Ranker’s Return - ตอนที่ 12
ทีมโฮลิคซึ่งประกอบด้วยสมาชิกชายสามคนและหญิงหนึ่งคน พวกเขาเป็นปาร์ตี้ผู้เล่นสาย PK (Person Kill – โหมดที่ผู้เล่นสามารถโจมตีกันที่ไหนก็ได้) ได้อย่างโหดร้ายเป็นอย่างมาก ปาร์ตี้นี้จะเปิดใช้โหมด PK เข้าจู่โจมผู้เล่นรวย ๆ ที่เลือกออกล่าคนเดียวแล้วขโมยอาวุธ เครื่องแต่งกาย รวมถึงไอเทมและวัตถุดิบ การกระทำของทีมปาร์ตี้นี้แตกต่างจากชื่อทีมที่ดูไม่มีพิษมีภัยอย่างมาก
“ดูเจ้านั่นสิ น่าจะมีเงินเยอะแน่ ๆ เลย”
“ถ้าดูจากเสื้อคลุมแห่งสายลมและกางเกงหนังตัวตุ่นแดงที่มันใส่ แถมยังมีสัตว์เลี้ยงอีก ยังไง ๆ เจ้านั่นก็ต้องมีเงินเยอะแน่นอน”
“ถ้างั้นเป้าหมายของวันนี้เอาเป็นเจ้านั่นดีไหมล่ะ? ดาบยาวปลายมนของมันก็ดูไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ”
“ดูจากสีหน้าของมันแล้ว ท่าทางจะไม่เคยเจอเรื่องแย่ ๆ เลยสินะ มันจะได้ลิ้มรสวันนี้แหละ”
เดิมทีพวกเขาไม่ได้เป็นปาร์ตี้ที่เน้นการ PK มาก่อน เป็นเพียงทีมปาร์ตี้ที่รวมกลุ่มกันล่ามอนสเตอร์ธรรมดา ๆ ทั่วไป ทว่าเนื่องจากวันหนึ่งพวกเขาได้ลองใช้โหมด PK จู่โจมผู้เล่นคนหนึ่งแล้วนำอาวุธ เครื่องแต่งกาย ไอเทมและวัตถุดิบต่าง ๆ ของผู้เล่นคนนั้นไปขายจนทำให้พวกเขาได้เงินมาเป็นจำนวนมาก นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทีมปาร์ตี้นี้ก็กลายเป็นทีมปาร์ตี้ที่เน้นการ PK อย่างเต็มตัว
“รูปแบบที่เราจะใช้วันนี้เอาแบบไหนดีล่ะ?”
“ปลอมตัวเป็นปาร์ตี้ที่ดูเป็นมิตรดีไหม?”
“ปาร์ตี้ที่ดูเป็นมิตรเหรอ?”
“ก็ดีเหมือนกันนะ”
เมื่อเลือกเหยื่อได้แล้ว ทีมโฮลิคก็ช่วยกันวางแผนสร้างสถานการณ์ขึ้นมา เหลือเพียงนำเอาสถานการณ์ที่คิดไว้ไปแสดงให้ดูสมจริงเท่านั้น อย่างไรก็ตามมีเรื่องหนึ่งที่ทีมปาร์ตี้นี้มองข้ามไป…
“ถ้าเจ้านั่นเป็นผู้เล่นที่แกล้งแต่งตัวให้ดูเหมือนมือใหม่ขึ้นมาล่ะ?”
“ไม่น่าใช่หรอกมั้ง? ดูแล้วเจ้านั่นไม่น่าจะเป็นคนที่ทำอะไรแบบนั้นได้นะ”
“ทำไมมันจะต้องแกล้งแต่งตัวเป็นมือใหม่ในพื้นที่ป่าดำซึ่งแทบจะไม่มีคนผ่านมาด้วย? นายกังวลอะไรไร้สาระมากเกินไปแล้ว”
ปกติแล้วผู้เล่นที่มาล่าด้วยตัวคนเดียวในพื้นที่ระดับต่ำจะมีอยู่สองประเภท หนึ่งคือผู้เล่นใหม่ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย และสองคือผู้เล่นที่แสร้งทำตัวให้เหมือนมือใหม่ ซึ่งสำหรับฮยอนนูแล้ว เขาไม่ใช่ทั้งสองประเภทดังที่กล่าวมา ทว่าเขากลับเป็นผู้เล่นโซโล่ที่มีทั้งไอเทมและฝีมืออันยอดเยี่ยม
***
“สวัสดี!”
ฮยอนนูมองไปยังกลุ่มคนที่เข้ามาทักทายเขา ทั้งกลุ่มนั้นประกอบไปด้วยผู้ชายสามคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคน มีสองคนที่เป็นนักรบ ส่วนที่เหลือเป็นนักธนูและนักบวชอย่างละคน รูปแบบของทีมปาร์ตี้แบบนี้มักเห็นได้ทั่วไปในเกมอารีน่า อย่างไรก็ตาม พอดูจากท่าทางและสีหน้าแล้ว ฮยอนนูรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่ดูแปลก ๆ เกี่ยวกับปาร์ตี้กลุ่มนี้
‘ดูเหมือนเจ้าพวกบ้านี่จะตั้งใจมาเล่นงานฉันสินะ’
ฮยอนนูสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ไม่ชอบมาพากล คนกลุ่มนี้ไม่ใช่ผู้เล่นธรรมดา ๆ ทั่วไป บรรยากาศที่พวกมันปล่อยออกมาดูเหมือนกลุ่มของไฮยีน่าที่กำลังออกล่าเหยื่อ
“ครับ? สวัสดีครับ! มีอะไรหรือเปล่า?”
“ดูเหมือนว่านายจะออกล่าคนเดียวสินะ สนใจมาร่วมปาร์ตี้กับพวกเราไหม?”
ฮยอนนูเลือกที่จะเปิดบทสนทนาแบบกว้าง ๆ ไปก่อนเพราะอย่างไรเสียจะให้เขายกดาบขึ้นเล็งไปทางคนกลุ่มนี้แบบโต้ง ๆ เลยก็ไม่ได้ แม้ว่าเขาจะมองความคิดชั่ว ๆ ของคนกลุ่มนี้ออกได้อย่างชัดเจนก็เถอะ
“โอ้! ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณมากเลยครับ!” ฮยอนนูแกล้งทำเป็นมือใหม่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น
เจ้าพวกโง่ทั้งสี่คนล้วนมองไม่ออกว่าแท้จริงแล้วฮยอนนูทราบถึงจุดประสงค์ของพวกมันเป็นอย่างดี เขาเพียงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรเท่านั้น ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงรู้สึกดีใจที่แผนการเป็นไปได้ด้วยดี
“ฉันมีชื่อว่าเล็น เพื่อนของฉันที่เป็นนักรบทั้งสองคนนี้มือชื่อว่าคาร์ลกับคราวฟอร์ด ส่วนคนที่เป็นนักบวชชื่อว่าซันนี่”
“ผมชื่อยองซานครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” ฮยอนนูไม่อยากบอกชื่อจริงของตัวเองจึงขายชื่อเพื่อนของเขาไป เพื่อนสนิทที่ชื่อ ‘ยองซาน’ นั่นเอง
***
การล่าเป็นไปด้วยความราบรื่น เนื่องจากทีมปาร์ตี้สาย PK ทีมนี้มักจะพุ่งเป้าไปยังผู้เล่นที่มีเลเวลน้อยกว่ากลุ่มตน ดังนั้นเลเวลของพวกเขาจึงเหนือกว่าระดับที่แนะนำของพื้นที่ล่านั้น ๆ
[พุ่งโจมตี!]
[ฟาดฟันหนักหน่วง!]
ฮยอนนูรู้สึกตื่นเต้นกับการล่าในครั้งนี้จนถึงกับลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังร่วมทีมปาร์ตี้ผู้เล่นสาย PK อยู่
‘ระดับความชำนาญของทักษะเพิ่มขึ้นเร็วจริง ๆ!’
[คุณได้ฆ่าอัศวินดาร์กเอลฟ์]
[ได้รับค่าประสบการณ์]
ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำมีเพียงแค่หลบอยู่หลังตัวแทงค์และคอยใช้ทักษะเมื่อระยะเวลาคูล์ดาวน์สิ้นสุดลงเท่านั้น แถมยังไม่มีความจำเป็นต้องเสียเวลาเล็งไปที่จุดตายด้วย เขาแค่โจมตีไปตรงไหนก็ได้ ในขณะที่คนกลุ่มนี้จะรับหน้าที่คอยโจมตีปิดฉากให้เอง พลังเวทมนตร์ของฮยอนนูแทบจะไม่เคยหมดเลย เพราะว่าเลเวลของเขาเพิ่มขึ้นก่อนที่พลังเวทมนตร์จะหมดลงเสมอ ทำให้มันกลับมาเต็มตลอดทุกครั้งหลังจากที่ตัวเขามีเลเวลเพิ่มขึ้น
‘ช่างเป็นการพาทัวร์ที่ดีที่สุดสำหรับฉันอย่างแท้จริง’
***
[คุณได้ฆ่าอัศวินดาร์กเอลฟ์]
[ได้รับค่าประสบการณ์]
[เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น]
[พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู]
‘ตอนนี้ฉันเลเวล 20 แล้ว เร็วกว่าที่คิดไว้ซะอีกนะเนี่ย’
[หน้าต่างแสดงข้อมูลตัวละคร]
[ชื่อตัวละคร: คังฮยอนนู]
เลเวล: 20
อาชีพ: นักรบ
ฉายา: นักรบผู้ได้รับการยอมรับจากคาน
ค่าสเตตัส: พละกำลัง 40 (+68) ความว่องไว 45 (+28) พลังโจมตีทางกายภาพ 40 (+50) พลังโจมตีเวทมนตร์ 25
แต้มสเตตัสคงเหลือ: 0
‘เป็นเพราะพวกนั้นเลยนะเนี่ย’
ระดับเลเวลของฮยอนนูเพิ่มขึ้นไวมาก ถ้าอิงตามแผนการเดิมของฮยอนนูแล้ว เขาจะไปถึงเลเวล 20 ได้ต้องใช้เวลาเกินหนึ่งวัน ทว่าการหลอกใช้ประโยชน์จากทีมปาร์ตี้นี้ทำให้แผนการของเขาเสร็จสิ้นภายในระยะเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง
‘ฉันคิดว่าตอนนี้คงได้เวลาโยนเหยื่อล่อให้พวกมันแล้วล่ะ’
ในขณะที่ฮยอนนูกำลังจัดการกับค่าสเตตัสของตนอยู่นั่นเอง สมาชิกของทีมโฮลิคก็มารวมกลุ่มกันเพื่อปรึกษาหารือ
“จนป่านนี้แล้วพวกเรายังจะต้องรออะไรกันอีก?”
“นี่เราไม่บริการมันมากเกินไปหน่อยเหรอ?”
ผู้เล่นอาชีพนักรบทั้งสองคนที่มีชื่อว่าคาร์ลกับคราวฟอร์ดต่างก็พร่ำบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ ทั้งสองอยากจะลงมือปล้นฮยอนนูจนใจจะขาดแล้ว ทว่าท้ายที่สุดหัวหน้าทีมปาร์ตี้ที่มีชื่อว่าเล็นก็สามารถหยุดยั้งความไม่พอใจนั้นได้ “ถ้างั้นพวกเราทำทีไปล่ามอนสเตอร์ตัวหัวหน้าแล้วแกล้งโจมตีผิดตัวกันเถอะ หลอกว่าจะช่วยล่าบอสแต่แกล้งพลาดไปฆ่ามันแทนยังไงล่ะ”
“เป็นความคิดที่ดีเลยเล็น”
“พวกเขาไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังแอบฟังบทสนทนาของพวกเขาอยู่ เป็นเจ้าตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ทังอีนั่นเอง หลังจากที่แอบฟังหลังต้นไม้อยู่นาน มันก็โผล่ออกมามองไปทางคนกลุ่มนี้
‘พวกแกคิดจะฆ่าไอ้เจ้านายท่านของฉันงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ’
ทังอีจะต้องหาทางปกป้องไอ้เจ้านายท่านของเขาให้ได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วมันก็รีบวิ่งไปหาเจ้านายด้วยขาสั้น ๆ ทั้งสองของตน
***
เมื่อได้ยินทุกอย่างที่ทังอีเล่าแล้ว สีหน้าของฮยอนนูก็ไม่ได้แสดงออกถึงความเดือดเนื้อร้อนใจแต่อย่างใด เขาคิดเอาไว้ตั้งนานแล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ สิ่งที่เขาควรคิดในตอนนี้คือเขาและทังอีควรจะทำอย่างไรมากกว่า ในความเป็นจริงไม่มีกลุ่มคนดี ๆ ที่ไหนเขาแยกตัวออกไปคุยกันแบบเงียบ ๆ แบบนี้หรอก
‘จะหาโอกาสแทงข้างหลังฉันตอนที่กำลังล่าบอสงั้นเหรอ?’
“ฉันจะเป็นคนโจมตีแกก่อนเอง!”
ทั้งทีมโฮลิคและคังฮยอนนูต่างก็เล่นละครตบตาซ่อนเร้นความต้องการที่แท้จริงของตนเอาไว้ทั้งคู่
“ยองซาน! พวกเราจะไปล่าบอสกัน นายอยากจะมาด้วยกันไหม?” เล็นเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ
ฮยอนนูเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต่ยิ้มเยาะอยู่ในใจ ท่าทีอวดดีของมันดูแล้วช่างน่าขำจริง ๆ พวกมันเลือกเหยื่อผิดคนแล้ว อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีในใจออกมาให้พวกมันได้เห็น ฮยอนนูยังคงแกล้งทำเป็นว่าตัวเองกำลังลำบากอยู่ ทว่าสุดท้ายแล้วพวกมันนั่นแหละที่จะต้องเป็นฝ่ายวอดวาย
“เอ่อ!…คือว่า…ผมไปด้วยจะดีเหรอครับ? ผมกลัวว่าถ้าไปด้วยแล้วจะเป็นตัวถ่วงเปล่า ๆ”
“ตัวถ่วงอะไรกันล่ะ? พลังโจมตีของยองซานนี่ก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้วนะ”
‘เวรเอ๊ย! จะหาเรื่องถอนตัวตอนนี้งั้นเหรอ?’ เล็นส่งสัญญาณบอกสมาชิกในทีมด้วยมือของเขา มันเป็นสัญญาณแสดงการร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งแม้แต่ฮยอนนูก็มองไม่เห็นถึงการเล่นตุกติกของเขา
“ใช่แล้ว ๆ พวกเราจะล่ามาจนถึงตอนนี้ได้ยังไงถ้าไม่มียองซานคอยช่วย?”
“อีกอย่างยังไงพวกเราอุส่าห์ถ่อกันมาถึงที่นี่แล้ว จะไม่ลองล่าบอสกันดูซักครั้งหน่อยเหรอ?”
หลังจากที่เล็นร้องขอให้ช่วยแล้ว ทั้งผู้เล่นอาชีพนักบวชและนักรบต่างก็พยายามช่วยพูดโน้มน้าวฮยอนนู ฮยอนนูเองก็แกล้งทำเป็นคล้อยตามคำพูดโน้มน้าวเหล่านั้น “ถ้าพูดขนาดนั้น ฉันไปล่ากับพวกนายด้วยก็ได้ เอาล่ะ! ไปลุยกันเถอะ”
หลังจากนั้นเขาก็เดินแนบชิดตามผู้เล่นนักบวชที่อยู่ข้าง ๆ ทำเอาเล็นถึงกับวางตัวไม่ถูกกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของฮยอนนู เหมือนกับว่าเขากำลังเล่นละครปั่นประสาทกลุ่มของตัวเองอยู่อย่างนั้นแหละ อย่างไรก็ตามเล็นก็พยายามอดทน เพราะเขารู้ว่าสุดท้ายแล้วเหตุการณ์มันจะจบลงอย่างไร
‘เดี๋ยวแกก็ได้รู้เอง!’