Ranker’s Return - ตอนที่ 24
ในคืนนั้นเองวิดีโอใหม่ซึ่งได้รับการขัดเกลาโดยฝีมือเอลลิสก็ถูกเผยแพร่ลงในเว็ปบอร์ดของชุมชมอารีน่า แม้สมาพันธ์กะโหลกดำจะไม่ใช่กิลด์ใหญ่โตอะไรมากมายนัก แต่มันก็ยังจัดได้ว่าเป็นกิลด์ที่มีชื่อเสียงในเกมอารีน่าอยู่พอสมควร อย่างไรก็ตามกลับมีผู้เล่นคนหนึ่งกำลังท้าดวลกับกิลด์นี้
-ยูแจนักดื่มนม: นี่ฉันฟังไม่ผิดไปใช่ไหม?
-จับแล้วตายแบบไม่รู้ตัว: นั่นมันสมาพันธ์กะโหลกดำไม่ใช่เหรอ?
-พลังแห่งราชันย์นักกล้าม: ฉันก็เคยโดนพวกมันปล้นเหมือนกัน
-นักล่าฝันมืออาชีพ: ฉันก็เคยโดนพวกมันเล่นงานอยู่หลายครั้ง เจ้าพวกนักเลงนั่น!
กลุ่มคนไม่น้อยต่างก็ให้ความสนใจกับประเด็นนี้ มีผู้เล่นมากมายที่ไม่ได้รู้สึกดีต่อการตกอยู่ภายใต้เงาของกิลด์ใหญ่ ๆ ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้คือความคิดเห็นส่วนมากต่างก็สนับสนุนฮยอนนู เมื่อเหตุการณ์นี้เริ่มได้รับความสนใจ หัวหน้ากิลด์แห่งสมาพันธ์กะโหลกดำผู้มีนามว่า เชนรอนก็ได้เห็นวิดีโอของฮยอนนูด้วยเช่นกัน
“บัดซบ! นั่นมันคนที่ขโมยไอเทมของฉันไปไม่ใช่รึไง? จับไอ้เวรนั่นมาให้ได้! เดี๋ยวนี้เลย!” เชนรอนตะโกนใส่สมาชิกระดับสูงคนอื่น ๆ ที่ยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป พวกเขาจะหาทางจับตัวคน ๆ นี้ได้อย่างไรในเมื่อยังไม่รู้เลยว่าเขาอยู่ที่ไหน?
‘หัวหน้ากิลด์อะไรวะแม่งโง่ชิบหายเลย…’
ตอนนั้นเองสมาชิกระดับสูงคนหนึ่งที่มักจะทำหน้าที่เป็นคนคุยตกลงกับเชนรอนก็เริ่มเอ่ยปาก “ถ้าเราใช้วิธีนี้ละครับบอส? กำหนดวันท้าดวลเอาไว้จากนั้นก็…”
เชนรอนพูดแทรกสมาชิกระดับสูงคนนั้นทันที “แกกล้าพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง? คิดจะไปต่อสู้เดิมพันลบตัวละครกับมันจริง ๆ หรือไง?”
“บอสครับโปรดฟังอีกซักนิดก่อน มันเป็นแค่ข้อตกลงลอย ๆ เท่านั้น เราแค่ล่อมันออกมาจากนั้นก็ช่วยกันรุมจัดการมันดีไหมครับ?”
เชนรอนเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เลื่อนมือมาเท้าคางของตนไว้ มันเป็นท่าทางที่เขามักจะกระทำเมื่อเขารู้สึกชื่นชอบอะไรบางอย่างและมันยังเป็นนิสัยติดตัวของเชนรอนที่สมาชิกของสมาพันธ์กะโหลกดำทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วอีกด้วย
“วิธีนี้ใช้ได้ งั้นก็รีบกำหนดวันเดี๋ยวนี้เลย”
ในตอนนั้นเองชายผู้หนึ่งก็เดินเข้ามาในที่พักของสมาพันธ์กะโหลกดำ สมาชิกระดับสูงแต่ละคนต่างก็โค้งตัวลงเพื่อคำนับเขา และนั่นรวมไปถึงเชนรอนด้วย
“ในที่สุดท่านก็มา!”
ชายผู้นั้นมีไหล่กว้าง ตัวสูง อีกทั้งยังมีใบหน้าที่ดูสมกับเป็นลูกผู้ชาย บุคคลที่มีแรงกดดันอันรุนแรงนี้มีชื่อว่าคังจุงกู เขาเป็นกัปตันที่คอยจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้กับกิลด์ ‘โลกใหม่’ ซึ่งเป็นกิลด์ที่มีระดับสูงกว่าสมาพันธ์กะโหลกดำ “ไง! พวกนายคิดจะทำยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะ?”
“พวกเราวางแผนจะจัดการมันในเร็ว ๆ นี้ครับ”
คังจุงกูเมื่อได้ยินคำพูดของเชนรอนแล้วเขาก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “จัดการมันงั้นเหรอ? ฉันได้ยินว่าพวกนายจะใช้วิธีหมาหมู่จัดการไม่ใช่รึไง?”
คังจุงกูเรียกใครบางคนด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “เฮ้! นายคนนั้นน่ะ มาหาฉันหน่อยสิ”
หนึ่งในสมาชิกระดับสูงของสมาพันธ์กะโหลกดำรีบวิ่งมาหาตามคำพูดของคังจุงกูในทันที คนคนนั้นคือสมาชิกระดับสูงที่คุยกับเชนรอนก่อนหน้านี้นั่นเอง เขายืนอยู่ตรงหน้าคัง จุงกูด้วยท่าทีที่ทะมัดทะแมง “ปาร์กชอลกูมารายงานตัวแล้วครับ”
ผัวะ! เป้ง!
“แกนะแก! ใครสั่งให้พวกแกผูกขาดดันเจี้ยนตามอำเภอใจกัน?”
“อั๊ก!… อ๊อก!…”
คังจุงกูปล่อยหมัดออกไปทันทีที่พูดจบ เขาต่อยปาร์กชอลกูจนล้มลงไปกองกับพื้น จากนั้นเขาก็เตะซ้ำไปอีกครั้งโดยไม่สนใจสมาชิกของสมาพันธ์กะโหลกดำคนอื่น ๆ ที่กำลังมองอยู่เลย
เมื่อคังจุงกูอัดปาร์กชอลกูจนหนำใจแล้ว เขาก็เข้ามาใกล้เชนรอนและกระซิบกระซาบด้วยน้ำเสียงชวนน่าขนลุกว่า “ช่วยกรุณาถ่ายวิดีโอตอบโต้ให้มันดี ๆ หน่อย แล้วก็จัดการดวลให้มันถูกต้องด้วยนะ เอาแบบที่คนมีการศึกษาเขาทำกัน เข้าใจไหม?”
เชนรอนพยักหน้าเบา ๆ จิตใจของเขากำลังสั่นสะท้าน และในระหว่างที่ยังคงมองเชนรอนอยู่นั้นเอง คังจุงกูก็พูดต่อว่า “ถ้าอย่างงั้นวันนี้ผมจะปล่อยคุณไปก่อนก็แล้วกัน” คังจุงกูยื่นมือของเขาไปตบบ่าของเชนรอนเบา ๆ หลายต่อหลายครั้ง ก่อนที่เขาจะเดินออกจากที่พักกิลด์ไป
เมื่อคังจุงกูจากไปแล้ว เชนรอนก็รีบจัดการสิ่งที่ตนได้รับมอบหมายในทันที “ชอลกูรีบถ่ายวิดีโอแล้วเอาไปโพสต์เร็วเข้า เวลาที่กำหนดคือสามวันหลังจากนี้ สถานที่คือลานประลองของยุสมา แล้วก็ตั้งกฎให้เป็นโหมดกัปตันซะ”
แววตาของเชนรอนทอประกายแสงแห่งความชั่วร้าย
***
‘ฉันจะต้องสามารถกู้คืนครอบครัวให้กลับมาผงาดได้อีกครั้งแน่’
จิตใจของฮยอนนูเต็มเปี่ยมไปด้วยความวาดหวัง ตอนนี้เขาอยู่ในโรงแรมที่เป็นสถานที่นัดพบกับไนกี้เมเนจเม้นท์ซึ่งจัดได้ว่าเป็นสาขาย่อยของบริษัทไนกี้ที่ผู้คนสมัยใหม่ต่างก็รู้จักกันดี สตรีมเมอร์ของเกมอารีน่าหลายต่อหลายคนต่างก็อยากจะร่วมงานบริษัทนี้ อย่างไรก็ตามมาตรฐานของบริษัทไนกี้นั้นสูงมาก พวกเขามองหาเพียงแค่บุคคลที่มีความพิเศษเท่านั้น
‘จุงฮันแบค’ ฮยอนนูกัดฟันทุกครั้งเมื่อเขานึกชื่อนี้ขึ้นมาได้ พ่อของมันคือคนที่หักหลังพ่อของเขา ดังนั้นเขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องบดขยี้จุงฮันแบคและครอบครัวของมัน ให้พวกมันได้เผชิญกับความเศร้าโศกและความสิ้นหวังที่เขาต้องเผชิญบ้างให้ได้
ฮยอนนูเดินตรงไปยังร้านอาหารของทางโรงแรม เมื่อพนักงานผู้ทำหน้าที่บริการอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์เห็นเขาก็กล่าวคำทักทายแก่ฮยอนนู “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าได้จองเอาไว้ไหมคะ?”
“ผมจองเอาไว้กับคุณเคลครับ”
“ดิฉันจะนำคุณไปเองค่ะ”
พนักงานหน้าเคาน์เตอร์พาฮยอนนูเข้าไปยังห้องทานอาหารส่วนตัวด้านในร้านอาหาร ในห้องนั้นมีชายหนุ่มสวมชุดสูทสีดำผิวพรรณขาวผ่องกำลังนั่งรออยู่ เขากล่าวคำทักทายฮยอนนูทันทีที่เห็น “สวัสดีครับ ผมเคลเอง ตัวจริงคุณหล่อเหลาไม่น้อยเลยนะครับเนี่ย”
“ทางคุณเคลเองก็มีภาพลักษณ์ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะครับ”
“ผมว่าก่อนที่เราจะคุยกัน เรามาทานอาหารกันก่อนเถอะครับ”
บรรยากาศของอาหารมื้อนี้อบอวลไปด้วยความรื่นรมย์ ภาษาอังกฤษของฮยอนนูเองก็คล่องแคล่ว ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาอะไรในการสนทนาเลย เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาเริ่มเอ่ยปากคุยกันเรื่องสัญญาของหวานก็มาเสิร์ฟพอดิบพอดี
“นี่เป็นสัญญาที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว ช่วยกรุณาตรวจสอบด้วยครับ”
ฮยอนนูเพ่งมองหนังสือสัญญานั้น เนื้อหาของสัญญายอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก หากเทียบจากสิ่งที่เขาเคยได้ยินมาจากยองซานแล้ว นี่ถือเป็นที่สุดในวงการนี้เลยก็ว่าได้
“มันดูดีมากเลยครับ สมกับที่เป็นข้อเสนอของทางไนกี้จริง ๆ”
“ลองดูด้านหลังด้วยนะครับ มีอะไรบางอย่างที่เพิ่มเข้ามาด้วย” เคลอธิบายพร้อมกับรอยยิ้ม
ภายในตัวหนังสือสัญญานั้นมีบัตรใบหนึ่งซ่อนอยู่ มันเป็นบัตรที่ทางไนกี้เตรียมมาให้กับฮยอนนูโดยเฉพาะและมันเป็นเงื่อนไขที่ทางไนกี้เท่านั้นถึงจะสามารถเพิ่มเข้ามาได้ สายตาทั้งสองของฮยอนนูกวาดมองรายละเอียดของสัญญาอย่างรวดเร็ว จากนั้นสีหน้าของเขาก็ปรากฏร่องรอยของความสุขขึ้นมาโดยทันที
หากจะให้อธิบายเนื้อหาของสัญญาสั้น ๆ แล้ว ก็จะได้ใจความดังต่อไปนี้
ระยะเวลาของสัญญานั้นคือสองปี
ฮยอนนูจะได้รับค่าตอบแทนหนึ่งหมื่นเหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อผู้ติดตามหนึ่งหมื่นคนในชาแนลสตรีมของเขา และจะมีโบนัสเพิ่มให้อีกเมื่อจำนวนผู้ติดตามทะลุหนึ่งแสนคน
เขาได้รับคำมั่นว่าทางบริษัทจะช่วยโปรโมทอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากนี้เขายังสามารถเลือกหนังสือทักษะระดับแรร์ ไอเทมระดับแรร์ หรือวัตถุดิบระดับยูนีคได้ในทุก ๆ เดือน
ช่างเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจริง ๆ แม้สิ่งต่าง ๆ ภายในเกมจะพัฒนาไปในระดับหนึ่งแล้ว ทว่าการได้รับหนังสือทักษะระดับสูงนั้นก็ยังคงไม่สามารถทำได้โดยง่าย นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่มีค่ามากพอกันเพิ่มเข้ามาอีกนั่นคือ ‘วัตถุดิบระดับยูนีค’ ฮยอนนูยังคงจดจำสูตรการผสมไอเทมจากการเล่นเกมอารีนาในอดีตได้เป็นอย่างดี ทว่าไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่เขาจะหาวัตถุดิบเหล่านั้นได้ในตอนนี้ หากเขามีหนทางได้พวกมันมาแล้วละก็ สถานการณ์ของเขาในอนาคตก็จะเปลี่ยนไปเป็นอีกแบบโดยทันที
ฮยอนนูยืนยันเนื้อหาทั้งหมดและคืนสัญญาให้ “ทั้งหมดนี้เป็นข้อเสนอจริง ๆ เหรอครับ?”
“แน่นอนครับ ทางเราเชื่อว่าคุณคังสมควรจะได้รับมันทั้งหมด มิสเตอร์จี ไม่สิ คุณเมลีก็อด ผมเชื่อว่าคุณพิเศษพออยู่แล้ว
“ผมได้เห็นวิดีโอของคุณและจำมันได้ก็เลยลองหาข้อมูลเพิ่มดูน่ะครับ คุณกับเมลีก็อดมี การเคลื่อนไหวที่คล้ายกันเป็นอย่างมาก ดังนั้นผมจึงเชื่ออย่างสุดใจเลยว่าคุณจะต้องเป็นเมลีก็อดอย่างแน่นอน”
“เมลีก็อด…ผมไม่ได้ยินชื่อนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ” สีหน้าของฮยอนนูตอนนี้ปะปนไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะเข้าใจ
ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้แล้วละก็ เขาจะไม่มีวันลบมันทิ้งอย่างเด็ดขาด
“ส่วนเงื่อนไขของทางไนกี้นั้นก็ยังคงเหมือนเดิมครับ เราไม่ได้ขออะไรอย่างอื่นเลย นอกจากเรื่องโลโก้เท่านั้น คุณแค่ฝังโลโก้ไนกี้ลงไปในอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็พอ อ้อ! จะมีผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นของทางเราด้วยนะครับ คุณควรจะรับคำแนะนำจากพวกเขาอย่างน้อยเดือนละครั้ง”
เงื่อนไขของทางไนกี้ไม่ได้ต่างจากข้อตกลงของทางสาขาย่อยสักเท่าไหร่ หลังจากหารือเกี่ยวกับเรื่องจำเพาะในประเด็นต่าง ๆ แล้ว เคลก็เป็นผู้เซ็นชื่อลงในสัญญาก่อน
“ถ้างั้นผมเซ็นเลยนะครับ” ฮยอนูเซ็นสัญญาลงไปอย่างหนักแน่น
ไม่มีที่ไหนจะให้ข้อเสนอดี ๆ แบบนี้ได้อีกแล้ว เมื่อเคลได้รับสัญญาที่เซ็นเรียบร้อยแล้วเขาก็ถามฮยอนนูว่า “ผมขอถามถึงแผนการว่าคุณจะทำอะไรต่อไปแบบเจาะจงเลยได้ไหมครับ?”
“ผมจะเริ่มสตรีมตอนสุดสัปดาห์หน้าเป็นอย่างช้า คุณรอดูได้เลยครับ ผมจะเตรียมอะไรเจ๋ง ๆ ไว้ให้ดูด้วย”
เคลรู้สึกได้ทันทีเลยว่าตนเองกำลังตื่นเต้นไปกับทุกถ้อยคำของฮยอนนู สำหรับเคลแล้ว วิดีโอต่าง ๆ ของเมลีก็อดต่างก็ทำให้เขาคาดหวังและรอคอยได้เสมอ ครั้งนี้เขาจะแสดงอะไรให้ได้ดูกันนะ?
“เข้าใจแล้ว ผมจะตั้งตารอเลยครับ”