Ranker’s Return - ตอนที่ 56
ตอนที่ 56
ฮยอนนูู เมสัน และทังอีใช้เวลานานอยู่พอสมควรกว่าจะหาห้องของบอสพบอีกครั้ง ห้องของบอสนั้นอยู่ในพื้นที่ที่ฮยอนนูุเคยเห็นมาก่อน อย่างไรก็ตามทั้งดันเจี้ยนนี้มีพื้นที่ที่น่าจะเป็นห้องของบอสอยู่สามแห่ง อย่างไรก็ตามพวกไลแคนโทรปทั้งหมดที่พื้นที่เหล่านั้นได้เกิดใหม่อีกครั้งแล้ว ที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นคือหลังจากที่ลุยฝ่าเข้าไปยังพื้นที่แรกที่บอสน่าจะอยู่อย่างยากลําบาก แล้วมันกลับไม่มีร่องรอยของบอสอยู่ในพื้นที่นี้เลย
และเมื่อฝ่าเข้าไปยังพื้นที่แห่งที่สองแล้ว มันก็ไม่มีร่องรอยของบอสอยู่เลยเหมือนกัน ฉะนั้นตอนที่พวกเขามายังพื้นที่แห่งสุดท้ายที่บอสน่าจะอยู่ในใจทุกคนต่างก็มีความรู้สึกกระวนกระวาย พร้อมกับความคิดที่ว่า “ได้โปรดอยู่ที่นี่ด้วยเถอะ” และแล้วห้องนี้ก็เป็นห้องที่มีบอสอยู่จริงๆ
ภายในห้องขนาดใหญ่นั้น สัตว์ประหลาดที่แตกต่างจากพวกศัตรูก่อนหน้าก็กําลังรอฮยอนนููอยู่ มันคือมนุษย์หมาป่าตัวยักษ์ที่มีขนสีเทา ชื่อของมันก็คือ “ไลแคนโทรปผู้ถูกครอบงํา”
ไลแคนโทรปผู้ถูกครอบงํานั้นมีความสูงเกือบสามเมตรและมีกล้ามเนื้อหนาแน่นปกคลุม ด้วยลักษณะภายนอกเช่นนี้ก็เพียงพอที่จะทําให้ทุกคนรู้สึกกดดัน
“เจ้ามนุษย์!”
[คุณได้ยินเสียงคํารามแห่ง “ความกลัว” ของไลแคนโทรปผู้ถูกครอบงํา]
ไลแคนโทรปผู้ถูกครอบงําใช้เสียงคํารามแห่งความกลัวทักทายพวกเขา
“เหอะ!”
อย่างไรก็ตามสําหรับฮยอนนููที่มีค่าพลังงานการต่อสู้แล้ว เสียงของมันนั้นไม่ต่างอะไรจากเสียงสุนัขเห่า
[ด้วยความสามารถของพลังงานการต่อสู้นั้นทําให้คุณไม่ได้รับผลสถานะความกลัวจากไลแคนโทรป]
ทว่าสําหรับเมสันแล้ว มันกลับไม่ใช่แบบนั้น
ผู้เล่น “เมสัน” ตกอยู่ในสถานะความกลัว
เมสันไม่มีวิธีที่จะต่อต้านสถานะความกลัว บางทีมันอาจจะดีกว่านี้หากเขามีทักษะหรือไอเทมพิเศษ แต่ตอนนี้เขาทําอะไรไม่ได้เลย เขาได้แต่หวังว่าไลแคนโทรปผู้ถูกครอบงําจะไม่พุ่งเป้ามาที่เขา
“ฝากที่เหลือด้วยนะครับ ฮยอง!” เมสันภาวนาอย่างหมดหวัง และในตอนนั้นเอง ฮยอนนููก็เคลื่อนไหวโดยทันที ราวกับว่าเขาได้ยินความปรารถนาของเมสัน ฮยอนนููยืนอยู่ตรงหน้าไลแคนโทรปผู้ถูกครอบงําตัวยักษ์
[คุณได้รับบัฟ “การเคลื่อนที่ของหมี”]
[พลังโจมตีทางกายภาพเพิ่มขึ้น]
[พละกําลังเพิ่มขึ้น]
[คุณได้รับบัฟ “คําอวยพรแห่งป่า]
[พลังป้องกันเพิ่มขึ้น]
[พลังชีวิตจะฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง]
บัฟของทั้ง ปกคลุมไปทั่วร่างของฮยอนนูู
[เปิดใช้งาน ผู้ชํานาญการต่อสู้ แล้ว]
[ค่าสถานะของคุณเพิ่มขึ้น]
[ค่าสถานะ “พลังงานการต่อสู้ ทําให้ค่าสถานะของคุณเพิ่มขึ้น]
[ปาร์ตี้อีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าคุณ]
[ค่าสถานะจะได้รับการเพิ่มขึ้นอีก
หลังจากนั้นพลังงานการต่อสู้และสถิติของผู้ชํานาญการต่อสู้ก็มีผล ขณะที่การต่อสู้เริ่มขึ้น ค่าสถานะของฮยอนนููก็เปลี่ยนไป
[ใช้ทักษะ “พลังของยักษ์” แล้ว]
[ค่าพละกําลังของคุณเพิ่มขึ้น]
[ใช้ทักษะ “ธาตุแท้ของยักษ์” แล้ว]
[ค่าพละกําลังของคุณเพิ่มขึ้น]
ในช่วงห้านาทีที่ได้รับทักษะเหล่านี้นั้น ค่าพละกําลังของฮยอนนููจะเพิ่มขึ้นมาประมาณ 1,000 และมันทําให้ฮยอนนููรู้สึกได้ถึงพลังที่กําลังเดือดพล่านอยู่ภายในร่างกายของเขา
“ฉันไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานมากแล้ว” นับตั้งแต่ตอนที่เรดมังกรทะเลทรายครั้งก่อน เขาก็ยังไม่ได้ใช้ทุกอย่างที่ตนมีอยู่อย่างเต็มที่เลย
***
ไลแคนโทรปผู้ถูกครอบงําตัดสินใจที่จะฉีกร่างของเจ้ามนุษย์ตัวจิ๋วซึ่งกําลังขวางทางของมันอยู่ ท่วงท่าการโจมตีของมันนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก แต่ฮยอนนููตัดสินใจทักทายเจ้าสุนัขที่กําลังควงเล็บของมันอย่างไม่เกรงกลัว ถือเป็นการทักทายครั้งแรกที่ยอดเยี่ยม การผสมผสานระหว่างพลังงานดาบและสกิลฟาดฟันหนักหน่วงนั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน ทั้งสองทักษะนั้นผสานกันอย่างลงตัวและมอบพลังงานที่รุนแรงเป็นอย่างมาก
“อ๊ากกก..! เจ้ามนุษย์!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นจากไลแคนโทรปผู้ถูกครอบงําเมื่อกรงเล็บข้างซ้ายของมันถูกตัดออกและบาดแผลฉกรรจ์ปรากฏขึ้น ตอนนี้มือซ้ายมันที่เป็นมอนสเตอร์ระดับบอสของดันเจี้ยนส่วนตัวนั้น ได้กลายเป็นอัมพาตไปแล้ว
เมื่อเมสันได้รับการปลดปล่อยจากสภาวะความกลัว เขารีบรวบรวมพลังเวทของเขาทันที และปล่อยมันออกไป มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่เร็วกว่าเมสัน หรือถ้าจะให้กล่าวโดยเจาะจงก็คือเจ้าตุ๊กตาหมีทังอีนั่นเอง
ทังอีฟาดมือซ้ายของไลแคนโทรปผู้ถูกครอบงําด้วยสายฟ้า จากนั้นน้ําแข็งของเมสันก็พุ่งผ่านปะทะมันซ้ําอีกครั้ง ทั้งสองร่วมมือกันได้อย่างยอดเยี่ยม
“ตายซะ! เจ้ามนุษย์!”
ไฟสีเทาปรากฏขึ้นรอบ ๆ ตัวของไลแคนโทรป มันเป็นจุดเริ่มต้นของเฟสที่สองซึ่งเรียกว่า “วิ่งพล่าน” “บ้าคลั่ง” หรือ “การตื่นขึ้น” ในเกมอารีน่านั้น บอสที่มีเลเวลมากกว่า 100 จะมีเฟสเหล่านี้
คําว่าเฟสนั้น มีความหมายถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของมอนสเตอร์ระดับบอสเมื่อสร้างความเสียหายกับมันไปแล้วจํานวนหนึ่ง และเฟสเหล่านี้เองที่ทําให้พวกผู้เล่นสามารถคาดเดาพลังชีวิตของมอนสเตอร์ระดับบอสได้
“จากข้อมูลของไนกี้และยองซาน เฟสที่สองของมอนสเตอร์ระดับบอสทั้งหมดจะเกิดขึ้นเมื่อพลังชีวิตของพวกมันลดลงเหลือ 40%
“เมสัน! นายเตรียมปล่อยพลังลูกใหญ่ไว้เลย ทังvu! ปล่อยสายฟ้าตามสะดวกได้เลย” ฮยอนนูออกคําสั่ง
เขาหวังว่าจะปิดฉากได้โดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับบอสในเฟสต่อไป เพื่อให้แผนของเขาได้ผล เขาต้องการความช่วยเหลือจากทั้งทั้งดีและเมสัน เขาต้องการเวทมนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาต้องการเวทมนตร์ที่ทําให้เกิดสถานะผิดปกติ
ไลแคนโทรปผู้ถูกครอบงําได้รับความมั่นใจกลับมาบ้างแล้ว แม้มันอาจจะเป็นแค่เพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันก็ได้รับพลังในการขพวกมนุษย์ที่ทําให้มันเจ็บปวดอย่างมากมาแล้ว บาดแผลที่แขนซ้ายของมันได้รับการฟื้นฟูตอนที่มันเริ่มบ้าคลั่ง ไม่ต้องบอกเลยว่าความสามารถและพลังทางกายภาพของมันนั้นเพิ่มสูงขึ้น หากเทียบกับเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วนั้น ไลแคนท์โทรปในตอนนี้พุ่งออกไปด้วยความเร็วที่ไม่มีใครเทียบได้ แตกต่างกับเมื่อกี้อย่างลิบลับ
ดาบของฮยอนนููปะทะกับเล็บยาวของไลแคนโทรป นี่เป็นข้อพิสูจน์ของความบ้าคลั่ง ทั้งสองสู้กันได้อย่างสูสี แทนที่ไลแคนโทรปจะเป็นเพียงฝ่ายเดียวที่ถูกผลักให้ถอยเหมือนอย่างที่แล้วมา ไลแคนท์โทรปผู้มั่นใจตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อความรู้สึกแสบร้อนที่หลังของมัน
สิ่งแรกที่มันจะทําก็คือฉีกเจ้ามนุษย์คนนี้ให้เป็นชิ้นๆ จากนั้นมันค่อยกินคนที่เหลือ
ฮยอนนููคิดว่าไลแคนโทรปผู้ถูกครอบงํานั้นไม่ฉลาดเท่าไหร่
“ช่วยไม่ได้ เพราะมันเป็นหมานี่นะ”
ความแข็งแกร่งของฮยอนนููลดลงหลังจากผลของทักษะสิ้นสุดลง แต่ฮยอนนููก็ยังคงได้ รับผลของบัฟจากทั้งอี และจากทักษะของตัวเอง
“มันน่าจะคิดว่าตัวเองจะเอาชนะได้งั้นสินะ?”
อย่างไรก็ตามการตัดสินใจของไลแคนโทรปถูกครอบงํานั้นเลวร้ายที่สุด นี่คือสิ่งล่อใจของฮยอนนู เขาโยน “เหยื่อล่อ” ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ออกไป
“ทังอี! ใช้ไปเรื่อยๆ แม้มันจะไม่มีการตอบสนองอะไรเลยก็เถอะ ไม่ต้องเก็บพลังเวทไว้หรอก”
ฮยอนนูค่อยๆ สร้างแผลเล็กๆ หลายแผลแก่ไลแคนโทรป มันเองไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเมื่ออยู่ในสภาพบ้าคลั่ง บาดแผลเล็กๆ เหล่านี้จะมีบทบาทสําคัญในการต่อสู้ในตอนนี้เวทมนตร์ของทังอี และเมสันไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆได้ เนื่องจากไลแคนท์โทรปมีผิวหนังที่หนาและแข็ง นอกจากนี้ความต้านทานเวทมนตร์ของมันยังเพิ่มขึ้นเนื่องจากสถานะบ้าคลั่งอีกด้วย แต่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผิวของมันแตกออก และช่องว่างของแผลนั้นกว้างขึ้นล่ะ?
ฮยอนนูอดไม่ได้ที่จะคาดหวัง และเมื่อทั้งใช้สายฟ้าฟาดลงบนบาดแผลของไลแคนโทรปผู้ถูกครอบงํา ผลลัพธ์ที่ได้ในครั้งนี้ค่อนข้างแตกต่างจากครั้งก่อน
“มันได้ผล!”
ทีเด็ดตามแผนการฮยอนนููได้รับการเปิดเผยออกมาแล้ว
[ไลแคนโทรปผู้ถูกครอบงําได้รับสถานะผิดปกติ ไฟฟ้าช็อต]
ไลแคนโทรปหยุดเคลื่อนไหวไปพักหนึ่ง นี่ไม่ได้อยู่ในระดับที่มันจะต้องกังวลอะไรมากมาย เพราะมันจะหยุดเคลื่อนไหวเพียงช่วงสั้นๆ ไม่ถึงวินาทีเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามมันก็ยังหยุดเคลื่อนไหว
“ฉันจะต้องใช้พลังเวทมากกว่านี้อีกหน่อย”
ฮยอนนููรู้สึกว่าตัวเองต้องใช้พลังที่แข็งแกร่งกว่านี้อีกหน่อย เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะไม่ได้เป็นฝ่ายบุกอย่างเดียวอีกต่อไป มอนสเตอร์ในเกมอารีน่านั้นไม่เคยโง่ เพราะถ้าพวกมันโง่แล้วละก็คงจะไม่มีเหตุผลอะไรให้เหล่าแรงค์เกอร์ออกล่าพวกมันแน่ นี่คือการจัดการบุกอย่างบ้าคลั่งของฮยอนนู เขาจะไม่ปล่อยให้สายตาของมอนสเตอร์ตัวนี้เคลื่อนไปจากเขาแม้แต่ชั่วขณะเดียว
“ฮยอง! ผมพร้อมแล้ว” การเตรียมการของเมสันเสร็จสมบูรณ์อย่างทันเวลา
“โอเคฉันจะต้านมันไว้ แล้วนายก็จัดการมันเลย”
ฮยอนนูละทิ้งรูปแบบการต่อสู้ที่เขารักษามาจนถึงตอนนี้ เขาทิ้งการป้องกันและเข้าสู่การโจมตีโดยสมบูรณ์ และนั่นทําให้ศัตรูเริ่มหันมาสนใจที่ฮยอนนููเพียงคนเดียว
ไม่นานนักสายฟ้าของทังอีก็ฟาดเข้าที่ตัวของไลแคนโทรปอีกครั้ง ทําให้การเคลื่อนไหวของมันหยุดลงชั่วขณะ
[ไลแคนโทรปผู้ถูกครอบงําได้รับสถานะผิดปกติ “ไฟฟ้าช็อต ]
ฮยอนนูรอจังหวะนี้อยู่ก่อนแล้ว เขาพุ่งเข้าใส่ไลแคนโทรปอย่างรวดเร็วแล้วใช้สกิลฟาดฟันอย่างหนักหน่วง จากนั้นเขาก็แทงที่ท้องของมันอีกหลายครั้ง
“อ๊ากกกก..!”
ฮยอนนููก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วราวกับภูตผีหลังจากใช้ดาบปลายมน เสมือนว่าเขาได้ทํานายการเคลื่อนไหวของไลแคนโทรปเอาไว้แล้วล่วงหน้า
“เอาเลย!”
เมื่อสิ้นเสียงตะโกนของฮยอนนู เมสันก็ใช้เวทมนตร์ของเขา มันเป็นเวทมนตร์ที่เขาได้พัฒนาอย่างระมัดระวังเป็นเวลาประมาณ 10 นาที หอกน้ําแข็งขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาช่องท้องของไลแคนท์โครปอย่างรวดเร็ว
[ไลแคนโทรปผู้ถูกครอบงําได้รับสถานะผิดปกติ แช่แข็ง]
เกล็ดน้ําแข็งสีขาวเริ่มปรากฏบนหน้าท้องของไลแคนโทรปที่หอกน้ําแข็งแทงเข้าไป
“จบซักที!”
พลังงานดาบที่รุนแรงถูกปลดปล่อยออกมาจากดาบของฮยอนนูู คราวนี้เป็นการผสมผสานระหว่างทักษะฟาดฟันหนักหน่วงและคลื่นพระจันทร์เสี้ยว การโจมตีในครั้งนี้ของฮยอนนููสามารถกรีดคอของไลแคนโทรปผู้ถูกครอบงําได้อย่างง่ายดาย
[คุณได้ฆ่าไลแคนโทรปผู้ถูกครอบงํา]
ได้รับค่าประสบการณ์
[เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น]
[พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู]
และในที่สุดการล่าอันยาวนานก็ได้สิ้นสุดลง