Red Envelope อั่งเปาทะลุโลก - ตอนที่ 203
CF:บทที่ 203 การท้าทาย
เขาอยู่ที่ภูเขาเป็นเวลาสองวันแล้ว ตามคำขอแกมบังคับของ อู๋ ฮ่าวเหริน นักวิจัยจึงปล่อยตัวเขาไป
“คุณอู๋ที่โรงนอนทหาร ทหารหลายนายอยากเจอท่านนะครับ”
“โรงนอนทหารงั้นหรือ ได้สิ แต่ผมจะไม่ค้างคืนล่ะ เพราะผมต้องกลับไปที่บริษัทเลย”
อู๋ ฮ่าวเหริน คิดเกี่ยวกับเรื่องที่จะเสาะหาความเห็นเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าบำบัด แค่อยากจะพูดกับพวกเขา
ทันทีที่รู้ว่า อู๋ ฮ่าวเหริน กำลังมา พวกเขาที่นี่ก็พร้อมแล้ว ทหารบางนายนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อรู้ข่าวนี้
แน่ล่ะ เพราะมีใครบางคนกำลังคิดวิธีที่จะจัดการเขาอยู่
“ไอ้หนูนั่นกำลังมา เหลาเหอ ถ้าคุณไม่คิดวิธีที่จะทำให้เขาแข็งแกร่งล่ะก็ ฉันก็คงไม่อยากจะทำแบบนี้ ฉันเสียน้ำหนักไปแล้วอย่างน้อยสิบจิน แม้แต่จะกลับไปกินเนื้อที่บ้านยังไม่ได้เลย” นายพลกล่าวขึ้นอย่างเศร้าๆ
“ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อจัดการกับนาย และในตอนนี้ เขายังเป็นแขกที่เราเชิญมาอีกด้วย ฉะนั้น นายจะทำอะไรเขาไม่ได้ แค่นี้คงเข้าใจนะ”
“ดูร่างกายของนายสิ ช่วงนี้ฉันน่ะออกกำลังกาย กล้ามเนื้อช่วงท้องของฉันก่อนหน้านี้ก็เข้าที่ไปแล้ว ฉันควรต้องขอบคุณคนอื่นๆด้วย”
“ขอบคุณนะ แต่นี่เป็นอาชญากรรมร้ายแรง ทุกเช้า ผมต้องตื่นมาฝึกกับกองทัพเด็กๆ หน้าฉันไหม้ไปหมด”
ในตอนนี้ เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่ง ลักษณะดูเหมือนนายพลก็เดินเข้ามา ก่อนจะหัวเราะและเอ่ยขึ้น “หมีแก่ที่นายถามถึงน่ะ ทำให้นายนึกถึงของที่แสดงสภาพร่างกายตัวเอง และนายจะได้ทำการทดลองกับตัวเองต่อหน้าทหาร”
“ดูเหลาเหอสิ เขาฝึกเงียบๆทุกวัน จนเขารู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงเกือบจะพอๆกับทหารพวกนั้นเลย เขากล้าที่จะนำอุปกรณ์ไปและเข้าหาพวกเขา”
เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้คือเหล่านายพลที่หลงในประสิทธิภาพสำหรับเครื่องมือไฟฟ้าบำบัดของอู๋ ฮ่าวเหริน พวกเขาประสบกับข้อมูลด้วยความเจ็บปวดที่แผดเผา เป็นเวลาชั่วครู่ที่พวกเขาต่างซ่อนตัวจากทหาร
ในตอนแรก เขาต้องการหาตัวอู๋ ฮ่าวเหริน เพื่อพยายามที่จะเปลี่ยนข้อมูลถ้าเขาโกงได้ ดังนั้น เขาจึงถูกวิจารณ์โดยตรงจากพวกทหาร ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนต่างโดนบังคับให้ถืออุปกรณ์นี้ทั้งนั้น
ถ้าคุณไม่อยากเสียหน้าล่ะก็ จงไปฝึกซะและคุณจะได้ร่างกายสมส่วนที่คุณเสียไปกลับคืนมา
บางคนก็รู้สึกเป็นทุกข์ใจจากอาชญากรรมที่มีมากมาย คุณจะไม่สามารถแม้กระทั่งแกล้งป่วยได้ แต่คุณสามารถแกล้งทำเป็นไม่สนใจข้อมูลพวกนั้นได้
“อืม เมื่อเด็กๆมา เราจะหาโอกาสแข่งกับเขา เพราะเขาผลิตอุปกรณ์ประเภทนั้นขึ้นมา ผมจึงเชื่อว่าความแข็งแกร่งเป็นเรื่องที่ดี
“ได้ ดีเลย งั้นเดี๋ยวเรามาจัดการแข่งทางทหารครั้งใหญ่กันเถอะ แล้วยังเป็นการทดสอบในช่วงของการฝึกอีกด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่าอุปกรณ์ของเขาจะช่วยกองทัพเราได้อย่างไร”
อู๋ ฮ่าวเหรินไม่รู้อะไรอีกเลยว่าเขานั้นเป็นที่จดจำก่อนจะมาถึงที่โรงนอนทหาร แต่อย่างไรก็ตาม คนที่ต้องการมีปัญหากับเขา โดยเฉพาะกับการต่อสู้แล้วนั้น อาจจะพบว่าตนนั้นเล่นผิดคนแล้ว
เมื่อเข้ามาในโรงนอนทหาร อู๋ ฮ่าวเหริน ก็รู้สึกประหลาดใจที่เห็นพิธีต้อนรับซึ่งได้รับการจัดขึ้นเพื่อเขา
เมื่อเห็นนายพลหลายนายตบเท้าเข้ามา อู๋ ฮ่าวเหริน ยิ่งรู้สึกประหลาดใจขึ้นไปอีก โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ยินการแนะนำตัวของผู้คนถัดจากเขา
“มีคนบอกว่าคุณอู๋กำลังมา นายพลหลายท่านได้จัดเตรียมการแข่งขันกองพันทหารชุดใหญ่ พวกเขาต้องการที่จะแสดงให้คุณอู๋เห็นถึงผลลัพธ์ของเครื่องไฟฟ้าบำบัด”
ในตอนนั้นเอง นายพลซงก็ปรากฏตัวก่อนจะตบไหล่ของ อู๋ ฮ่าวเหรินพลางกล่าวขึ้น “นายเป็นเด็กดี หนุ่มน้อย ตอนที่ฉันเด็กเหมือนนาย ถ้าฉันฉลาดได้สักครึ่งแบบนี้ ก็อาจจะได้เข้าทำงานในสถาบันวิจัยไปแล้ว”
อู๋ ฮ่าวเหรินรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งที่อยู่บนไหล่ก่อนจะหันไปเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าท่านนายพล เขาเองก็ไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจหรือความเคยชิน เพราะแรงนั้นเยอะเหลือเกิน
“ถ้าท่านนายพลซ่งไปทำงานในสถาบันวิจัย ประเทศของเราคงเสียนายพลที่คอยนำทัพไปน่ะสิครับ”
“ท่านคือคนสำคัญเลยนะครับ ท่านได้เข้าในสถาบันและผ่านวิชาการทหารได้ ถ้าอดีตท่านนายพลไม่เห็นว่าท่านเก่งแค่ไหน ท่านอาจจะถูกขับออกจากโรงนอนทหารนี้ไปแล้ว สวัสดี ผมชื่อ ลู่ ไป๋ชาน ได้ยินมาว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าบำบัดยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆอีก ถ้าเราพัฒนามันล่ะก็ กองทัพที่ห้าของเราคงจะได้เป็นทดลองเป็นกองทัพแรกแน่ๆ”
“กองทัพของเราตั้งใจจะเป็นคนทดลองกลุ่มแรก เพราะเมื่อนายมาโรงนอนทหาร ฉันจะให้อะไรดีๆกับนาย”
ในขณะที่มองกลุ่มนายพลโต้เถียงกัน ผู้คุ้มกันที่อยู่ข้างๆต้องการจะเตือนความจำพวกเขา แต่พวกเขาดูกลัวที่จะสั่งออกไป
“ท่านนายพล การแข่งขันนั้นพร้อมแล้ว ท่านจะพาคุณอู๋ไปก่อนไหมครับ”
“เอาสิ ไป มากับฉัน หนุ่มน้อย เวลานี้ กองทัพที่สองจะต้องเข้าไปก่อน”
อู๋ ฮ่าวเหริน ตามพวกเขาเข้าไปพลางดูพวกเขาทุ่มเถียงกัน ต่างบอกว่ากองทัพของพวกเขาจะต้องเป็นที่หนึ่งในการแข่งขัน จากนั้นก็ไม่พูดอะไรกันอีก
เมื่อดูผ่านทีวี นายพลพวกนั้นดูองอาจมากเลยทีเดียว ทั้งๆที่พวกเขาดูเหมือนคนธรรมดา เมื่อมองรูปร่างภายนอก ในทีแรก พวกเขาพร้อมที่จะสู้ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม
เมื่อพวกเรามาถึงสนามแข่ง ก็แจ้งผู้เล่นเรื่องรอบการแข่งขัน โดยรอบการแข่งจะเริ่มขึ้นเวลาใดก็ได้
เพราะนี่ไม่ใช่การแข่งขันของพวกทหารที่เป็นทางการ ไม่ต้องมีสุนทรพจน์ ทันทีที่เหล่านายพลและเขามาถึง การแข่งก็ได้เริ่มขึ้น
“หวังอู๋แห่งกองทัพที่สามกับหนิว ต้าเผิงแห่งกองทัพที่หก”
อู๋ ฮ่าวเหรินดูการแข่งขันโดยใช้ศิลปะการต่อสู้ของพวกเขาและไม่สามารถละความสนใจไปได้เลย เพราะเขามักจะดูวิดีโอศิลปะการต่อสู้มากมายหลายรูปแบบผ่านทางระบบซองแดง
หลังจากผ่านไปหลายยก นายพลที่อยู่ข้างๆก็หันมาถามเขา “คุณอู๋ คุณคิดว่าผลของการฝึกทางทหารของเราเป็นอย่างๆไร”
“ฮ่าๆ ผลจากการฝึก ผมไม่เคยเห็นทหารคนก่อนๆของคุณคนไหนเลย แต่พวกเขาก็สู้ได้ดีนะครับ”
“ไม่รู้สิ คุณอู๋ คุณได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวนี้ คุณเคยใช้มันในการฝึกหรือเปล่า”
“แน่นอนครับ ผมใช้อยู่บางตัว ผมจะรู้ผลโดยไม่เคยใช้มันได้อย่างไร จากการวิจัย ผมจะมักจะเอามันติดตัวไปด้วยเสมอ เพราะมันช่วยในเรื่องการฝึกฝนร่างกายได้มาก”
“ดีเลย แต่คุณอาจจะมีปัญหาเล็กน้อยในภายหลังได้นะ คุณอู๋ เพราะคุณฝึกมา ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร”
อู๋ ฮ่าวเหริน งงไปเล็กน้อย แล้วปัญหาคืออะไรล่ะ ไม่น่ามีปัญหาอะไรหลังจากการฝึกนี่ใช่ไหม
“คุณอู๋ ท่านนายพลซงได้ยินมาว่าคุณยังใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าบำบัดเพื่อฝึกฝนอีกด้วย ผมอยากจะแข่งกับคุณในฐานะที่คุณเป็นผู้ผลิตจังเลย รู้ไหม” ผู้คุ้มกันเดินมาอยู่ข้างๆ อู๋ ฮ่าวเหรินพร้อมกับเอ่ยถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ
หลังจากได้ยินคำถามดังกล่าว อู๋ ฮ่าวเหริน จึงได้เข้าใจว่าปัญหาที่นายพลอยากบอกให้เขารู้ในตอนนี้คืออะไร
กลายเป็นว่ามีใครบางคนกำลังเข้าท้าแข่งกับเขา และดูเหมือนว่านายพลพวกนี้จะไม่พอใจกับอุปกรณ์ไฟฟ้าบำบัดพวกนี้จริงๆ
อย่างไรก็ตาม เขามั่นใจเมื่อเปรียบกับตัวเขาเอง อู๋ ฮ่าวเหริน มองไปยังข้อมูลที่กระจัดกระจายและข้อมูลจริงๆเกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้าบำบัด เพียงแต่ว่าต้องเพิ่มค่าอีกเป็นห้าเท่า
“ผมไม่คิดแบบนั้น ถ้าคุณทำให้นายพลเจ็บตัว คงไม่ดีแน่”
“สิ่งที่ทำให้ฉันเจ็บก็คงเป็นแค่แขนเล็กๆกับลูกวัวเท่านั้นแหละ มานี่มา ถ้านายไม่สู้กับฉัน วันนี้ก็อย่าไปไหนเลย นี่เป็นเพราะผลิตภัณฑ์ของนายที่ทำให้ฉันดูโง่เง่าต่อหน้าพวกทหาร ฉันขอบอกให้นายรู้เลยนะว่าฉันรอคอยที่จะแก้แค้นนายในวันนี้”
อู๋ ฮ่าวเหริน ไม่ได้พูดอะไรต่อ นั่นก็ชัดเจนอยู่แล้ว
“ท่านนายพล ท่านแน่ใจว่าจะสู้กับผมงั้นหรือครับ ผมจะไม่ปล่อยคุณไปเมื่อผมได้เข้าประลองในสนามแข่งหรอกนะ”
“ฉันเองก็ไม่อยากให้มีการเสียเลือดเสียเนื้อหรอกนะ ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่เอานายแรงทั้งๆที่ฉันทำได้หรอกนะ เพื่อความสบายใจ”
“ไม่อย่างงั้น ผมคงต้องแสดงข้อมูลของผม ให้ท่านตัดสินใจว่าจะสู้หรือไม่สู้ดีแล้วล่ะครับ”
“ไม่มีวัน เร็วเข้า มีแค่เรานี่ล่ะ”
“อืม อย่างที่ท่านเห็น ผมไม่ได้กลั่นแกล้งท่านแต่อย่างใดเลยนะครับ”
อู๋ ฮ่าวเหริน ถอดข้าวของออกก่อนจะวางลงบนเก้าอี้ ถอดเสื้อโค้ท หลังจากออกกำลังกายอีกเล็กน้อย เขาไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งตัวแบบเดิมก่อนจะตามท่านนายพลไปที่เวที
————————-