Ranker’s Return - ตอนที่ 22
จิตใจของฮยอนนูในตอนนี้เต็มไปด้วยความว่างเปล่า ร่างกายของเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เรี่ยวแรงของเขาหดหายไปราวกับว่าตัวเองออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงมาหลายชั่วโมงโดยไม่ได้หยุดพัก
“อั๊ก!…” เขาไม่มีแม้แต่แรงจะขยับปากพูด
ฮยอนนูได้รีดเร้นพลังและทุกสิ่งทุกอย่างของเขาออกมาใช้จนหมดในเวลาเพียงแค่ห้านาที
‘ฉันใช้มันทั้งหมด ทั้งหมดแล้วจริง ๆ’
เลบรอนค่อย ๆ เดินเข้ามาหาฮยอนนูที่ยังคงเหนื่อยหอบอยู่กับพื้น
“วิเศษไปเลย! ข้ายอมรับในทักษะของเจ้า” เลบรอนกล่าวคำชมแก่ฮยอนนูก่อนที่จะยื่นขวดน้ำให้กับเขา
ฮยอนนูอยากจะเอ่ยปากขอบคุณ ทว่าเสียงของเขาไม่อาจแทรกผ่านลมหายใจที่กำลังสูดเข้าออกอย่างหนักหน่วงได้ จนกระทั่งเขาดื่มน้ำเข้าไปอึกใหญ่ ๆ แล้วถึงจะเริ่มเปล่งเสียงออกมาได้ “อาาา!…ขอบคุณมากนะครับ”
“เจ้าเป็นนักผจญภัยคนที่สิบที่เข้ามาหาข้า”
‘สิบคนเลยเหรอ? โธ่คาน! นายไม่ควรทำอะไรแบบนี้’ ฮยอนนูรู้สึกผิดหวังขึ้นมาทันที เขาคิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับเหรียญทองนั้น
เลบรอนอ่านสีหน้าของฮยอนนูออกจึงอธิบายสถานการณ์เพิ่มเติมให้เขาฟัง “ดูจากสีหน้าของเจ้าแล้ว เจ้าคงคิดว่าคานเอาแต่ให้เหรียญนั่นเหรียญเดียวซ้ำไปซ้ำมาถึงสิบครั้งละสิ? จริง ๆ แล้วข้าน่ะเป็นคนที่ให้เหรียญทองสิบเหรียญกับคนสิบคนเอง คานก็เป็นหนึ่งในคนที่ข้าให้ ยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็ได้เหรียญเก้าเหรียญกลับมาแล้วเมื่อวานนี้ ส่วนเหรียญของเจ้านั้นเป็นเหรียญสุดท้าย”
“เหรียญสุดท้ายงั้นเหรอ…” ฮยอนนูพูดพึมพำด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ มีบุคคลเก้าคนที่เคยมาพบกับเลบรอนแล้ว เรื่องนี้ถูกจำกัดไว้กับผู้เล่นอาชีพนักรบเท่านั้น สำหรับอาชีพอื่นก็คงจะมี NPC ที่มีลักษณะคล้ายกับเลบรอนด้วยเช่นกัน ดังนั้นตัวเลขจึงเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
“แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ถือได้ว่ายอดเยี่ยมที่สุด แม้จะให้ทั้งเก้าคนนั้นรวมพลังกัน พวกเขาก็ไม่อาจเอาชนะเจ้าได้หรอก จงภูมิใจเสียเถิด”
ไม่ทันที่ฮยอนนูจะได้ตอบอะไรกลับไป ดวงตาทั้งสองของเขาก็ถูกบดบังด้วยกล่องข้อความจำนวนมาก
[คุณสำเร็จภารกิจ ‘พบปะอัศวินแห่งคอยน์’]
[ได้รับค่าประสบการณ์]
[เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น]
[พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู]
[ฉายา ‘ดาวดวงใหม่ผู้ได้รับการยอมรับจากเลบรอน’ ถูกสร้างขึ้นแล้ว]
[ฉายา: ดาวดวงใหม่ผู้ได้รับการยอมรับจากเลบรอน]
[ฉายาที่มอบให้แก่นักผจญภัยผู้ได้รับการยอมรับจากเลบรอน ผู้เป็นอัศวินที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งยุสมา]
ความสามารถ: ค่าความสามารถทั้งหมดเพิ่มขึ้น 10%
‘ฉายางั้นเหรอ? สุดยอดอย่างที่ฉันคาดหวังไว้เลย’ ฮยอนนูดื่มด่ำกับข้อความแจ้งเตือนทุกคำที่แสดงให้เขาเห็น ถัดจากนั้นเลบรอนก็ยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้แก่เขา “นี้คือสิ่งที่ข้าเคยให้คำมั่นไว้ว่าจะมอบให้เจ้า อย่าเสียใจไปเลยนะที่มันเป็นแค่หนังสือเพียงเล่มเดียว มันเป็นกฎที่ถูกตั้งเอาไว้ ข้าเปลี่ยนมันไม่ได้”
‘ผู้ชำนาญการต่อสู้’ มันเป็นชื่อของหนังสือเล่มนี้และนั่นทำให้ฮยอนนูรู้สึกสงสัย ‘นี่เป็นสกิลที่เกี่ยวกับการต่อสู้ใช่ไหม?’
หากดูจากชื่อแล้ว ไม่ว่าอย่างไรฮยอนนูก็ไม่สามารถระบุได้ว่าทักษะนี้เป็นทักษะรูปแบบใด หรือมีความสามารถใดกันแน่ อย่างไรก็ตามความสงสัยนั้นก็ไม่ได้อยู่กับเขานานนัก เขาเปิดหนังสือออกและเรียนรู้มันทันที ลักษณะการกระทำของฮยอนนูแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขามีนิสัยที่ไม่อาจทนต่อความรู้สึกหงุดหงิดจากการรอคอยได้
[ทักษะถูกสร้างขึ้นแล้ว]
[ทักษะ: ผู้ชำนาญการต่อสู้]
[ทักษะที่มอบให้กับผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ ผู้ที่ไม่เคยโดนไล่ต้อนไม่ว่าต้องต่อสู้กับใคร]
รูปแบบ: แสดงผลอัตโนมัติ
ความล้ำค่า: ยูนีค
ระดับประสิทธิภาพของทักษะ: F
ค่าสถานะทั้งหมด (รวมถึงพลังโจมตี พลังป้องกัน และการทะลวงพลังป้องกัน) จะเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเข้าสู่การต่อสู้
“สกิลนี้มันโกงชัด ๆ!” ฮยอนนูตกตะลึงเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าทักษะระดับนี้จะถูกยื่นให้เขามาอย่างเรียบง่าย
“หึๆ…ตอนนี้ข้าได้รักษาคำมั่นเกี่ยวกับเหรียญทองเอาไว้แล้ว เจ้าไปได้แล้วล่ะ” หลังจากเลบรอนหัวเราะกับการกระทำของฮยอนนูที่เปิดหนังสือทันทีโดยไม่คิดอะไรแล้ว เขาก็ออกคำสั่งเพื่อส่งฮยอนนู
ฮยอนนูแม้จะได้สิ่งต่าง ๆ มาเยอะมากแล้วก็ตาม ทว่าลึก ๆ แล้วเขายังคงรู้สึกผิดหวังอยู่บ้างเล็กน้อย ดังนั้นแล้วเขาจึงตัดสินใจโยนเหยื่อล่อออกไป “คุณเลบรอนครับ มีอะไรที่ผมพอจะช่วยคุณได้อีกไหม?”
จากนั้นผลลัพธ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เลบรอนงับเหยื่อเข้าไปเต็ม ๆ มันเป็นการงับเหยื่อแบบคำใหญ่เสียด้วย “ถึงมันจะไม่ค่อยจำเป็นมากนักแต่ข้าก็สามารถเชื่อใจเจ้าได้”
[ภารกิจถูกสร้างขึ้นแล้ว]
“มีพวกซอมบี้จำนวนมากอยู่ที่ทางใต้ของบริกส์ นายท่านสงสัยว่าจอมเวทมนตร์ดำอาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังพวกมัน ข้าอยากให้เจ้าไปที่นั่นแล้วตรวจสอบเรื่องนี้ให้ข้าหน่อย”
[ภารกิจ: การสำรวจพื้นที่บริกส์]
[มีข่าวลือว่าพวกซอมบี้บุกโจมตีพื้นที่บริกส์ซึ่งอยู่ทางใต้ของนครหลวง ค้นหาความจริงจากข่าวลือเพื่อเลบรอน]
ระดับ: MS
เงื่อนไข: ฆ่าจอมเวทมนตร์ดำ 0/?
รางวัล: การสนับสนุนจากอาณาจักร
ฮยอนนูถึงกับประหลาดใจเมื่อเขาเห็นข้อความแจ้งเตือนภารกิจ
‘MS เหรอ?’
“เควสเนื้อเรื่องหลัก (Main scenario) ใช่ไหม?”
ระดับเนื้อเรื่องหลักนั้นมีความหมายว่าเป็นภารกิจสำคัญของเกมอารีน่า เพราะมันคือรากฐานและส่งผลกับความเป็นไปในเกมอารีน่าทั้งหมด แตกต่างจากภารกิจทั่วไปทั้งหมดโดยสิ้นเชิง กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือตอนนี้ฮยอนนูได้รับภารกิจเนื้อเรื่องหลักตอนที่เขาเลเวล 33 และได้เข้าร่วมเป็นผู้ท้าชิงในระดับแนวหน้าแล้ว
‘ฉันเคยเป็นผู้นำในครั้งก่อน และตอนนี้ฉันก็กลับมาอีกครั้ง’
ช่างเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในระหว่างนั้นต่างก็แวบเข้ามาในหัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ครั้งหนึ่งเขาเคยลบตัวละครทิ้งและไปเป็นทหารในกองทัพเอย เรื่องสถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวเขาและการล้มละลายของพ่อที่ส่งผลให้เขาต้องเริ่มทำงานพาร์ทไทม์เอย รวมไปถึงการกลับมายังเกมอารีน่านี้อีกครั้งเอย ในสองปีนี้หลายสิ่งหลายอย่างต่างก็เกิดขึ้นมากมายในชีวิตของเขา
ฮยอนนูยิ้มอย่างขบขันปนปลงตกในโชคชะตา เขาดันนึกอะไรบางอย่างที่ไม่อยากจะจำขึ้นมาเสียได้
‘อดทนรออีกหน่อยนะครับคุณพ่อ…คุณแม่…’
ฮยอนนูตอบกลับเลบรอนอย่างแข็งขันว่า “เข้าใจแล้วครับ! ผมจะมุ่งหน้าไปยังบริกส์เดี๋ยวนี้แหละ”
เลบรอนเมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงให้คำแนะนำบางอย่างแก่เขา “นอกจากนี้แล้วยังมีข่าวลือว่าจอมเวทมนตร์ดำนั้นเชี่ยวชาญการใช้วิชาปลุกวิญญาณและคาถาที่มีผลเกี่ยวกับจิตใจด้วย เจ้าจะประมาทไม่ได้เป็นอันขาด”
“ผมจะจำมันไว้ครับ”
ฮยอนนูก้าวออกจากห้องโถงการประลองในทันที
‘เนื้อเรื่องหลักสินะ ฉันจะต้องจริงจังกับมันซักหน่อยแล้ว’ เพราะในความโชคดีมักมีความโชคร้ายซ่อนอยู่เสมอ พวกมันต่างก็ไม่เคยมาเยือนเพียงแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง
***
ฮยอนนูส่งข้อความกระซิบไปหายองซานเป็นครั้งแรกหลังจากที่ไม่ได้ส่งมานาน เขามีหลายอย่างที่ต้องถามยองซาน
‘ถึงยองซาน: นายยุ่งอยู่หรือเปล่า?’
‘จากยองซาน: ก็เปล่านี่? ทำไมล่ะ? นายต้องการโกลด์หรือไง?’ ยองซานยังคงจำเรื่อง 50 โกลด์นั้นได้
“พูดถึงเรื่องโกลด์แบบนี้้นายคิดว่ากำลังพูดอยู่กับใครกัน? เจ้าบ้าเอ๊ย!”
‘ถึงยองซาน: มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก นายรู้จักผู้เล่นอาชีพนักบวชที่มีเลเวลราว ๆ 60-70 บ้างไหม?’
‘จากยองซาน: โอเค เดี๋ยวลองหา ๆ ดูให้นะ แต่ยังไงก็เถอะ น่าจะต้องใช้เวลาอยู่’
ยองซานเมื่อส่งกระซิบไปหาฮยอนนูแล้วก็ได้แต่ส่ายหัว
‘นักบวชงั้นเหรอ? ทำไมหมอนั่นถึงได้มองหานักบวชกัน?’
“เลเวลของเขาตอนนี้อยู่ที่ 32 อืม…”
ไม่ว่าจะคิดอย่างไรยองซานก็คิดไม่ออกว่าทำไมฮยอนนูถึงกำลังมองหาผู้เล่นอาชีพนักบวช ฮยอนนูเพิ่งจะล่าในเขตพื้นที่ป่าทมิฬไปเมื่อวานนี้เอง เขาอาจจะสามารถเปลี่ยนระดับของพื้นที่ล่าในวันเดียวได้โดยไม่มีปัญหาอะไรมากนัก
“ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพานักบวชในเขตพื้นที่ล่าระดับต่ำเลยนี่”
‘นักบวชที่มีเลเวลราว ๆ 70…’
อย่างไรก็ตามมันก็เป็นคำขอจากเพื่อนสนิทของเขา ดังนั้นยองซานจึงยอมหาผู้เล่นนักบวชรอบ ๆ ตัวเขา ทว่าพวกเขาทั้งหมดต่างก็มีเลเวลเกิน 100 กันทั้งนั้น
‘จะทำยังไงดีล่ะ’
“อ้อ! ใช่แล้ว มีคนนั้นอยู่นี่”
ยองซานไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังจะส่งระเบิดลูกใหญ่ไปให้ฮยอนนู ระเบิดลูกใหญ่มากเสียด้วย
***
ฮยอนนูตัดสินใจไปยังเขตพื้นที่การประมูลเนื่องจากยองซานบอกว่าต้องใช้เวลาอีกสักพัก เมื่อไปถึงเขตพื้นที่การประมูลฮยอนนูก็เดินไปนั่งที่มุมหนึ่งแล้วมองดูไอเทมต่าง ๆ อย่างเงียบ ๆ ทว่าในตอนนั้นเองก็มีเสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นใกล้ ๆ ตัวเขา
“นี่พวกแกยังหามันไม่เจออีกเหรอ? มัวทำบ้าอะไรอยู่กันอยู่! ฉันซื้อไอเทมต่าง ๆ ให้พวกแก แถมยังให้พื้นที่ล่ากับพวกแกอีก ถ้าแกยังมีปากอยู่ก็พูดอะไรออกมาบ้างสิ เจ้าพวกบ้าเอ้ย!!!” บุรุษผู้สวมชุดเกราะสีแดงกำลังตะคอกชายสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา
“ขอโทษด้วยครับกิลด์มาสเตอร์”
“ผมจะหาให้เจอให้ได้ภายในวันพรุ่งนี้ครับ”
ชายทั้งสองร้องขอให้บุรุษในชุดเกราะสีแดงผู้นั้นยืดเส้นตายออกไป
‘เจ้านั่นโกรธแค่เพราะหาของไม่เจองั้นเหรอ? เสียงดังน่ารำคาญจัง’
“ฉันจะให้โอกาสพวกแกอีกซักครั้งก็แล้วกัน ยังไงก็ตามลากตัวเจ้าบัดซบที่เอาดาบยาวปลายมนของคนแคระไปมาไว้ตรงหน้าของฉันให้ได้ เข้าใจไหม?”
‘ดาบยาวปลายมนของคนแคระงั้นเหรอ?’ ฮยอนนูรู้สึกถึงอะไรบางอย่างเมื่อชื่อดาบที่คุ้นเคยหลุดออกมาจากปากของผู้นำกิลด์คนนั้น
“!!!”
มันเป็นชื่อดาบยาวปลายมนที่เขากำลังถืออยู่นั่นเอง
‘ใช่มันจริง ๆ ด้วย นี่ฉันขโมยมันมาเหรอเนี่ย?’
ฮยอนนูเก็บดาบของตนเข้าไปยังกระเป๋าสัมภาระก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่งของเขาแล้วเดินไปยังจุดที่กิลด์มาสเตอร์ยืนอยู่ด้วยท่าทีไร้ซึ่งพิรุธใด ๆ จากนั้นเขาก็แสร้งชนเข้ากับกิลด์มาสเตอร์ผู้นั้นด้วยท่าทีที่เป็นปกติเช่นกัน
“อะ! โทษทีครับ”
“มองทางบ้างสิแกน่ะ! เดินให้มันดี ๆ ไม่ได้หรือไงวะ?”
“ขอโทษด้วยครับ” ฮยอนนูก้มหัวลงขอโทษเขา ตอนนั้นเองเขาก็เห็นสัญลักษณ์หัวกะโหลกสีดำตรงอกของชุดเกราะที่ผู้นำกิลด์คนนี้สวมใส่อยู่
‘สมาพันธ์กะโหลกดำ…’
“โชคชะตาที่เลวร้ายไม่ต่างอะไรกับปีศาจที่คงอยู่ตลอดกาล…”