Red Envelope อั่งเปาทะลุโลก - ตอนที่ 208
CF:บทที่ 208 วัตถุโบราณจากรถส่งของ 2 คัน
เมื่ออู๋ ฮ่าวเหริน มาถึงเขตก่อสร้างหยวนหมิงหยวน ลักษณะของมันก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ไม่ไกลจากถนนรอบนอกของหยวนหมิงหยวนตอนเริ่มสร้างนัก เพราะที่นี่เคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังดำเนินการสร้างอยู่ในเมืองหลิวหลง
มีคนบอกว่าสถานที่ตรงนี้ได้รับเงินทุนพิเศษก้อนหนึ่งจากทางจังหวัด สำหรับหยวนหมิงหยวนที่เขาสร้างนั้นก็จะรวมเข้ากับพื้นที่ท่องเที่ยวด้วย
ในเขตก่อสร้าง เราจะเห็นชายสูงวัยและค้อนได้ทั่วบริเวณ ส่วนข้างๆก็จะเป็นคนหนุ่มหรือวัยกลางคนที่คอยดูแลงานแกะสลัก
เดิมทีนั้นอู๋ ฮ่าวเหริน เตรียมการที่จะแกะสลักหิน ที่ใช้เพียงเครื่องจักรก็เสร็จแล้ว เขาเองก็คาดไม่ถึงว่าอาจารย์สลักหินรุ่นเก่าที่มาที่นี่จะพูดปฏิเสธ เขารู้สึกว่าพวกเขาต้องการที่จะปกป้องของเก่าแก่ ถ้าชิ้นไหนใช้มือสลักด้วยก็ควรใช้
จากนั้น ด้วยคำสั่งของพวกเขา จึงมีงานหินสลักชิ้นเอกมากกว่า 200 ชิ้น โชคดีที่อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้ขาดแคลนเงินทุนเลยตอนนี้ เขาจึงสามารถชักชวนผู้คนให้มาทำงานแกะสลักได้ เขาไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ในเวลาต่อมา ยังมีอาจารย์ที่อาสาเข้าร่วม ตราบใดที่พวกเขายังคอยดูแลเรื่องอาหารและความเป็นอยู่ พวกเขาก็ไม่ต้องการเงินแล้ว พวกเขาต้องการทิ้งแค่ชื่อไว้ที่นี่
และในตอนนี้ มีงานประติมากรรมมากกว่าหนึ่งพันงานในพื้นที่ทั้งหมดของตึก เมื่อประติมากรทั้งหมดเข้ามา พวเขาก็พาลูกๆหลานๆมาด้วย
นอกจากนี้ยังมีช่างงานฝีมือทุกแขนงอีก 300 คน พวกเขาทั้งหมดต่างทำงานอยู่ในหยวนหมิงหยวนตามรูปแบบงานช่างและงานวาดของพวกเขาที่ อู๋ ฮ่าวเหริน ให้ไว้
ในส่วนของงานสถาปัตยกรรม ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร ความยุ่งยากเพียงอย่างเดียวก็คือการหาพืชล้ำค่าในหยวนหมิงหยวน พืชบางตัวก็หาไม่ได้เลย
หลังจากได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อู๋ ฮ่าวเหริน จึงตัดสินใจที่จะแทนพืชพวกนี้ด้วยพืชพิเศษจากอนาคตซึ่งจะสวยกว่าพืชบนโลก
แน่นอนว่า พืชพวกนี้ทั้งหมดมาจากชาวไร่และยังได้รับการดูแลอย่างดีเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่ก่อความเสียหายด้านความสมดุลของระบบนิเวศน์ซึ่งไปรบกวนพวกพืช
เมื่อ อู๋ ฮ่าวเหริน เจอกับกลุ่มผู้สูงวัย พวกเขาต่างพยายามที่จะออกแบบตัวตึก แม้ว่าตอนปกติ พวกเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่เมื่อถึงเวลางาน พวกเขาก็ไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เข้ามาแทรก
เวลาส่วนใหญ่ รูปแบบที่สร้างขึ้นนั้นทำเพื่อให้เห็นว่าเทคโนโลยีของคนที่สร้างนั้นดี
ถัดไปนั้นเป็นห้องกระจก มีรูปจำลองของหยวนหมิงหยวนที่ อู๋ ฮ่าวเหรินเป็นคนสร้างร่วมกับชีวิตในอดีต
ที่แห่งนี้เป็นเขตหวงห้ามในเขตก่อสร้าง มียามเฝ้าอยู่สองคนและนอกจากนี้ ยังมีพวกอาจารย์และช่างบางส่วนด้วย เมื่อวัดข้อมูลกันแล้ว คุณก็สามารถเข้าไปได้และเปรียบเทียบพวกมัน ไม่มีพวกขี้เกียจคนไหนที่จะเข้าไปได้
“อาจารย์ครับ วันนี้มีปัญหาอะไรบ้าง”
“มานี่หน่อยสิ ฮ่าวเหริน
มาดูนี่ อาจารย์ซูบอกว่ากระบวนการก่อสร้างของเขานั้นไปได้เร็วกว่าของผม ถ้าพวกเราทำตามขั้นตอนการก่อสร้างของเขา จะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่”
อู๋ ฮ่าวเหริน เพียงแค่มองโดยไม่ได้ออกความเห็นใดๆ เพราะเขาไม่ต้องการโดนลากเข้าไปข้องเกี่ยวกับการทะเลาะของอาจารย์ทั้งสองคน
“หยุดก่อนนะครับ คือที่ผมมานี่ก็เพื่อจะถามอะไรบางอย่าง”
“เธอมีเรื่องอื่นจะถามเรางั้นสินะ บอกผมสิ เรื่องอะไร”
“ผมอยากจะซื้อของโบราณ ไม่ใช่ว่าผมไม่เข้าใจสายงานตรงนี้นะครับ เพียงแต่ผมต้องการที่จะเชิญผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยบอกผมได้ว่าอันไหนของจริงหรือของปลอม”
หลังจากได้ฟังว่า อู๋ ฮ่าวเหริน ต้องการจะซื้อของโบราณแล้วนั้น กลุ่มของชายสูงวัยจึงมองไปที่เขาอย่างนึกสงสัย
จากนั้นจึงมีคนร้องขึ้นมา “คุณไม่ต้องไปซื้อของโบราณหรอก แค่ทำของเลียนแบบใส่ไว้ในราชวังก็ได้”
“อืม ผมก็คิดแบบนี้ แต่ผมก็อยากมีของโบราณเป็นของตัวเองเหมือนกัน ถ้าเช่นนั้น ผมอยากจะถามอาจารย์สักหน่อยสิครับว่าพอจะมีคนในสาขานี้บ้างไหม”
“ผมรู้จักอยู่ไม่กี่คน ผมเองก็เคยแกะสลักหยกมาบ้างและได้เจอพวกเขา”
“อาจารย์ครับ ตอนนี้ผมอาจจะซื้อของโบราณเป็นจำนวนมาก เป็นพวกของเบ็ดเตล็ด ถ้าอาจารย์รู้จักคนในสาขานี้ ก็แนะนำผมมาได้เลยนะครับ ตราบใดที่พวกคุณมีทักษะ จำนวนเงินที่ผมให้ก็จะเป็นที่น่าพอใจกับพวกเขาแน่นอน”
“ฮ่าๆ ได้เลย พวกเราไม่กังวลถึงเรื่องเงินหรอก หลานชายผมบอกว่าเงินจากบริษัทของคุณสามารถจับใส่ในธนาคารได้เต็มเลย”
“งั้นขอความกรุณาด้วยนะครับ ทุกคน เมื่อลงมือสร้างหยวนหมิงหยวนแล้ว ผมมีรางวัลพิเศษเตรียมไว้ให้อาจารย์แต่ละคนเป็นที่ระลึกนะครับ”
อู๋ ฮ่าวเหรินเตรียมของขวัญเป็นของขวัญพิเศษนั่นก็คือหยู่เตียว หยวนหมิงหยวน แต่ก่อนที่จะส่งของขวัญพิเศษนี้ไป เขาจะต้องเตรียมของสักหน่อย ไม่เช่นนั้น หยู่เตียวก็ไม่สามารถบอกอะไรได้
ข้อเท็จจริงนั้น เพื่อที่จะแก้ปัญหาเรื่องอัญมณีหลายชนิดในหยวนหมิงหยวนนั้น เขาก็ได้เริ่มเตรียมที่จะซื้อเหมืองอัญมณีสักแห่ง
เหมืองอัญมญณีเหล่านี้จะปิดบังตัวเขาและแก้ปัญหาที่ว่าแหล่งอัญมณีที่เขาเอามานี้นั้นมาจากโลกอนาคตซึ่งคนยังไม่รู้จัก
จะไม่มีใครสงสัยชิ้นส่วนของหยกและแร่หยกจำนวนหนึ่งหรือสองชิ้น แต่ถ้ามีใครไปพูดปากต่อปาก คนโง่พวกนั้นต้องสงสัยเขาแน่ๆ
ดังนั้น อัญมณีลับพวกนี้จึงต้องมีเหมืองอัญมณีคอยบังหน้า อัญมณีที่เหมืองนั่นจะขุดออกมาได้หรือไม่ไม่สำคัญ แต่ตราบใดที่สิ่งนี้จะช่วยเรื่องแก้ปัญหาเรื่องแหล่งอัญมณีที่เขานำมาจากที่อื่นได้ก็เป็นพอ และที่สร้างความประหลาดใจให้ อู๋ ฮ่าวเหรินก็คือ เขาได้แหล่งเก็บเกี่ยวที่ว่านั่นอย่างคาดไม่ถึงในที่นี่
เพราะคนพวกนี้เป็นช่างฝีมือ พวกเขาจึงยังคงเก็บของดีๆที่เกี่ยวข้องกับงานตนเอาไว้ ดังนั้นพวกอาจารย์จึงอยากเอาของพวกนั้นมาขายให้กับ อู๋ ฮ่าวเหริน
ไม่มีทาง ตอนนี้ผู้คนที่นี่ต่างรู้หมดแล้วว่าเขาไม่ใช่คนดี และคนรุ่นใหม่บางคนไม่ใช่พวกที่อยากได้อะไรเกินตัว ถ้าพวกเขายังเก็บสิ่งนั้นไว้ คนรุ่นใหม่อาจจะทำลายพวกมันไป เพราะคิดว่าขายให้อู๋ ฮ่าวเหรินแล้วได้เงินน่าจะดีกว่า
อู๋ ฮ่าวเหริน รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยกับเซอร์ไพรส์ครั้งนี้ แต่เขาเองก็มีข่าวร้ายเหมือนกัน ก็คือของโบราณชั้นดีได้รับการเก็บสะสมโดยนักสะสมรายใหญ่ พวกเขาไม่ได้ต้องการแลกเปลี่ยนของของพวกเขาเพื่อเงิน
หรือจะให้พูดก็คือ แม้ว่าอู๋ ฮ่าวเหริน จะมีเงิน เขาก็ซื้อของพวกนั้นไม่ได้
แน่นอนว่า ถ้าอู๋ ฮ่าวเหรินเจอพวกแกะดำอยู่บ้าง เพราะถ้าคนแก่ๆตายไปแล้วต้องดูแลข้าวของที่คนรุ่นเก่าทิ้งไว้ให้ เขาก็อาจจะได้สมบัติอะไรติดมาบ้าง
จากหยวนหมิงหยวนกลับมาถึงหมู่บ้านซุยฉุย อู๋ ฮ่าวเหริน มองไปยังพวกของโบราณและพบว่านี่เป็นกรณีหนึ่งจริงๆ
คนที่ไม่เข้าใจสายนี้ เหมือนกับเขา จะใช้เงินไปโดยตรง แน่นอนว่าในตอนนี้ ไม่มีแผนการไหนจะยอดเยี่ยมเหมือนกับการที่เขาจะซื้อของโบราณทั่วโลก
พฤติกรรมเช่นนี้ของเขาได้แพร่กระจายไปยังอุตสาหกรรมของโบราณ ทุกคนต่างเห็นด้วยว่าเขาคือคนที่มีเงินเยอะ
ยิ่งไปกว่านั้น จากข้อมูลที่จี้มี ในยุคต่อไปจากนี้พ่อค้าที่ขายของโบราณที่ตกทอดกันมา, โจรปล้นสุสานและแก๊งต้มตุ๋นของโบราณทั่วประเทศจะมารวมตัวกันในอำเภอหยุนหลง
เป้าหมายของคนพวกนี้คือว่าเขาเป็นผู้มีอำนาจด้วยเงินจำนวนมาก เมื่อเห็นข้อมูลตรงหน้า เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก
อย่างไรก็ตาม นั่นก็ไม่ได้สำคัญ คนพวกนี้มาได้ถูกเวลา บางทีอาจจะพาเรื่องมาให้ประหลาดใจก็ได้
แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นปัญหาในการอัพเกรดการระบุตัวตนในระบบซองแดง แต่ยังข้อจำกัดในการใช้ของโบราณมากมายที่จะส่งผ่านซองแดง
เขาเพิ่งมาถึงบริษัทในตอนเช้า พลางเห็นรถส่งของสองคันจอดอยู่ที่ประตู พนักงานต่างหิ้วข้าวของไปจนสุดทางโดยมีพนักงานรักษาความปลอดภัยคอยช่วยเหลือ
“เป็นยังไงบ้าง มีวัตถุโบราณมาเยอะเลยใช่หรือเปล่า”
“สวัสดีครับ ท่าน นี่เป็นวัตถุโบราณที่มาถึงเช้านี้ จ่าหน้าผู้รับถึงท่านทั้งหมดเลยครับ”
“ฉันงั้นหรือ”
อู๋ ฮ่าวเหรินหยิบวัตถุโบราณขึ้นมาก่อนจะมองชื่อผู้รับซึ่งก็คือเขา
ผมหยิบสำเนาจากในแถวมาสามหรือสี่ฉบับและเห็นว่าผู้รับเป็นเขาทุกฉบับเลย
“งานหัตถกรรมถือเป็นของโบราณหรือเปล่า”
อู๋ ฮ่าวเหริน คิดถึงความเป็นไปได้ในทันที แต่บางฉบับก็ไม่น่าเชื่อ เป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับอีเมลล์มากมายในวันเดียวสำหรับคำประกาศที่เพิ่งส่งไปเมื่อวาน
เขาได้รับวัตถุโบราณมากมายหลายแบบ โดยทุกฉบับรับโดยหวังหลาน
——————-