Ranker’s Return - ตอนที่ 54
ตอนที่ 54
ตอนนี้ในกี้เมเนจเม้นท์กําลังประชุมหารือถึงวิธีการจัดกิจกรรมราชานักสู้ผู้สวมหน้ากากที่ฮยอนนูเป็นผู้เสนอความคิดอยู่กันอย่างจริงจัง และเพื่อเป็นการตอบแทนความพยายามในการดึงตัวฮยอนนูมาร่วมงานกับทางไนกี้นั้น เคลจึงได้รับการเลื่อนตําแหน่งจากฝ่ายขายไปเป็นหัวหน้าแผนกด้านการวางแผนแทน นี่จึงเป็นการประชุมครั้งแรกที่เขาได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้า และแม้จะเป็นครั้งแรกแต่เคลก็จัดการประชุมได้อย่างชํานาญ
“พวกเขาทั้งหมดต่างก็เป็นคนที่มีชื่อเสียง ดังนั้นผมคิดว่าเราควรจะดําเนินการอาทิตย์ละครั้งหรือเดือนละครั้งนะครับ”
“ผมเห็นด้วยนะ คงจะยากที่จะให้พวกเขามารวมตัวกันอาทิตย์ละครั้งในเวลาเดียวกัน”
“แล้วควรจะมีคนเข้าร่วมในการถ่ายทําครั้งละกี่คนดีล่ะ?”
“ผมคิดว่าแปดคนเป็นจํานวนที่เหมาะสมนะ ถ้ามากกว่านี้เราอาจจะวางแผนกําหนดการยากไปหน่อย”
เคลช่วยพูดประสานความคิดเห็น กรอบโครงร่างคร่าว ๆ ของการจัดกิจกรรมได้รับ การตัดสินใจออกมาแล้วในระดับหนึ่ง เมื่อกรอบได้รับการออกแบบเสร็จแล้ว การปรับแต่งรายละเอียดภายในกรอบนั้นก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย
“เอาเป็นสัปดาห์ละครั้งก็แล้วกัน ส่วนเวลาในการถ่ายทําก็ซักราว ๆ สี่ถึงห้าชั่วโมงก็แล้วกันและวันที่ถ่ายคือวันจันทร์หรือวันศุกร์ในเวลาเกาหลี เพราะฝ่ายต่าง ๆ ที่อยู่ในแผนนี้ต่างก็เป็นคนเกาหลีทั้งหมด”
“สุดท้ายจํานวนคนก็คือแปดคน คิดว่าไงบ้าง?”
“ผมคิดว่าไม่เลวเลยครับ”
“ผมเห็นด้วยครับ”
“สมบูรณ์แบบครับ”
ตอนนั้นเองก็มีใครบางคนเปิดประตูห้องประชุมและเดินเข้ามา เขาคนนั้นก็คือเจมี่ ผู้รับหน้าที่เป็นตัวแทนผู้นําของไนกี้เมเนจเม้นท์นั่นเอง “เคลผมมีข้อคัดค้านนะ”
“บอส! ทําไมถึงมาที่นี่ล่ะครับ?” เคลประหลาดใจกับการปรากฏตัวของเจมี่
ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้เจมี่น่าจะอยู่ที่สํานักงานใหญ่แท้ ๆ “ผมเพิ่งจะวิดีโอคอลกับสํานักงาน ใหญ่เสร็จน่ะ ก็เลยไม่ต้องไปที่นั่นแล้ว และผมก็คิดว่าที่นี่น่าจะต้องการผมมากกว่านะ” เจมี่พูดจากนั้นเขาก็จิบอเมริกาโนในมือและพูดต่อว่า “การเซ็ตอัพมันดูธรรมดาเกินไป ควรจะน่าตื่นเต้นกว่านี้นะ อย่างแรกเลยคือคนที่แพ้ควรจะต้องถอดหน้ากากและเปิดเผยตัวตนออกมา”
เจมี่ชูมือขวาขึ้นแล้วพับนิ้วไปหนึ่งนิ้ว
“ประการที่สองผู้เล่นทั้งแปดคนควรเล่นในรูปแบบลึกเพื่อขจัดปัญหาจุกจิกเวลาที่ผลออกมาเสมอ”
เขาพับนิ้วที่สองลงไป
“ประการที่สามผู้ชนะจะได้เป็นราชานักสู้ผู้สวมหน้ากากและเข้าร่วมการถ่ายทําในครั้งต่อไปประการที่สี่ผู้ชนะในรอบต่อไปจะได้ต่อสู้กับราชานักสู้ผู้สวมหน้ากากซึ่งเป็นผู้ชนะมาก่อนในรอบที่ แล้ว เพื่อตัดสินว่าใครจะได้เป็นราชานักสู้ที่แท้จริง”
ครั้งนี้เขาพับนิ้วทั้งสองติดต่อกันทันที
“และเพื่อกําจัดความเบื่อหน่ายแล้ว หลังจากได้เป็นราชานักสู้ผู้สวมหน้ากากเป็นครั้งที่ห้าติดต่อกันคนคนนั้นก็จะจบการศึกษาจากการเป็นราชา คิดว่าเป็นอย่างไรบ้าง?”
ในที่สุดนิ้วมือสุดท้ายของเจมี่ก็พับลงไป และทุก ๆ คนต่างก็ตื่นเต้นกับคําพูดของเขา
“บอสนี่มันช่างสุดยอดที่สุดไปเลยครับ!”
มติเป็นเอกฉันท์แล้วเรียบร้อย ทุกคนในห้องประชุมต่างก็มีความคิดเดียวกัน
“มันจะสําเร็จแน่นอนโดยไม่ต้องคิดเลย สุดยอดจริง ๆ”
“ฮยอง! ทางนี้ครับ”
ฮยอนนูได้พบกับเมสันอีกครั้ง เขานั้นดูแตกต่างไปจากตอนที่ร่วมทีมกับฮยอนนูต่อสู้กับพวกออร์คอย่างสิ้นเชิง
“ว้าว! เลเวลของนายเพิ่มขึ้นมาหน่อยแล้วสินะ?”
เกราะทุกชิ้นที่เมสันสวมใส่เป็นระดับยูนีคทั้งหมด อาวุธที่เขาใช้ก็เป็นระดับยูนีคด้วยเช่นกันคล้ายกับว่าร่างกายของเขาถูกทาด้วยทองไปทั้งตัว
“ผมใช้เงินไปส่วนหนึ่งและอัพเวลมาเยอะเลยครับ”
“ตอนนี้เลเวลนายเท่าไหร่แล้วล่ะ?”
“ผมเวล 100 ครับ ล่าวันละ 12 ชั่วโมงเลยครับ อีกอย่างผมก็เพิ่งจะเปลี่ยนคลาสครั้งที่สองไปเมื่อวานนี้เอง”
เมสันมีเลเวล 100 และเป็นผู้เล่นนักเวทที่เปลี่ยนคลาสสองมาแล้วเรียบร้อย นอกจากนี้ ไอเทมระดับยูนีคของเขาก็ไม่ธรรมดา พอแล้วคิดดูแล้วเขาค่อนข้างจะแข็งแกร่งเลยทีเดียวฮยอนนู เลยนึกสงสัยขึ้นมาว่า “ทําไมนายถึงเรียกฉันล่ะ? ดันเจี้ยนยากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ดูจากสถานะปัจจุบันของเมสันแล้ว เขาน่าจะระเบิดภูเขาเผาดันเจี้ยนระดับนี้ได้สบาย ๆ
“ผมลุยคนเดียวไม่ได้เลยครับ พวกมอนสเตอร์มันเร็วเกินไป”
“นายก็ร่ายเวทได้เร็วไม่ใช่เหรอ? ล่าพวกมันไม่ได้เลยเหรอ?”
ฮยอนนูรู้สึกสงสัย มันเป็นดันเจี้ยนประเภทไหนกัน? แรงจูงใจของเขาเริ่มเพิ่มขึ้น
จะมีรางวัลดี ๆ ไหมนะ?”
“มีพวกแวร์วูลฟ์อยู่ข้างในครับ แต่กรณีนี้เรียกว่าไลแคนจะดีกว่ามั้ง? (อธิบาย : แวร์วูลฟ์เป็นมนุษย์หมาป่าที่ดุร้ายซึ่งสูญเสียความทรงจําตอนเป็นมนุษย์ไปจนหมด แต่ไลแคนจะเป็นมนุษย์หมาป่าที่ยังมีความทรงจําและยังมีความฉลาดแบบมนุษย์อยู่ แวร์วูลฟ์จะแข็งแกร่งกว่าไลแคนมากแต่ในเรื่องความเร็วนั้นจะช้ากว่าไลแคนเยอะ) พวกมันรวดเร็วจริง ๆ ผมถูกจับได้ตอนกําลังหนี้เล่นเอาซะเกือบตายเลยครับ”
“ไลแคนกับแวร์วูลฟ์งั้นเหรอ?”
พวกไลแคนถือว่าเป็นมอนสเตอร์ที่น่ากลัวในเกมอารีน่า พวกมันมีขนสีเงินเป็นส่วนใหญ่อีกทั้งยังมีความว่องไว ความทรงพลังทําให้ยากที่จะรับมือ เป็นที่เข้าใจได้ว่าทําไมเมสั้นถึงไม่สามารถโจมตีพวกมันได้ เพราะไม่ว่าเมสันจะเก่งแค่ไหน แต่เขาก็ยังเป็นผู้เล่นอาชีพนักเวทอยู่ดี
“ถ้าเป็นพวกไลแคนก็สมเหตุสมผลหน่อย ถ้าจัดการมันในที่เดียวไม่ได้ละก็นายจะต้องตายแน่ แต่ว่าถ้าฉันไปด้วยมันก็คงเป็นอีกอย่างละนะ” ฮยอนนูเต็มไปด้วยความมั่นใจ ยิ่งไปกว่านั้นการจัดการมอนสเตอร์ประเภทนี้ก็เป็นเรื่องที่ง่ายกว่ามอนสเตอร์ประเภทอื่นมาก สําหรับฮยอนนูแม้มันจะโจมตีแรงแต่พวกมันก็ตัวบางและมีพลังชีวิตน้อยมากเช่นกัน
“ฉันไม่มีทางโดนโจมตีหรอก”
***
[โคุณเข้ามายังทางเดินแห่งวิหารแล้ว]
ฮยอนนูเข้าไปในดันเจี้ยนส่วนตัวและสิ่งแรกที่เขาทําก็คือเรียกทั้งออกมา บัฟของทั้งนั้นยอดเยี่ยมที่สุด อีกทั้งมันยังมีทักษะปล่อยสายฟ้าที่ต้องกล่าวถึงอีกด้วย มันจะเป็นการผสมผสานที่ดี หากใช้ความสามารถจากมันสลับกันกับเมสัน
“นี่ทั้งอี เป็นสัตว์เลี้ยงของฉันเอง”
“ สัตว์เลี้ยงเหรอครับ?” การจ้องมองของเมสั้นดูแปลก ๆ เมื่อเขาจ้องไปที่ทั้งอี มัน เหมือนกับเด็กที่ได้เห็นของเล่นชิ้นโปรดของเขา
“ไอ้เจ้ามนุษย์นี้ นายมองบ้าอะไรกัน? เป็นครั้งแรกที่นายได้เห็นหมีที่หล่อเหลาเช่นฉันหรือไง?” ท้ายที่สุดทั้งอีก็คือทั้งอี ปากปีจอไม่เคยหายไปเลยจริง ๆ มันพ่นคําหยาบคายใส่เมสันซึ่งกําลังมองมาที่ตัวเอง
“ไปกันเถอะไอ้เจ้านายท่าน พวกเราจะไปล่ากัน”
โคุณได้รับบัฟ การเคลื่อนที่ของหมี
พลังโจมตีทางกายภาพเพิ่มขึ้น
[พละกําลังเพิ่มขึ้น]
[คุณได้รับบัฟ คําอวยพรแห่งป่า]
[พลังป้องกันเพิ่มขึ้น]
[พลังชีวิตจะฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง]
ทั้งอีบัฟฮยอนนอย่างเป็นปกติ ตอนนี้มันกลายเป็นเครื่องจักรที่คอยแจกบัฟแล้ว แม้ฮยอนนูไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ตาม เมสันรู้สึกอิจฉา เห็นได้ชัดว่าเขากําลังคิดอะไรเมื่อดวงตาของเขาส่องแสงเหมือนโคมไฟ
“ฮยองครับ ผมจะไปลองหาสัตว์เลี้ยงตอนกลับเมืองดู”
“นายจะอยากได้ภาระแบบนี้ไปทําไมกัน?”
“ภาระงั้นเหรอ? ไอ้เจ้านายท่านบ้าน” ทั้งอีโวยวายใส่ฮยอนนู
“ยังไงผมก็ต้องซื้อซักตัวครับ” เมสันตัดสินใจเมื่อเห็นเคมีระหว่างทั้งสองที่เข้ากันเป็นปีเป็น ขลุ่ย เขาจะต้องไปหาไข่สัตว์เลี้ยงแบบสุ่มมาให้ได้อย่างแน่นอน
ทว่าไม่นานนักก็มีบางอย่างมาทําลายบรรยากาศอันน่ารื่นรมย์ระหว่างมนุษย์สองคนกับหมีหนึ่งตัว มันสูงพอ ๆ กับมนุษย์และมีขนสีเงินปกคลุมทั่วตัว ตัวตนที่เข้ามาขวางก็คือไลแคน และมันก็ไม่ได้มาแค่ตัวเดียวด้วย
“ฮยองครับ! พวกมันมาแล้ว” เมสันเมื่อจําได้ว่าเคยโดนพวกมันเล่นงานมาก่อนก็ตัวสันด้วยความกลัว
“อื้อ! เห็นแล้ว”
แต่ตรงกันข้ามทางฮยอนนูกลับรู้สึกผ่อนคลาย ดูแล้วไลแคนจะมีความเร็วมากกว่าเลบรอนและแข็งแกร่งกว่าดาคาน อย่างไรก็ตามพวกมันก็เป็นได้แค่แหล่งฟาร์มค่าประสบการณ์และไอเทมต่าง ๆ สําหรับฮยอนนูเท่านั้น
เปิดใช้งาน “ผู้ชํานาญการต่อสู้ แล้ว]
[ค่าสถานะของคุณเพิ่มขึ้น]
ค่าสถานะ “พลังงานการต่อสู้ ทําให้ค่าสถานะของคุณเพิ่มขึ้น
[ปาร์ตี้อีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าคุณ]
[ค่าสถานะจะได้รับการเพิ่มขึ้นอีก]
ข้อความเหล่านี้เด้งขึ้นมาเพื่อแสดงถึงการต่อสู้ที่เริ่มต้นขึ้น ในขณะเดียวกันฮยอนนูก็พุ่งไปหาพวกไลแคน
พวกไลแคนวิ่งเข้าหาฮยอนนอย่างดุร้ายพร้อมกับกรงเล็บยาวที่ตัดผ่านอากาศ พวกมันเหยียดกรงเล็บอันแหลมคมออกไปโดยเล็งไปทางฮยอนนู อย่างไรก็ตามไฟทรงกลมขนาดเล็กก็พุ่งเข้าใส่ใบหน้าของไลแคน มันคือเวทมนตร์ของเมสันนั่นเอง เมื่อเห็นไลแคนเสียศูนย์แล้ว ฮยอนนูก็เหวี่ย งดาบยาวปลายมนของเขาทันที เขาเคลื่อนตัวและตัดคอของไลแคนได้อย่างแม่นยํา
“สวบ!”
เลือดไหลออกจากลําคอของไลแคนและมันก็ตายลงทันที
[คุณได้ฆ่าไลแคน]
ได้รับค่าประสบการณ์
ในระหว่างนั้นไลแคนอีกตัวก็โดนทั้งอีโจมตีใส่ สายฟ้าทั้งสามสายพุ่งออกมาจากทั้งอีและโจมตีใสไลแคนตัวนั้น
ไลแคนได้รับสถานะผิดปกติ ไฟฟ้าช็อต
ฮยอนนูจัดการไลแคนตัวนี้ได้อย่างรวดเร็ว และความเสียหายที่ทําได้ก็เพิ่มขึ้นจากการรวมกันของพลังงานดาบของเขาและทักษะฟาดฟันอย่างหนักหน่วง ร่างกายของไลแคนถูกผ่าออกเป็ นชิ้น ๆ ราวกับเต้าหู้
[คุณได้ฆ่าไลแคน]
ได้รับค่าประสบการณ์
[เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น]
[พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู