Ranker’s Return - ตอนที่ 39
ฮยอนนูยังคงล่ากิ้งก่าทะเลทรายไปเรื่อย ๆ การล่าสองวันมานี้ทำให้เลเวลของเขาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เลเวลของเขาอยู่ที่ 63 มากกว่าเป้าหมายที่เขาตั้งไว้ถึงสามเลเวล ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความเร็วในการล่าของฮยอนนูซึ่งไวอย่างยิ่งยวด กล่าวคือพอเขาเริ่มชินกับการล่าไปเรื่อย ๆ แล้ว การล่ากิ้งก่าตัวหนึ่งก็ใช้เวลาเพียงห้านาทีเท่านั้น
“หน้าต่างแสดงข้อมูลตัวละคร!”
[หน้าต่างแสดงข้อมูลตัวละคร]
[ชื่อตัวละคร: คัง ฮยอนนู]
เลเวล: 63
อาชีพ: นักรบ
ฉายา: นักรบผู้ได้รับการยอมรับจากคาน ดาวดวงใหม่ผู้ได้รับการยอมรับจากเลบรอน บุคคลแรกผู้ได้พบกับจักรพรรดิ บุคคลแรกผู้ย่างกรายเข้าสู่เขตพระราชวังแห่งอาณาจักร รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
ค่าสเตตัส: พละกำลัง 90(+300) ความว่องไว 150(+150) พลังโจมตีทางกายภาพ 70(+180) พลังโจมตีเวทมนตร์ 70(+130) พลังงานการต่อสู้ 6(+100)
แต้มสเตตัสคงเหลือ: 0
‘วันนี้ฉันต้องทำคอนเทนต์ได้ผ่านฉลุยแน่’
ฮยอนนูเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าหลังจากดูหน้าต่างแสดงข้อมูลตัวละครของตนแล้ว คอนเทนต์ในวันนี้จะต้องจบลงด้วยดีอย่างแน่นอน ไม่มีทางที่ผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างอื่น แม้ว่าคอนเทนต์ที่ฮยอนนูจะแสดงให้ดูในวันนี้จะไม่ได้เรียบง่ายเหมือนอย่างที่ตาเห็นก็ตาม
เวลาค่อย ๆ ผ่านไป จนในที่สุดเวลาหกโมงเย็นก็มาถึง ฮยอนนูโค้งตัวทักทายผู้ชมที่เข้ามาดูการสตรีมของเขา
‘50,000 คนเลยงั้นเหรอ? คนมาดูมากขึ้นกว่าครั้งก่อนอีกนะเนี่ย’
“ดีใจที่ได้เจอทุกท่านอีกครั้งนะครับ ผมบอสใหญ่ประจำซอย สตรีมวันนี้อาจจะสั้นหน่อยนะครับ เพราะว่าคอนเทนต์ในวันนี้ก็คือการล่านั่นเองครับ” ฮยอนนูเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดในทันที เนื่องจากเขาต้องการจะสร้างบรรยากาศที่ดูจริงจังมากยิ่งขึ้น
“ผมจะล่าหัวหน้าของพวกกิ้งก่าในวิดีโอที่ผมเพิ่งจะโพสไปให้ดูครับ”
คอนเทนต์ที่ฮยอนนูเตรียมไว้ในวันนี้คือ ‘การล่าบอสกิ้งก่าทะเลทรายแห่งความแปรปรวน’ แบบโซโล่เดี่ยว
ระเบิดที่ฮยอนนูขว้างออกไปรอบนี้จัดได้ว่าอยู่ในระดับเดียวกันกับระเบิดนิวเคลียร์เลยทีเดียว มันระเบิดใส่ห้องแชทเข้าแบบเต็ม ๆ ตอนนี้ทั้งห้องแชทต่างก็ตื่นตะลึงไปกันหมด
– เมื่อกี้เขาพูดอะไรนะ? ฉันฟังผิดไปใช่ไหม?
– ดูเหมือนจะฟังไม่ผิดหรอกนะ วันนี้น่าจะเป็นการโซโล่เรดบอสนั่นแหละ
– เรื่องแบบนี้ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลยไม่ใช่เหรอ?
– โอตาคุแมน บริจาคให้คุณ 99 โกล์ด
– หน้าหมี บริจาคให้คุณ 99 โกล์ด
“ขอบคุณสำหรับโกลด์คอยน์นะครับ แต่ว่าหลังจากนี้ผมจะไปล่าบอสอย่างที่บอก ดังนั้นรบกวนทุกท่านกรุณาอย่าโดเนทโกลด์คอยน์ตอนนั้นนะครับ เพราะเดี๋ยวหน้าต่างจะมาบังไม่ให้ผมเห็นตัวบอส” พูดจบเขาก็คำนับให้ผู้ชมอีกครั้ง
“ผมจะยินดีมากกว่าหากพวกท่านโดเนททุกอย่างให้หลังจากล่าบอสเสร็จแล้ว และสำหรับคนที่รอดูปฏิกิริยาและท่าทีของผมหลังโดเนทนั้น ต้องขอโทษด้วยที่ผมอาจจะแสดงออกมาได้ไม่มากเท่าไหร่ และผมคิดว่าอาจจะแชทไม่ได้ด้วย”
พอพูดจบแล้วฮยอนนูก็ปิดหน้าต่างแชททิ้งไป ตอนนี้เป็นเวลาที่เขาต้องจดจ่ออยู่กับการล่าเรดบอสแล้ว ไม่รอช้าฮยอนนูก็ลุยเข้าไปยังถิ่นของยักษ์ใหญ่ที่เขาเพิ่งเจอเมื่อวานนี้โดยทันที
***
ตอนแรกมันอาจจะดูเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ฮยอนนูรู้จากหน้าต่างแสดงข้อมูลว่ามันคือมังกรทะเลทรายแห่งความแปรปรวน ซึ่งมันมีที่มาจากสายพันธุ์ย่อยของมังกรโดยตรง อย่างไรก็ตามฮยอนนูยังคงมั่นใจอยู่มาก แน่นอนว่าครั้งนี้เขาคงไม่อาจฆ่ามันให้ตายได้ภายในดาบเดียวเหมือนกับพวกก็อบลิน ถ้าเขาทำได้เขาคงจะเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดในอารีน่าไปแล้ว ถึงอย่างนั้นเขาก็พอจะสามารถล่ามันได้
‘ถ้าใช้การควบคุมพลังเวทเสริม ฉันต้องสร้างความเสียหายได้มากพอแน่’
“ทุกคนครับ นั่นคือเป้าหมายของผมในวันนี้ เป็นไงครับมันดูใหญ่มากเลยใช่ไหมล่ะ? แต่ไม่ต้องกังวลนะครับ อีกไม่กี่ชั่วโมงมันจะต้องลงไปนอนกองอยู่กับพื้นแน่นอน”
‘เจ้านี่ก็มีวงกลมอยู่ที่หลังของมันเหมือนกันสินะ’
ฮยอนนูอัญเชิญทังอีออกมาและให้มันช่วยบัฟเขา
[คุณได้รับบัฟ ‘การเคลื่อนที่ของหมี’]
[พลังโจมตีทางกายภาพเพิ่มขึ้น]
[พละกำลังเพิ่มขึ้น]
[คุณได้รับบัฟ ‘คำอวยพรแห่งป่า’]
[พลังป้องกันเพิ่มขึ้น]
[พลังชีวิตจะฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง]
ร่างกายของเขากำลังเดือดพล่านไปด้วยพลังอันมหาศาล ใบหน้าของชายหนุ่มแสดงให้เห็นถึงความจริงจังจากการจดจ่อสมาธิ
“ผมจะเริ่มละนะ!” ฮยอนนูตะโกนคำพูดนี้ออกมาเพื่อบอกกับผู้ชมทุกคน
[เปิดใช้งาน ‘ผู้ชำนาญการต่อสู้’ แล้ว]
[ค่าสถานะของคุณเพิ่มขึ้น]
[ค่าสถานะ ‘พลังงานการต่อสู้’ ทำให้ค่าสถานะของคุณเพิ่มขึ้น]
[ปาร์ตี้อีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าคุณ]
[ค่าสถานะจะได้รับการเพิ่มขึ้นอีก]
‘ตอนนี้แหละ!’
จังหวะที่เจ้ามังกรพักหายใจอยู่นั้นเอง ฮยอนนูก็ปลดปล่อยพลังแห่งความกดดันออกมา การเคลื่อนที่ของฮยอนนูเหมือนกับสายฟ้าที่ผ่าลงมาในชั่วพริบตา เขาเปิดฉากการโจมตีโดยปล่อยคลื่นพระจันทร์เสี้ยวออกไป คลื่นพลังงานสีฟ้าขนาดกว่าสามเมตรพุ่งไปยังมังกรทะเลทรายแห่งความแปรปรอนอย่างรวดเร็ว
“โฮกกกก!” เสียงร้องของมังกรทะเลทรายดังไปทั่วบริเวณเคียงคู่กับเสียงระเบิดจากคลื่นพลัง ฮยอนนูกระโดดขึ้นมาอยู่บนตัวของมัน จากนั้นก็แทงดาบยาวปลายมนลงไปในจุดที่เขาเล็งไว้ทันทีโดยไม่รอช้า
‘จากนี้ไปจะเป็นของจริงแล้ว’
เมื่อมังกรทะเลทรายแห่งความแปรปรวนถูกโจมตีที่เกร็ดด้านหลัง มันก็เริ่มแสดงอาการคุ้มคลั่งออกมา สถานการณ์ในตอนนี้แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหากฮยอนนูถูกมันโจมตีเข้าเพียงครั้งเดียวละก็ เขาจะต้องหลุดออกจากเกมไปอย่างแน่นอน ดังนั้นการจดจ่อกับการต่อสู้ของฮยอนนูจึงค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
***
ยังไม่มีคอมเมนต์ในช่องแชทเลยแม้แต่ข้อความเดียวตั้งแต่ฮยอนนูเริ่มการโซโล่เรดบอส ทว่าไม่ได้เป็นเพราะฮยอนนูแบนพวกเขาจากการแชทแต่อย่างใด หากเป็นเพราะผู้ชมหลายหมื่นคนกำลังจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ของชายหนุ่มจนลืมหายใจต่างหาก การเคลื่อนที่ของฮยอนนูนั้นช่างมหัศจรรย์เกินกว่าที่พวกเขาจะเข้าใจได้
– ว้าว! การเคลื่อนที่แบบนั้นมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย
– โซโล่เรดบอส! จะมีใครทำแบบนี้ได้กัน?
– ถ้าเขาทำสำเร็จละก็ ผู้เล่นที่มีความสามารถในการคุมเกมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอารีน่าจะต้องเป็นบอสใหญ่ประจำซอยอย่างแน่นอน
ทว่าตอนนั้นเองฮยอนนูก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก มังกรทะเลทรายแห่งความแปรปรวนปล่อยลมหายใจอันร้อนแรงของมันออกมา พลังทำลายล้างของมันครอบคลุมเส้นทางที่ฮยอนนูสามารถเคลื่อนที่ไปได้ทั้งหมด ในมุมมองของผู้ชมนั้นตอนนี้ฮยอนนูน่าจะโดนโจมตีโดยตรงจากลมหายใจของมันไปแล้วด้วย
อย่างไรก็ตามพวกเขากำลังประเมินความสามารถของฮยอนนูต่ำเกินไป และไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มผู้มากความสามารถนี้ แท้จริงคือปีศาจแห่งทุนนิยมผู้ชื่นชอบเงินตราเสียยิ่งกว่าอะไร
***
‘วู้ว~ คิดว่าจะต้องตายซะแล้ว’
เขาหลบลมหายใจของมังกรทะเลทรายแห่งความแปรปรวนได้อย่างเฉียดฉิว เป็นเพราะฮยอนนูตั้งใจล่อลวงให้มันปล่อยลมหายใจออกมาอยู่แล้วนั่นเอง เป้าหมายที่แท้จริงเขาคือช่วงเวลาหลังจากที่มันปล่อยลมหายใจออกมาต่างหาก
‘นั่นคือจุดอ่อนอันใหญ่หลวงของมันอีกจุดหนึ่ง’
ช่วงเวลาที่อ่อนแอที่สุดของกิ้งก่าทะเลทรายก็คือหลังจากที่มันใช้ลมหายใจไปแล้ว หลังจากที่มันพ่นลมหายใจออกมาโดยไม่ระวังอะไรเลยเป็นระยะเวลาห้าวินาทีนั้นเป็นนาทีทองที่ฮยอนนูจะเริ่มโต้กลับ ในตอนที่มังกรทะเลทรายรู้สึกถึงอะไรบางอย่างและขยับตัวอีกครั้ง ฮยอนนูก็ปีนขึ้นไปบนหลังของมันแล้ว แสงสีฟ้าเปล่งประกายทะลวงเข้าไปในเกล็ดด้านหลังของมังกรทะเลทรายอีกครั้ง และมันเปิดแผลเดิมจากดาบของฮยอนนูให้กว้างมากขึ้นไปอีก
“โฮกกกกก!!!”
กรงเล็บด้านหน้าทั้งสองของมันขยับไปมาอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะโจมตีมนุษย์ที่ทำร้ายมันให้เหมือนกับการตะปบแมลงวัน ฮยอนนูเหวี่ยงดาบยาวปลายมนของเขาเพื่อยับยั้งการโจมตีจากขาหน้าของมัน ทว่าในตอนนั้นเองพลังที่ได้รับจากเซตไอเทมแห่งยักษ์ทั้งสองทักษะก็หายไปพอดี ทำให้พละกำลังของฮยอนนูไม่อาจเทียบมังกรทะเลทรายแห่งความแปรปรวนได้อีกต่อไป
ฮยอนนูถูกทำให้กระเด็นออกไปหลายเมตร ทว่าไม่นานเขาก็ลุกขึ้นมาและตั้งท่าต่อสู้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามร่างกายอันใหญ่โตของมังกรทะเลทรายแห่งความแปรปรวนก็ยืนตระหง่านรอฮยอนนูอยู่ตรงหน้าแล้ว และก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นนั้นเอง จู่ ๆ เจ้ามังกรทะเลทรายก็คำรามออกมาด้วยเสียงที่ดังสนั่น
“ไอ้เจ้านายท่าน! ตอนนี้แหละ!” เป็นทังอีนั่นเองที่ยิงสายฟ้าออกไปช่วยฮยอนนู พลังเวทของทังอีมากพอที่จะสร้างความเสียหายให้กับเจ้ามังกรตัวนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นการโจมตีติดคริติคอลด้วยเมื่อเล็งสายฟ้าไปยังเกล็ดด้านหลังของมันแล้ว
‘รู้สึกเหมือนเมื่อก่อนเลยแฮะ’
ฮยอนนูได้พักหายใจอีกครั้งเมื่อทังอีเข้ามาช่วย จากนี้ไปเขาคงไม่สามารถใช้ประสบการณ์ต่อสู้ในอดีตมาเป็นตัวช่วยในการต่อสู้ได้อีกแล้ว ถึงเวลาที่จะสร้างเส้นทางใหม่ของตัวเองจริง ๆ เสียที เขาจะต้องใช้พลังที่มีทั้งหมดโจมตีมังกรตัวนี้ และจะยั้งมือไม่ได้เด็ดขาดเพราะเขาจะต้องล่าเรดบอสครั้งนี้ให้สำเร็จ
***
ตั้งแต่การล่าเรดบอสครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นจนถึงตอนนี้เวลาก็ผ่านไปสามชั่วโมงแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นไม่ว่าจะเป็นคนที่กำลังสู้อยู่หรือแม้แต่ผู้ชมเองต่างก็ไม่รู้สึกถึงเรื่องเวลาเลย
– ว้าว! เวลาผ่านไปสามชั่วโมงแล้ว
– ไทม์แมชชีนนี่ทำงานได้ดีจริง ๆ
– แค่ดูการล่านี่สามชั่วโมงฉันยังรู้สึกเหนื่อยเลย ถ้าต้องไปสู้เองสามชั่วโมงละก็ ฉันคงต้องอ้วกแตกแน่ ๆ
และในจังหวะนี้เองช่วงเวลาสำคัญก็มาถึง อีกทั้งมันยังเป็นช่วงเวลาสุดท้ายด้วยเช่นกัน มันไม่ได้ดูตึงเครียดหรือน่าตื่นเต้นอะไร ฮยอนนูแค่ได้โอกาสปิดฉากการต่อสู้ที่ดำเนินมานานกว่าสามชั่วโมงก็เท่านั้น เนื่องจากในที่สุดมังกรทะเลทรายแห่งความแปรปรวนก็เริ่มเหนื่อยล้า การต่อสู้ในสามชั่วโมงที่ผ่านมาทำให้มันบาดเจ็บอย่างหนัก จนถึงจุดที่ว่าเกล็ดด้านหลังของมันถูกทำลายจนแทบไม่เห็นเค้าเดิม และร่างกายทั้งตัวของมันก็ถูกเฉือนเป็นริ้ว ๆ ด้วยดาบยาวปลายมนของฮยอนนู
“ทังอี!” ฮยอนนูเรียกหาทังอีทันที เขาจะไม่ยอมให้โอกาสนี้หลุดมือไปเด็ดขาด
“เข้าใจแล้ว!” สายฟ้าของทังอีพุ่งไปยังเกล็ดด้านหลังที่ขาดรุ่งริ่ง
“โฮกกกก!” เสียงคำรามทุ้มต่ำและโหยหวนดังขึ้นเนื่องจากความเจ็บปวดของเจ้าสัตว์ร้าย ไม่รอช้าฮยอนนูพุ่งไปข้างหน้าดังเช่นแสงสว่างที่พุ่งผ่านอากาศ เขาใช้เวลาเพียงเสี้ยววิในการรวบรวมพลังเวทที่เหลืออยู่ทั้งหมด
“จบสิ้นกันซักที!”
ดาบของฮยอนนูพุ่งเข้าสะบั้นคอของมังกรทะเลทรายแห่งความแปรปรวนพร้อมกับแสงสีฟ้าขนาดใหญ่ที่เปล่งออกมาพร้อม ๆ กัน มันคือคลื่นพระจันทร์เสี้ยวนั่นเอง ทว่าครั้งนี้ขนาดของมันใหญ่กว่าที่เขาใช้ตอนแรกมากและมันก็ใหญ่พอที่จะตัดคอของมังกรทะเลทรายแห่งความแปรปรวนลงได้
การต่อสู้อันยาวนานกว่าสามชั่วโมงได้เดินทางมาถึงจุดจบแล้ว