Ranker’s Return - ตอนที่ 10
เมื่อฮยอนนูกลับมาถึงหมู่บ้านอาสลานแล้ว สถานที่แรกที่เขาไปคือบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านเดล จุดประสงค์ก็เพื่อไปส่งภารกิจและรับรางวัลนั่นเอง
“ข้าว่าแล้วเชียวว่าสามารถไหว้วานเรื่องนี้กับท่านได้”
[คุณสำเร็จภารกิจ การไหว้วานจากหัวหน้าหมู่บ้านเดล]
[ได้รับค่าประสบการณ์]
[คุณได้รับแหวนของเดล]
[แหวนของเดล]
[แหวนที่มีรูปลักษณ์และความสามารถธรรมดา ๆ ไม่มีความพิเศษอะไรเลย]
ความล้ำค่า: อันคอมม่อน
ข้อจำกัด: เลเวล 10 ขึ้นไป
ความสามารถ: ค่าพละกำลัง +3 ค่าความว่องไว + 3
[ค่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับหัวหน้าหมู่บ้านเดลแห่งอาสลานเพิ่มขึ้น 10]
หัวหน้าหมู่บ้านเดลกล่าวชื่นชมฮยอนนู อย่างไรก็ตามเขากลับไม่ได้โต้ตอบบทสนทนาอะไรกับหัวหน้าหมู่บ้านเดลเลย ในความคิดเขาการยืดบทสนทนามีแต่จะสร้างความปวดหัวให้แก่ตนเองเท่านั้น
‘ชิ! นี่มันอะไรกันเนี่ย? เอาพวกน้ำยาพื้น ๆ มาให้ฉันยังจะดีกว่าซะอีก’
เขาแทบไม่อยากจะพูดอะไรกับหัวหน้าหมู่บ้านหลังจากที่ได้รับแหวนระดับต่ำวงหนึ่ง ถึงเขาจะตั้งใจรับภารกิจนี้เพราะได้รับค่าประสบการณ์เยอะก็ตาม แต่ของที่ได้รับมานี้ก็เกินไปจริง ๆ
[คุณสำเร็จภารกิจ คำไหว้วานจากแลนซ์]
[ได้รับค่าประสบการณ์]
[ได้รับน้ำยาฟื้นฟูพลังชีวิตของแลนซ์แบบพิเศษ x1]
[ได้รับน้ำยาฟื้นฟูพลังเวทมนตร์ของแลนซ์แบบพิเศษ x1]
[เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น]
[พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู]
“ท่านล่าพวกก็อบลินสำเร็จตามที่ข้าขอแล้วสินะ เอาล่ะ! รับน้ำยาพวกนี้ไปสิ”
‘ของรางวัลและค่าประสบการณ์ที่ได้ถือว่าไม่เลวเลย’
แลนซ์มอบน้ำยาฟื้นฟูพลังชีวิตและน้ำยาฟื้นฟูพลังเวทมนตร์ให้เขาอย่างละขวด เมื่อได้ของรางวัลแล้วฮยอนนูก็รีบออกจากร้านขายของชำทันที ตอนนี้มีสถานที่หนึ่งที่เขาต้องรีบไปอยู่
‘ในที่สุดฉันก็มาถึงเลเวล 10 จนได้!’
***
ฮยอนนูเดินผ่านตัวหมู่บ้านจนกระทั่งไปหยุดยืนอยู่ด้านหน้าหอคอยสูงใหญ่แห่งหนึ่ง หอคอยแห่งนี้มีชื่อว่าหอคอยแห่งการเปลี่ยนอาชีพ ด้านในของหอคอยแห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็นชั้น ๆ แต่ละชั้นมีไว้เพื่อนอาชีพต่าง ๆ โดยเฉพาะ ลักษณะทั่วไปไม่ต่างจากร้านค้าโดยทั่วไปมากนัก ฉะนั้นจึงมีผู้เล่นบางกลุ่มเรียกหอคอยแห่งนี้ว่าร้านค้าเปลี่ยนอาชีพ
ตอนนี้ฮยอนนูมีเลเวล 10 แล้ว เขาจึงตัดสินใจมายังหอคอยแห่งนี้เพื่อเปลี่ยนอาชีพ เขาตัดสินใจเลือกอาชีพนักรบโดยที่ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรให้ยุ่งยากเลย หากจะยุ่งยากจริง ๆ สำหรับเขาก็คงเป็นการเปลี่ยนอาชีพครั้งที่สองมากกว่าเพราะการเปลี่ยนอาชีพในครั้งแรกเป็นการเลือกอาชีพระดับพื้นฐานเท่านั้น ต่างจากการเปลี่ยนอาชีพในครั้งที่สองซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนอาชีพในระดับสูงและส่งผลต่อความสามารถโดยรวมเป็นอย่างมาก ผู้เล่นจึงจำเป็นต้องพิจารณาอาชีพที่เลือกอย่างถี่ถ้วน ถ้าจะพูดถึงระบบการเปลี่ยนอาชีพครั้งในครั้งแรกแบบสวยหรู มันก็คือรากฐานที่สำคัญของตัวละคร แต่ถ้าจะพูดแบบเลวร้าย มันก็เป็นเพียงแค่ทางผ่านสำหรับตัวละครเท่านั้น
“อาชีพนักรบ… อาชีพนักรบอยู่ตรงไหนนะ… อ้อ! เห็นแล้ว ชั้นห้างั้นเหรอ?”
***
“ท่านอยากจะเป็นนักรบงั้นเหรอ?” เอ็นพีซีผู้ดูแลความเรียบร้อยของชั้นห้าสำหรับอาชีพนักรบเอ่ยถามเมื่อเห็นฮยอนนูเดินตรงเข้ามาหา ชื่อของเอ็นพีซีผู้นี้คือคาน
“ใช่ครับ ผมอยากจะเป็นนักรบ”
เมื่อคานได้ยินเช่นนั้น เขาก็หยิบดาบที่วางอยู่ข้าง ๆ ขึ้นมา “ก็นะ สำหรับพวกเราแล้วการวัดคุณสมบัติของการเป็นนักรบไม่ได้พิจารณาจากคำพูดเหมือนกับชั้นอื่น ๆ หากท่านอยากจะเป็นนักรบคงต้องลองประมือกับข้าดูซักครั้งก่อน”
“เข้าใจแล้วครับ” ฮยอนนูก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน
‘แบบนี้สิดี’
คานเป็นนักรบที่พูดจาตรงไปตรงมา ท่าทางและการกระทำของเขาไร้ซึ่งการเสแสร้งเจือปน “เข้ามาได้เลย ข้าจะเป็นฝ่ายรับการโจมตีของท่านก่อนเอง”
ฮยอนนูพุ่งเข้าโจมตีทันทีแทนที่จะตอบรับก่อน ดาบยาวปลายมนอันแหลมคมของเขากวัดแกว่งพลิ้วไหวอย่างไหลลื่นและพุ่งเป้าตรงไปยังหน้าท้องของคานอย่างแม่นยำ การโจมตีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพของฮยอนนูในครั้งนี้ถึงกับทำให้คานอดรู้สึกหวาดพวาไม่ได้ ชายหนุ่มที่เขาประมือด้วยในตอนนี้เป็นนักผจญภัยฝีมือดีที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา คานไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะมีใครคนไหนที่สามารถโจมตีได้อย่างงดงามและสมบูรณ์แบบขนาดนี้ อย่างไรก็ตามคานเองก็โจมตีสวนกลับด้วยทักษะการใช้ดาบอันรวดเร็วของตนเช่นกัน
เมื่อเป็นเช่นนั้น ฮยอนนูจึงอาศัยแรงกระแทกจากการที่ดาบของตนถูกปัดกลับมาเพื่อโจมตีอีกครั้งด้วยพลังที่มากขึ้นกว่าเดิม การต่อสู้ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนเป็นไปด้วยความดุเดือด ฮยอนนูรู้สึกพึงพอใจกับการต่อสู้อันดุเดือดในครั้งนี้มาก อย่างไรก็ตามแม้ฮยอนนูจะไม่ได้เอ่ยปากทักท้วงอะไร แต่เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมมาตรฐานอันพึงมีของผู้เล่นที่ต้องการจะเปลี่ยนอาชีพเป็นนักรบถึงได้สูงขนาดนี้
‘เอ็นพีซีผู้ทำหน้าที่ทดสอบผู้เล่นที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพเป็นนักรบแข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ? ถ้างั้นคนส่วนใหญ่จะผ่านการทดสอบระดับนี้ได้ยังไงกัน? เรื่องแบบนี้มัน…’
ถึงแม้คานจะแข็งแกร่งไปสักหน่อยสำหรับเอ็นพีซีที่ทำหน้าที่ทดสอบในครั้งนี้ ทว่าฮยอนนูก็ไม่ได้รู้สึกลำบากแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเขากลับเป็นฝ่ายค่อย ๆ ไล่ต้อนคานและเข้าใกล้คำว่าชัยชนะมากขึ้นเรื่อย ๆ และในที่สุดคานก็ปักดาบของตนลงบนพื้นด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ จากนั้นก็ตะโกนขึ้นมา “พอก่อน! พอแค่นี้แหละ! ท่านมีคุณสมบัติเพียงพอแล้วล่ะ”
‘อะไรกัน กะว่าจะยืดเส้นยืดสายให้มากกว่านี้ซะหน่อยนะเนี่ย’ ฮยอนนูรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
ร่างกายของคานในตอนนี้เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ประมือกับใครแบบจริงจังและดุเดือดขนาดนี้มาก่อน ในที่สุดเขาก็ยกนิ้วโป้งให้ฮยอนนูเพื่อแสดงถึงการยอมรับในตัวชายหนุ่ม “จากนี้ไป ท่านคือหนึ่งในนักรบที่ข้าคนนี้ให้การยอมรับแล้ว!”
[คุณเปลี่ยนอาชีพเป็น ‘นักรบ’ เรียบร้อยแล้ว]
[ค่าพละกำลังและค่าพลังโจมตีทางกายภาพเพิ่มขึ้น 10]
[ได้รับฉายา ‘นักรบผู้ได้รับการยอมรับจากคาน’]
[ฉายา: นักรบผู้ได้รับการยอมรับจากคาน]
[ฉายาแด่ผู้ที่ได้รับการยอมรับจากคาน ผู้ดูแลการเปลี่ยนอาชีพจอมเรื่องมาก]
[ความสามารถ: เพิ่มพลังโจมตีของอาวุธระยะประชิด 5%]
‘ฉายางั้นเหรอ?’
แม้ความสามารถของฉายาที่ผู้เล่นมักได้รับในช่วงต้นของเกมจะยังไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก แต่เมื่อรวมความสามารถจากหลาย ๆ ฉายาเข้าด้วยกันก็สามารถสร้างประสิทธิภาพร่วมกันได้ดีในระดับหนึ่ง ดั้งนั้นฮยอนนูจึงรู้สึกพึงพอใจกับการได้รับฉายานี้มาก
[ทักษะได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว]
[ทักษะ: ความชำนาญในการใช้อาวุธ]
[เพิ่มความเสียหายเมื่อใช้อาวุธต่าง ๆ ]
รูปแบบ: แสดงผลอัตโนมัติ
ความล้ำค่า: อันคอมม่อน
ระดับประสิทธิภาพของทักษะ: F
ความเสียหายจากอาวุธที่ใช้เพิ่มขึ้น 10%
[ทักษะ: พุ่งโจมตี]
[เคลื่อนที่เข้าหาเป้าหมายด้วยความเร็วพร้อมทั้งกวัดแกว่งอาวุธในมือของคุณ]
รูปแบบ: เรียกใช้
ความล้ำค่า: อันคอมม่อน
ระดับประสิทธิภาพของทักษะ: F
ระยะสูงสุดที่สามารถพุ่งเข้าโจมตีได้: 3 เมตร
คูล์ดาวน์: 10 วินาที
[ทักษะ: ฟาดฟันหนักหน่วง]
[กวัดแกว่งอาวุธที่เสริมพลังเวทแล้วเข้าใส่เป้าหมายอย่างรุนแรง]
รูปแบบ: เรียกใช้
ความหายาก: อันคอมม่อน
ระดับประสิทธิภาพของทักษะ: F
เวลาสูงสุดที่สามารถรวมพลังได้: 1 วินาที
คูล์ดาวน์: 10 วินาที
หลังจากที่เปลี่ยนอาชีพแล้วเขาก็ได้รับทักษะมาสามอย่าง พวกมันต่างก็เป็นทักษะที่มีประโยชน์ในระยะยาวทั้งสิ้น เนื่องจากหลังการเปลี่ยนอาชีพครั้งที่สองแล้วทักษะเหล่านี้จะได้รับการอัพเกรดให้ดีขึ้นตามไปด้วย หลังจากนั้นคานก็พูดกับเขาต่อ
“ถ้าเป็นท่านล่ะก็ บางทีอาจจะเป็นไปได้ก็ได้นะ”
“หา? นี่ท่านหมายความว่ายังไง?”
“จากนี้ไป ถ้าหากว่าวันหนึ่งท่านเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของตัวเองแล้ว ท่านลองตามหาคนที่เป็นเจ้าของเหรียญนี้ดู” คานยื่นเหรียญที่มีสัญลักษณ์ดาบและโล่ให้แก่ฮยอนนู “ผู้ที่เป็นเจ้าของเหรียญนี้คืออัศวินแห่นคอยน์ เมื่อถึงตอนนั้นโอกาสดี ๆ จะมาหาท่าน”
‘นี่มันอะไรกัน?’ ฮยอนนูอดรู้สึกคลางแคลงใจไม่ได้เมื่อเขาได้รับเหรียญประหลาด นี้มาพร้อมกับภารกิจปริศนา ทำไมคานถึงมอบเหรียญนี้ให้เขา? แล้วภารกิจนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้รับหรือเปล่า? อย่างไรก็ตามฮยอนนูไม่ได้กล่าวอะไรออกมา การได้รับภารกิจพิเศษในทำนองนี้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ในทางตรงกันข้ามมันอาจนำพาเขาไปสู่โอกาสอันดีงาม
ในตอนที่เขาได้รับเหรียญนั้นมาจากคาน หน้าต่างข้อความหนึ่งก็โผล่ขึ้นมาตรงหน้าของเขา
[ภารกิจถูกสร้างขึ้นแล้ว]
[ภารกิจ: พบอัศวินแห่งคอยน์]
[คุณได้รับการแนะนำจากผู้ดูแลการเปลี่ยนอาชีพที่ชื่อว่าคาน เขาบอกว่าถ้าคุณมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองแล้ว ให้ไปพบกับอัศวินแห่งคอยน์ที่มีชื่อว่าเลบรอน]
ระดับความยาก: E
เงื่อนไข: พบปะอัศวินแห่งคอยน์ 0/1
รางวัล: ทักษะจากเลบรอน
“จะว่าไปแล้ว อัศวินแห่งคอยน์อยู่ที่ไหนกันล่ะ?”
“เขาอยู่ที่ยุสมา อัศวินแห่งคอยน์ผู้มีชื่อว่าเลบรอนคนนี้เปรียบเสมือนตัวแทนอัศวินของอาณาจักร เขาเป็นอัศวินที่เก่งกาจที่สุดของอาณาจักร”
‘นี่มัน! แจ็คพอตแตกชัด ๆ’ หลังจากที่ฟังคำอธิบายจากคานแล้ว ฮยอนนูก็รู้โดยทันทีว่าตอนนี้ตัวเองโชคดีสุด ๆ ราวกับถูกรางวัลใหญ่ เขาพยายามข่มรอยยิ้มของเขาเอาไว้ อย่างไรก็ตามสำหรับเขาในตอนนี้การปกปิดความรู้สึกดีใจอย่างสุดขีดเป็นเรื่องที่ยากมาก
“ถ้างั้นผมจะลองไปดูครับ” ฮยอนนูบอกลาคานผู้มอบสิ่งต่าง ๆ แก่เขามากมาย หลังจากนั้นเมื่อฮยอนนูออกมาจากหอคอยเปลี่ยนอาชีพแล้ว ความรู้สึกทั้งหมดที่เขาพยายามปกปิดเอาไว้ก็ประทุออกมา ท่าทีตื่นเต้นดีใจที่เขาแสดงออกมาในตอนนี้ดูแล้วไม่ต่างอะไรจากคนบ้าเลยสักนิด
‘สุดยอด…นี่มันสุดยอดไปเลย!’ เรื่องที่เขากำลังประสบอยู่นั้นเป็นเรื่องน่ายินดีแบบสุด ๆ แม้แต่ตัวฮยอนนูเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอเรื่องแบบนี้จากการเปลี่ยนอาชีพเช่นกัน
“เควสระดับ E ที่ต้องการเลเวลขั้นต่ำห้าสิบงั้นเหรอ?” มันยิ่งทำให้แรงผลักดันในการเก็บเลเวลของเขาเพิ่มขึ้นไปอีก
‘รางวัลที่ได้คือทักษะจากอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรเลยนะ’ รูปแบบทักษะที่เลบรอนมอบให้จะเป็นแบบไหนกันแน่? เขาคิดไปไกลถึงขั้นที่ว่าเมื่อได้ทักษะมาแล้ว ความสามารถและความเก่งกาจของเขาจะเป็นอย่างไร
ฮยอนนูออกเดินทางต่อไปด้วยฝีเท้าอันเบาสบายและเต็มเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง เขากำลังตั้งหน้าตั้งตารอวันได้รับรางวัลอย่างใจจดใจจ่อ
***
ย้อนไปตอนก่อนที่ฮยอนนูจะเปลี่ยนอาชีพนั้น ทางฝั่งของเกมมาสเตอร์จุงดาฮุยเองก็กำลังมองหน้าจอมอนิเตอร์ตรงหน้าของเธออยู่ด้วยสายตาที่เพ่งพิศและจดจ่อราวกับว่าจะมีแสงพุ่งออกมาจากตาทั้งสองข้างของเธอ
“เร็วเข้าสิ! ผู้คนจะได้รู้จักเมลีก็อดมากขึ้นยังไงล่ะ” จุงดาฮุยพูดพึมพำด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ เมื่อเวลาผ่านไปสักพักหนึ่ง การต่อสู้ของฮยอนนูก็เริ่มต้นขึ้นและในตอนนั้นเอง มือของเกมมาสเตอร์สาวก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน เธอปรับเปลี่ยนมุมมองของหน้าจอมอนิเตอร์ให้เป็นไปตามที่ใจต้องการ โดยเปลี่ยนทิศทางการจับภาพมาเป็นมุมมองจากด้านบนมองต่ำลงมาด้านล่าง
‘เมลีก็อด… ฝีมือนายพัฒนาขึ้นบ้างหรือเปล่า?’
ในการต่อสู้กับเอ็นพีซีผู้ดูแลการเปลี่ยนอาชีพซึ่งมีค่าสเตตัสสูงกว่านั้น ฮยอนนูไม่ได้เป็นฝ่ายเสียเปรียบเลย กลับกันมีหลายจังหวะที่เขาสามารถกดดันอีกฝ่ายได้ด้วยซ้ำ ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว เอ็นพีซีผู้ดูแลการเปลี่ยนอาชีพที่ฮยอนนูกำลังเผชิญอยู่ ณ ขณะนี้มีความแตกต่างจากเดิมที่ผู้เล่นปกติควรจะเจออยู่นิดหน่อย เนื่องจากจุงดาฮุยได้ป้อนข้อมูลใหม่ทับเข้าไปทำให้เอ็นพีซีผู้ดูแลการเปลี่ยนอาชีพที่ฮยอนนูต้องเผชิญอยู่นี้แข็งแกร่งกว่าปกติ อย่างไรก็ตามฮยอนนูก็สามารถเอาชนะได้แม้จะยังไม่มีอาชีพและค่าสเตตัสที่สูงมากนักก็ตาม
‘นายถึงกับเอาชนะเอ็นพีซีผู้ดูแลการเปลี่ยนอาชีพที่ฉันใส่ข้อมูลการต่อสู้ของมือโปรเข้าไปได้…’
“สมกับที่เป็นเมลีก็อดจริง ๆ” จุงดาฮุยอดกล่าวชื่นชมฮยอนนูไม่ได้ ผู้เล่นที่เธอรู้จักนั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ
ไม่นานนักการต่อสู้ของฮยอนนูก็จบลง ‘เควสนี้…มันโผล่มาตอนนี้งั้นเหรอ?’ ตาทั้งสองข้างของเกมมาสเตอร์สาวเบิกกว้างทันทีเมื่อหน้าจอมอนิเตอร์ของเธอแสดงให้เห็นว่าฮยอนนูกำลังหัวเราะอย่างร่าเริงในระหว่างที่ตัวเขากำลังถือเหรียญอยู่ในมือ
***
[ไข่สัตว์เลี้ยงแบบสุ่ม]
[ไม่มีทางรู้เลยว่าอะไรจะฟักออกมา กระต่ายธรรมดา ๆ หรือมังกรที่แข็งแกร่งต่างก็สามารถฟักออกมาได้ ทุกอย่างล้วนแต่ขึ้นอยู่กับดวง]
ความล้ำค่า: อันคอมม่อน
การใช้งาน: เมื่อใส่พลังเวทเข้าไปแล้ว ไข่จะฟักออกมาหลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง และสัตว์เลี้ยงที่ท่านได้รับก็จะปรากฏออกมา
ฮยอนนูอ่านข้อมูลจบแล้วก็เริ่มใส่พลังเวทเข้าไปในไข่ เขาอดคาดหวังถึงสัตว์เลี้ยงที่จะได้รับไม่ได้ อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงแล้ว ไข่สัตว์เลี้ยงแบบสุ่มในเกมอารีน่านั้นไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ จากข้อมูลสถิติการสุ่มของผู้เล่นแล้ว 99.99% จะได้รับสัตว์เลี้ยงขยะ ในขณะที่โอกาสเกิดแจ็คพอตแตกมีเพียงแค่ 0.001% เท่านั้น นอกจากนี้อัตราการดรอปไอเทมประเภทนี้ยังต่ำมากอีกด้วย
สำหรับเกมอารีน่าในตอนนี้ การหาไข่สัตว์เลี้ยงเป็นเรื่องยากมาก อีกทั้งยังไม่มีใครรู้ว่าระบบสัตว์เลี้ยงจะมีการอัพเดทอีกครั้งตอนไหน ดังนั้นบรรดาไข่สัตว์เลี้ยงแบบสุ่มส่วนใหญ่จึงหาได้จากพื้นที่ประมูล พวกมันมีราคาแพงมากขนาดที่ผู้เล่นธรรมดาทั่วไปไม่มีโอกาสแม้แต่จะสัมผัส ฮยอนนูเองก็ไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับมันมากนัก
‘จะมีตัวอะไรออกมากันนะ’
ความคาดหวังของเขาพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ นี้คือความรู้สึกของนักพนันโดยแท้ หากจะมีคำใดคำหนึ่งที่สามารถอธิบายการกระทำของเขาในตอนนี้ได้ก็คงจะมีแต่คำว่า ‘บ้า’ ไม่ก็ ‘โง่’ เพียงเท่านั้น ตัวเขาในตอนนี้ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำนั้นบุ่มบ่ามและบ้าบิ่นขนาดไหน
***
“โอ้ว! ใกล้จะถึงเวลาแล้ว!”
[ไข่จะฟักใน 0 นาที 31 วินาที]
[ไข่จะฟักใน 0 นาที 16 วินาที]
[ไข่จะฟักใน 0 นาที 2 วินาที]
[ไข่จะฟักใน 0 นาที 1 วินาที]
[ไข่เริ่มฟักแล้ว]
ฮยอนนูค่อย ๆ วางไข่ในมือลงบนพื้นแล้วจ้องมองตาไม่กะพริบ เปลือกไข่ค่อย ๆ แตกออกพร้อมกับความคาดหวังของเขาที่พุ่งทะยาน เมื่อรอยแตกรอบ ๆ เปลือกไข่เริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้น ทันใดนั้นแสงสีเหลืองทองก็เปล่งประกายเจิดจ้าออกมาจากภายในรอยแตกเหล่านั้น
‘มีแสงออกมาด้วย แบบนี้สิ…มันต้องเจ๋งแน่นอน!’
ฮยอนนูไม่รู้เลยว่าไข่แบบสุ่มทุกใบจะเปล่งแสงออกมาเมื่อฟักตัว เขาหลงเข้าใจผิดคิดว่าแสงที่ส่องออกมาเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าจะได้รับสัตว์เลี้ยงเจ๋ง ๆ จากไข่ใบนี้
‘ขอให้ออกมาดีเถอะ…ขอร้องล่ะ! ยิ่งเป็นตัวที่ไม่เหมือนใครได้ก็ยิ่งดี!’
ไม่นานนักเปลือกไข่ทั้งใบก็แตกออก แสงสว่างส่องประกายเจิดจ้าไปทั่วบริเวณ ฮยอนนูถึงกับต้องหลับตาเนื่องจากแสงที่ส่องออกมานั้นเจิดจ้ามากจนปวดตา ความคาดหวังของฮยอนนูพุ่งทะยานจนถึงจุดสูงสุดเสมือนกับลูกโป่งอัดลมแน่นรอเวลาที่จะแตกออก
ในที่สุดแสงสว่างเจิดจ้าก็ค่อย ๆ เลือนหายไป เมื่อฮยอนนูรู้สึกได้ว่าแสงสว่างตรงหน้าของเขาได้หายไปจนหมดสิ้นแล้ว เขาก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น และในตอนนั้นเองที่เขาแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองกำลังเห็น