Red Envelope อั่งเปาทะลุโลก - ตอนที่ 183
เจ้าแห่งอุตสาหกรรม
มาถึงที่บริษัทในตอนเช้า, อู๋ฮ่าวเหรินก็เดินไปที่ไซต์ก่อสร้างและเดินดูไปรอบๆ ก่อนที่จะซื้อกล่องเซ็ตเครื่องมือที่ใช้งานแล้วต่อจากช่างเครื่องคนหนึ่ง, ซึ่งก็ถือได้ว่าสิ่งที่ช่างยนต์ได้ขอเขาไว้เป็นอันเสร็จสิ้น
เมื่อนึกถึงสายตาที่ช่างเครื่องมองเขาเมื่อตะกี๊แล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินก็รู้สึกได้ว่าสิ่งที่เขาทำลงไปเมื่อกี๊มันช่างดูโง่ๆเสียจริง, บางทีเขาคงต้องมองหาใครซักคนมาช่วยเขาเรื่องนี้แล้ว
ณ เวลา 10 โมงเช้า, จื่อหยงก็ได้โทรมาและบอกว่าเขาได้พาคนมารออยู่ที่หน้าบริษัทแล้ว แต่ถูกกันไม่ให้เข้าโดยรปภ.
อู๋ฮ่าวเหรินจึงได้บอกให้รปภ.ไปตามคนขับรถมา แล้วให้พาพวกเขาทั้งหมดไปที่ส่วนของโรงงาน
จื่อหยงลงมาจากรถมาและมองดูสภาพแวดล้อมรอบๆ ก่อนจะพูดขึ้น “โรงงานของคุณกว้างขวางจริงๆเลยนะ ใช้เวลาตั้ง 2 นาทีเพื่อเดินทางจากประตูใหญ่จนมาถึงที่นี่”
“ไม่หรอก, ผมเกรงว่ามันจะไม่พอเสียด้วยซ้ำ ถ้าไม่สร้างให้ใหญ่ขนาดนี้น่ะ ดูนั่นสิ, เดิมทีผมเป็นที่เผื่อเอาไว้สำหรับเก็บวัตถุดิบ แต่ตอนนี้มันเกือบไม่พอใช้ด้วยซ้ำ”
ตอนนั้นเอง, ที่หลังรถมีผู้คนในชุดเครื่องแบบทหารทยอยลงมาจากรถ พวกเขาต่างก็สงสัยเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้
แต่หลังจากที่หันหน้ามาเจออู๋ฮ่าวเหริน, บางคนก็มีแววตาที่เปล่งประกาย, ราวกับเจอผู้หญิงสวยงาม ซึ่งนั่นทำให้อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกเกรงๆ
“ผมขอแนะนำพวกคุณให้รู้จัก, นี่คืออู๋ฮ่าวเหริน, นักประดิษฐ์อัจฉริยะที่พวกคุณอยากจะพบมาตลอด พวกคุณจะเรียนรู้ทักษะจากเขาได้มากเท่าไรในเวลานี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกคุณแล้วนะ”
ทันทีที่จื่อหยงพูดแนะนำจบ, ก็มีชายวัยกลางคนเดินเข้ามาหาและพูดขึ้น “คุณอู๋ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื่อเจียงเสี่ยวชวน, เป็นหัวหน้าทีมนี้ครับ ผมจะนำทีมของผมทำภารกิจนี้ให้ลุล่วงครับ”
เมื่อมองดูการกระทำของคนๆนี้แล้ว, เขาปฏิบัติเหมือนกับว่าได้รับคำสั่งมาจากกองทัพ, อู๋ฮ่าวเหรินจึงรู้สึกผิดหวังหน่อยๆ คนแบบนี้นั้นไม่ง่ายที่จะเข้าหาด้วย, แต่ว่าพวกเขาก็เป็นคนที่จริงจังมากในการทำงาน
“สวัสดีครับ”
“ดูนั่นสิ, หัวหน้าทำเป็นขึงขังอีกแล้ว นายคิดว่าคราวนี้เขาจะทำไปได้นานแค่ไหน?”
“5 นาที”
“ดูจากสภาพของหัวหน้าแล้ว ผมให้นาทีเดียว”
“30 วิเลยเอ้า”
ทันทีที่คนสุดท้ายพูดจบ, อู๋ฮ่าวเหรินก็มองไปที่คนตรงหน้าเขาอย่างประหลาดใจ, ในตอนนี้เขาอยู่ในสภาพหย่อนยานแล้ว
จื่อหยงมองมาที่อู๋ฮ่าวเหรินทำหน้าเหมือนช่วยไม่ได้, ก่อนที่เขาจะเตะไปที่ขาของเจียงเสี่ยวชวน แล้วพูดขึ้น “เมื่อสักครู่ เขาแค่เสแสร้งทำน่ะ, เจ้าหมอนี่ในสถาบันน่ะนะ ขึ้นชื่อเรื่องเจ้าเล่ห์มาก คนที่เจอเขาครั้งแรกก็มักจะถูกหลอกด้วยท่าทางแบบตะกี้”
“น้องอู๋, คำสั่งจากทางกองทัพก็จบไปแล้วล่ะนะ เอาล่ะ, ตอนนี้ผมเป็นลูกจ้างของคุณแล้วนะ มาดูกันซิว่า ผมจะเพลิดเพลินไปกับผลประโยชน์ของบริษัทคุณได้ไหมนะ?”
มองดูท่าทางของคนๆนี้แล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่าบุคลิกแบบนี้นั้นดีกว่าบุคลิกจริงจังแบบเมื่อกี้เสียอีก คนแบบนี้ง่ายที่จะคบหาด้วย, แต่ว่ายากที่ให้จะให้มารับใช้
เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่สนชายคนนั้นและพูดขึ้น “ไปกันเถอะ ผมจะพาพวกคุณไปดูและทำความรู้จักกับเครื่องจักรการผลิต”
อู๋ฮ่าวเหรินนั้นได้เตรียมพร้อมสำหรับวัตถุดิบที่จะใช้ผลิตไว้แล้ว สิ่งที่พวกเขาจะต้องทำคือผสมวัตถุดิบเหล่านั้นเข้าด้วยกัน, จากนั้นก็สร้างขึ้นมา แล้วใส่เข้าไปในเครื่องผลิตไฟฟ้าด้วยความร้อน
แต่เนื่องจากโครงการนี้นั้นไม่ได้มีขนาดเล็ก, ถ้าอู๋ฮ่าวเหรินจะต้องทำด้วยตัวเอง เขาคงจะต้องจ้างช่างเทคนิคจำนวนมากช่วยกันทำขึ้นมา โดยปราศจากการช่วยเหลือจากหุ่นยนต์
ภายนอกโรงงานค่อนข้างที่ดูธรรมดาๆนั้น, แต่สำหรับภายในโรงงานนั้น พวกมืออาชีพเหล่านี้เห็นแล้วก็รู้สึกได้ในทันที
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูพวกเขา สำหรับที่โรงงานนี้แล้ว มันต่างจากห้องแล็บที่อยู่ตรงนั้น ไม่มีอะไรที่เขาเก็บซ่อนไว้ความลับ
“เดินชมดูได้เลยนะครับ ถ้าพวกคุณมีอะไรหรือสิ่งไหนไม่เข้าใจ, ก็มาหาผมแล้วถามได้เลยครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้, ผู้คนต่างก็แยกกันตัวกันออกไป และมองดูเครื่องจักรที่ดูราวกับหลุดออกมาจากในนิยายข้างในโรงงาน
“โอ๊ะ, เดี๋ยวนะ, เจ้าพวกนี้คือเครื่องมือจักรกลงั้นรึ?”
“มันคือเครื่องมือจักรกลนั่นแหละ มีอะไรงั้นรึ?”
จื่อหยงและอู๋ฮ่าวเหรินเดินเข้ามาหาและมองดูหัวหน้าทีมเจียงเสี่ยวชวนอย่างสงสัย
“เครื่องมือจักรกลพวกนี้มันต่างจากเครื่องที่ผมเคยเห็นก่อนหน้านี้ พวกมันดูเที่ยงตรงกว่าและมีฟังชั่นการทำงานมากกว่า
“มันแตกต่างกันจริงๆนั่นแหละ, เครื่องมือจักรกลพวกนี้คือรุ่นปรับปรุง เพื่อแก้ปัญหาเรื่องของความเที่ยงตรง”
“ขอผมทดลองใช้หน่อยได้ไหม?”
“ได้สิ, ยังไงเสีย เจ้าเครื่องมือจักรกลพวกนี้ก็จำเป็นต้องให้พวกคุณเป็นคนควบคุมและทำชิ้นส่วนขึ้นมาในอนาคตอยู่แล้ว”
อู๋ฮ่าวเหรินมองท่าทางของคนพวกนี้แล้ว ก่อนที่จะหันไปถามจื่อหยงที่ไม่พูดอะไรมาสักพักแล้ว “คนพวกนี้ไม่ใช่คนจากหน่วยข่าวกรองใช่มั๊ย?”
“หน่วยข่าวกรอง?, คนพวกนี้ก็ได้รับการฝึกการต่อต้านการจารกรรมมาอยู่ล่ะนะ เพราะมันเป็นงานของพวกเขา ที่ต้องรับผิดชอบด้านการผลิตในสถาบันวิจัย เมื่อพวกเขามักถูกส่งให้ไปทำงานในสถานที่ต่างๆ จึงสามารถปรับตัวให้เข้ากับแวดล้อมในการทำงานได้ดี”
หลังจากนั้นสักพัก, เจียงเสี่ยวชวนรีบวิ่งมาหาอู๋ฮ่าวเหรินด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจและพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น, “งานช่วยคุณสร้างโรงผลิตไฟฟ้าด้วยความร้อนในครั้งนี้ผมขออะไรอย่างอื่นตอบแทนเลยก็ได้ ผมขอให้คุณช่วยมอบเครื่องมือจักรกลพวกนี้ให้กับพวกเราทีเถอะนะ”
“ให้พวกคุณ? ไม่ได้หรอก, เครื่องมือจักรกลพวกนี้มันค่อนข้างสร้างยาก ถ้าพวกคุณอยากได้, พวกคุณก็สร้างกันขึ้นมาเองก็แล้วกัน”
“พวกเราสร้างขึ้นมาเองแน่, แต่พวกเราไม่มีเทคโนโลยีที่จะสร้างมันขึ้นมาน่ะสิ เทคโนโลยีเหล่านี้พวกเราถูกสั่งห้ามนำเข้าจากพวกต่างประเทศ, ถึงแม้พวกเราจะอยากสร้างมันก็ตามที”
จื่อหยง, ที่อยู่ข้างๆเขาก็ได้ตอบสนองขึ้นมาทันที ตัวเขานั้นคิดว่าเครื่องมือจักรกลที่เขาได้ไปเมื่อคราวก่อนนั้น คือดีที่สุดที่อู๋ฮ่าวเหรินมีแล้ว แต่หลังจากที่ผ่านไปนาน, ดูเหมือนความสามารถของคนๆนี้จะเพิ่มขึ้นไปอีก
“เจ้าหนูบอกข้ามาสิว่า, เจ้าเครื่องมือจักรกลพวกนี้ ล้ำหน้าที่สุดแล้ว?”
ในตอนนี้, อู๋ฮ่าวเหรินก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ดูเหมือนเทคโนโลยีของจีนนั้นจะถูกสั่งห้ามนำเข้าโดยต่างประเทศ เครื่องจักรที่เที่ยงตรงมากมายนั้นไม่สามารถนำเข้าได้จากต่างประเทศ
จึงไม่แปลกที่คนพวกนั้นที่เอาแบบภาพร่างของเขาไปในตอนนั้น ถึงได้ดูตื่นเต้นนัก, ไม่ได้เป็นเพราะพวกเขาได้เทคโนโลยีการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดไป, แต่เป็นเพราะพวกเขาได้เทคโนโลยีการผลิตเครื่องมือจักรกลที่แม่นยำไปต่างหาก
เมื่อพูดถึงการสูญเสียแล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินนั้นรู้สึกได้ว่าเขาได้สูญเสียครั้งใหญ่ โดยที่เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลย
ไม่ใช่ทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดหรือวัสดุเส้นใยพืช แต่กลับเป็นเทคโนโลยีการผลิตเครื่องมือจักรกลที่แม่นยำต่างหากที่เขาได้ให้ไป
มันทำให้เขารู้สึกมึนงงเล็กน้อยขึ้นมา, ทำไมคนพวกนี้ถึงไม่เคยพูดอะไรถึงเรื่องนี้เลยจนถึงตอนนี้
อู๋ฮ่าวเหรินจึงได้แกล้งทำเป็นตกใจและถามกลับไป, “เทคโนโลยีพวกนี้มันนำเข้ามาได้ไม่ใช่รึไง พวกคุณไม่รู้งั้นหรือ?”
“ใช่, แน่นอนว่าพวกเราก็รู้เรื่องนี้ แต่ปัญหาคือพวกเรานั้นไม่สามารถนำเข้าเทคโนโลยีพวกนี้ได้ พวกเขาหวงแหนและปิดกั้นข้อมูลพวกนี้มาก”
“ผมคิดว่าพวกเรามีเทคโนโลยีพวกนี้ในประเทศจีนแล้วเสียอีก ก็ได้, ผมจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับพวกนี้ทีหลังละกัน เครื่องมือจักรกลแบบไหนที่พวกคุณอยากจะผลิตขึ้นมาเองกันล่ะ?”
อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่าในอนาคต, เขาควรที่จะสนใจเรื่องที่ไม่สำคัญแบบนี้ให้มากขึ้น โชคยังดีที่ว่า, พื้นฐานการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมที่ผลักดันโดยจี้นั้น แม้จะไม่ล้ำหน้าไม่มากนัก, แต่มันก็ดีกว่าเทคโนโลยีของต่างชาติแน่นอน
ในเมื่อพวกเขาสามารถยอมรับเรื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัดได้, ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่นา พวกเขานั้นคิดว่าเทคโนโลยีเหล่านี้นั้นขโมยมาจากต่างประเทศด้วยการใช้เทคโนโลยีแฮกมารึไงนะ
ขณะที่จื่อหยงกำลังรายงานนี้ไป, อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้ยินเสียงตื่นเต้นฮือฮามาจากด้านนั้น
“จะว่ายังไงดีล่ะ? ดูพวกคุณจะตื่นเต้นที่ได้เห็นเจ้าเครื่องนี้มากกว่าเห็นสิ่งประดิษฐ์อีกนะ”
“แน่นอนสิ, คุณรู้มั๊ยว่าเจ้าเครื่องที่แม่นยำและเที่ยงตรงแบบนี้น่ะเรียกได้ว่าเจ้าแห่งอุตสาหกรรมของเทคโนโลยีการผลิตเลยนะ? มันมีบางชิ้นส่วนที่พวกเราไม่สามารถทำได้มาก่อน แต่ด้วยเจ้าเครื่องนี้พวกเราสามารถทำมันได้แล้ว! โดยเฉพาะการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมการทหาร เรียกได้ว่าเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่เลยล่ะ”
อู๋ฮ่าวเหรินส่ายหัว มันเป็นเพราะอิทธิพลของเขาที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการทหาร มันเหมือนใกล้จะเป็นเรื่องจริงแล้วที่ว่าอีกไม่นานกำลังทหารของเราจะสามารถทัดเทียมกับต่างชาติได
จากข้อมูลในเรื่องนี้, ก็ได้มีกองกำลังพิเศษได้ถูกส่งมาเพื่อพาตัวจื่อหยงกลับไป ซึ่งทำให้อู๋ฮ่าวเหรินถึงกับพูดอะไรไม่ออก