เขาลืมตา วิญญาณเต๋าหกดวงในลูกตาที่สามตรงระหว่างคิ้วหล่อหลอมครั้งสุดท้ายเสร็จสิ้น เปลี่ยนจากวิญญาณเต๋าเป็น…เต๋าสูงศักดิ์!
ช่วงที่บรรลุเต๋าสูงศักดิ์ จะเห็นว่าเต๋าสูงศักดิ์ขั้นหกในดวงตาที่สามของซูหมิงเปล่งแสงทองอร่ามสว่างจ้าอย่างยิ่ง ราวกับทำให้โลกถูกย้อมเป็นสีทอง
พลังมหาศาลของเต๋าสูงศักดิ์โคจรในตัวซูหมิงไม่หยุด แผ่กระจายออกมาข้างนอก หมุนม้วนไปรอบๆ ส่งผลให้เส้นผมเขาปลิวไสวเองแม้ไร้ลม พลังน่าตื่นตกใจปะทุมาจากในร่าง
เต๋าสูงศักดิ์ หรือเรียกได้ว่าเซียนเต๋า แค่ขั้นหกบรรลุ! ขั้นเจ็ดบรรลุเต๋าสูงศักดิ์สมบูรณ์ ขั้นแปด…ก้าวสู่มหาเต๋าสูงศักดิ์!
ซูหมิงในตอนนี้ก้าวสู่ขอบเขตเต๋าสูงศักดิ์แล้ว ถึงขั้นตอนนี้เขามีความรู้สึกรางๆ ว่าจะคลำหาความสมบูรณ์พบ มองเห็น…มหาเต๋าสูงศักดิ์
“ช่วยข้า…ช่วยข้า…เจ้าเคยบอกว่าจะกลับบ้านกับข้า…” แทบเป็นขณะเดียวกับที่ซูหมิงก้าวสู่เต๋าสูงศักดิ์ เสียงเฮ่าเฮ่าดังแว่วมาเนิบๆ ด้วยความเศร้า ซูหมิงเงยหน้าขึ้นมองร่างเงาเด็กชายอายุราวห้าหกขวบที่กำลังมองตนอยู่บนแมกไม้แวบหนึ่ง
เขาเห็นความยึดมั่นในตัวเด็กคนนั้น เห็นความเศร้าเสียใจ คนอื่นไม่เข้าใจความเศร้านั้น มีเพียงซูหมิง…เขาเข้าใจ เพราะเขาก็เสียบ้านเกิดเหมือนกับเด็กน้อยนามเฮ่าเฮ่า…
“ข้าอยากกลับบ้าน…ข้าอยากกลับบ้าน…ช่วยข้า ช่วยข้าด้วย…” เด็กน้อยมองซูหมิงพลางพึมพำ ทุกคำสั่นคลอนใจซูหมิง
เมื่อไม่นานมานี้เขาก็เพิ่งเสียบ้านเกิดไปเหมือนกับเด็กน้อย สูญเสียใบหน้าคุ้นเคยทั้งหมด อยู่ลำพังในโลกนี้ คิดถึงทุกอย่างในความทรงจำเงียบๆ
“ข้า…จะช่วยเจ้าได้อย่างไร?” ซูหมิงมองเด็กน้อยพลางถามเสียงเบา เขาไม่ได้ปฏิเสธอีกฝ่าย และไม่อยากปฏิเสธด้วย หากไม่มีเฮ่าเฮ่า เขาคงไม่ได้ผลเต๋า หากไม่มีเฮ่าเฮ่า เขาในตอนนี้…ก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใดในการต่อสู้กันระหว่างองค์ชายใหญ่และองค์ชายรอง
ไม่ว่าจะเป็นการตอบแทนหรือเรื่องสะเทือนใจซูหมิงในตอนนี้ เขาจะต้องช่วยอีกฝ่าย ส่งอีกฝ่าย…กลับบ้าน
“ข้าคือวิญญาณแห่งพิสูจน์เต๋า ข้าฉีกผนึกนั้นไม่ได้ ดวงจิตของมหาจักรพรรดิกู่จั้งรวมมันไว้ที่ตัวข้า แต่เจ้าไม่ใช่ เจ้าฉีกผนึกนั้นได้ หากผนึกถูกฉีก พวกเรา…จะได้กลับบ้าน” เฮ่าเฮ่ายืนขึ้นบนแมกไม้ มองซูหมิงด้วยแววตายึดมั่นแรงกล้า ซูหมิงเห็นแววตาอีกฝ่ายแล้วก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนนัยน์ตาฉายแววเด็ดขาด
ซูหมิงขยับวูบไหวมาปรากฏบนแมกไม้ในทันใด อยู่ข้างกายเฮ่าเฮ่า ก้มหน้ามองเด็กชายน้อย เด็กชายก็เงยหน้ามองซูหมิงเช่นกัน
ขณะเดียวกับที่สองคนสบตากัน ซูหมิงเห็นความใสในแววตาเด็กชาย เห็นความบริสุทธิ์ในจิตวิญญาณ และก็เห็น…ความปรารถนาและยึดมั่นต่อการกลับบ้าน รวมถึงความเศร้าโดดเดี่ยวที่ซ่อนอยู่ในใจ
เหมือนกัน ตอนนี้เด็กชายก็เห็นโลกของซูหมิงเช่นกัน เห็นการสละชีพของซูหมิง
“เจ้าช่วยข้ากลับบ้าน…ข้าก็จะช่วยเจ้ากลับบ้าน…พวกเราช่วยกัน…” เด็กน้อยสัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดที่บอกไม่ถูกจากตัวซูหมิง เขายกมือขึ้นจับมือซูหมิงเอาไว้ พริบตาที่มือพวกเขาสองคนสัมผัสกัน นัยน์ตาซูหมิงเป็นสมาธิโดยพลัน
พลังมหาศาลหลั่งทะลักไปหาซูหมิงราวกับกำลังถ่ายทอดพลัง