Ranker’s Return - ตอนที่ 42
ฮยอนนูแยกทางกับยูจุนโฮเมื่อเขามาถึงพื้นที่ชนเผ่าทูม่า จากนี้ไปเขาต้องไปทำภาระกิจด้วยตัวเอง
“ทังอี!” ฮยอนนูตัดสินใจอัญเชิญทังอีออกมาตั้งแต่ต้น เนื่องจากเขาไม่มั่นใจว่าจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ในรูปแบบไหน การอัญเชิญทังอีจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวเขามากยิ่งขึ้น
“ทังอีมาแล้ว!” คราวนี้ทังอีปรากฏตัวออกมาพร้อมกับตีลังกาโชว์กลางอากาศหนึ่งตลบ
ท่าทางในแต่ละวันที่ผ่านมาของมันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ
“ยังเป็นทะเลทรายอยู่อีกเหรอเนี่ย ไอ้เจ้านายท่าน”
“ตอนนี้ยังไงก็ต้องเป็นทะเลทรายไปก่อน ทนหน่อยนะทังอี”
ฮยอนนูพูดจาปลอบประโลมทังอีเพื่อทำให้มันหยุดบ่น
***
เท่าที่ฮยอนนูจำได้พื้นที่ชนเผ่าทูม่าเป็นพื้นที่ล่าที่ค่อนข้างน่ารำคาญและยุ่งยากอยู่พอสมควร สภาพแวดล้อมของมันเป็นทะเลทรายที่มีทรายดูดอยู่เต็มไปหมด หากเขาเจอทรายดูดตอนที่กำลังสู้กับมอนสเตอร์อยู่ละก็ เขาต้องโดนเด้งออกจากเกมอย่างแน่นอน และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือพวกก็อบลินทะเลทราย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘พวกก็อบลินชาแมน’ ที่ขี่แมงป่องทะเลทรายนั้นสามารถสร้างความยุ่งยากให้เขาได้ไม่น้อยในอดีต
อย่างไรก็ตามสำหรับฮยอนนูแล้ว พวกมันเป็นเพียงมอนสเตอร์ประเภทหนึ่งเท่านั้น ร่างของแมงป่องทะเลทรายถูกพลังงานจากดาบยาวปลายมนของเขาทำลายทิ้งอย่างง่ายดาย ไม่รอช้าฮยอนนูอาศัยจังหวะที่ก็อบลินชาแมนทะเลทรายกำลังมึนงงอยู่ตวัดดาบคู่ใจในมือไปยังลำคอของมันโดยทันที ไม่มีก็อบลินตัวไหนที่จะมีชีวิตรอดหลังจากถูกดาบของฮยอนนูสะบั้นคอจนขาดแล้ว
[คุณได้ฆ่าก็อบลินชาแมนแห่งทะเลทราย]
[ได้รับค่าประสบการณ์]
[เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น]
[พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู]
“ทีนี้ก็เหลืออีกแค่ที่เดียวเท่านั้น”
หลังจากที่ล่ามาสองวันแล้ว ฮยอนนูก็ตระเวนไปยังบริเวณรอบ ๆ พื้นที่ชนเผ่าทูม่า แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ยังมองหาเบาะแสเกี่ยวกับภาระกิจนี้ไม่เจอ
‘บอกใบ้อะไรหน่อยสิ…’
ฮยอนนูรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมาก ภาระกิจบางภาระกิจในเกมอารีน่าก็ไม่เป็นมิตรกับผู้เล่นและมันก็สร้างความหงุดหงิดให้แก่ผู้เล่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“แน่ใจนะว่าไม่ใช่ที่อื่น?”
ฮยอนนูคิดถึงความเป็นไปได้ที่แย่ที่สุด บางทีพวกกบฏอาจจะอยู่ที่ทะเลสาบไบรอันไม่ก็ที่ปราสาทลิป้าก็ได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นฮยอนนูก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา
“เฮ้อ~ หวังว่าคงจะเป็นงั้นนะ”
ในตอนนั้นเองฮยอนนูก็ไปสะดุดตากับอะไรบางอย่างเข้า ไม่ไกลออกไปมีก็อบลินอยู่กลุ่มหนึ่งที่กำลังถูกทรายดูดลงไป
“รนหาที่ตายจริง ๆ ทำไมถึงเอาตัวเองไปให้ทรายดูดแบบนั้นล่ะ?”
ฮยอนนูอดรู้สึกสงสัยไม่ได้ เขามุ่งหน้าไปตรวจสอบอย่างรวดเร็ว นี่อาจจะเป็นคำใบ้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับภาระกิจที่เขาไม่รู้ก็ได้
***
น่าเสียดายที่เหตุการณ์นั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับภาระกิจที่เขากำลังทำอยู่ อย่างไรก็ตามมันก็ยังถือเป็นเรื่องดีสำหรับฮยอนนู เนื่องจากสิ่งที่เขาเจอนั้นมีความคล้ายคลึงกับดันเจี้ยนส่วนตัว มีข้อความปรากฏอยู่ตรงหน้าฮยอนนูเมื่อเขามาอยู่ตรงหน้าทรายดูดนั้น
[คุณต้องการจะเข้าไปยังหมู่บ้านของก็อบลินทะเลทรายหรือไม่?]
“ฉันจะเข้าไป”
และแล้วฮยอนนูกับทังอีก็หายไปจากพื้นที่ชนเผ่าทูม่า
***
ฮยอนนูได้เข้ามายังดันเจี้ยนส่วนตัวแล้ว และสถานที่นี้ดูเหมือนเขาวงกตมากกว่าที่จะเป็นหมู่บ้าน “ทังอี นี่เราเข้ามาผิดที่หรือเปล่า?”
“นั่นสิไอ้เจ้านายท่าน ฉันไม่คิดว่าจะได้ออกไปเร็ว ๆ นี้หรอกนะ”
ดันเจี้ยนส่วนตัวที่มีรูปแบบเขาวงกตแบบนี้เป็นรูปแบบที่ฮยอนนูไม่ชอบมากที่สุด เขาชอบดันเจี้ยนธรรมดา ๆ ที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์มากกว่า เนื่องจากเขามั่นใจในทักษะการคุมเกมของตัวเอง ตัวอย่างเช่นดันเจี้ยนรูปแบบโคลอสเซียมและดันเจี้ยนที่ต้องบุกประตูของฝ่ายศัตรูเข้าไป
“ทังอี เราเลือกที่จะไปทางซ้ายหรือขวาได้ด้านเดียวเท่านั้นนะ”
“ฉันคิดว่าทางขวาก็น่าจะดีนะ ไอ้เจ้านายท่าน”
“งั้นก็ไปทางขวากันเถอะ”
***
“ไอ้เจ้านายท่าน ดูเหมือนจะไม่ใช่ทางที่ถูกต้องนะ”
“จริงด้วย ลองไปทางซ้ายดูก็แล้วกัน”
แม้ว่าเขาจะพยายามผ่านดันเจี้ยนนี้อยู่นานกว่าสิบสองชั่วโมง แต่ฮยอนนูก็ยังไม่อาจผ่านมันไปได้
‘ฉันควรจะเลื่อนการสตรีมออกไปก่อนหรือจะสตรีมไปพร้อม ๆ กับหาทางออกจากเขาวงกตดี?’
“เรื่องใหญ่เอาการอยู่นะ”
ในที่สุดฮยอนนูก็รู้ตัวว่าตอนนี้เป็นช่วงเช้าของวันจันทร์แล้ว เหลือเวลาอีกไม่ถึงสิบสองชั่วโมงเขาก็ต้องสตรีม
“ทังอี ไม่มีเวลาพักแล้วนะ ฉันต้องรีบผ่านดันเจี้ยนนี้ให้เร็วที่สุด”
***
ฮยอนนูใส่หน้ากากและพูดอย่างร่าเริงว่า “สวัสดีครับทุกท่าน ผมบอสใหญ่ประจำซอยเอง”
– ทำไมพื้นหลังวันนี้ถึงได้มืดจัง?
– เขาเข้าไปในเขาวงกตไหนกันเนี่ย?
– วันนี้จะเป็นการลุยแบบพิเศษสินะ
การตอบรับจากผู้ชมต่างก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน พวกเขาต่างก็สงสัยว่าทำไมฮยอนนูถึงเปิดสตรีมในดันเจี้ยนเขาวงกต “ผมได้รับคำชี้แนะมาว่าสตรีมครั้งที่แล้วมันสั้นไปน่ะครับ”
ฮยอนนูกำลังโกหก อันที่จริงเขาไม่เคยได้รับความคิดเห็นหรือคำชี้แนะแบบนั้นมาก่อนเลย อย่างไรก็ตามเขาจำเป็นต้องโกหกเพื่อให้การสตรีมเป็นไปอย่างราบรื่น
“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคอนเทนต์ที่ผมเตรียมไว้ในวันนี้จึงเป็นการลุยดันเจี้ยนเขาวงกตส่วนตัวครับ ดังนั้นการสตรีมวันนี้จะสตรีมกันยาว ๆ จนกว่าผมจะผ่านดันเจี้ยนนี้เลยครับ”
– บอสใหญ่ประจำซอยจะสตรีม 24 ชั่วโมงเลยเหรอ?
– ฉันว่าบางทีอาจจะยาวไปจนถึงพรุ่งนี้เลยก็ได้
– บอสใหญ่นี่ก็โม้ไปเรื่อย มันน่าจะสตรีมยาวยันวันศุกร์เลยละนะ
ฮยอนนูกวาดสายตาดูช่องแชทอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่ผู้คนในช่องแชทกำลังหัวเราะเยาะฮยอนนู ความคิดเห็นส่วนใหญ่ต่างก็คิดว่าเขาไม่มีทางผ่านดันเจี้ยนเขาวงกตนี้โดยใช้เวลาไม่นานแน่ ๆ
“เริ่มกันเลยก็แล้วกัน”
การหลอกล่อผู้ชมของเขาเริ่มขึ้นแล้ว
***
อันที่จริงสามชั่วโมงที่ผ่านมาก่อนสตรีม ฮยอนนูเจอจุดสิ้นสุดของดันเจี้ยนนี้อยู่ก่อนแล้ว ถ้าจะพูดให้ชัดเจนคือเขาหาจุดที่บอสประจำดันเจี้ยนอยู่เจอแล้ว ทว่าเขาไม่มีเวลามากพอจะเตรียมเนื้อหาการสตรีมอื่น ดังนั้นเขาจึงใช้ความคิดนี้ในการสตรีม
เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้น ฮยอนนูจึงใช้เวลาอีกสามชั่วโมงต่อมาตระเวนไปรอบ ๆ ดันเจี้ยนอย่างขะมักเขม้น เขาต้องการจะจดจำรูปแบบภายในดันเจี้ยนนี้ให้ได้ทั้งหมดเพื่อให้ง่ายต่อการสร้างไฮไลท์สำหรับการสตรีม
“มีกับดักอยู่ข้างหน้า แถมมีพวกก็อบลินแอบอยู่ด้วย ฉันจะให้มันเป็นหนึ่งในไฮไลท์ก็แล้วกัน”
ฮยอนนูวางแผนสร้างสถานการณ์ขึ้นมา
‘เตรียมการประมาณนี้ก็น่าจะพอสำหรับการสตรีมแล้วละนะ’
“ไอ้เจ้านายท่านเจ้าเล่ห์สุด ๆ ไปเลย”
***
เมื่อการสตรีมเริ่มต้นขึ้น ฮยอนนูก็ทำตามแผนที่เขาใช้เวลากว่าสามชั่วโมงสร้างขึ้น เขาทำตามทุก ๆ อย่างที่วางแผนเอาไว้
“ทุกคนครับ สถานที่แห่งนี้คือดันเจี้ยนส่วนตัวที่เรียกกันว่าหมู่บ้านก็อบลินทะเลทราย ที่นี่มีก็อบลินทะเลทรายอยู่เต็มไปหมดเลยครับ สิ่งที่น่าทึ่งคือพวกมันแข็งแกร่งกว่าพวกก็อบลินในพื้นที่ชนเผ่าทูม่าซะอีก”
– ให้พิกัดด้วยสิ
– เปิดระยะพิกัดให้ดูด้วยดิ!
– จะไม่ยอมบอกพิกัดให้พวกเรารู้หน่อยเหรอ?
“พวกคุณสามารถรู้พิกัดได้จากวิดีโอในภายหลังครับ”
จากนั้นก็อบลินกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น ในเขตพื้นที่ชนเผ่าทูม่านั้นปกติจะมีก็อบลินปรากฏตัวขึ้นมาทีละห้าถึงหกตัว ทว่าในดันเจี้ยนนี้พวกมันโผล่ออกมาทีละไม่ต่ำกว่าสิบตัว ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าปกติถึงสองเท่า อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับฮยอนนู
คลื่นพระจันทร์เสี้ยวเคลื่อนที่ผ่านเส้นทางที่พวกมันกำลังขวางทาง เหล่าก็อบลินกว่าสิบตัวถูกกำจัดไปจนเหลือเพียงแค่ตัวเดียว และมันก็ถูกทังอียิงสายฟ้าปิดฉาก
[คุณได้ฆ่าก็อบลินแห่งทะเลทราย]
[ได้รับค่าประสบการณ์]
“ดูง่ายมากเลย แถมยังน่าสนุกด้วยใช่ไหมครับ?”
ฮยอนนูดูจะสบาย ๆ มากในการต่อสู้
***
การสตรีมของฮยอนนูผ่านไปได้อย่างลื่นไหล เขาทำตามแผนการที่วางเอาไว้และดึงดูดการโต้ตอบจากผู้ชมได้เป็นอย่างดี
– ว้าว! ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยนะเนี่ย
– ตรงนี้เป็นจุดที่ก็อบลินทะเลทรายโผล่มาสินะ
– สงสัยต้องไปเปลี่ยนผ้าอ้อมแล้วละ
ฮยอนนูยังคงทำตามแผนการต่อไป เขาแกล้งทำเป็นเดินไปรอบ ๆ ดันเจี้ยนมานานกว่าหกชั่วโมงและจู่ ๆ เขาก็หาห้องของบอสในดันเจี้ยนนี้เจอเข้าด้วยความบังเอิญ ทังอีรู้ถึงสถานการณ์นี้ดีจึงทำให้มันมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ อย่างไรก็ตามผู้ชมก็ยังคงมองไม่ออก
‘เลวทรามจริง ๆ ไอ้เจ้านายท่าน บางครั้งคงต้องเอาหน้ากากนั่นออกซะบ้างแล้ว!’
“ทุกคนครับวันนี้ผมโชคดีมากเลย โกลด์คอยน์ยังไม่ได้ทะลักเข้ามาเท่าไหร่ ดังนั้นหลังจากสตรีมจบผมจะรับส่วนที่เหลือก็แล้วกันนะครับ นี่เป็นห้องของบอสแล้ว”
– เขามีฝีมือดีแถมยังมากับดวงอีกนะ ทำไมฉันไม่มีอะไรแบบนั้นบ้างเลย?
– ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน ทางฉันนี่แทบไม่มีอะไรดีเลย
– ทั้ง ๆ ที่คิดว่าน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสิบสองชั่วโมงแท้ ๆ แต่กลับใช้เวลาจริง ๆ แค่หกชั่วโมงเท่านั้น
แผนการที่ฮยอนนูวางเอาไว้ดำเนินมาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ห้องของบอสเป็นพื้นที่ที่ฮยอนนูยังไม่ได้สำรวจอย่างจริงจัง บางทีสถานที่แห่งนี้อาจมีอะไรบางอย่างที่ไม่คาดคิดรอเขาอยู่
“เอ๋?” แม้แต่ฮยอนนูเองก็ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
‘ฉันน่าจะได้อะไรดี ๆ เยอะเลยวันนี้’
หลังจากที่ฮยอนนูเข้าไปในห้องบอสแล้ว ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของฮยอนนูคือก็อบลินทะเลทรายจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีก็อบลินชาแมนจำนวนหนึ่ง รวมถึงฮ็อบก็อบลินทะเลทรายอีกหนึ่งตัวรวมอยู่ในนั้นด้วย
“วันนี้โชคดีจริง ๆ”
– ถึงจะโชคดีแต่คงเอาพวกมันไม่ลงหรอก 555
– วันนี้บอสใหญ่ประจำซอยน่าจะเจองานช้างแล้วละ
– มันคือเซอร์วิสพิเศษของบอสใหญ่ประจำซอยหรือเปล่า 555
– ผู้คลั่งไคล้บอสใหญ่ประจำซอย บริจาคให้คุณ 120 โกลด์
– ยืดเวลาอีก 3 ชั่วโมง บริจาคให้คุณ 333 โกลด์
“ขอบคุณสำหรับโกลด์คอยน์นะครับ เอาล่ะ! ผมจะรีบ ๆ ลุยเลยก็แล้วกัน”
[คุณได้รับบัฟ ‘การเคลื่อนที่ของหมี’]
[พลังโจมตีทางกายภาพเพิ่มขึ้น]
[พละกำลังเพิ่มขึ้น]
[คุณได้รับบัฟ ‘คำอวยพรแห่งป่า’]
[พลังป้องกันเพิ่มขึ้น]
[พลังชีวิตจะฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง]
ฮยอนนูพุ่งเข้าใส่กองทัพก็อบลินตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว