Red Envelope อั่งเปาทะลุโลก - ตอนที่ 207
CF:บทที่ 207 ธุรกิจเว้นไว้ก่อน
เขาล้มเลิกความคิดที่จะเก็บคนเก่งๆเข้ามาเพราะเขารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น และที่ประวัติศาสตร์เปลี่ยนไปก็เป็นเพราะเขา นอกจากนี้ยังมีคำถามอยู่ว่าคนพวกนั้นจะออกมาในอนาคตหรือไม่
แน่นอนว่าการพาคนพวกนี้เข้ามาในบริษัทเป็นสิ่งที่ดีรวมถึงให้พวกเขาช่วยเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หลังจากนั้น จะไม่มีใครในหน้าประวัติศาสตร์ที่กลายเป็นคนโง่อีกต่อไป
“จี้ พวกคนที่พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ ขั้นตอนในการพัฒนามีอะไรบ้างตอนนี้”
“ในระยะเริ่มต้นนั้นยังด้อยกว่าที่สถาบันวิจัยระดับชาติ แต่อีกไม่นานก็คงตามทัน”
อู๋ ฮ่าวเหริน คิดเรื่องนี้และพร้อมที่จะวางเรื่องการพัฒนาบริษัทไว้ก่อนเพื่อที่จะทำอะไรอย่างอื่น
“จี้ เช็คให้ผมที ว่ามีงานประมูลของโบราณเมื่อเร็วๆนี้บ้างไหม นี่คงถึงเวลาที่จะต้องสะสมของโบราณและแก้ปัญหาเรื่องการอัพเกรดระบบซองแดงแล้ว”
“ถ้าจะไปงานประมูลแล้วล่ะก็ เผยแพร่ข้อมูลบนเว็บไซต์และซื้อของโบราณน่าจะเร็วกว่า ดีกว่านะ”
“นั่นเป็นไอเดียที่ดีเลยนะ ถ้าเราระบุวัตถุประสงค์ลงไปในร้านค้าพิเศษเพื่อจะซื้อของโบราณ อย่างไรก็ตามไม่ต้องกลัวเรื่องการได้รับของปลอมเลย เพราะระบบเองมันก็ไม่ได้โง่ที่จะส่งเงินไปให้พวกขี้โกงที่ขายของปลอมหรอก”
อู๋ ฮ่าวเหรินส่ายหัว ไม่ได้สนใจเรื่องสินค้าปลอมนั่น เพราะตราบใดที่ข่าวลวงยังไม่ชัดเจน ของโบราณก็จะเข้าสู่ระบบซองแดง นั่นเป็นแค่ปริมาณของเหรียญพลังงานเท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตาม วิธีนี้กลับจะสร้างเงินให้พวกนักตุ้มตุ๋นเป็นกอบเป็นกำ เริ่มจากสร้างของให้คล้ายกันแล้วก็นำไปขาย
เดิมทีนั้น ราคาการจองต่างประเทศยังเป็นที่โต้เถียงกันบนอินเทอร์เน็ตว่าการที่รัฐบาลขายวัสดุในราคาที่ต่ำนั้นเป็นประชาธิปไตย เสรีภาพ หรืออำนาจเหนือผู้อื่นหรือไม่
เมื่อใดที่เราเถียงกันในเรื่องนี้ อู๋ ฮ่าวเหรินก็จะออกประกาศที่หันเหความสนใจของพวกเขา
ไม่ว่าจะเป็นข่าวใดๆของผู้บริหารจากฟิวเจอร์กรุ๊ปก็สามารถกลายเป็นข่าวใหญ่ซึ่งส่งผลต่อสาธารณชนได้
เมื่อมองถึงวิธีสร้างหัวข้อข่าว ก็ให้มองไปที่ผู้บริหารฟิวเจอร์กรุ๊ป จากนั้นจึงทำการสุ่มคำประกาศ ก็จะได้หัวข้อข่าวในวันพรุ่งนี้
“นี่พี่ ตามเจ้าโง่นั่นไปหามาให้ได้เลยนะ เข้าไปดูเว็บไซต์ทางการ เดี๋ยวต่อไป ผู้บริหารของกลุ่มจะขึ้นคำประกาศมาอีก แต่ว่าประกาศอันนี้ดูแปลกไปหน่อยนะ ผมไม่เข้าใจเลยอ่ะ”
“เจ้าบ้า แกหมายความว่ายังไง นี่อย่าบอกนะว่าแกจะสร้างหุ่นยนต์ ทำไมนักประดิษฐ์เก่งๆถึงอยากจะสะสมของโบราณกันนักนะ”
“ฮ่าๆ ผมจำได้ว่าพ่อของพี่เองก็มีของโบราณดีๆสะสมบ้างอยู่เหมือนกันนี่นา เดี๋ยวไว้ผมจะลองดูว่าผมจะขอจากพ่อมาสักชิ้นได้หรือเปล่าและจะสัมผัสกับพวกเก่งๆแบบใกล้ชิด บางทีผมอาจจะฉลาดขึ้นก็ได้”
“ฟังจากที่แกตอบก่อนหน้านี้นะ แม้ว่าเราจะติดตามพวกอัจฉริยะทุกวัน แกก็ยังโง่อยู่นั่นแหละ”
“พี่ว่าใครโง่กัน มานี่เลย ลองมาเปรียบเทียบแบบทดสอบของฟิวเจอร์กรุ๊ปดูเลย ใครจะได้คะแนนมากกว่ากัน”
หลังจากเรียนรู้ว่าคำถามเหล่านี้มาจากอู๋ ฮ่าวเหริน คนหลายคนต่างพยายามดูว่าพวกตนได้คะแนนกันมากเท่าไหร่
และด้วยคะแนนนี้ ตอนนี้จึงกลายเป็นมาตรฐานที่วัดไอคิวของคนมากมายซึ่งอู๋ ฮ่าวเหริน ไม่ได้คาดหวัง
แต่อย่างไรก็ตาม คำถามทดสอบเหล่านี้นั้นเป็นชุดสะสมอัจฉริยะของสรรพความรู้บนอินเทอร์เน็ต หลักๆแล้ว พวกเขายังตัดสินคนด้วยความสามารถและไอคิว
หลังจากอู๋ ฮ่าวเหรินได้ปล่อยประกาศเรื่องรับซื้อของโบราณออกไปแล้วนั้น กลุ่มผู้สนใจซึ่งกังวลเกี่ยวกับฟิวเจอร์กรุ๊ปก็ต่างงุนงงเล็กน้อยพลางคิดกันว่าเทคโนโลยีจะทำอย่างไรกับของโบราณ
เท่าที่เราวิเคราะห์ว่า เทคโนโลยีแบบไหนที่ อู๋ ฮ่าวเหริน ต้องการจะประดิษฐ์ และพวกเขาจะได้ผลกำไรจากมัน นี่คือผลจากขึ้นราคาของอุปกรณ์พลังงานอุณหภูมิกันและวัสดุตัวเครื่องไฟฟ้าบำบัด
ตอนนี้เราทุกคนได้รู้แล้วตราบเท่าที่เราสามารถเข้าใจถึงอนาคตของกลุ่มและรู้ถึงสิ่งประดิษฐ์ของอัจฉริยะล่วงหน้า เราก็จะสามารถสร้างผลกำไรในอุตสาหกรรมวัสดุได้
“เด็กนี่ต้องการอะไร หุ่นยนต์ดีๆ แต่ไม่เรียนหนังสือ แล้วเขาจะซื้อของโบราณพวกนี้ไปได้อย่างไร”
“หัวหน้ายังหนุ่มอยู่เลยครับ โครงการหยวนหมิงหยวนนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง บางทีเขาอาจจะต้องการสะสมของโบราณและเก็บพวกมันใส่ไว้ในหยวนหมิงหยวนก็ได้ครับ”
“ดีนะที่สร้างราชวังฤดูร้อนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง แต่ก็โชคร้าย ถ้าทางอำเภอสร้างมันขึ้น คนก็ต้องเสียเงิน แต่เด็กคนนั้นน่ะมีเงิน เขาก็ทำได้สบาย และหลังจากเสร็จแล้ว ก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมายืมของโบราณบางชิ้นของเขาไปแสดงในงานก็ได้”
“แล้วว่าแต่ วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นงั้นหรือครับ การตรวจสอบเป็นอย่างไรบ้าง”
“ในตอนนี้ ฝ่ายอัจฉริยะได้รับข่าวบางอย่างมาจากต่างประเทศ แต่ก็ยังไม่สามารถตัดสินได้ว่าจริงหรือไม่ ฝ่ายอัจฉริยะเองกล่าวว่าเขาได้วางแผนเหตุการณ์ทุกอย่างไว้แล้ว คนพวกนั้นจึงสามารถผลิตเครื่องมือไฟฟ้าบำบัดได้ราวกับว่ามีเขาคอยช่วย แต่อย่างไรก็ตามเรายังไม่รู้เลยว่าเขาจะควบคุมอุปกรณ์เหล่านั้นอย่างไร”
“ถ้าคุณหาเจอแล้ว ก็จะรู้สึกว่ามันแปลกๆที่เทคโนโลยีของเขาบนคอมพิวเตอร์อาจล้ำเกินไปกว่าที่คุณประเมินไว้” หัวหน้าเผยรอยยิ้มและมองไปที่รายงานที่นักวิจัยหุ่นยนต์จากสถาบันเพิ่งส่งมา
ไม่ใช่แค่ประเทศจีนที่ปวดหัวกับเรื่องนี้ ประเทศอื่นๆเองก็คอยเฝ้าระวังอู๋ ฮ่าวเหริน อย่างใกล้ชิด พวกเขาไม่รู้เลยว่าผู้ชายคนนี้ต้องการจะทำอะไร
หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ราคาได้ถูกกำหนดขึ้นมา แล้วใบประกาศนั้นปล่อยจะออกมาเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร แล้วยังเอนเอียงไปยังของโบราณที่ไม่ได้มีผลอะไรกับเทคโนโลยีเลย
ไม่ว่าอู๋ ฮ่าวเหรินต้องการจะทำอะไร ก็เป็นโอกาสดีให้กับผู้ค้าของโบราณที่อยากรวย
ถ้าบริษัทในโลกนี้ทำเงินได้อย่างรวดเร็ว ฟิวเจอร์กรุ๊ปก็สามารถทิ้งบริษัทอื่นๆห่างไปได้อีกสิบช่วงตึก
สำหรับประเภทของทรราชย์ที่ผลาญเงินไม่ต่างจากกระดาษ ถ้าเขาต้องการซื้อของโบราณตอนนี้ เขาจะต้องมีเงินก้อนใหญ่อยู่ในมือ
“เอาน่า ช่วยฉันแจ้งเรื่องกับบ้านประมูลหน่อย บอกทีว่าของโบราณบ้านฉันไม่ได้เอาไว้ขาย”
“ก็เพื่อที่จะจ่ายค่าเสียหายที่กำหนดไว้ล่วงหน้านี่นา นี่ไงยืนยันมาเรียบร้อยแล้ว ว่าแต่ตั้งไว้เท่าไหร่ล่ะ ฉันต้องจ่ายเท่าไหร่ เดี๋ยวตามไปเอาของทีหลัง”
หลังจากได้เห็นข้อมูลบนเว็บไซต์ทางการของฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้วนั้น ชายหนุ่มซึ่งกำลังประมูลของโบราณอยู่ก็นำของโบราณกลับไปด้วยความใจกล้า
“พ่อครับ พ่อคิดว่าสนามร้อยปีของบ้านเรานี้โบราณไหมครับ”
“ลูกเอ้ย บ้านหลังเก่าก็ต้องโบราณ พ่อของลูกหรือพ่อเนี่ยก็โบราณ”
“ไม่ใช่ครับ ที่ผมจะถามก็คือ บางทีอาจจะมีใครบางคนจากฟิวเจอร์กรุ๊ปซื้อมันไปจริงๆก็ได้”
ชายหนุ่มวางตะเกียบลงก่อนจะวิ่งไปยังบ้านพลางเห็นสีหน้าที่โกรธของพ่อ
สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นไปทั่วโลก ชาวต่างชาติบางคนพบว่าการซื้อของโบราณไม่ได้จำกัดอยู่ในประเทศนั้นๆ
หรืออีกนัยหนึ่ง พวกเขามีโอกาสที่จะขายของโบราณพวกนี้ให้แก่ทรราชย์ในประเทศ
ในตอนนี้อู๋ ฮ่าวเหริน เองกำลังติดต่อผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้เพราะเขาต้องการใช้ระบบซองแดงเพื่อตรวจสอบ แต่ของโบราณไม่เคยห่างสายตาจากผู้ขายจนกระทั่งมีคนซื้อมันออกไป
ดังนั้น เขาจะต้องหาผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ จำนวนอาจจะเยอะเพราะของโบราณที่เขาจะซื้อนั้นมีไม่อั้น
แล้วอู๋ ฮ่าวเหริน ก็ต้องประหลาดใจ เมื่อเขาได้รับสายที่คาดไม่ถึง
“นี่น้องเขย ได้ยินมาว่าคุณต้องการซื้อของโบราณ แต่ถ้าคุณปฏิเสธผม ผมจะกลับไปพร้อมกับข้าวของในวันมะรืนเลยนะ”
“กลับมา แล้วเอาของมาด้วย และอย่ามาเรียกฉันว่าน้องเขยได้ไหม เออ จะว่าไป ฉันยังไม่ได้ถามอะไรบางอย่างจากนายในโรงนอนทหารเลย”
“น้องเขย ผมเองก็มีบางอย่างต้องทำที่นี่ แค่นี้ก่อนนะครับ”
อู๋ ฮ่าวเหรินมองสายที่เพิ่งวางไป พูดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่ เจ้าหมอนี่ช่างหน้าด้านหน้าทนเสียจริง
หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วนั้น เขาก็มุ่งตรงไปยังไซต์ก่อสร้างหยวนหมิงหยวนเพื่อต้องการหาผู้เชี่ยวชาญวัตถุโบราณ เหล่าอาจารย์ที่สร้าง หยวนหมิงหยวนนั้นจะต้องรู้อะไรเยอะแน่ๆ
——————–