Ranker’s Return - ตอนที่ 33
สัตว์เลี้ยงในเกมอารีส่วนใหญ่มักจะไม่มีความสามารถทางด้านการต่อสู้ ผู้เล่นทั้งหลายเลยชอบสัตว์เลี้ยงน่ารัก ๆ มากกว่า ทว่าสำหรับทังอีนั้นต่างออกไป พลังจากทักษะ ‘สายฟ้า’ เทียบได้กับทักษะที่ปล่อยออกมาจากนักเวทคนหนึ่งเลยทีเดียว
[คุณได้ฆ่าปีศาจธาตุน้ำระดับต่ำ]
[ได้รับค่าประสบการณ์]
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ทังอีเปลี่ยนบทบาทจากแขกรับเชิญเป็นพิธีกรไปเสียแล้ว ในการจัดการกับปีศาจธาตุน้ำแล้วละก็ สายฟ้าฟาดเพียงครั้งเดียวของทังอีมีพลังรุนแรงกว่าพลังเวทของฮยอนนูมาก
‘ถึงมอนสเตอร์ธาตุน้ำจะแพ้ทางสายฟ้าก็เถอะ แต่แบบนี้มันก็…’
มันช่างทรงพลังมาก การโจมตีนี้ไม่ต่างอะไรกับการโจมตีของจอมเวทที่มีไอเทมระดับแรร์เลย
“นี่มันอย่างกับว่าฉันมีนักเวทเก่ง ๆ คอยช่วยอยู่อย่างงั้นเลย”
‘ทังอีทำได้ทั้งบัฟและต่อสู้ เป็นประเภทที่ทำได้ทุกอย่างเลย’
ฮยอนนูเร่งความเร็วในการล่าของเขาขึ้นไปอีกเพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าเวทมนตร์ของทังอีแข็งแกร่งขนาดไหน ดังนั้นเขาจะต้องใช้มันให้คุ้มค่าสุด “ทังอี! นายใช้มันให้ไวกว่านี้อีกไม่ได้เหรอ? ปล่อยสายฟ้าฟาดไปทีเดียวสามสายเลย”
***
จำนวนผู้ติดตามของช่องฮยอนนูนั้นเพิ่มขึ้นทุก ๆ วัน [การต่อสู้ระหว่างคนกับหมี.avi] ซึ่งเป็นวิดีโอใหม่ของฮยอนนูที่โพสไปเมื่อวันพฤหัสนั้นมีจำนวนการดูเกินห้าแสนคนไปแล้ว ในขณะเดียวกันทั้งจำนวนการซื้อวิดีโอของเขาใน ‘เอ-เวิร์ล’ ก็เพิ่มขึ้น ทำให้รายได้ของฮยอนนูยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีกด้วย
อย่างไรก็ตามวิดีโอที่มียอดการดูมากที่สุดคือวิดีโอที่ฮยอนนูเพิ่งจะอัพโหลดล่าสุด มันมีความยาวเพียงแค่หนึ่งนาที ในวิดีโอนี้ฮยอนนูปรากฏตัวขึ้นพร้อมหน้ากากบนใบหน้าเช่นเคย เขาบอกเล่าแผนการในอนาคตของตนเองแก่ผู้ชมโดยประกาศอย่างชัดเจนว่าจะเริ่มสตรีมแล้ว หลาย ๆ คนเมื่อเห็นวิดีโอนี้ก็แพร่ข่าวออกไปว่าฮยอนนูกำลังจะเริ่มคอนเทนต์สตรีมครั้งแรกของตนเองแล้ว
‘คอนเทนต์อย่างแรกของบอสใหญ่ประจำซอยคือการเอาชนะคู่ต่อสู้ติดต่อกัน 100 ครั้งในอารีน่าให้ได้’
‘อะไรกัน? เอาชนะ 100 ครั้งติดต่อกันงั้นเหรอ?’
‘เขาไม่มีทางทำสำเร็จหรอก’
คำวิจารณ์ต่าง ๆ นา ๆ แพร่สะพัดออกไปเนื่องจากวิดีโอที่ถูกปล่อยออกมา เมื่อคิมซอกจองรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็หลุดขำออกมาเสียยกใหญ่ “555 ช่างเป็นชายหนุ่มที่ร้อนแรงและเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันจริง ๆ”
“ฮยองรู้จักคนคนนี้ด้วยเหรอ?”
“ใช่แล้ว! ฉันบอกแกไปเมื่อวันก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ? หยุดการสืบนั่นได้แล้ว ตอนที่ฉันเจอกับเขาครั้งก่อน ฉันกล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าเขาสุดยอดมาก”
“เขาสุดยอดขนาดนั้นเลยเหรอครับ? ผมอยากลองสู้กับเขาดูซักครั้งบ้างจัง” ในเมื่อคิมซอกจองยังเอ่ยปากชมฮยอนนูเสียขนาดนี้ คังจุนกูก็อดสนใจในตัวฮยอนนูไม่ได้ ‘บางทีฉันอาจจะเจอเขาที่อารีน่าในอีกไม่นานก็ได้ ชนะ 100 ครั้งติดต่อกันสินะ…นั่นหมายความว่าเขาแข็งแกร่งพอที่จะมายังจุดที่ฉันยืนอยู่ได้แน่ ฉันมั่นใจ’
การจัดอันดับในเกมอารีน่านั้นก็เหมือนกับเกมอื่น ๆ นั่นคืออันดับแรก ๆ จะมีความห่างชั้นกับอันดับที่รองลงมาอย่างมาก หากสามารถเอาชนะการต่อสู้ติดต่อกัน 100 ครั้งได้ละก็ ทุกคนก็จะเห็นรายชื่อคนคนนั้นติดอันดับแรก ๆ โดยที่ไม่ต้องเลื่อนดูเลยด้วยซ้ำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคิมซอกจองผู้ที่มีอันดับ 17 ในอารีน่านั้น จัดได้ว่าเป็นดาวเด่นผู้สืบทอดความสำเร็จที่ฮยอนนูเคยได้รับมา
***
“นายคิดว่าตัวเองไหวแน่นะ?” ยองซานถามฮยอนนูด้วยสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความกังวล เขาคิดว่าแม้แต่การเริ่มสตรีมตอนนี้เองก็ดูจะไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไหร่
“ไหวอยู่แล้ว! ลำดับแรงค์แทบจะไม่ใช่เรื่องสำคัญเลยหากไม่ติดหนึ่งในยี่สิบอันดับก่อน ดังนั้นค่อยกังวลตอนที่ชนะไป 80 ครั้งแล้วละกัน” ฮยอนนูแตะอกของตัวเองเบา ๆ แสดงความมั่นใจออกมา “นายไม่เชื่อใจฉันงั้นเหรอ? ฉันคือคังฮยอนนู คังฮยอนนูเชียวนะ!”
“งั้นฉันเชื่อนายก็ได้ อุปกรณ์สวมใส่พวกนี้เอาไปลองเทสดูแล้วหรือยัง?”
“เรียบร้อยแล้ว!”
ฮยอนนูเตรียมการเปิดตัวสตรีมของเขาเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
***
[คุณได้รับอีเมลจากเคล]
ฮยอนนูได้รับอีเมลมาฉบับหนึ่งในระหว่างที่กำลังล่าอยู่
[ถึง: บอสใหญ่ประจำซอย]
[นี่เป็นของขวัญสำหรับคุณ บอสบอกว่าคุณควรจะมีมันไว้ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทางเราจัดให้นอกเหนือจากในสัญญา หวังว่าคุณจะชื่นชอบมัน และผมจะตั้งตารอดูผลลัพธ์ดี ๆ จากคุณนะครับ]
มีกล่องเล็ก ๆ ใบหนึ่งแนบมาพร้อมกับข้อความสั้น ๆ ในจดหมาย
“นี่มัน?”
เมื่อฮยอนนูเปิดกล่องนั้นแล้ว เขาก็เห็นว่ามีเสื้อหนังและรองเท้าหนังรูปร่างเตะตาบรรจุอยู่ในกล่อง
“แบล็คจากัวร์งั้นเหรอ?”
เซ็ทแบล็คจากัวร์นั้นเป็นเซ็ทเกราะหนังที่สามารถสวมใส่ได้ตั้งแต่เลเวล 50 เป็นต้นไป มันเป็นชุดเกราะชุดสุดท้ายที่ฮยอนนูสวมใส่ก่อนจะเลิกเล่นเกมอารีน่าไปในครั้งนั้น ชุดเกราะหนังสีดำซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมลีก็อด ครั้งหนึ่งมันเคยมีการซื้อขายกันด้วยราคามหาศาล ทว่าในตอนนี้มันกลับเป็นหนึ่งในไอเทมของนักสะสมและไม่มีวางขายอีก
“ตอนนี้เหลือแค่เก็บเลเวลให้ถึง 50 จากนั้นทุกอย่างก็จะสมบูรณ์แบบ”
เหลือเพียงแค่เก็บเลเวลให้ถึง 50 เท่านั้น
***
ปีศาจธาตุน้ำรูปร่างเหมือนกับกิ้งก่าถูกแยกออกเป็นสองส่วนด้วยฝีมือของฮยอนนู
[คุณได้ฆ่าปีศาจธาตุน้ำระดับต่ำ]
[ได้รับค่าประสบการณ์]
[เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น]
[พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู]
“ในที่สุดฉันก็เลเวล 50 แล้ว!” ฮยอนนูตะโกนเสียงดังลั่นเมื่อเขาเห็นข้อความแจ้งเตือนการเลเวลอัพ ในที่สุดช่วงเวลาการล่าที่แสนจะเหน็ดเหนื่อยของเขาก็จบลงแล้ว อีกทั้งยังได้เวลาบอกลาชุดไฟจราจรนี้เสียที ฮยอนนูจัดการเปลี่ยนไอเทมเครื่องแต่งกายทันทีโดยไม่รอช้า เซ็ทแบล็คจากัวร์กำลังรอให้เขาสวมใส่อยู่ในช่องเก็บของ
[คุณได้สวมใส่เซ็ทแบล็คจากัวร์]
[ผลของเซ็ท: ความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 15%]
[ความเร็วในการเคลื่อนที่จะเพิ่มขึ้นอีก 10% เมื่ออยู่ในความมืด ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 5%]
[เพิ่มค่าพละกำลัง 50 แต้ม ค่าความว่องไว 100 แต้ม พลังโจมตีทางกายภาพ 30 แต้ม พลังโจมตีเวทมนตร์ 30 แต้ม]
‘ด้วยความเร็วในการเคลื่อนที่ที่เพิ่มมาอีก 15% นั้นเพียงพอแล้วสำหรับการเอาชนะติดต่อกัน 100 ครั้ง’
การเตรียมตัวเพื่อการสตรีมครั้งแรกของฮยอนนูนั้นกำลังสมบูรณ์แบบมากขึ้นเรื่อย ๆ
***
เวลาผ่านไปจนกระทั่งกำหนดการสตรีมครั้งแรกของฮยอนนูก็มาถึง ที่ผ่านมาเขาวุ่นวายอยู่กับการตรวจสอบความเรียบร้อยขั้นสุดท้ายก่อนจะเริ่มสตรีมมาโดยตลอด ทว่าตอนนี้เขากลับคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องคนเดียวเงียบ ๆ โดยที่ไม่ยอมให้ใครมารบกวน เพราะว่าเขากำลังคุยกับแม่ของตัวเองอยู่นั่นเอง
“แม่ครับ! นี่ผมเอง”
ฮยอนนูเริ่มเล่าความลับที่ตัวเองกำลังเก็บซ่อนไว้อยู่
“ไม่เป็นไรหรอกครับ จริง ๆ แล้วผมเพิ่งจะเริ่มเล่นเกมเมื่อไม่กี่อาทิตย์มานี้เอง”
“อื้อ! ใช่แล้วครับ ผมมีฝีมืออยู่”
“เงินที่ผมได้รับดีกว่าที่แม่คิดเยอะเลยละ”
“ต่อจากนี้ผมว่าคงจะยุ่งมากกว่าเดิมอีกครับ”
“อาจจะไปหาแม่ที่โรงพยาบาลตอนนี้ไม่ได้”
“ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกครับ”
“ผมห่วงสุขภาพของแม่มากกว่า รักษาสุขภาพด้วยนะครับแม่”
แม่ของฮยอนนูบอกกับเขาเพียงแค่ว่าเธอยังคงเป็นห่วงลูกอยู่ตลอด นอกจากนี้เธอก็ยังเชื่อในตัวลูกเสมอ แม้เขาจะหันไปเล่นเกมแล้วก็ตาม
“เรื่องหนี้ไม่มีปัญหาเลยครับ ผมจะเริ่มต้นจ่ายพวกเขาไปเรื่อย ๆ แล้ว คิดว่าอีกไม่นานผมน่าจะเอาบ้านกลับคืนมาได้ครับ”
น้ำตาของฮยอนนูไหลออกมาเมื่อเขานึกถึงมือทั้งสองของแม่ตอนที่เขาไปเยี่ยมเธอเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตอนนี้มือทั้งสองของเธอมีแต่รอยแตกเต็มไปหมด ทว่าก็ยังเป็นห่วงลูกของตนเสมอ
“อดทนรออีกหน่อยนะครับ คุณแม่”
ฮยอนนูวางโทรศัพท์ลงก่อนที่เขาจะอดกลั้นเสียงสะอื้นนี้ไว้ไม่อยู่ เขาจะต้องเริ่มสตรีมในอีกไม่นานแล้ว ดังนั้นเขาจึงเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาให้คราบน้ำตาหายไปให้เรียบร้อยก่อน
ภาพสะท้อนของชายหนุ่มในกระจกนั้นปราศจากความวิตกกังวลโดยสิ้นเชิง “อดทนรออีกซักนิดนะครับ คุณแม่”
ทว่าใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นอีกแบบเมื่อเขานึกถึงจุงฮันแบค
“แกเองก็รอก่อนเถอะ จุนฮันแบค!”
***
ไลฟ์สตรีม…
สิ่งนี้จะไม่เป็นปัญหาเลยหากยังเป็นตอนที่ผู้คนยังคงเล่นเกมกันผ่านคอมพิวเตอร์อยู่ เพราะสิ่งที่พวกเขาทำก็มีเพียงแค่แสดงการเล่นให้ดูเท่านั้น ทว่าตอนนี้เมื่อเกมเวอร์ชวลเรียลลิตี้ได้รับการพัฒนาจนต่างออกไปจากเกมแบบเดิม ๆ แล้ว ปัญหาบางประการก็ตามมาและมันก็กลายเป็นข้อเสียสำหรับการไลฟ์สตรีม
ข้อเสียที่ว่านั่นคือมันไม่สามารถถ่ายทอดออกมาให้เห็นได้โดยทันที และมันก็เป็นปัญหาที่ใหญ่พอจะทำให้เว็บไซต์สตรีมต่าง ๆ ค่อย ๆ เสื่อมความนิยมลง ทว่าหลังจากนั้นไม่นานเว็บไซต์สตรีมเหล่านี้ก็ได้รับการพัฒนาโดยทีมผู้พัฒนาเกมอารีน่า และในตอนนั้นเอง ‘เควนซี่’ เสนอไอเดียการแก้ปัญหาที่ไม่เหมือนใคร
เขากล่าวว่า “ทำไมผู้คนถึงเอาแต่คิดว่าการสตรีมมันจะดูได้แค่ในชีวิตจริงเท่านั้นกัน? ฉันว่าจริง ๆ แล้วต้องเข้าไปดูในคิวบ์ต่างหากละถึงจะเจ๋งกว่า”
ในที่สุดการสตรีมก็ได้รับการเชื่อมต่อเข้ากับเกมอารีน่าโดยตรงอย่างสมบูรณ์ จนสุดท้าย การสตรีมสดก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ ‘เควนซี่’ ยังใช้นโยบายใหม่ช่วยเสริมด้วยเช่นกัน “ยังไงพวกเราก็ทำกำไรได้มากอยู่แล้ว เราคงไม่ต้องหวังจะเอาอะไรจากผู้เล่นที่ทุ่มเทให้กับเกมอารีน่าหรอกครับ เพราะไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็ได้รับเงินจากพวกเขาในทุก ๆ เดือนเยอะมากอยู่แล้ว”
เขาประกาศยกเลิกการหักเปอร์เซ็นจากเงินที่โดเนทให้แก่สตรีมเมอร์ ไม่เก็บเงินเหมือนกับเมื่อก่อนอีก อย่างไรก็ตามการบริจาคในเกมอารีน่านั้นมักจะให้เป็นหน่วยเงินโกลด์ซึ่งเป็นหน่วยเงินในเกม ไม่ได้บริจาคเป็นจำนวนเงินสดจริง ๆ การบริจาคเริ่มต้นต่ำสุดเพียงแค่ 1 โกลด์เท่านั้น
ทว่าเงื่อนไขการจ่ายเงินแบบโกลด์ก็ไม่ได้เป็นข้อจำกัดที่ส่งผลอะไรเลย เพราะเกมอารีน่าถือเป็นตลาดที่มีมูลค่ามหาศาลและใกล้เคียงกับโลกความจริงอยู่แล้ว นั่นคือเหตุผลว่าทำไมอารีน่าถึงกลายเป็นเกมที่โดดเด่นไม่เหมือนใครและได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในระหว่างที่ฮยอนนูไปเกณฑ์ทหาร