Reincarnation Of The Strongest Sword God - ตอนที่ 2525
สัตว์ประหลาดที่แท้จริง
เมื่อทีมนักผจญภัยทั้งสามได้ยินเสียงทุ้ม การแสดงออกของพวกเขาก็เริ่มเต็มไปด้วยความหวาดกลัว โดยเฉพาะผู้บัญชาการทั้งสามที่กำลังต่อสู้กับไฟเออร์แดนซ์นั้นมีความตึงเครียดมากเป็นพิเศษ
“มีสัตว์ประหลาดมากกว่าหนึ่งคน ?”
สีหน้าของรีเกรทฟูลวินด์แข็งค้าง ในขณะที่เขามองดูบาเรียเวทย์มนต์จางหายไป มันมีผู้เล่นนักเวทย์แปดสิบแปดคนดูแลวงเวทย์บาเรียนี้อยู่ และมันก็ควรจะต้านทานการโจมตีของมอนสเตอร์ระดับเทพนิายได้เป็นอย่างน้อย
แต่ถึงกระนั้นบาเรียนี้กับแตกออกเป็นเสี่ยงๆหลังจากโดนโจมตีไปแค่ทีเดียว …
ดังนั้นคำอธิบายเดียวสำหรับเรื่องนี้ก็คือ มันมีผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดอยู่อีกคนหนึ่งในหมู่ผู้บุกรุก และเป็นไปได้ว่าผู้มาใหม่นี้นั้นแข็งแกร่งกว่ามอนสเตอร์ระดับเทพนิยายด้วย และเขาก็น่าจะแข็งแกร่งกว่าแอสซาซินหญิงก่อนหน้านี้
“ทีมๆเดียวมีสัตว์ประหลาดสองคน ? คนเหล่านี้เป็นใครกันแน่ ?” เฮ้ลเลสสไมล์คำรามอย่างหน้าบึ้ง เขาไม่เคยคิดเลยว่าผู้บุกรุกจะมีผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดในทีมมากกว่าหนึ่งคน พวกเขาทั้งสามนั้นก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากแล้วในการพยายามจะปราบปรามไฟเออร์แดนซ์ หากมีผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถมากกว่าไฟเออร์
แดนซ์ปรากฎตัวขึ้นมาอีกคน พวกเขาจะตกที่นั่งลำบากแน่นอน
“มีสัตว์ประหลาดอีกคนแล้วยังไงล่ะ ? ทำไมเราต้องกลัวพวกเขา ?” เฟรมเฟเธอร์กล่าวออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว ในขณะที่เธอกล่าวเตือนเพื่อนร่วมทีมของเธอว่า “อย่าลืมว่าเรามีผู้เล่นมากกว่าห้าพันคน รวมไปถึงปีศาจระดับวิสเค้าท์อีกมากกว่าเจ็ดคนและปีศาจระดับบารอนเกือบหนึ่งร้อยคน แค่มีสัตว์ประหลาดเพิ่มมาอีกหนึ่งคนจะมาเทียบกับกองกำลังของเราได้ยังไง ?”
เหตุผลเดียวที่ผู้บัญชาการทั้งสามตัดสินใจจะโจมตีและปฎิบัติการในตอนนี้นั้นก็คือความมั่นใจที่ว่าพวกเขาทั้งหมดและทีมของพวกเขาเองนั้นพัฒนาขึ้นมานับตั้งแต่สงครามครั้งสุดท้ายกับ Battle Wolves และนอกจากนี้ในการต่อสู้แบบนี้ ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามทั่วไปก็จะไม่มีสิทได้เข้ามายุ่งเลย
อย่างไรก็ตามหากพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดสองคน สมาชิกในทีมนักผจญภัยของพวกเขาทั้งหมดก็จะสามารถช่วยตรึงคนนึงไว้ได้ และพวกเขาก็จะสามารถจัดการอีกคนได้ ก่อนที่จะไปจัดการคนที่ถูกตรึงไว้ แม้ว่าการทำแบบนี้จะทำให้พวกเขาต้องเสียสมาชิกไปบางส่วนก็ตาม แต่มันก็คุ้มค่าแน่นอน
“ถูกต้อง อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเราจะต้องสูญเสียมากหน่อยแล้วในเรื่องนี้” เฮ้ลเลสสไมล์ กล่าวพลางพยักหน้า จากนั้นเขาก็แสดงท่าทางออกคำสั่งไปยังลูกน้องคนหนึ่งของเขาที่อยู่ในระยะไกล และพูดว่า “บลูนำสมาชิกกองกำลังหลักของเราไปหยุดสัตว์ประหลาดอีกคนไว้ พยายามซื้อเวลาให้มากที่สุด !!!”
“เข้าใจแล้ว !!!” ชิลวอริเออร์ขั้นสามที่ชื่อบลู ซี กล่าวตอบ
“มันดาล่าคุณพากลุ่มของคุณไปกับพวกเขาด้วย !!!” เฟรมเฟเธอร์ออกคำสั่งกับดาร์ค
ดรูอิดขั้นสามในทีมของเธอ
“พอยซั่น คอยออกคำสั่งแก่สมาชิกของเราด้วย” รีเกรทฟูลวินด์ตะโกนบอกแอสซาซินที่สวมหน้ากากนามว่าพอยซั่นฮาร์ท “ถ้าสถานการณ์ไปถึงจุดแย่ที่สุดให้ใช้สิ่งนั้น !!! ตรวจสอบให้แน่ใจว่านายสามารถป้องกันสัตว์ประหลาดคนที่สองให้อยู่ห่างจากเราได้ !!!”
“ผู้บัญชาการแน่ใจหรอว่าจะให้ฉันใช้เจ้านั่น ?” พอยซั่นฮาร์ทตื่นเต้นขึ้นมาทันที เมื่อได้รับอนุญาติจากผู้บัญชาการของเขา “ฉันสัญญา เขาจะเข้าใกล้พวกผู้บัญชาการไม่ได้เลย !!!”
เมื่อยินคำสั่งนี้เฟรมเฟเธอร์ และเฮ้ลเลสสไมล์ ก็จ้องมองไปยังรีเกทฟูลวินด์ด้วยความประหลาดใจ
“อะไรกันวินด์ ?! คุณเป็นคนที่ซื้อสิ่งนั้นในระหว่างการประมูลขั้นกลางงั้นหรอ ?!” เฟรมเฟเธอร์โพล่งออกมา
มันมีไอเทมแค่ไม่กี่ชิ้นที่เธอคิดว่าสามารถจะจัดการกับผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดได้อย่างง่ายดาย และหนึ่งในไอเทมชิ้นนั้นก็เป็นหนึ่งในรายการที่ปรากฎขึ้นในงานประมูลขั้นกลางของเมืองปีศาจครั้งล่าสุด
วิญญาณที่เหลือของซาตาน !!!
สิ่งนี้นั้นจัดเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างแท้จริง มันจะทำให้ผู้เล่นสามารถกลายร่างเป็นปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ และผู้เล่นก็ยังจะสามารถเข้าถึงคลังของสกิลและเวทย์ทั้งหมดของปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ได้
ข้อบกพร่องที่เหลือเพียงอย่างเดียวคือวิญญาณที่เหลือของซาตานนั้นมันมีผลสั้นๆแค่สามสิบวินาทีเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นผู้เล่นปีศาจทุกคนก็ยังคงอยากได้ไอเทมชิ้นนี้
นอกเหนือจากการเพิ่มความแข็งแกร่งให้แล้ววิญญาณที่เหลือของซาตานยังจะทำให้ผู้เล่นสามารถควบคุมพลังแห่งความมืดได้ดีขึ้นแม้ว่าจะเป็นการชั่วคราวก็ตาม แต่ประสบการณ์นี้ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้เล่นที่ต้องการจะท้าทายเพื่อแย่งขิงตำแหน่งขุนนางปีศาจที่สูงขึ้นในอนาคต และเพียงแค่มีไอเทมอย่างวิญญาณที่เหลือของซาตานชิ้นเดียว มันก็จะทำให้มหาอำนาจต่างๆต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคอย่างมากแล้วในการยึดครองเมืองของพวกเขา เพราะท้ายที่สุดแล้วปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่นั้นมันไม่ใช่อะไรที่จะสามารถรับมือได้ง่ายๆเลย
เมื่อวิญญาณที่เหลือของซาตานถูกนำออกมาประมูลนั้น มหาอำนาจหลักต่างๆของเมืองปีศาจล้วนเสนอราคาแข่งกันอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งไปกว่านั้นผู้ขายยังไม่ยอมรับการชำระเงินเป็นเหรียญด้วย แต่ยอมรับเป็นคริสตัลปีศาจ ซึ่งเป็นรูปแบบมาตราฐานของสกุลเงินในการประมูลขั้นกลางของเมืองปีศาจ
ในท้ายที่สุดมันก็มีคนซื้อวิญญาณที่เหลือของซาตานไปได้ในโดยใช้คริสตัลปีศาจหนึ่งพันชิ้น แต่ผู้ซื้อนั้นก็ไม่ได้เปิดเผยตัวตน และความลึกลับของผู้ที่เป็นเจ้าของไอเทมชิ้นนี้ก็ล้วนเป็นประเด็นร้อนในการพูดคุยกันของมหาอำนาจต่างๆอยู่ช่วงหนึ่ง
แม้แต่เฮ้ลเลสสไมล์เองก็ยังมองไปยังรีเกรทฟูลวินด์ด้วยท่าทางประหลาดใจ เขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยว่าวินด์ทูชจะซ่อนไพ่ลับที่ทรงพลังแบบนี้ไว้ หากเอเทอนอลไนท์เข้าปะทะกับวินด์ทูช ผลที่ตามมามันจะเลวร้ายแน่นอนสำหรับทีมนักผจญภัยของเขา และตอนนี้เขาก็ต้องยอมรับเลยว่าเขาดีใจมากจริงๆที่ได้ร่วมงานกับวินด์ทูช
“อืมมม ตอนนี้ฉันยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เราชนะในครั้งนี้ …” รีเกรทฟูลวินด์กล่าวยืนยันและพูดด้วยความภาคภูมิใจ “ฉันอยากจะเก็บมันไว้เพื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยาย แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ฉันไม่รังเกียจหรอกนะที่จะใช้มันจัดการกับผู้บุกรุกเหล่านี้ อย่างไรก็ตามฉันต้องบอกว่าผู้บุกรุกคนใดที่พอยซั่นฮาร์ทฆ่าไปนั้น ไอเทมของเขาจะต้องเป็นของวินด์ทูชทั้งหมด”
“เนื่องจากคุณเต็มใจจะทำขนาดนี้ ดังนั้นเราจะไม่ใช้ประโยชน์จากคุณ แน่นอนเรายอมรับ …” เฮ้ลเลสสไมล์กล่าวพลางพยักหน้า
“เอาตามนั้นเลย และเอาจริงๆแล้วฉันจะดีใจมากเลยนะถ้าปีศายผู้ยิ่งใหญ่ ขั้นสี่ ช่วยฆ่าผู้บุกรุกระดับสัตว์ประหลาดทั้งสองนี้ …” เฟรมเฟเธอร์กล่าวพลางหัวเราะ
เธอนั้นมั่นใจมากว่า พวกเขาทั้งสามจะสามารถเอาชนะไฟเออร์แดนซ์ได้โดยมีบาเรียคอยหนุนหลัง แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้บาเรียถูกทำลายไปแล้ว และพวกเขาทั้งสามจะไม่สามารถทำอะไรกับไฟเออร์แดนซ์ได้แน่นอน หากเธอมุ่งเน้นไปที่การหลบหนี
ดังนั้นการต่อสู้นี้จะราบรื่นขึ้นมากหากพอยซั่นฮาร์ทสามารถจัดการกับสัตว์ประหลาดทั้งสองได้ เพราะท้ายที่สุด ในสนามรบนั้นคนที่จะก่อปัญหาได้มากที่สุดคือผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดนี่แหละ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเริ่มใช้กลยุทธ์ตีแล้วหนี
“มั่นใจได้เลย !!!” รีเกรทฟูลวินด์กล่าว จากนั้นเขาก็หันไปหาพอยซั่นฮาร์ท และพูดว่า “เนื่องจากผู้บัญชาการทั้งสองตกลงแล้ว ก็ใช้มันไปเลยพอยซั่น !!!”
วิญญาณที่เหลือของซาตานนั้นจัดเป็นสมบัติล้ำค่ามากๆ และมันแทบจะไม่มีโอกาสปรากฎขึ้นอีกเลยในงานประมูล แต่อย่างไรก็ตามการได้รับอาวุธกับอุปกรณ์ของผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดมา มันก็จะเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า
คุณภาพของอาวุธและอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมนั้นของพวกเขานั้นเป็นเหตุผลส่วนใหญ่ที่ทำให้พวกเขาเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดอย่างมาก ซึ่งพวกเขามีแนวโน้มจะได้รับค่าการใช้วิญญาณที่เหลือของซาตานกลับมาตั้งแต่ไอเทมชิ้นแรกที่ผู้เชี่ยวชาญระดับนี้ดรอปด้วย ไม่ต้องพูดถึงชิ้นต่อๆไปเลย
พอยซั่นฮาร์ทนั้นเต็มไปด้วยความสุข ในขณะที่เขาดึงขวดสีดำออกจากกระเป๋าของเขา และเริ่มแกะฝามันออก
เขานั้นรอคอยโอกาสที่จะใช้ไอเทมชิ้นนี้มานานแ้ว ตอนแรกเขากะจะใช้มันเพื่อเลื่อนขั้นเป็นวิสเค้าท์ระดับสองดาว แต่การทำแบบนั้นเพียงอย่างเดียวมันจะไม่คุ้ม เขาจึงรอโอกาสมาจนถึงตอนนี้ !!!
เมื่อพอยซั่นทำการปลดผนึกมันแล้ว ร่างกายเขาก็มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า และปีกสีดำสองคู่ที่ถูกห่อหุ้มด้วยไฟก็งอกขึ้นมาจากหลังของเขา
“แข็งแกร่งมากๆ !!! นี่คือพลังของปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ ขั้นสี่งั้นหรอ ?!!” พอยซั่นฮาร์ทตะโกน ในขณะที่เขารู้สึกได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ไหลผ่านร่างเขา
แข็งแกร่ง !!!
ทรงพลังอย่างถึงที่สุด !!!
ความรู้สึกมีอำนาจนี้ทำให้เขาอดไม่ได้จะมึนเมาและเคลิบเคลิ้มเลย
“แน่นอนเลยว่าปีสาจผู้ยิ่งใหญ่ ขั้นสี่ นั้นน่าเกรงขามอย่างแท้จริง !!! ตอนนี้พอยซั่นจะสามารถฆ่าผู้บุกรุกทั้งหมดได้โดยที่เราไม่ต้องช่วยด้วยซ้ำ !!!” เฮ้ลเลสสไมล์กล่าว เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย ในขณะที่จ้องมองไปยังรูปแบบใหม่ของพอยซั่นฮาร์ท
“พอยซั่น ฉันจะปล่อยให้นายจัดการส่วนที่เหลือ จำไว้ว่านายต้องจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด เราไม่สามารถจะรอได้นานนัก !!!” รีเกรทฟูลวินด์ตะโกนบอกลูกน้องของเขาอีกครั้ง ก่อนจะร่ายเวทย์โจมตีใส่ไฟเออร์แดนซ์ต่อ
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเองผู้บัญชาการ !!! ฉันจะทำให้แน่ใจว่าพวกเขาตายทั้งหมด !!!” พอยซั่นฮาร์ทกระพือปีกก่อนที่เขาจะบินตรงไปยังที่มาของเสียงทุ้ม และเขานั้นก็เร็วมากจนตาของผู้เล่นปีศาจขั้นสองมองตามไม่ทันด้วยซ้ำ
“เร็วมาก !!!”
“ตอนนี้ผู้บุกรุกเหล่านี้จะได้ตายแน่นอน !!!”
สมาชิกของทีมนักผจญภัยทั้งสามต่างตกตะลึง เมื่อได้เห็นความเร็วของพอยซั่นฮาร์ท บางคนถึงกับสงสารทีมของซือเฟิงด้วยซ้ำที่ต้องมาเผชิญหน้ากับอะไรแบบนี้
“ช่างน่าเสียดาย ดูเหมือนว่าเพื่อนของคุณจะจบสิ้นแล้ว !!!” เฟรมเฟเธอร์พูดพลางแสยะยิ้มและมองไปยังไฟเออร์แดนซ์
“ฉันคิดว่าคุณควรอธิษฐานเผื่อเพื่อนของคุณนะ !!!” ไฟเออร์แดนซ์กลอกตาพลางมองไปยังเฟรมเฟเธอร์ “ฉันคิดว่าคุณเข้าใจผิดตั้งแต่แรกแล้ว …”
“เข้าใจผิด ? หมายความว่ายังไง ?” เฟรมเฟเธอร์ถามอย่างสงสัย
“ฉันไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบในการฆ่าแอสซาซินคนนั้น อันที่จริงฉันไม่เคยเห็นเขามากก่อนด้วยซ้ำ ก่อนที่จะมาทำการเก็บรวบรวมไอเทมที่เขาดรอปหลังตายน่ะ ..” ไฟเออร์แดนซ์กล่าว “ฉันมาที่นี่เพื่อเก็บรวบรวมไอเทมอย่างเดียวจริงๆ”
ผู้บัญชาการทั้งสามหน้าซีดทันที เมื่อได้ยินเรื่องนี้
“คุณหมายความว่ายังไง ?”
“คุณไม่ได้ฆ่า Seven Constellations?”
“คุณไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่เขาพูดถึงงั้นหรอ ?”
เหล่าผู้บัญชาการทั้งสามเริ่มนึกย้อนถึงคำพูดของ Seven Constellations ที่ตายไป วิ่งหนีเร็วๆ !!!
ถ้าไฟเออร์แดนซ์ไม่เคยเห็น Seven Constellations มาก่อน Seven Constellations ก็คงจะเตือนพวกเขาไม่ได้ถึงเรื่องสัตว์ประหลาด
แต่ก่อนที่ผู้บัญชาการทั้งสามจะทันได้ตอบโต้ พวกเขาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นจากป่าใกล้ๆ และพื้นใต้เท้าของพวกเขาก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ร่างขนาดมหึมาก็ปลิวมากระแทกกับต้นไม้ใกล้ๆพวกเขาจนมันโค่นลง
ซึ่งร่างนี้นั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพอยซั่นฮาร์ทที่พึ่งจะบินไปหาผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดเมื่อครู่ ….