Ranker’s Return - ตอนที่ 37
ฮยอนนูคุ้นเคยกับทะเลทรายอาร์ติเป็นอย่างดี เนื่องจากเขาเคยทำภารกิจเนื้อเรื่องหลักภารกิจแรกที่นี่เมื่อครั้งที่เขายังคงเป็นเมลีก็อดอยู่ หากไม่นับรวมฮยอนนูแล้วการล่าในสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างทำได้อย่างยากลำบาก
ตรงเขตใจกลางของทะเลทรายอาร์ติมีปราสาทแห่งอาณาจักรสร้างเอาไว้อยู่ ปราสาทแห่งนั้นมีชื่อว่า ‘ปราสาทลิป้า’ และมันคือเป้าหมายที่ฮยอนนูจะเดินทางไป อย่างไรก็ตามการเดินทางไปปราสาทลิป้านั้นไม่สามารถใช้ม้วนกระดาษเดินทางได้ นั่นหมายความว่าฮยอนนูต้องเดินทางไปยังปราสาทแห่งนั้นด้วยตัวของเขาเองและตลอดเส้นทางที่เขาต้องเดินทางผ่านก็มีมอนสเตอร์อยู่เต็มไปหมด
“สายฟ้า!” ทันทีที่ฮยอนนูตะโกนออกมา สายฟ้าสองสายก็แล่นออกจากตัวของทังอีและพุ่งเข้าใส่แมงป่องทะเลทรายตัวหนึ่งทำให้ร่างกายของมันสั่นชาไปชั่วขณะ ไม่รอช้าฮยอนนูเหวี่ยงดาบยาวปลายมนของเขาด้วยท่าทีที่ดูผ่อนคลายพร้อมกับใส่พลังเวทมนตร์ลงไปในดาบด้วยเช่นกัน
[คุณได้ฆ่าแมงป่องทะเลทราย]
[ได้รับค่าประสบการณ์]
“ค่าประสบการณ์ที่ได้ช่างดีจริง ๆ นายเองก็คิดแบบนั้นใช่ไหมทังอี?”
“ฉันรู้สึกได้เลยว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้นแล้ว ไอ้เจ้านายท่าน”
ฮยอนนูพอใจกับปริมาณค่าประสบการณ์ที่ตัวเองได้รับมาจากการล่าตลอดเส้นทางที่พวกเขาเดินทางผ่าน ทั้งสองใช้เวลามากกว่าหนึ่งวันในการเดินทางไปยังปราสาทลิป้า อย่างไรก็ตามการเดินทางครั้งนี้ก็ไม่ถือว่าเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ เนื่องจากในระหว่างนั้นเลเวลของเขาก็เพิ่มขึ้นอีก 3 เลเวลทำให้ตอนนี้เขามีเลเวล 53 แล้ว
“ใกล้ถึงแล้วละทังอี”
“เห็นปราสาทอยู่ตรงนั้นด้วยละ ไอ้เจ้านายท่าน”
ในที่สุดปราสาทลิป้าก็ปรากฏขึ้นในระยะสายตาของฮยอนนู
***
หลังจากมาถึงปราสาทลิป้าแล้ว ฮยอนนูพบว่ามีผู้เล่นอยู่ที่นี่ไม่มากนัก เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไปดูเหมือนว่าตอนนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่จะลืมเลือนสถานที่แห่งนี้ไปเสียแล้ว ทั่วทั้งบริเวณจึงแทบจะไม่เห็นผู้เล่นเลยซักคน
อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด ครั้งล่าสุดที่ฮยอนนูมายังปราสาทลิป้าแห่งนี้ก็เมื่อสองปีที่แล้ว เทียบกับตอนนั้นภารกิจที่เหล่าผู้เล่นอยากทำหรือชื่นชอบต่างก็หายไปจนหมดแล้ว รวมถึงยังมีสถานที่อื่นปรากฏขึ้นเป็นทางเลือกในการไปเยือนที่ดีกว่า พื้นที่ล่ารอบ ๆ ปราสาทลิป้านั้นอยู่ที่ราว ๆ เลเวล 90 ถึง 110 หากพิจารณาจากการเก็บเลเวลที่เป็นไปอย่างเชื่องช้าแล้ว การมาล่าที่นี่โดยไม่มีภารกิจจึงไม่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้เล่น
“เข้าทางฉันเลยละ”
ทว่าเรื่องพวกนั้นแทบจะไม่ส่งผลอะไรต่อฮยอนนูเลย ตอนนี้เลเวลของฮยอนนูอยู่ที่ 53 ไม่เหตุผลอะไรที่เขาจะไม่พอใจพื้นที่ล่าสำหรับผู้เล่นเลเวล 90 ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีภารกิจที่ต้องทำในเขตพื้นที่นี้พอดี ดังนั้นสำหรับเขาจึงไม่มีที่ไหนวิเศษไปกว่าที่นี่อีกแล้ว
***
หลังจากการเดินทางอันยาวไกลในที่สุดฮยอนนูก็ได้พบกับบุคคลที่เขากำลังตามหา ชายผู้เป็นเจ้าของหอกยักษ์ขนาดเท่ากันกับความสูงของตัวเอง ชายผู้นั้นคืออัลเดรดนั่นเอง
“เอาตราสัญลักษณ์มาด้วยหรือเปล่า?”
ฮยอนนูยื่นลูกประคำเล็ก ๆ ที่เขาได้มาจากจักรพรรดิให้กับอัลเดรด “นี่ครับ”
หลังจากได้ลูกประคำสีแดงแล้ว อัลเดรดก็ยื่นหนังสือเล่มเล็ก ๆ ให้แก่ฮยอนนู หน้าปกของหนังสือเล่มนั้นมีสัญลักษณ์รูปพระจันทร์เสี้ยวสลักเอาไว้อยู่
‘คลื่นพระจันทร์เสี้ยวงั้นเหรอ?’
‘คลื่นพระจันทร์เสี้ยว’ คือทักษะที่ผู้เล่นทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี มันจะปรากฏขึ้นเมื่อใช้หนังสือทักษะระดับแรร์แบบสุ่มบ้างในบางครั้ง ลักษณะของทักษะนั้นตรงตามชื่อเรียกของมัน กล่าวคือมันเป็นทักษะที่ทำให้พลังงานดาบก่อตัวขึ้นกลายเป็นคลื่นพระจันทร์เสี้ยวและปล่อยออกไป มันเป็นทักษะการโจมตีระยะไกลที่ใช้ได้ผลกับผู้เล่นนักดาบอย่างดี นอกจากนี้มันยังไม่ใช่ทักษะระดับแรร์ธรรมดา แต่เป็นทักษะระดับยูนีคอีกด้วย
‘เป็นจังหวะที่ดีจริง ๆ’
ฮยอนนูกำลังขาดแคลนทักษะที่ใช้สำหรับการโจมตีอยู่พอดี ดังนั้นนี่จึงเปรียบเสมือนเขาได้พบกับโอเอซิสที่ใจกลางทะเลทรายเลยทีเดียว
‘ฉันคงจะล่าเร็วขึ้นอย่างน้อยอีกสองเท่าเลยแบบนี้’
ชัดเจนเลยว่าการล่าของฮยอนนูจะต้องเร็วขึ้นอย่างแน่นอน นอนจากนี้ฮยอนนูก็ตัดสินใจถามถึงเรื่องที่จักรพรรดิไหว้วานเขามากับอัลเดรด “ท่านรู้เกี่ยวกับเรื่องของพวกกบฏบ้างไหมครับ?”
อัลเดรดตอบสนองต่อคำถามของฮยอนนูอย่างจริงจังในทันที สีหน้าของอัลเดรดเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เขาตอบกลับมาด้วยโทนเสียงต่ำและเต็มไปด้วยความน่ากลัว “เจ้ารู้เรื่องนั้นได้ยังไง?”
“ผมมีหน้าที่เอาตราสัญลักษณ์มาให้ท่านก็จริง แต่นอกจากนี้ผมยังได้รับคำสั่งให้มาสำรวจพวกกบฏด้วยครับ”
อัลเดรดตัดสินใจที่จะเชื่อในคำพูดของฮยอนนู ชายผู้นี้มีตราสัญลักษณ์ของจักรพรรดิ ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่เขาจะมาสำรวจพวกกบฏด้วยเช่นกัน
“เจ้าดูนี่สิ” อัลเดรดหยิบแผนที่เล็ก ๆ ออกมา “นี่เป็นแผนที่ที่ข้าสร้างขึ้นมาโดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการล่าในบริเวณทะเลทรายอาร์ติเป็นหลัก”
‘อันนี้แหละ!’ ฮยอนนูอดดีใจไม่ได้เนื่องจากเขาเริ่มเห็นแนวทางในการสำเร็จภารกิจแล้ว เท่าที่เขาลองพิจารณาในเบื้องต้น มันเป็นวิธีการที่ดูราบรื่นดีทีเดียว
“ตรงนี้ ตรงนี้ แล้วก็ตรงนี้ ข้าสงสัยว่าพวกมันจะหลบอยู่ตรงสามจุดนี้แหละ” อัลเดรดชี้ไปยังสัญลักษณ์ที่เขาเขียนไว้บนแผนที่
ฮยอนนูส่ายหัว “ที่นี่เหรอครับ? มันปราสาทลิป้าไม่ใช่เหรอ?”
“ถูกต้อง! ข้าว่ามีพวกสมคบคิดแฝงตัวอยู่ที่ปราสาทลิป้านี้แน่ ไม่อย่างงั้นพวกวัตถุดิบจำนวนมากคงไม่ถูกขนย้ายออกไปโดยที่ไม่มีใครรู้ได้แน่” พูดจบอัลเดรดก็มอบแผนที่ให้แก่ฮยอนนู “ข้าหวังว่าเจ้าจะเติมเต็มความต้องการของนายท่านได้สำเร็จนะ”
“เข้าใจแล้วครับ”
ฮยอนนูซ่อนแผนที่นั้นทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้คนเห็นหากมีใครกำลังแอบดูอยู่ ตอนนี้หัวใจของเขาเต้นแรงยิ่งกว่าเดิม เห็นได้ชัดเจนเลยว่าหากเขาสำเร็จภารกิจนี้แล้วละก็ ชื่อของเขาก็จะเป็นที่พูดถึงในภารกิจเนื้อเรื่องหลักมากขึ้นไปอีก
***
หลังจากที่ฮยอนนูออกมาจากเขตที่พักของอัลเดรดแล้ว เขาก็นำแผนที่มาดูอย่างละเอียดอีกครั้ง ในแผนที่มีพื้นที่ที่ถูกเน้นไว้สามแห่ง ประกอบด้วยปราสาทลิป้า พื้นที่ชนเผ่าทูม่า และทะเลสาบไบรอัน
‘ฉันจะเริ่มลุยจากพื้นที่ชนเผ่าทูม่าก็แล้วกัน’
หากให้เลือกจากสามที่นี้แล้ว ฮยอนนูพอใจกับพื้นที่ชนเผ่าทูม่ามากที่สุด มันเป็นเขตพื้นที่ล่าสำหรับผู้เล่นเลเวลประมาณ 90 ซึ่งเต็มไปด้วยแมงป่องทะเลทรายและก็อบลินทะเลทราย นอกจากนี้พวกก็อบลินทะเลทรายก็มักจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ๆ ดังนั้นมันจึงเป็นพื้นที่ล่าที่เหมาะกับทักษะคลื่นพระจันทร์เสี้ยวเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามมันมีปัญหาใหญ่อยู่ประการหนึ่ง
‘ตอนนี้ฉันยังล่าคนเดียวอยู่เลย’
สำหรับฮยอนนูผู้มีเลเวลไม่ค่อยสูงแล้ว หากถูกพวกก็อบลินพุ่งเข้ามาโจมตีทีละหลาย ๆ ตัวละก็ มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
“ขอไปสำรวจดูก่อนก็แล้วกัน”
เมื่อตัดสินใจได้แล้วฮยอนนูก็มุ่งหน้าไปยังใจกลางทะเลทรายที่ชนเผ่าทูม่าอาศัยอยู่โดยทันที
***
ไม่ได้มีแค่ฮยอนนูเท่านั้นที่กำลังจัดการกับภารกิจเนื้อเรื่องหลักอยู่ นอกจากกิลด์ ‘โลกใหม่’ และ ‘เมเฮมอท’ ผู้เป็นที่กล่าวถึงในเรื่องภารกิจเนื้อเรื่องหลักที่ผ่านมาแล้ว กิลด์ที่มีขนาดใหญ่อื่น ๆ หรือแม้แต่เกมเมอร์มืออาชีพจำนวนไม่น้อยก็กำลังจัดการตะลุยเนื้อเรื่องอยู่เช่นกัน
แครี่ผู้เป็นกิลด์มาสเตอร์แห่งสมาพันธ์ฟินิกซ์กำลังหารือกับสมาชิกระดับสูงคนอื่น ๆ อยู่
“การพัฒนาความสัมพันธ์กับเลบรอนไปถึงไหนแล้ว?”
“ทำเควสยิบย่อยอีกไม่กี่เควสระดับความสำพันธ์ก็พอที่จะดำเนินการขั้นต่อไปได้แล้วครับ”
“ครั้งนี้เราจะไม่ยอมใครหน้าไหนอีกแล้ว! ตอนนี้้เรากำลังถูกกดดันจากอามูร์ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปละก็ การสนับสนุนจะต้องลดลงแน่”
ตอนนั้นเองนักเวทสาวผมบลอนด์ผู้กำลังเหม่อมองอากาศอยู่ข้าง ๆ แครี่ก็เริ่มเอ่ยปากพูด “ตอนนี้เราไปได้ไกลแค่ไหนแล้วล่ะ?”
“ความสัมพันธ์กับเลบรอนใกล้จะถึงระดับแล้ว”
“ถ้างั้นคนคนนี้เป็นใครกัน?”
แครี่ตอบคำถามของนักเวทสาวผู้นั้นโดยไม่รอช้า “ราเชล! นี่ฉันต้องบอกเรื่องนี้กับเธออีกกี่ครั้งกัน? เธอเอาแต่ดูวิดีโออยู่ได้! ฉันดูไม่ออกเลยว่าเธอเหม่อมองฟ้าหรือดูวิดีโออยู่กันแน่!”
ราเชลเมื่อได้ยินแครี่ดุใส่ก็รู้สึกโกรธ “สิ่งสำคัญตอนนี้คือบอสใหญ่ประจำซอยได้พบกับจักรพรรดิไปแล้ว! เจ้าโง่เอ้ย!”
“อะไรนะ?!”
ทันใดนั้นเองวิดีโอของฮยอนนูก็ได้รับการอัปโหลดลงในชาแนลของเขาพอดี
[จักรพรรดิแห่งอาณาจักร.avi]
และมันก็เป็นช่วงเวลาที่โฉมหน้าของจักรพรรดิแห่งอาณาจักรยุสมาได้รับการเปิดเผยออกมาเป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน
“จับตาดูบอสใหญ่ประจำซอยเดี๋ยวนี้! หมอนั่นมันนำหน้าพวกเราไปแล้ว!”
ฮยอนนูกำลังสังหารพวกก็อบลินทะเลทรายโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าวิดีโอที่เขาอัปโหลดลงในชาแนลของตัวเองนั้นส่งผลอย่างไรบ้าง
[คุณได้ฆ่าก็อบลินแห่งทะเลทราย]
[ได้รับค่าประสบการณ์]
[เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น]
[พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู]
“อืม…ค่อนข้างดีทีเดียว”
ฮยอนนูตั้งใจว่าจะเก็บเลเวลให้ถึง 60 ก่อนแล้วค่อยไปตระเวนหาพวกชนเผ่าทูม่า ในอดีตฮยอนนูทราบว่าการเข้าไปยังทะเลทรายอาร์ติได้นั้นจะต้องมีเลเวลไม่เกิน 60 เท่านั้น ดังนั้นหลังจากเสร็จสิ้นในเขตพื้นที่นี้แล้ว ฮยอนนูก็ตั้งใจจะไปยังพื้นที่ของพวกชนเผ่าทูม่า
‘เลเวลของฉันต่ำเกินไป หากพิจารณาจากพวกผู้เล่นมืออาชีพที่มีเลเวลเกิน 150 แล้วละก็ ฉันคงต้องเก็บเลเวลให้ถึง 80 ภายในเดือนนี้ ไม่เช่นนั้นฉันคงไม่ไหวแน่’
หากเป้าหมายของฮยอนนูคือชื่อเสียงแล้วละก็ ตอนนี้สามารถเรียกได้ว่าเขาทำสำเร็จแล้ว อย่างไรก็ตามฮยอนนูมีเป้าหมายที่ใหญ่ยิ่งกว่านั้น นอกจากจะล้างหนี้ให้ครอบครัวแล้ว เขายังมีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะแก้แค้นให้สำเร็จด้วย เขาต้องไต่ระดับขึ้นไปให้สูงยิ่งกว่าเดิมหากยังต้องการทำความฝันนี้ให้เป็นจริง
“ตอนนี้ฉันมีเลเวล 58 แค่ทนลุยวันพรุ่งนี้อีกวันเดียวเท่านั้น”
ดังนั้นแล้วฮยอนนูก็ตระเวนไปรอบ ๆ บริเวณทะเลทรายเพื่อล่าพวกก็อบลินทะเลทรายต่อไป