Ranker’s Return - บทนำ
ปัง!
ราชาแมงป่องยักษ์ผู้ปกครองผืนทะเลทรายอันกว้างใหญ่ได้ล้มลงไปยังพื้น นี่คือจุดจบของหนึ่งในบอสที่แข็งแกร่งที่สุดในเกมอารีน่า (Arena) ร่างไร้วิญญาณของมันนอนแน่นิ่งอยู่เบื้องหน้าของชายหนุ่มคนหนึ่ง
“เฮ้อ! คราวนี้ดีกว่าครั้งที่แล้วนิดหน่อยแฮะ” ฮยอนนูพูดในขณะที่กำลังยืดเส้นยืดสายไปด้วย
ท่าทางของชายหนุ่มดูผ่อนคลายอย่างมากเมื่อเทียบกับการที่เขาได้ไล่ล่ามอนสเตอร์ระดับเรดบอสด้วยตัวคนเดียว อย่างไรก็ตามนี่ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะที่ผ่านมาเขาได้ไล่ล่ามอนสเตอร์ด้วยตัวคนเดียวทั้งสิ้น รูปแบบการต่อสู้ที่ทั้งงดงามและแข็งแกร่ง ทำให้การไล่ล่าบอสของเขาสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นบอสตัวไหน ไม่เว้นแม้แต่เรดบอสอย่างราชาแมงป่องยักษ์ตัวนี้ก็ตาม
“เอาล่ะ ต่อจากนี้ฉันควรจะล่าบอสตัวไหนดี? คงจะรู้สึกเบื่อไปซักพักล่ะนะ” ฮยอนนูพูดพึมพำออกมาอย่างเบื่อหน่าย ทุกวันนี้เขาก็เบื่อจะตายอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?
***
ฮยอนนูวางแก้วน้ำของเขาลง
“ขอโทษด้วยนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยปากบอกผู้คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามแล้วลุกออกจากที่นั่งของเขาทันที
“ดะ…เดี๋ยวก่อนสิ!”
“คุณฮยอนนู!” พนักงานระดับแนวหน้าขององค์กรเจทีเทเลคอมโปรเฟสชั่นแนล (JT Telecom Professional Gaming Team) อย่างผู้จัดการคังยูจง และโค้ชจองบยองจินรีบเอ่ยชื่อรั้งตัวฮยอนนูไว้ด้วยความร้อนรน
“ค่าจ้างคือ 100 ล้าน! 100 ล้านเลยนะครับ นี่คุณไม่รู้เหรอว่า 100 ล้านมันเยอะขนาดไหน?” ผู้จัดการคังยูจงตะโกนออกมาอย่างสับสน แต่ทว่า…
‘แล้วยังไงล่ะ?’ ฮยอนนูคิดแต่ไม่ได้พูดออกมา มีเพียงรอยยิ้มเล็กน้อยเท่านั้นที่ปรากฎอยู่บนใบน้าของเขา
100 ล้าน? จริงอยู่ที่มันเป็นเงินปริมาณมหาศาล แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ฮยอนนูรู้สึกสนใจเลยแม้แต่น้อย เพราะตัวเขานั้นคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด
‘ใช่แล้วล่ะ คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด’ พ่อของฮยอนนูเป็นประธานใหญ่ของบริษัทขนาดกลางอย่างเครือเฟรชวอเตอร์ (Freshwater Constructions) การที่ฮยอนนูไม่ได้รู้สึกสนใจไยดีกับรายได้ 100 ล้านต่อปีจึงไม่ใช่เรื่องแปลก อีกทั้งอาชีพนักเล่นเกมยังมีข้อเสียร้ายแรงอยู่ประการหนึ่ง นั่นคืออายุงานที่สั้นเพียงแค่ 3 ถึง 4 ปีเท่านั้น อนาคตจะกลายเป็นเรื่องไม่แน่นอนทันทีเมื่อพวกเขาเกษียณตัวเอง
มันเป็นเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชีวิตของนักเล่นเกมมืออาชีพในวัย 30 กว่าปีนั้น ไร้ค่า เหลวแหลก และหมดสภาพ เพราะว่าพวกเขาดันเอาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการพัฒนาตัวเองอย่างช่วงเรียนมหาลัยไปเล่นเกม
จองกอนนุง นักเล่นเกมมืออาชีพ ผู้เล่นเกมชื่อดังอย่าง LoL เกมสไตล์โมบ้ายอดนิยมที่เคยสร้างปรากฏการณ์ในอดีตเคยพูดเอาไว้ว่า “อนาคตของนักเล่นเกมมืออาชีพไม่ได้สดใสอย่างที่คิดหรอก”
เงามืดนี้ล้วนคืบคลานไล่ล่าตามหลังนักเล่นเกมมืออาชีพ ผู้ซึ่งโด่ดเด่น มีชื่อเสียง และเป็นที่สนใจเมื่อครั้งยังเล่นอยู่ทั้งสิ้น แน่นอนว่าการเป็นนักเล่นเกมมืออาชีพไม่ใช่ปัญหาสำหรับฮยอนนูผู้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดเลย ปัญหาคือเขาไม่ได้สนใจในเกมที่มีชื่อว่าอารีน่านี้อีกต่อไปแล้ว
“ฉันเหนื่อยกับมันแล้วตอนนี้”
อันดับ 1 ในเซิร์ฟเวอร์แรงค์รวม
อันดับ 1 ในการมีตัวละครเลเวลสูงสุด
อันดับ 1 ในแต้มอารีน่า
นอกจากนี้ยังมีไอเทมหายากมูลค่าหลายสิบล้านวอน
การเป็นนักเล่นเกมมืออาชีพจะไปมีความสนุกอะไรกับเกมที่ตัวเองไปถึงจุดสูงสุดของมันแล้ว ‘เลิกแล้วกลับมาจดจ่อกับความจริงเถอะ ฉันจำเป็นต้องรับช่วงต่อกิจการของพ่อ’
ในที่สุดฮยอนนูก็ตัดสินใจเลิกเล่นเกมอารีน่า
***
“หัวหน้าครับ!” คิมแดรี หนึ่งในทีมผู้พัฒนาของเกมอารีน่าตะโกนเรียกหัวหน้าของเขาด้วยน้ำเสียงที่กระวนกระวาย “เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ!”
“เกิดอะไรขึ้น?” หัวหน้าแผนกผู้พัฒนาเกมอารีน่าที่กำลังเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานติดต่อกันจนดึกดื่นมาหลายวันยกมือขึ้นมาขยี้ดวงตาอ่อนล้าของเขาด้วยท่าทางงัวเงีย
“ผู้เล่นที่ชื่อว่าเมลีก็อด (Meleegod) น่ะ!”
“…?”
“เขาลบตัวละครทิ้งไปแล้ว!”
“อะ…อะไรนะ?!?!” หัวหน้าแผนกผู้พัฒนาเกมอารีน่ารู้สึกตกใจจนหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
“ระ…รีบหยุดเขาเดี๋ยวนี้!”
“จะ…จะให้หยุดเขายังไงละครับ?”
“ไม่ว่ายังไงก็ต้องหยุดให้ได้ รีบหยุดมัน! นี่แกมัวทำอะไรอยู่เนี่ย!”
“ไม่ทันแล้วครับ มันถูกลบไปเรียบร้อยแล้วครับหัวหน้า!”
“โธ่เว้ย! ฉันจะทำยังไงดีล่ะทีนี้”
คิมแดรีมองหัวหน้าของเขานั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเก้าอี้เสมือนว่าโดนสูบวิญญาณออกไปอย่างไรอย่างนั้น
“การปรากฏตัวของเขาในฐานะนักเล่นเกมมืออาชีพผู้เป็นเจ้าของตัวละครเมลีก็อดก็จะถูกยกเลิกไปด้วยใช่ไหมครับหัวหน้า?”
“นี่แกยังกล้าพูดตอกย้ำงั้นเหรอ? เจ้าบ้าเอ๊ย! รีบหาทางเลือกทางอื่นมาแทนที่ให้ได้!”
สำหรับทีมผู้พัฒนาของเกมนี้นั้นเมลีก็อดหรือฮยอนนูคือจุดเริ่มต้นสำคัญในการยกระดับเกมอารีน่าไปอีกขั้น เพราะผู้เล่นอย่างฮยอนนูนั้น มีความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์ พูดแบบเจาะจงคือแทบจะไม่มีใครเทียบเขาได้เลยในเรื่องของการควบคุมเกม
‘การคุมเกมที่ไม่อาจเข้าใจได้’ นี่คือถ้อยคำที่ใช้อธิบายรูปแบบการต่อสู้ของฮยอนนูได้ดีที่สุด เขาจัดการกับมอนเสตอร์ด้วยวิธีที่เหนือการคาดเดา ทั้งในตอนที่เขาไปโซโล่เรดบอสครั้งแรก หรือแม้แต่ในสงครามตอนที่เขาสู้กับเหล่าแรงค์เกอร์ทั้งหลาย
หัวหน้าแผนกผู้พัฒนาเกมอย่างเขาไม่สงสัยเลยว่ารูปแบบการต่อสู้ที่มีสีสันและสมบูรณ์แบบนั้น เมื่อรวมเข้ากับรูปลักษณ์ภายนอกอันหล่อเหลา ก็เพียงพอแล้วที่จะเขย่าวงการโลกเสมือนในตอนนี้ การที่ฮยอนนูลบตัวละครของเขาแบบกะทันหันในครั้งนี้ ทำให้พวกเขาตกอยู่ในสภาพกระวนกระวายอย่างแท้จริง
“หัวหน้าครับ นี่ไม่ใช่พื้นที่สูบบุหรี่นะครับ”
“โธ่เว้ย! มันใช่เรื่องสำคัญเหรอ? ไว้ฉันค่อยไปจ่ายค่าปรับเอาก็ได้ เฮ้อ ~”
หัวหน้าแผนกผู้พัฒนาเกมกลุ้มใจเสียจนต้องหยิบบุหรี่ที่เคยสัญญากับภรรยาไว้ว่าจะไม่สูบมันอีกขึ้นมาจนได้
***
1 ปี 8 เดือน ผ่านไป ~
“ว่าไงคังฮยอนนู นี่เป็นปีสุดท้ายของนายแล้วสินะ เวลาช่างผ่านไปไวจริง ๆ”
“ไม่ใช่เลยสักนิด ช่วงเวลาที่น่าเบื่อนี้มันผ่านไปช้ามากเลยต่างหาก เฮ้อ~”
ฮยอนนูรู้สึกสดชื่นขึ้นอีกครั้งในช่วงหยุดยาวปีสุดท้ายของเขา นี่เป็นช่วงเวลาที่เขาสามารถมองเห็นจุดสิ้นสุดในการเป็นทหารของเขาซึ่งดูเหมือนว่ามันจะไม่มีวันจบลงสักที เวลาผ่านไปนานพอดู นับตั้งแต่ที่เขาได้เข้าประจำการเป็นทหารจนกระทั่งตอนนี้ เขารู้สึกว่าได้กลายเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างทรหดและน่าเบื่อไปเสียแล้ว
โดยปกติวันหยุดยาวของทหารนั้นมีน้อยมาก ทำให้นานมากแล้วที่ฮยอนนูไม่ได้กลับบ้าน
ติ๊ง ต่องงง ติ๊ง ต่องงง ติ๊ง ต่องงง~
“อะไรกัน? ไม่มีใครอยู่เหรอ? เปิดประตูด้วยครับ”
เมื่อชายหนุ่มมาถึงหน้าประตูของรั้วของบ้านเขาก็กดกระดิ่งตามปกติ แต่ทว่าไม่มีเสียงใครตอบรับกลับมาเลยสักคน ท้ายที่สุดเขาจึงตัดสินใจล้วงกุญแจออกมาจากก้นกระเป๋าแล้วไขปลดล็อกประตู ชายหนุ่มเดินผ่านประตูรั้วเข้ามายังสวน เขารู้สึกแปลกใจที่ไม่ได้ยินเสียงจากแม่ของเขาหรือคุณป้าที่มาช่วยงานเลย
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!” ฮยอนนูเดินเข้าไปในบ้านแล้วตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นเป็นอย่างมาก ทุก ๆ มุมในบ้านนั้นถูกติดด้วยสติ๊กเกอร์สีแดง ‘เกิดอะไรขึ้นกันวะเนี่ย! ทำไมถึงมีสติ๊กเกอร์สีแดงเต็มไปหมด ตอนที่เขากลับมาบ้านเมื่อวันหยุดยาวครั้งที่แล้วยังปกติอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?’