Ranker’s Return - ตอนที่ 45
คนแคระทั้งหมดรวมตัวกันพร้อมกระเป๋าเดินทาง
“ของพวกนี้มันอะไรกัน?”
“อาวุธที่พวกเราสร้างขึ้นยังไงละ เราจะไม่ทิ้งอะไรไว้ที่นี่”
เมื่อเห็นคนแคระแบกสัมภาระที่ใหญ่กว่าร่างกายของพวกเขาฮยอนนูจึงถามค้อนทองคำ “นายขนของพวกนี้ออกไปหมดเลยได้เหรอ?”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? นายเป็นคนแนะนำให้หนีไม่ใช่หรือไง?”
ฮยอนนูถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ ใคร ๆ ก็ต้องรู้สึกสงสัยเมื่อเห็นพวกเขาแบกสัมภาระมากมายเช่นนี้ และในไม่ช้าสิ่งที่ฮยอนนูกังวลก็กลายเป็นความจริง
“อเดล! นายกำลังทำอะไรอยู่กัน?” ชาเลสเรียกหาฮยอนนู
สีหน้าของฮยอนนูบิดเบี้ยวไปในบัดดลเมื่อได้ยินเสียงของชาเลส ทว่าภายในชั่วพริบตาสีหน้าของเขาก็กลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็วก่อนที่จะหันหน้ามาตามคำเรียกของชาเลส
“อ้าว! ชาเลสเองเหรอ?”
“ใช่! ฉันถามว่านายกำลังทำอะไรอยู่ แล้วจะไปไหนกับคนแคระกัน?”
“มันเป็นคำสั่งของเจ้านายของฉัน สถานที่แห่งนี้จะถูกปิดในไม่ช้า พวกคนแคระถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญของพวกเรา ฉันจึงได้รับคำสั่งให้ย้ายพวกคนแคระและอาวุธออกไปก่อนน่ะ”
พวกคนแคระได้แต่แอบส่ายหัวให้กับคำแก้ตัวหน้าด้าน ๆ ของฮยอนนู อย่างไรก็ตามชาเลสกลับยอมรับมันอย่างง่ายดาย “งั้นเหรอ? ถ้าเป็นคำสั่งของเฟเลี่ยนแล้วละก็ ฉันเองก็ไม่กล้าขัดหรอก”
ฮยอนนูจ้องมองชาเลสที่ค่อย ๆ เดินจากไป จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมา “เฮ้อ~ ผ่านไปได้ด้วยดีจนน่าเหลือเชื่อเลยแฮะ”
“ตอนนี้ไปกันต่อได้แล้ว”
“จะว่าไปไม่มีการใช้เวทมนตร์สะกดหรือควบคุมพวกนายไว้เลยงั้นเหรอ?”
“เวทมนตร์ของพวกมันใช้ไม่ได้ผลกับพวกเราหรอก เป็นเพราะความภาคภูมิใจและเกียรติของพวกเรายังไงละ”
“งั้นก็รีบออกไปกันเถอะ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว”
ฮยอนนูและพวกคนแคระรีบหลบหนีออกจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
***
ในที่สุดเหล่าคนแคระและฮยอนนูก็หลบหนีออกจากคุกใต้ดินได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังรู้สึกไม่ไว้วางใจนักจึงตัดสินใจเดินต่อไปอีกนานก่อนที่จะหยุด
“ถ้านายมาหาฉันในภายหลังละก็ ฉันจะให้อาวุธที่เหมาะสมกับนายเอง” ค้อนทองคำพูดกับฮยอนนู
[ภารกิจถูกสร้างขึ้นแล้ว]
[ภารกิจ ‘เผ่าทั่งแดง’]
[ค้นหาเผ่าทั่งแดงที่อยู่ที่ไหนสักแห่งในเทือกเขาเฮจินและพบกับค้อนทองคำอีกครั้ง]
ระดับ: B+
เงื่อนไข: พบกับค้อนทองคำ 0/1
รางวัล: อาวุธจากค้อนทองคำ
ค้อนทองคำทิ้งภาระกิจนี้ไว้ให้เขาก่อนที่จะนำพรรคพวกของตนจากไปในที่สุด
“ฉันต้องกลับไปยังยุสมาแล้วรายงานเรื่องนี้กับจักรพรรดิก่อน” ฮยอนนูพูดจบก็ดึงใบกลับเมืองออกมาแล้วใช้งานมันทันที
***
ชายหนุ่มและหญิงสาวผมบลอนด์ที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าคิมซอกจองคือหัวหน้ากิลด์ของกิลด์ ‘ฟีนิกซ์’ นามว่าแครี่และราเชล
“นี่นายตั้งใจจะพูดอะไรกันแน่?”
“แล้วนายจะถามฉันเรื่องนี้อีกกี่ครั้งกัน? หูนายหนวกหรือยังไง?”
แครี่พยายามค้นหาความตั้งใจที่แท้จริงของคิมซอกจอง อย่างไรก็ตามคิมซอกจองก็ไม่จำเป็นต้องแบ่งปันเรื่องราวความสำเร็จของตัวเองกับพวกเขา ปัจจุบัน ‘โลกใหม่’ เป็นกิลด์ที่ก้าวหน้าที่สุดในการแข่งขันทำเนื้อเรื่องหลัก เทียบกันแล้ว ‘ฟีนิกซ์’ นั้นช้ากว่า ‘โลกใหม่’ ไปหนึ่งก้าวอย่างเห็นได้ชัดเจน
“แล้วนายต้องการให้เราเข้าร่วมได้เมื่อไหร่กันล่ะ?” ราเชลเอ่ยปากถามคิมซอกจอง
เมื่อได้ยินเช่นนั้นคิมซอกจองจึงตอบว่า “บุคลิกของเธอนี่ดีพอ ๆ กับหน้าตาเลยนะ มาวันนี้หรือวันมะรืนนี้ตามแต่เวลาสะดวกของเธอเลยก็แล้วกัน”
คิมซอกจองชอบบุคลิกของราเชล ล่ำลือกันว่าบุคลิกของเธอเร่าร้อนมาก อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงแล้วมันดุเดือดยิ่งกว่าที่เล่าลือกันเสียอีก
สายตาของแครี่จับจ้องไปที่ราเชลหลังจากที่เธอยอมรับข้อเสนอของคิมซอกจอง
“พวกเราจะเข้าร่วมหรือไม่มันก็ไม่ต่างกันหรอกนะ ในเมื่อพวกเขาให้โอกาสเราแล้ว รับมันไว้ซะหน่อยก็แล้วกัน ถ้าพวกเราแพ้อยู่ที่นี่ก็คงไม่เหลืออนาคตสำหรับพวกเราแล้วละ”
เมื่อได้ยินคำพูดของราเชลแครี่ก็เห็นพ้องต้องกันว่า ‘ถูกต้อง! ไม่มีอีกแล้ว’
“ถ้างั้นก็ฝากด้วยนะ” แครี่จับมือกับคิมซอกจอง
ทว่าในขณะนั้นเองคิมซอกจองก็อุทานขึ้นมาว่า “จริงสิ! อย่าไปยุ่งกับบอสใหญ่ประจำซอยเชียว จริง ๆ แล้วนั่นก็เป็นอีกเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงเชิญชวนพวกนายยังไงละ”
***
การร่วมมือกันระหว่างสมาพันธ์โลกใหม่และฟีนิกซ์กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในชุมชนของเกมอารีน่าทันทีที่ข่าวเริ่มแพร่กระจายออกมา
– การร่วมมือกันระหว่างโลกใหม่กับฟีนิกซ์จะเป็นการร่วมมือกันเพื่อทำภารกิจเนื้อเรื่องหลักหรือไม่?
– แทบจะกล่าวได้ว่าโลกใหม่ได้ฟีนิกซ์มาครอบครองเลยก็ว่าได้
– ฟีนิกซ์จะผงาดสู่ท้องฟ้าโดยอาศัยโลกใหม่ได้หรือไม่?
ฮยอนนูรู้ข่าวการร่วมมือกันระหว่างโลกใหม่กับฟีนิกซ์หลังจากที่เขาออกจากเกมมาได้ซักพักแล้ว
“ฮยองคนนั้นนี่! อะไรกัน? เขาเป็นผู้นำกิลด์โลกใหม่เลยนะ”
ฮยอนนูได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของคิมซอกจองจากตอนที่เขาเคยส่งวิดีโอให้เอลลิสตัดต่อ ตอนนั้นเอลลิสถามเขาว่า ‘วิดีโอนี้แสดงให้เห็นใบหน้าของหัวหน้ากิลด์โลกใหม่ จะต้องตัดต่อใบหน้าของเขาด้วยไหม?’ เมื่อฮยอนนูรู้ว่าคนคนนั้นคือคิมซอกจองจึงได้สั่งยกเลิกการตัดต่อวิดีโอนั้นทันที
“พูดอีกอย่างก็คือพวกเขากำลังทำเควสเนื้อเรื่องหลักที่อยู่ทางตอนใต้ในขณะที่ฉันกำลังทำอยู่ทางตะวันตกสินะ”
อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่เรื่องที่ฮยอนนูจะต้องให้ความสนใจ ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังมีปัญหาที่น่าหนักใจยิ่งกว่า เพราะว่าตอนนี้ฮยอนนูไม่สามารถทำภาระกิจเนื้อเรื่องหลักด้วยตัวคนเดียวได้อีกต่อไป มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะปกป้องปราสาทลิป้าเพียงลำพังได้สำเร็จหากกองทัพของพวกกบฏทั้งหมดบุกเข้าโจมตี ดังนั้นอย่างน้อยจะต้องมีกลุ่มคนที่คอยช่วยเขาสู้บ้าง
“จริงสิ! ทำแบบนั้นก็ได้นี่น่า” จู่ ๆ ฮยอนนูก็คิดอะไรดี ๆ ขึ้นมาได้ เขาคว้าแล็ปท็อปของเขาขึ้นมาแล้วส่งอีเมลถึงเอลลิส ไม่นานนักเอลลิสก็ได้รับอีเมลและตอบรับความต้องการของฮยอนนูทันที ผลก็คือวิดีโอใหม่ของฮยอนนูทำให้เกิดพายุโหมกระหน่ำขึ้นอีกครั้ง
[ผู้เล่นที่ต้องการเข้าร่วมในเนื้อเรื่องหลักควรมารวมตัวกันที่ปราสาทลิป้าภายในสามวัน]
และนั่นคือข้อความสำคัญที่ฮยอนนูทิ้งไว้ในวิดีโอ
อย่างไรก็ตามนั่นเป็นเนื้อหาเพียงส่วนหนึ่งของวิดีโอเท่านั้น เพราะเนื้อหาของวิดีโอนี้ได้บอกเล่าเหตุการณ์ที่ฮยอนนูเข้าพบจักรพรรดิเพื่อรายงานข่าวของพวกกบฏหลังจากที่เขาได้ลักลอบเข้าไปสำรวจในแคมป์ของพวกมันที่บริเวณทะเลสาบไบรอัน
ฮยอนนูเข้าพบจักรพรรดิและโค้งคำนับตามปกติ
“บอกข้ามาว่าเจ้ารู้อะไรมาบ้าง” จักรพรรดิพูดเร่งเร้าฮยอนนูอย่างจริงจัง
ไม่รอช้าฮยอนนูเริ่มรายงานให้จักรพรรดิทราบถึงข้อมูลที่เขาได้รู้มา “กลุ่มกบฏของปราสาทลิป้านั้นตั้งแคมป์อยู่ที่ทะเลสาบไบรอันครับ พวกเขาปกปิดทางเข้าเอาไว้โดยใช้พลังจากเวทมนตร์ นอกจากนี้ผมยังเจอพวกหนอนบ่อนไส้ข้างในด้วย”
“พวกทรยศงั้นเหรอ?”
“ใช่ครับ! ลอร์ดแห่งปราสาทลิป้ากำลังร่วมมือกับพวกมันอยู่ พวกนั้นกำลังเตรียมที่จะโจมตีปราสาทลิป้าในอีกสามวันครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นจักรพรรดิก็อดรู้สึกหนักใจไม่ได้ ฮยอนนูจ้องมองไปที่จักรพรรดิแล้วพูดต่อ “ผมยังได้ข้อมูลมาว่าจอมเวทย์มนต์ดำของบริกส์เป็นพรรคพวกของพวกนั้นด้วย”
[คุณสำเร็จภารกิจ ‘การสำรวจพวกกบฏ’]
“เจ้าทำในสิ่งที่นักผจญภัยหลายคนไม่มีสามารถทำได้สำเร็จ”
[ได้รับของขวัญจากจักรพรรดิ]
“นี่คือของขวัญที่ข้าเคยรับปากเอาไว้ เจ้าจงรีบไปที่ปราสาทลิป้าและช่วยอัลเดรดหยุดพวกมันให้ได้ เอิร์ลรามอนจะได้รับการดูแลจากอันเดรดเอง
จักรพรรดิโยนม้วนคำสั่งให้ฮยอนนู
[ภารกิจถูกสร้างขึ้นแล้ว]
[ภารกิจ ‘การป้องกันที่ดิ้นรนของปราสาทลิป้า’]
[ปกป้องปราสาทลิปาจากกลุ่มกบฏ]
ระดับ: MS
เงื่อนไข: ปกป้องปราสาทลิปา 0/1
รางวัล: ไอเทมระดับยูนีคที่เป็นผลงานชิ้นเอกของอาณาจักร
“เข้าใจแล้วครับ!” ฮยอนนูเดินออกจากพระราชวังและมุ่งไปที่ปราสาทลิป้าโดยทันที
วิดีโอของฮยอนนูดึงดูดความสนใจด้วยเหตุผลที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
– ยูแจนักดื่มนม: นี่เขาให้เรามีส่วนร่วมจริง ๆ งั้นเหรอ?
– จับแล้วตายแบบไม่รู้ตัว: เหมือนว่านะ แต่ทำไมถึงให้พวกเราร่วมกันล่ะ?
– พลังแห่งราชันย์นักกล้าม: ยังไงฉันก็ต้องไปอยู่แล้ว
– นักล่าฝันมืออาชีพ: ฉันอยู่ที่ปราสาทลิป้าแล้ว 555
เป็นเพราะผู้เล่นทั่วไปสามารถเข้าร่วมในภารกิจเนื้อเรื่องหลักได้ ความนิยมของฮยอนนูจึงเพิ่มขึ้นด้วยเหตุนี้ ความนิยมดังกล่าวสามารถรู้ได้ทันทีในไลฟ์สตรีมของฮยอนนู จำนวนผู้ชมสูงกว่าปกติเกือบสองเท่า จำนวนในตอนนี้มีถึง 234,566 คน จำนวนสตรีมเมอร์บน ‘เอ-เวิลด์’ ที่มีผู้ชมจำนวนมากขนาดนี้มีน้อยถึงขนาดที่ใช้นิ้วสิบนิ้วนับได้
“สวัสดีครับผู้ชมทุก ๆ ท่าน วันนี้ผมจะมาสตรีมเกี่ยวกับภารกิจเนื้อเรื่องหลักที่หลายคนกำลังสงสัยนะครับ”
– พวกเราเข้าร่วมได้จริง ๆ เหรอ?
– เป็นไปไม่ได้!
– ฉันเชื่อในบอสใหญ่ประจำซอยนะ
– เข้าร่วมทีมได้แบบตรง ๆ อย่างนี้เลยแฮะ
‘เป็นไปตามแผนที่วางไว้เลย’
ฮยอนนูมองไปที่หน้าต่างแชทและชี้แจงสถานการณ์ว่า “แน่นอนอยู่แล้วครับ มันไม่ใช่เรื่องโกหกหรอก วันนี้จะมีการบุกล้อมปราสาทลิป้า ดังนั้นเนื้อเรื่องหลักก็คือการปกป้องปราสาทลิป้าจากกลุ่มกบฏครับ” เขาพูดต่ออีกว่า “แน่นอนผมจะไม่แบ่งปันภารกิจนี้ ระบบของเกมอารีน่ามันเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว แต่ยังไงผมจะแบ่งปันเรื่องราวนี้กับพวกท่าน เนื่องจากจะให้ผมลิ้มรสเนื้อเรื่องหลักนี้คนเดียวก็คงจะเป็นการเสียเปล่าไปหน่อยนะครับ”
– ชิ! สุดท้ายก็ลุยคนเดียวสินะ
– แล้วมันผิดตรงไหนกัน?
– จริงด้วย แล้วพวกนั้นจะโจมตีล้อมมาตรงไหนล่ะ?
– คนแบบนั้นชอบแหกปากพูดจริง ๆ นะ
– ขอบคุณที่ให้เข้าร่วมนะ
ฮยอนนูกำลังยิ้มอยู่หลังหน้ากาก ปฏิกิริยาทั้งหมดของผู้ชมเป็นไปอย่างที่เขาต้องการ แผนการทีเขาวางไว้ก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่น ฮยอนนูบอกเวลาสตรีมครั้งหน้าของเขาให้ผู้ชมได้รับรู้ก่อนที่จะปิดสตรีม จากนั้นเขาก็ถอดหน้ากากออก ภารกิจต้องดำเนินต่อไป
“ฉันจะลุยเดี๋ยวนี้แหละ!”