Red Envelope อั่งเปาทะลุโลก - ตอนที่ 197
CF:บทที่ 197 สมาชิกที่สิ้นหวัง
ผ่านมาได้ 3 วันแล้วจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น อู๋ฮ่าวเหรินที่กำลังอยู่ในห้องแล็บตั้งแต่เช้านั้น กำลังง่วนอยู่กับการประกอบหุ่นยนต์, หลังจากที่ได้รับการติดต่อมาจากเบื้องบนแล้ว เขาจึงได้รู้ว่าสมาชิกรัฐสภาของอเมริกากำลังจะมาหาเขา
แต่สถานที่นัดพบในครั้งนี้ไม่ใช่ที่ว่าการอำเภอแล้ว แต่เป็นสำนักงานใหญ่ของฟิวเจอร์กรุ๊ปแทน
เมื่อโฮวาร์ดได้พบกับอู๋ฮ่าวเหริน เขานั้นมีรอยยิ้มบนใบหน้า พร้อมกับยื่นมือของเขาออกมาหา ดูเหมือนเขาจะกระตือรือร้นมาก
“คุณอู๋ฮ่าวเหรินครับ ผมรู้สึกยินดีที่ได้พบกับคุณอีกครั้งนะครับ คราวนี้ผมมีของฝากเล็กน้อยจากอเมริกามาด้วย หวังว่าคุณจะชอบนะครับ”
มองไปที่ของขวัญของชายคนนี้ อู๋ฮ่าวเหรินถึงกับตกใจ เพราะราคามันแพงมาก มันช่างเป็นหม้อทองเหลืองที่ดูละเอียดละอ่อนมาก
“ขอบคุณมากครับ ผมชอบมันมากเลย, เชิญเข้ามาด้านในก่อนครับ”
“คุณอู๋ครับ การก่อสร้างของที่นี่ดีมากเลยครับ โดยเฉพาะอาคารนี้ คนออกแบบจะต้องเก่งมากแน่ๆ”
ฟังจากที่เขาพูดแล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินนั้นสงสัยว่าก่อนที่ชายคนนี้จะมาที่นี่นั้น เขาคงจะตระเตรียมข้อมูลเหล่านี้มาเป็นอย่างดีแล้ว เขาต้องการที่จะประจบฉันแน่ๆ
โชคไม่ดีที่ เขาไม่รู้ว่าคนที่ออกแบบอาคารนี้ไม่ใช่ฉันที่เป็นคนออกแบบซะทีเดียว แต่เป็นอาคารที่ฉันเคยเห็นจากแบบแปลนในอนาคตแล้วเอามาใช้เท่านั้นเอง
อู๋ฮ่าวเหรินยิ้มตอบแล้วถามเขากลับ “ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมท่านสมาชิกวุฒิสภาถึงได้มายังที่นี่ในวันนี้ แต่ผมว่าคงไม่ได้มาเพื่อพูดคุยเรื่องการเปิดระบบสั่งจองเพียงอย่างเดียวแน่ๆ”
“แน่นอนครับว่า จุดประสงค์ที่ผมมาในคราวนี้ไม่ใช่แค่เรื่องนั้นอย่างเดียว, ผมเชื่อว่าคุณอู๋น่าจะรู้ถึงสถานการณ์ภายในประเทศของเราดีอยู่แล้ว, ในปัจจุบัน คนพวกนั้นไม่มีเสียงสนับสนุนจากประชาชนแล้ว ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของพวกเราฝ่ายที่สนับสนุนจะร่วมมือกับคุณ”
นักการเมืองก็ยังคงเป็นนักการเมืองอยู่วันยังค่ำจริงๆ พวกเขาสามารถพูดโกหกได้โดยไม่กระพริบตาจริงๆ มันช่างดูเป็นธรรมชาติมาก ดูท่าจะเตรียมการมาเป็นอย่างดีจริงๆ
เข้าไปในห้องประชุม อู๋ฮ่าวเหรินได้บอกให้ทุกคนออกไปก่อน เพราะสิ่งที่จะออกมาจากปากของชายคนนี้นั้นจะต้องไม่มีความจริงอย่างแน่นอน
“ท่านส.ว., บอกจุดประสงค์ในการมาจริงๆได้แล้วล่ะครับ? แล้วก็ตอนที่คุณมาในครั้งก่อน ผมนั้นยังสงสัยในตัวตนของคุณอยู่ ตอนนี้คุณพอจะบอกผมได้รึยังล่ะครับ?”
โฮวาร์ดรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขายิ้มให้กับอู๋ฮ่าวเหรินและตอบกลับไป “คุณอู๋กำลังพูดเรื่องตลกอะไรอยู่ครับเนี่ย? ผมเป็นสมาชิกวุฒิสภานะครับ และตอนนี้ผมก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของพรรคไหนด้วย ผมนั้นทำเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอเมริกาครับ และจุดประสงค์เรื่องการมาของผมในครั้งนี้ก็เพื่อจะเจรจากับคุณเรื่องของการเปิดให้สั่งจองเท่านั้นเองครับ”
“โอ้, ดูเหมือนผมคงจะคิดมากเกินไป, ในเมื่อท่านส.ว.มาที่นี่เพื่อเจรจาเรื่องการเปิดการสั่งจอง งั้นเราก็มาคุยเรื่องนี้กันเถอะครับ”
“จริงๆก็ไม่มีอะไรยาก ตราบเท่าที่ท่านเซ็นสัญญาฉบับนี้
ผมก็จะเปิดระบบการสั่งจองให้ท่านทันที คิดว่าอย่างไรบ้างครับ ท่านส.ว.?”
ไม่ใช่ว่าคุณอยากจะเล่นละครหรอกเหรอ? งั้นผมก็จะคุณเล่นเสียให้พอใจ, ถ้าระบบการสั่งจองของอเมริกาถูกเปิดขึ้นมาจริงๆ คนพวกนั้นย่อมจะต้องซวยอย่างแน่นอน เพราะสินค้าของพวกเขามันจะขายไม่ออกอีกเลย
โฮวาร์ดหยิบหนังสือสัญญาขึ้นมาดูและอ่านอย่างตั้งใจ เขาทำท่าทีราวกับว่าเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่มาเพื่อเจรจาจริงๆ
ถ้าไม่รู้จักตัวตนจริงๆของเขามาก่อน อู๋ฮ่าวเหรินคงถูกหลอกโดยเขาอย่างแน่นอน
“คุณอู๋ครับ, สัญญาของคุณมันค่อนข้างจะโหดร้ายไปหน่อยนะครับ, คุณเองก็น่าจะรู้เกี่ยวกับราคาของวัตถุดิบในตลาดระหว่างประเทศดีอยู่แล้วนะครับ มันเป็นไปไม่ได้หรอกสำหรับพวกเราที่จะยอมเซ็นสัญญาฉบับนี้ครับ”
อู๋ฮ่าวเหรินหยิบหนังสือสัญญาอีกฉบับขึ้นมาจากด้านข้างก่อนจะโยนมันไปให้เขาแล้วพูดขึ้น: “แน่นอน, มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะเซ็นสัญญาฉบับนั้นกับคุณ, เพราะคุณไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเซ็นสัญญาฉบับนั้นด้วยซ้ำ ผมคิดว่าสัญญาฉบับนี้น่าจะเหมาะสมกับคุณกว่า, และถ้าคุณไม่ตกลงที่จะเซ็นสัญญาฉบับนี้ คุณก็ไม่ต้องพูดอะไรกับผมอีก ผมไม่มีเวลาว่างมากพอจะมาต่อร้องต่อเถียงกับคุณหรอก ยังมีการทดลองอีกเยอะในห้องแล็บที่รอผมให้ไปทำให้เสร็จ”
มองดูโฮวาร์ดที่กำลังอึดอัดใจ อู๋ฮ่าวเหรินจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ ก่อนที่จะนั่งลงแล้วนึกถึงเรื่องของการทดสอบหุ่นยนต์
โฮวาร์ดมองดูหนังสือสัญญาอีกฉบับที่อู๋ฮ่าวเหรินให้เขามา แล้วทันใดนั้นเขาก็สงบลง, แล้วรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไป
“คุณอู๋ฮ่าวเหรินครับ มีหนังสือสัญญาฉบับนี้แค่ฉบับเดียว ไม่มีฉบับอื่นแล้วเหรอครับ?”
“ดูเหมือนว่าท่านส.ว.จะเลิกเล่นละครตบตาแล้วสินะครับ มีหนังสือฉบับนี้ฉบับเดียวเท่านั้นแหละครับ, คุณจะเอากลับไปโชว์ให้พวกคนที่ส่งคุณมาดูก็ได้นะครับ, แล้วบอกพวกเขาด้วยว่า ถ้าพวกเขาไม่ตกลง ก็ปล่อยให้พวกเขาคิดหาวิธีจัดการกับสิ่งของที่อยู่ในมือของพวกเขาเองละกัน, แล้วพวกเขาก็จะสูญเสียยิ่งกว่า หนึ่งล้านๆดอลล่าร์แน่นอน, ซึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับพวกเขาหรอกมั๊ง?”
“คุณอู๋ครับ, คุณไม่คิดเหรอว่าสัญญาฉบับนี้ของคุณมันโหดร้ายเกินไปบ้างเหรอครับ ผมไม่คิดว่าจะมีใครเห็นด้วยกับสัญญาฉบับนี้หรอกนะครับ”
มองดูสีหน้าของโฮวาร์ดที่สงบแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็ส่ายหัว ซึ่งเดิมทีเรื่องนี้ก็ไม่ใช่การเผชิญหน้าที่ยุติธรรมเท่าไรอยู่แล้ว
“ในเมื่อพวกคุณเลือกที่จะทำแบบนั้น พวกคุณก็ควรจะคิดนะว่า มันคือสิ่งที่พวกคุณจะต้องชดใช้เมื่อพวกคุณทำผิดพลาด ทางเราไม่ได้คำนึงถึงแต่เรื่องของผลกำไรหรอกครับ แต่นี่คือบทลงโทษของคนที่ทำผิดต่างหาก, ยิ่งไปกว่านั้น การกระทำของพวกเขานั้นก็เป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย แต่ผมก็ยังใจดีพอที่จะไม่แถลงการณ์เรื่องนี้ออกไป แล้วนี่ผมยังไม่ได้รวมถึงบริษัทพวกนั้นด้วยนะ”
โฮวาร์ดนิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง เมื่อลองคิดดูแล้ว เขาบอกว่าถ้าเขาแถลงการณ์ออกไป, ก็แสดงว่าเขารู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้วงั้นเหรอ?”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ โฮวาร์ดก็รู้สึกเสียใจกับคนพวกนั้นขึ้นมา พวกคนที่กำลังรอเขาอยู่
เมื่อคิดถึงสิ่งที่อู๋ฮ่าวเหรินทำเมื่อตอนที่เขามาในคราวก่อน เขาก็รู้สึกผิดหวังขึ้นมา เขาคิดว่าเขานั้นเจรจาเรื่องการยืดระยะเวลาออกไปได้สำเร็จ แต่จริงๆแล้วในตอนนั้น กับดักได้เริ่มถูกวางไว้แล้วต่างหาก ด้วยการให้เวลาพวกเขาผลิต
โฮวาร์ดถอนหายใจ, แล้วมองมาที่อู๋ฮ่าวเหริน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “คุณอู๋ คุณชนะแล้ว, คุณเป็นนักแสดงตัวจริง และผมนั้นถูกหลอกใช้โดยคุณ, ถึงแม้ในเกมส์นี้ ผมจะเป็นเพียงคนกลางที่ได้เงินก็เถอะนะ แต่ผมก็จะขอบอกคุณไว้ก่อนเลยว่า ยังไงพวกเขาก็คงไม่เห็นด้วยกับสัญญาฉบับนี้หรอกครับ”
“ดูเหมือนท่านส.ว.เองก็เป็นผู้ชนะในเกมส์นี้ด้วยสินะครับ, และผมก็คิดว่าพวกเขานั้นก็น่าจะยอมเห็นด้วยกับสัญญาฉบับนี้นะครับ เพราะผมเชื่อว่าพวกเขานั้นไม่อยากที่จะไปใช้ชีวิตที่เหลือในคุกหรอกครับ, หรือบางทีอาจจะเจอพวกนายทุนที่บ้าๆบางคนจบชีวิตของพวกเขาก่อนที่จะได้เข้าไปในคุกเสียด้วยซ้ำ”
“แล้วก็บอกพวกเขาให้รีบหน่อยนะครับ, มิฉะนั้นแล้ว เมื่อไรที่ผมเปิดให้สั่งจองขึ้นมาได้จริงๆขึ้นมา พวกเขาก็จะหมดโอกาสแล้วครับ”
โฮวาร์ดลุกขึ้นยืน เขานั้นรู้ว่าสิ่งที่อู๋ฮ่าวเหรินทำนั้นมันถูกต้องแล้ว แล้วคนพวกนั้นก็จนแต้มแล้วด้วย ในตอนนี้ไม่เพียงแต่ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากประชาชนในประเทศแล้ว ยังต้องเจอกับนายทุนที่พวกเขาก็ยืมเงินมาอีกต่างหาก พวกนั้นต่างหากคือปีศาจที่แท้จริง
“คุณอู๋ครับ, ผมนั้นดีใจจริงๆ ที่ผมไม่ได้เข้าร่วมกับพวกเขา มิฉะนั้นแล้ว ผมเองก็จะเป็นแบบพวกเขาไปด้วยแน่ๆ, ในตอนนี้ ผมเข้าใจแล้วว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดเลยที่จะต่อกรกับคนที่เป็นอัจฉริยะจริงๆ”
อู๋ฮ่าวเหรินอยู่นั่งต่อ และไม่ไปส่งโฮวาร์ดกลับ หลังจากนั้นสักพักหนึ่ง เขาก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกไป
เขาเดินออกจากตึก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองพระอาทิตย์บนท้องฟ้าแล้วพูดขึ้นกับตัวเอง “อากาศดีจังเลยน้า วันนี้คงจะเป็นวันที่ดีจริงๆ บางทีพวกเราอาจจะทำหุ่นยนต์ให้เสร็จสมบูรณ์ในวันนี้ก็ได้นะ”
เขาเข้าไปในห้องแล็บ ในปัจจุบัน หุ่นยนต์นั้นได้เสร็จสมบูรณ์ไปเยอะแล้ว ขาดแต่เพียงส่วนหัวเท่านั้น
เข้าไปในห้องแล็บ, สั่งให้จี้เปิดการทำงานของอุปกรณ์ทั้งหมด อู๋ฮ่าวเหรินก็เริ่มลงมือทำงานอย่างจริงจัง
มีหัวโลหะขนาดใหญ่ยักษ์ ห้อยไว้อยู่กลางอากาศ ซึ่งมันดูแปลกๆ, ในตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดที่จะติดหัวลงไปหรอก, แต่ภายหลังเขาคิดว่าเจ้าสิ่งนี้มันเหมือนของเล่นขนาดใหญ่ ดังนั้นมันจะดูเท่ห์กว่าถ้าติดหัวลงไป
มีฉากโลหะที่จับยึดประครองหุ่นทั้งตัวเอาไว้ อู๋ฮ่าวเหรินหยิบเอาสายมาเชื่อมต่อเข้ากับชิปแล้วเชื่อมเข้ากับคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจึงเริ่มทำการโอนย้ายเข้าไป
ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่รวบรวมมาจากอินเตอร์เน็ท ข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับการต่อสู้ แล้วจากนั้นข้อมูลเหล่านี้ก็จะถูกคัดกรองโดยคอมพิวเตอร์นิรนัย, เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ดีที่สุดออกมา
ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นตัวที่ทำให้มั่นใจว่าเมื่อหุ่นยนต์ต้องทำการต่อสู้แล้ว พวกมันจะฆ่าศัตรูด้วยวิธีการที่ดีที่สุดได้
แน่นอนว่า อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่าในปัจจุบัน คงไม่มีศัตรูที่จะมาต่อกรกับเจ้าตัวโตตัวนี้ได้แน่ ดังนั้นมันจึงเป็นได้เพียงของเล่นชิ้นโตเท่านั้น
————————-