Ranker’s Return - ตอนที่ 53
ตอนที่ 53
“อัศวินตัวแทนอย่างนายมีฝีมือแค่นี้เหรอ? มาตรฐานของนายด้อยกว่าของอัศวินตัวแทนคนอื่น ๆ ที่ฉันเคยพบ ฉันรู้สึกเสียใจแทนคนที่เป็นอัศวินตัวแทนเหมือนกับนายจริง ๆ” คําพูดของฮยอนนูเปรียบเสมือนลูกดอกอาบยาพิษที่ยิงเข้าทําลายหัวใจของเคลียร์ผู้ที่กําลังจะพ่ายแพ้
มันปักลงตรงกลางใจของเคลียร์เข้าอย่างจัง
เมื่อสามนาทีที่แล้วเห็นได้ชัดว่าเคลียร์เป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่สิ่งนี้ก็หายไปทันทีที่เขาพุ่งไปหาฮยอนนูด้วยดาบสองเล่มของเขา ดาบสองเล่มของเคลียร์เคลื่อนที่ไปในแนวโค้งที่ลื่นไหล เส้นโค้งเหมือนกลีบดอกกุหลาบที่งดงาม มันเหมือนกับดาบดอกพลัมที่ใช้โดยมังกรทั้งเจ็ดของเก้ามังกรแห่งสมาพันธ์เกาลูน ทว่าไม่ทันที่มันจะได้เบ่งบาน มันก็ร่วงหล่นเสียก่อน
ฮยอนนูตวัดดาบแยกวิถีดาบคล้ายกลีบดอกกุหลาบที่เคลียร์สร้างขึ้นอย่างไม่ใยดี และไม่ว่าเคลียร์จะทําให้กลีบดอกกุหลาบนั้นมากขึ้นเท่าไหร่ ฮยอนนูก็สามารถตัดมันทิ้งได้ซ้ําแล้วซ้ําเล่าเหมือนดั่งอรพิษร้ายที่คอยฉกดอกไม้นานาพันธุ์ ดาบสองคมของฮยอนนูกําลังกลืนกินทุกสิ่งที่ทําโดยเคลียร์
อัตตาของเคลียร์แตกเป็นเสี่ยง ๆ ความเชื่อมั่นในตัวเองของเขาแตกสลาย เกียรติยศของเขาเองก็หายไปจนสิ้น
และสุดท้ายเคลียร์ก็ล้มลง
“นายรู้ไหมว่าฉันต้องการจะพูดอะไร” ฮยอนนูก้มลงตรงหน้าเคลียร์ซึ่งร่างกายมีรอยแผลเต็มไปหมด “นี่คือสิ่งที่นักมวยเคยพูดไว้ ฉันจะพูดมันกับนาย”
ฮยอนนูกระซิบข้างหูเคลียร์ว่า “ทุกคนมีแผนการที่เป็นไปได้อย่างน้อยก็จนกว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้”
จากนั้นฮยอนนูก็ก้าวถอยหลังและแทงดาบยาวปลายมนเข้าที่ด้านหลังของเคลียร์เพื่อเป็นการปิดฉาก
“ฉันไม่รู้ว่านายกลายเป็นอัศวินตัวแทนด้วยทักษะนั้นได้อย่างไร แต่มันคงยากสําหรับนายที่จะดึงดันทําเช่นนั้นต่อไปอีกในอนาคต”
[ผู้เล่น “คังฮยอนน” เป็นฝ่ายชนะ]
แรงค์กิ้งแบทเทิลจบลง และชีวิตแห่งการเป็นอัศวินตัวแทนของเคลียร์สิ้นสุดลงด้วยน้ํามือของฮยอนน
***
เทียนไม่สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้หลังจากเห็นเคลียร์ฟุบลงไปอย่างดูไม่ได้ ความโกรธของเขามาถึงขีดสุด “บัดซบที่สุด! เจ้าบ้านั้นชนะได้ยังไง!”
เทียนไม่สามารถควบคุมร่างกายของเขาได้ เขาเขวี้ยงทุกอย่างที่มือของเขาสามารถคว้าได้แก้วอันหรูหราปลิวว่อนไปในอากาศและพังพินาศเมื่อมันตกกระทบกับพื้น
“พี่ครับ! ใจเย็นก่อนสิ!” หลิวเซยรีบเข้าไปหาเทียนฮูโดยไม่สนใจเศษแก้วเลย เขาพยายามยับยั้งการกระทําของเทียนไว้
เทียนฮูขยับไม่ได้ “ปล่อยสิโว้ย! เจ้าบ้าน ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด”
เทียนฮพยายามดิ้นรน อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถต้านแรงของหลิวเซยที่ตัวใหญ่กว่าเขาได้
“พี่ครับ ผมบอกแล้วไงว่าพวกอัศวินตัวแทนมันไว้ใจไม่ได้?”
“ฉันควรจะฟังนายนั่นแหละ เฮ้อ” เทียนอูนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง เขาดูสิ้นสภาพไม่เหลือชิ้นดี เทียนฮโกรธ แต่ตอนนี้เขาก็หมดแรงเช่นกัน
“พี่อย่าเศร้าไปเลยครับ เร็ว ๆ นี้ผมได้รู้เรื่องสําคัญบางอย่างมา ผมคิดวิธีล้างแค้นออกแล้ว”
“พูดอะไรของนายกัน?” เทียนฮได้ยินคําว่า “ล้างแค้น” เขาก็กลับมากระชุ่มกระชวยทันที
“ไนกี้แอบติดต่อพวกแรงค์เกอร์แบบลับ ๆ บอสใหญ่ประจําขอยกําลังเตรียมคอนเทนต์ในการสตรีมอยู่ ทําไมพี่ไม่ออกไปร่วมด้วยล่ะ?”
“ฉันควรออกไปร่วมเหรอ? คอนเทนต์ที่ว่าคืออะไรกัน?”
“มันเรียกว่าราชานักสู้ผู้สวมหน้ากาก โดยให้พวกแรงค์เกอร์มาสู้ PVP กัน ผมแนะนําว่าพี่แค่ปรากฏตัวออกไปตอนที่บอสใหญ่ประจําซอยเข้าร่วมก็พอ ทําไมพี่ไม่จัดการด้วยตัวเองไปเลยละครับ?”
หลังจากได้ยินคําอธิบายของหลิวเซยแล้ว เทียนก็หยิบโทรศัพท์ของเขาออกมา
“อื้อ! ช่วยจัดการธุระพวกนั้นที แล้วก็อย่าลืมทําความสะอาดห้องนี้ด้วย อีกหลายสัปดาห์ข้างหน้าฉันคงไม่ว่างมาจัดการเอง” เทียนฮออกคําสั่งและวางสายไป
เขามองไปยังหลิวเซยแล้วพูดต่อ “ตอนนี้ฉันจะเทหมดหน้าตักให้กับอารีน่าเลยก็แล้วกัน”
ตอนนี้คอนเทนต์ราชานักสู้ผู้สวมหน้ากากนั้นเป็นความลับที่เปิดเผยในหมู่แรงค์เกอร์ ไม่มีทางที่พวกเขา ติดต่อกับคนดังที่มีชื่อจากกิลด์ใหญ่ เกมเมอร์มืออาชีพ หรือแม้แต่สตรีมเมอร์ชื่อดัง
“นายกับฉันเหรอ? ไนกี้เนี่ยนะ? ราชานักสู้ผู้สวมหน้ากาก นั่นมันอะไรกันล่ะ?” คิมซอกจองเอามือถูหูหลังจากได้ยินคําพูดของคังจุงกู
เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยเห็นคิมซอกจองแสดงออกแบบนี้บ่อยครั้ง คังจุงกูจึงอธิบายด้วยสีหน้าสบาย ๆ ว่า “เป็นเนื้อหาที่บอสใหญ่ประจําซอยสร้างขึ้น พวกเขาเหมือนจะคุยกับคนดังทุกคนเลยครับ”
“บอสใหญ่ประจําซอยงั้นเหรอ? เขาจะปรากฏตัวไหม?” คิมซอกจองเกิดความสนใจหลังจากได้ยินการกล่าวถึง “บอสใหญ่ประจําซอย ใบหน้าของฮยอนนูปรากฏขึ้นในความคิดของเขาคิมซอกจองต้องการเจอคน ๆ นี้
“ฉันไม่ได้เห็นใบหน้านิ่ง ๆ ของเขามานานแล้ว
ตอนนี้ภารกิจเนื้อเรื่องหลักที่สี่สิ้นสุดลงแล้ว และคิมซอกจองก็เพิ่งจะเลเวลอัพในพื้นที่ที่เพิ่งค้นพบจนกระทั่งมีคนเปิดภารกิจเนื้อเรื่องหลักอีกภารกิจหนึ่ง พูดอีกอย่างคือ เขาเองก็รู้สึกเบื่อคําเชิญของไนกี้ในเวลานี้เหมือนฝนตกหลังจากภัยแล้งสําหรับคิมซอกจองที่เบื่อหน่ายอีกอย่างมัน ยังเป็นเรื่องดีที่จะได้เจอหน้าฮยอนนอีกครั้ง
“ยังไม่ได้มีการกําหนดรางวัลอะไร ผมรู้แค่ว่าหากพี่ยินดีที่จะเข้าร่วมแล้ว พี่ก็จะได้รับไอเทมที่ระดับยูนิคและสิ่งล่อใจต่าง ๆ ตามจํานวนผู้ชม”
คิมซอกจองประกาศว่า “งั้นฉันจะเข้าร่วม นายจะไปไหม?”
“ถ้าพี่ไปผมก็ต้องไปอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นผมคงจะไม่เหมาะสมกับการเป็นรองประธานของกิลด์แน่ครับ” คังจุงกูพูดด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติ เขาให้ความหมายโดยนัยแทนที่จะบอกว่าเขาจะไปที่ที่พี่ชายของเขากําลังจะไป
“โอโห! จุงกูของเราโตขึ้นเยอะเลยนะ ถ้างั้นแล้วผู้นํากิลด์อย่างฉันก็จะไปอย่างแน่นอน”
นี่เป็นช่วงเวลาที่คิมซอกจองและคังจุงกูตัดสินใจเข้าร่วมราชานักสู้ผู้สวมหน้ากาก
การสนทนาเกี่ยวกับ “ราชานักสู้ผู้สวมหน้ากาก” เกิดขึ้นในหลายสถานที่ มันเป็นประเด็นที่กําลังได้รับความสนใจจากเหล่าแรงค์เกอร์ชั้นนํา แม้แต่ในกิลด์ฟีนิกซ์เองก็เช่นกัน
“แครี่ นายจะไปไหม?”
“แน่นอน! ไม่งั้นแล้วเมื่อไหร่ที่ฉันจะมีโอกาสได้สู้กับเจ้าพวกนั้นล่ะ? ตอนอยู่ในโหมดแรงค์กิ้งฉันก็ไม่เจอเจ้าพวกนั้นเลย นี่ถือเป็นจังหวะดี! โอกาสมาแล้ว!” แครี่พูดออกมาอย่างชัดเจน โอกาสเช่นนี้หาได้ยาก เวทีสําหรับการเชิดฉายถูกสร้างขึ้นแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องได้ขึ้นโชว์
“นอกจากนั้นนะราเชล ฉันยังได้รับข้อมูลจากคนที่น่าเชื่อถือในเควนซี่” แครี่พูดด้วยน้ําเสียงโทนต่ํา “มีข่าวลือว่าจะมีการจัดงานใหญ่เพื่อฉลองครบรอบ 3 ปีของการเปิดเกมอารีน่าสิ่งที่ผู้คน สนใจมากที่สุดคือส่วนของการ PVP”
ราเชลพยักหน้า คําพูดของแครี่นั้นเป็นเรื่องจริง นักเล่นเกมมืออาชีพเข้าร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น PVP การบุกโจมตียึดพื้นที่ การเรดและอื่น ๆ อย่างไรก็ตามผู้เล่นส่วนใหญ่ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุดนั้นจะอยู่ในหมวด PVP และหมวดหมู่ที่เป็นเฉพาะของตัวเองพวกเขา ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามและมีเงินเดือนสูงอย่างท่วมท้นส่วนคนที่เหลือก็เป็นได้แค่เพื่อนเจ้า สาวเท่านั้น
ราเชลถามว่า “จริงเหรอ? งั้นนี้ก็เป็นพวกเราใช่ไหมที่รวบรวมข้อมูลกิจกรรมพวกนั้นมา?”
“แน่นอน มันไม่ใช่แค่เพราะฉันอยากจะโผล่ไปเฉย ๆ หรอกนะ มีวิดีโอออกมามากมาย ถึงอย่างนั้น สิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือการได้สัมผัสมันซักครั้ง แค่ดูวิดีโออย่างเดียวบอกอะไรไม่ได้หรอกนะ” แครี่พูดด้วยถ้อยคําอันน่าประทับใจ
มันทําให้ราเชลคล้อยตาม “ถ้างั้นพวกเราทั้งคู่ก็ไปกันเถอะ”
“แล้วบอสใหญ่ประจําซอยจะมาที่นั่นด้วยหรือเปล่าล่ะ?”
“ไม่รู้สิ เขาจะออกมาหรือเปล่านะ? เลเวลมันห่างกันนี่”
***
“ทุก ๆ คน ขอบคุณที่ดูสตรีมวันนี้นะครับ ไว้เจอกันคราวหน้านะ!”
หลังจากการดวลกับเคลียร์จบลง ฮยอนนก็ตัดสินใจสิ้นสุดการไลฟ์สตรีม และที่สําคัญคือเพราะเขาได้รับข้อความบางอย่างมา
– ฮยอง! ถ้ามีเวลาว่างช่วยติดต่อผมด้วยครับ
มันเป็นข้อความจากเมสั้น
“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?” ฮยอนนูสงสัยและส่งคํากระซิบกลับไปหาเมสั้น
– ถึงเมสัน: มีอะไรงั้นเหรอ?
เขาได้รับคําตอบทันทีราวกับว่าเมสันกําลังรอการติดต่อจากฮยอนนอยู่ หรือบางที่อาจจะเป็นเพราะช่วงเวลาพักของเขาตรงกันกับฮยอนนูพอดี
– จากเมสัน: ตอนนี้ฮยองมีเวลาว่างไหมครับ?
– ถึงเมสัน: มีอะไรงั้นเหรอ?
– จากเมสัน: ผมพบดันเจี้ยนส่วนตัว เลยสงสัยว่าพี่พอจะช่วยผมได้ไหม?
“ดันเจี้ยนส่วนตัวงั้นเหรอ? ได้ยินคําว่าดันเจี้ยนยังไงฉันก็ต้องไปอยู่แล้วละ”
ฮยอนนูตัดสินใจตอบตกลงโดยไม่มีเงื่อนไขหลังจากได้ยินคําว่า “ดันเจี้ยน
“ว่าแต่เลเวลมันเท่าไหร่กันนะ?”
-ถึงเมสัน: ดันเจี้ยนมีเลเวลเท่าไหร่งั้นเหรอ?
-จากเมสัน: คิดว่าน่าจะเกิน 100 ครับ มันอยู่ในที่ราบเชอรัน
ที่ราบเชอรัน
ที่ราบเชอรั้นมีเลเวลใกล้เคียงกับทะเลทรายอาร์ติ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือมันเป็นพื้นที่ล่าเลเวล 110
– ถึงเมสัน: ฉันกําลังจะไปเดี๋ยวนี้แล้ว รอหน่อยนะ
– จากเมสัน: เข้าใจแล้วครับฮยอง ผมจะรอนะ
หลังจากส่งข้อความกระซิบแล้ว ฮยอนนูก็มุ่งหน้าไปยังที่ราบเชอรั้นที่เมสันกล่าวถึงทันที